<<
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
21 พฤษภาคม 2554
 

เลียบริมโขง เมืองอุบล : Part IV



ความเดิมตอนที่แล้ว



ออกจากวัดดอนธาตุ มุ่งหน้าไปยังโขงเจียม
ถนนลาดยางวิ่งเรียบ ไม่มีหลุมบ่อ ทำให้เพื่อนบ้างคน เริ่มหลับ
แต่เรานั่งหน้าคู่คนขับ ก็ดูแผนทีไปพลาง ยกกล้องมากับเก็บภาพฟ้า ภาพเมฆ เป็นช่วงๆ มีแอบหลับบ้าง
ราว 4 โมงเย็น ใกล้ถึงอำเภอโขงเจียม ก่อนจะเข้าที่พัก ก็แวะเที่ยวอีกวัดซะก่อน



วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 2222 ก่อนถึงอำเภอโขงเจียม ประมาณ 6 กิโลเมตร ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2521 โดย "หลวงปู่คำคนิง จุลมณี" ซึ่งใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรมจำพรรษา ปัจจุบันท่านได้มรณภาพแล้ว แต่ร่างกายไม่เน่าเปื่อย บรรดาลูกศิษย์ได้เก็บร่างของท่าน ไว้ในโลงแก้วเพื่อบูชา บริเวณวัดมีจุดชมวิว สามารถมองเห็นทัศนียภาพของลำน้ำโขง และฝั่งลาวได้อย่างชัดเจน




เราเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวกันก่อน มองลงมาเห็นหลังคาบ้านเรือนของชาวโขงเจียม
และฝั่งแม่น้ำตรงข้ามก็คือ ฝั่งลาว
สูดกลิ่นอากาศบริสุทธ์ จิบกาแฟเย็น ที่ไม่อร่อยเลย 1 แก้ว
แล้วก็เดินเข้าไปยังบริเวณที่เก็บร่างของหลวงปู่คำคนิง



หลวงปู่คำคนิง จุลมณี เกิดวันพุธ เดือนสี่ ปีกุน ที่บ้านหนองบัว แขวงคำม่วง ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่ออายุได้ 18 ปี ได้แต่งงาน มีบุตร 2 คน ต่อมาได้ขอภรรยาไปบวชเณร เพื่อทดแทนคุณบิดามารดา บวชได้ไม่นาน ก็ลาสิกขาออกมาเลี้ยงลูกเมีย จนลูกโตพอที่จะดูแลตนเองได้ จึงกลับเข้าบวชเป็นพระภิกษุ ที่วัดอีด่าง เขตจำปาสัก ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว




ก่อนเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร์นั้น ท่านได้บวชเป็นชีะขาว ออกธุดงค์ตามป่าเขาเป็นเวลา 15 ปี ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หลังจากอุปสมบทแล้ว ได้จำพรรษาอยู่หลายวัด หลายสิบพรรษาสงฆ์ จนวาระสุดท้าย ได้เข้ามาจำพรรษาที่ถ้ำควาย บ้านด่านใหม่ ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ด้วยความศรัทธาของชาวโขงเจียม และบุคคลทั่วไป ได้ร่วมกันบริจาคทรัพย์เพื่อก่อสร้างถาวรวัตถุทางพุทธศานา ใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม ประกอบพิธีทางศานาของพระภิกษุสงฆ์และฆราวาส โดยได้ตั้งชื่อว่า "วัดถ้ำคูหาสวรรค์" ซื่งหลวงปู่ได้จำพรรษาที่วัดแห่งนี้จนถึงวันมรณภาพ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2528 สิริอายุ 91 ปี (พรรษา 46 พรรษา) บรรดาศาสนุศิษย์ได้รวบรวมปัจจัยจัดทำโลงแก้ว ประดับเพชรเทียมเป็นที่เก็บรักษาร่างของท่านไว้จนถึงปัจจุบันนี้


เสียดายที่เวลานั้น บริเวณเก็บโลงแก้วหลวงปู่ปิดซะแล้ว
เราก็เลยได้แต่เดินอ่านประวัติท่าน กราบนมัสการรูปปั้น
แล้วออกมาเดินชมสิ่งปลูกสร้างภายนอก


พระธรรมเจดีย์ศรีไตรภูมิ สะท้อนแสงแดดสวยงาม ฟ้าครึ้มฝนมาแล้ว



พญานาคเจ็ดเศียรสีขาวประดับกระจก เป็นบันไดขึ้นพระเจดีย์


เดินเข้าไปภายในเจดีย์ มีคำสอนมากมายหลายเรื่อง
เราก็ใช้วิธีบันทึกเก็บไว้เป็นภาพถ่าย แล้วค่อยมาอ่านภายหลัง



