<<
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
3 พฤษภาคม 2554
 

ปั่นน่องโป่ง ชมสถาปัตยกรรมฝีมือช่างอิตาเลี่ยน : Part I




หลังจากวันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2553 เที่ยวชมโบราณสถานแบบสบายๆ กันแล้ว
วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2553 เราก็ยัดเยียดความอึดให้กับตัวเอง
ด้วยการไปร่วมทริปชมสถาปัตยกรรม ฝีมือช่างอิตาเลียน ด้วยกัน "ปั่นจักรยาน"

การเที่ยวชมผลงานช่างอิตาเลี่ยนนี้ สถานฑูตอิตาลีจัดมา 2-3 ปีแล้วล่ะ
แต่เราไม่เคยได้ไปร่วมทริปสักครั้ง
คราวนี้ได้รับ fax แจ้งข่าวสารจากกองการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร
ก็เลยรีบติดต่อจอง ...ไม่รอหาเพื่อนเลยด้วยซ้ำ
จองปุ๊บ ก็ทราบว่าจักรยานไม่มี ต้องเอาจักรยานไปเอง
เราก็ตั้งใจจะยืมจักรยานของหลานไปใช้...แต่พอวันศุกร์ ก็ได้รับแจ้งมาว่า "มีจักรยานเหลือ"
กิจกรรมเริ่มราวสองโมงเช้า แต่เมื่อเราต้องใช้จักรยานของกทม. ก็เลยต้องมารับจักรยานก่อน

ด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางในวันเสาร์
พอถึงวันอาทิตย์เราก็เลยตื่นสาย..
ตาลีลาเหลือกนั่งแท็กซี่มุ่งหน้าลานคนเมือง...รถก็ไปได้ไม่เร็ว เพราะติดขบวนนักวิ่งมาราธอน



พอมาถึงลานคนเมือง ก็จัดการทำเรื่องยืมจักรยานซะก่อน ...



อันว่าโครงการเส้นทางท่องเที่ยวโดยจักรยานของกทม.นี้ มีมาหลายปีแล้ว แต่เราก็ยังไม่เคยใช้บริการ
ครั้งนี้ได้ลองซะที รุ่นใหม่ สวยงามแข็งแรงดี วิธีการเบิกใช้ก็เพียงแค่ ถ่ายเอกสารบัตรประชาชน ลงชื่อรับจักรยานจากเจ้าหน้าที่
ยืนจุดไหน ก็ต้องนำมาคืนที่จุดนั้น
เราจัดการปรับเบาะให้ได้ตามความสูง (ความยาวขาของเรา) แล้วก็ทดลองปั่นๆ ดูหน่อย
...ปรากฏว่า มือยังควบคุมแฮนด์รถและเบรคได้ ขาก็หยั่งถึง...คงไปได้รอดตลอดทริป
ใกล้จะหมดเวลานัดหมาย..ก็ได้เจอเพื่อนเรามากับน้องชาย ...ไม่ยักรู้ว่าคุณเพื่อนชอบ "ปั่น"
เป็นอันว่า ทริปนี้ไม่เดียวดายแล้ว

คนครบ (เกือบ 50 คน) เจ้่าหน้าที่กองการท่องเที่ยวก็ปั่นนำทาง
จากลานคนเมือง เข้าถนนราชดำเนิน มุ่งหน้าลานพระบรมรูปทรงม้า



เช้าๆ รถบนถนนยังไม่มาก ...แต่เราก็ต้องระมัดระวังตัวให้มากไว้
เพราะนี้คือครั้งแรกของการปั่นจักรยานบนถนนใหญ่อย่าง "ถนนราชดำเนิน"
พยายามไม่ตื่นเต้น ทั้งๆ ที่ตื่นเต้น กลัวว่าจะถูกรถเมล์ รถเก๋ง รถมอเตอร์ไซค์ เฉี่ยวชน
แต่ก็ไปเป็นหมู่คณะช่วยได้เยอะ...ยืดเลนซ้ายเข้าไว้...แล้วพยายามปั่นให้ทันกลุ่ม
เราก็มาถึงบริเวณงาน ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า จนได้ ..เล่นเอาเหนื่อย



ก่อนเริ่มกิจกรรม ก็มีการกล่าวโน้นนั่นนี่ตามระเบียบ โดยผู้แทนสถานฑูตและกทม.
จำไม่ได้แล้วว่าใครเป็นใคร <ไม่ได้่ถ่ายรูปพิธีการไว้ด้วย>
จากนั้นก็เป็นการถ่ายรูปหมู่...คณะเที่ยวชมนี้ประกอบด้วย
ผู้หลักผู้ใหญ่ที่จะนั่งรถบัส ชมรมรถคลาสิคและมอเตอร์ไซค์ (ยี่ห้ออะไรไม่รู้)
และชาวคณะปั่นจักรยาน อีกเกือบ 100 คัน โดยมีเจ้าหน้าที่กองการท่องเที่ยวกทม. นำชม
เสร็จพิธีการแล้ว ก็เริ่มชมจุดแรกกันเลย