จากนั้นก็เดินไปกราบพระประธานในพระอุโบสถหลังสีขาว ประดับกระจก
สะท้อนแสงแดงวาววับจับตา ...บริเวณหน้าพระอุโบสถ จัดวางรากไม้ประดับสีดำสนิท
ให้สีตัดกันอย่างสวยงามเลยทีเดียว



จากบริเวณพระอุโบสถมองมายังพระเจดีย์ ...สวยมากกกกกกกกกกก


ภายในโบสถ์ไม่ได้ตกแต่งอะไรมากนัก จัดเป็นพื้นที่ทำพิธีกรรมทางศาสนา
ความสวยงามของสิ่งปลูกสร้างต่างๆ มีเพียงภายนอกเท่านั้น
ส่วนใหญ่ก็เป็นงานประดับกระจก ที่ให้แสงแวววาวเมื่่อแสงแดดตกกระทบ



เรากับเพื่อนๆ แยกย้ายกันเดินเที่ยวชม
มีรถบัสนักท่องเที่ยวเข้ามาในวัดนี้หลายคัน
นอกจากเรื่องราวของหล่วงปู่แล้ว ก็ด้วยที่นี่เป็นจุดชมวิว มองเห็นฝั่งลาว
อีกทั้ง ยังมีการปลูกกล้วยไม้สวยงามมากมายอีกด้วย
เรียกได้ว่า เป็นสถานที่ถ่ายภาพที่สวยงามมากๆ อีกแห่งของจังหวัด



พอจะออกจากวัด ฟ้าก็เริ่มกระจ่างอีกครั้ง เงาเมฆฝนหายไปแล้ว
คนขับรถตู่พาพวกเราไปแวะชมบริเวณแม่น้ำ 2 สี
หรือจุดที่แม่น้ำโขงกับแม่น้ำมูลบรรจบกันในบริเวณวัดโขงเจียม



ยืนรับพลังกันสักพัก ก็ย้อนกลับออกมาเข้าที่พักกัน
นัดหมายให้รถตู้มารับแต่เช้ามืด เราจะไปดูพระอาทิตย์ตกดินกัน

บ้านพักที่บ้านสวนพีรดาของพวกเราเป็นหลังใหญ่แบ่งเป็นเป็น 3 ห้อง
อุปกรณ์ครบครัน แถมกาแฟกับขนมปังให้รับประทานรอบดึกด้วย
เราแยกย้ายกันพักผ่อน จัดการกับตัวเอง พักใหญ่
ออกมาเจอกันตอนหัวค่ำ เพื่อหาอาหารเย็นกินกัน

อากาศหัวค่ำในโขงเจียม ไม่หนาวเลยแม้แต่น้อย
แค่ผ้าพันคอก็กันหนาวได้แล้ว ...เดินกันไปถึงตลาด
ก็มีแต่ขายกับข้าวถุง ไม่สะดวก ...ร้านอาหารในละแวกที่พัก มีน้อย
ส่วนใหญ่ไปรวมๆ กันอยู่ที่ถนนริมโขง ซึ่งพวกเราไม่อยากกินแพงขนาดนั้น
ก็เลยมาหยุดกันที่ร้านริมถนน เหมือนเป็นเพิิง
สั่ง "ก๋วยจั๊บญวน" คนละชาม



แบบครบเครื่องต้องมีหมูยอ กระดูกหมู และตีนไก่
รสชาติดีมากกกกกก น้ำซุปอร่อย เผ็ดพริกไท หอมกลิ่นหอมเจียว
อร่อยมากมาย ...ติดใจกันทั่วหน้า

กินอิ่มแล้วก็เดินยอยรับลมเย็นๆ แวะซื้อของใช้จุกจิกกันที่ 7-11
แล้วกลับไปหารือเรื่องเส้นทางท่องเที่ยวกันที่บ้านพัก

แค่วันเดียว ...เราก็เล่าเรื่องมาได้ถึง 4 blog
ยังมีเวลาเที่ยวอีก 3 วันเต็มๆ ...ทริปนี้คงเป็นเรื่องยาวอีกตามเคย




โปรดติดตามตอนต่อไป




ปล.
ข้อมูลวัดถ้ำคูหาสวรรค์ //guideubon.com/news/view.php?t=18&s_id=7&d_id=20




 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2554
8 comments
Last Update : 21 พฤษภาคม 2554 20:59:29 น.
Counter : 1823 Pageviews.

 
 
 
 
รูปที่ถ่า่ยที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์สวยทุกรูปเลย เมฆที่อยู่เหนือพระธรรมเจดีย์ศรีไตรภูมิก็สวย คราวที่พี่ไปรอบที่ ๒ ก็ได้ภาพเมฆริ้วสวยมากเหนือเจดีย์ทองนี้เหมือนกัน..

พี่ไปอุบลมา ๓ เที่ยวแล้ว ต่างวัน ต่างเวลา ต่างฤดู ยังไม่เคยเห็นแม่น้ำมูล กับ แม่น้ำโขงเป็นสองสีเลย ไว้ต้องไปใหม่ . .หรือว่าต้องนั่งเรือออกไปดูกลางน้ำก็ไม่รู้
 
 

โดย: ณงลักษณ์ IP: 58.8.62.118 วันที่: 21 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:03:54 น.  

 
 
 
พี่ณง > ต้องขอบคุณที่ช่วยกรุณาให้คำแนะนำเรื่องที่พักและเส้นทางค่ะ ...ก็เลยแวะวัดสวยๆ เช่นนี้
แม่น้ำสองสีที่ไปดู ทั้งวันแรกและวันก่อนกลับ ก็ไม่เห็น 2 สีชัดๆ เช่นกันค่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 21 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:23:52 น.  

 
 
 
ไม่เป็นไรค่ะ อีกหน่อยพี่อาจต้องขอคำแนะนำจากนัทธ์บ้างก็ได้ .. "ขาเที่ยว" อย่างเรา เที่ยวได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อ
 
 

โดย: ณงลักษณ์ IP: 58.8.62.118 วันที่: 21 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:19:51 น.  

 
 
 
มีเรื่องแปลก.. เป็นบารมีของหลวงปู่คำคณิงก็ได้ . ..เล่ากันว่าท่านเคยถอดจิตลงไปเมืองบาดาลด้วย..

เพื่อนรุ่นน้องที่ไปทริปนี้กับพี่ เขามีปัญหากับกล้อง ปิดเอาเลนส์เก็บเข้าที่ไม่ได้เลย.. แก้ยังไงก็ไม่หาย .. พอมากราบหลวงปู่ที่วัดนี้ พี่ไม่ทราบว่าน้องหนึ่งอธิษฐานจิตอะไร แต่พอออกจากถ้ำ อาการเพี้ยนของกล้องก็หายเป็นปลิดทิ้ง กลับมาใช้ได้เป็นปกติเหมือนเดิม .. น้องหนึ่งยังบอกด้วยว่า คำอธิษฐานทั้งปวงที่หนึ่งได้อธิษฐานไว้ที่วัดต่างๆ ตลอดทริปอีสานใต้ ลาวใต้ ที่ไปกับพี่ณง น้องหนึ่งได้สมดังปรารถนาแล้ว..ดีใจจัง สาธุ สาธุ
 
 

โดย: ณงลักษณ์ IP: 58.8.62.118 วันที่: 21 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:52:46 น.  

 
 
 
พี่ณง > น่าอัศจรรย์ เรื่องนี้ไม่เชืออย่าลบหลู่จริงๆ นะคะ ..ว่าแต่ว่า คราวนั้นเราอธิษฐานอะไรไว้บ้างเนี่ย
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 21 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:56:43 น.  

 
 
 
เรื่องเล่าจากโขงเจียมน่าติดตามมากครับ

ผมชอบแสงที่โบสถ์สีขาวสวยกำลังดี

ผมเคยไปวัดนี้ แต่นานมาแล้ว จำได้ว่าได้เหรียญของหลวงปู่คำคนึงมาด้วย

ขอบคุณคุณนัทสำหรับคำอวยพรนะครับ

 
 

โดย: Insignia_Museum วันที่: 22 พฤษภาคม 2554 เวลา:11:37:40 น.  

 
 
 
รูปสวย จุดชมวิวก็สวย วัดก็สวยแปลกตา
 
 

โดย: ชมวิวทิวทัศน์ (เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ) วันที่: 22 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:07:41 น.  

 
 
 
พิชญ์เคยไปวัดนานมาก..ก แล้วค่ะ ตอนนั้น อุโบสถ ยังก่อสร้างไม่เสร็จเลยค่ะ

ภาพสวยมากๆเลยค่ะ คุณนัทธ์
 
 

โดย: pichayaratana วันที่: 18 ธันวาคม 2554 เวลา:23:23:09 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com