:: พระที่นั่งอนันตสมาคม ::
พุทธศักราช 2450 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้โปรดเกล้าฯ ให้ก่อสร้างพระที่นั่งอีกองค์หนึ่งขึ้น ทางทิศตะวันออกของพระที่นั่งอัมพรสถาน เพื่อใช้เป็นที่เสด็จออกมหาสมาคม เช่นเดียวกับ พระที่นั่งในบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนิน ทรงวางพระศิลาฤกษ์พระที่นั่งองค์ใหม่นี้ เมื่อวันที่ 11 เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช 2451 ในรัชมงคลสมัยที่ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติมาครบ 40 ปีบริบูรณ์ และได้พระราชทานชื่อพระที่นั่งว่า พระที่นั่งอนันตสมาคม ตามชื่อพระที่นั่งองค์เดิม ภายในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งสร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระบรมชนกนาถ ซึ่งอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมยากแก่การบูรณะ จึงมีพระบรมราชองค์การโปรดเกล้าฯ ให้รื้อลงและสร้างเป็นสวน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้ดำเนินการก่อสร้างพระที่นั่งอนันตสมาคม ดังนี้
เจ้าพระยายมราช ( ปั้น สุขุม ) เป็นแม่ทัพกองการจัดการก่อสร้าง
พระยาประชากรกิจวิจารณ์ ( โอ อมาตยกุล ) เป็นผู้ช่วย
นาย มาริโอ ตามาโย (Mario Tamayo) เป็นนายช่างออกแบบ
นาย อันนิบาลเล ริกอตติ(Annibale Rigotti) เป็นสถาปนิก
นาย คาร์โล อาร์เลกรี(Carlo Allegri) เป็นผู้ช่วยนายช่างใหญ่
นาย อี.ยี. กอลโล ( Mr. E.G Gallo ) เป็นวิศวกร
ศาสตราจารย์ แกลิเลโอ คินี(Galileo Chini)เป็นช่างเขียนภาพ
นายซี.ริโกลี ( Mr. C. Riguli ) เป็นช่างภาพ



พระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นพระที่นั่งที่สร้างขึ้นมาแบบสถาปัตยกรรม แบบอิตาเลียนเรอเนสซองส์ (Italian Renaissance) และแบบนีโอคลาสสิก (Neo Classic) ภายนอกประดับด้วยหินอ่อนซึ่งสั่งมาจากเมืองคารารา (Carara) ประเทศอิตาลี

องค์พระที่นั่งเป็นอาคารหินอ่อนสองชั้น มีโดมสูงใหญ่อยู่ตรงกลาง และมีโดมเล็กๆ โดยรอบอีก 6 โดม รวมทั้งสิ้นมี 7 โดม ส่วนกว้างขององค์พระที่นั่ง ประมาณได้ 47.49 เมตร ส่วนยาวประมาณ 112.50 เมตร และส่วนสูงประมาณได้ 47.49 เมตร

การก่อสร้างพระที่นั่งอนันตสมาคมดำเนินมาถึงปีพุทธศักราช 2453 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จสวรรคต ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินการก่อสร้างต่อตามพระราชประสงค์ ในที่สุดก็สำเร็จบริบูรณ์ในพุทธศักราช 2458 ใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งหมด 8 ปี สิ้นงบประมาณการก่อสร้างประมาณ 15 ล้านบาท


ชมกันแต่ภายนอกแบบห่างๆ อย่างนี้แหละ ภายในไม่ได้เข้าไปชม
จะว่าไปแล้ว เราก็เคยเข้าไปชมข้างในแค่ครั้งเดียวเองนะ
เมื่อนานแสนนานมาแล้ว และเป็นเวลาที่เรายังไม่ให้ความสนใจกับสถาปัตยกรรม
และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ศิลป์อย่างเช่นเดี๋ยวนี้ เห็นที่ต้องไปเยี่ยมชมอย่างจริงจังสักครั้ง

จากนั้นก็หันมาให้ความสนใจกับ พระบรมรูปทรงม้ากันบ้าง



พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ พระบรมรูปทรงม้า ตั้งอยู่ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า สร้างขึ้นในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยนำแบบอย่างมาจากพระบรมรูปของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ที่กรุงปารีส ด้วยฝีมือนายช่างชาวฝรั่งเศส บริษัท ซุซเซอร์ เฟรสฟอร์เดอร์ ในวโรกาส ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอย่หัวเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2450
พระองค์เสด็จประทับ ให้ช่างปั้นชื่อ จอร์จ เซาโล ปั้น เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2450 พระบรมรูปสำเร็จเรียบร้อยส่งเข้ามาถึงกรุงเทพฯ เมื่อ วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน 2451 อันเป็น เวลาพอดีกับงานพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก เนื่องในโอกาสเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ 40 ปี เจ้าพนักงานได้อัญเชิญพระบรมรูปทรงม้าขึ้นประดิษฐานบนแท่นรองหน้าพระราชวังดุสิต โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จไปทรงทำพิธีเปิดด้วยพระองค์เอง

มีของสำคัญอีกอย่างบนถนนข้างพระบรมรูป



ป้ายสัญลักษณ์ของคณะราษฎร์เมื่อครั้งเปลี่่ยนแปลงการปกครอง
ข้อความระบุว่า "ณ ที่นี้ คณะราษฎร์ได้ก่อกำเนิดรัฐธรรมนูธ เพื่อความเจริญของชาติ"
แต่ก็มีร่องรอยขูดขีดจากครั้งการชุมชุมครั้งก่อน ...พวกนี้ไม่รักประวัติศาสตร์ชาติเอาละเลย

เป็นอันว่าได้เห็นและได้รู้จักผลงานของนายช่างอิตาลีกันแล้ว
ได้เวลาปั่น มุ่งหน้าจุดหมายต่อไปกันได้



โปรดติดตามตอนต่อไป










 

Create Date : 03 พฤษภาคม 2554
10 comments
Last Update : 23 กันยายน 2560 9:57:40 น.
Counter : 1523 Pageviews.

 
 
 
 
ทริปปั่นจักรยานน่าสนใจดี แล้วถ้าคนที่ปั่นไม่แข็ง จะขอนั่งซ้อนท้ายไปด้วยได้ไหมอะ
 
 

โดย: นู๋เมี่ยง IP: 58.9.86.175 วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:12:47:30 น.  

 
 
 
เมี่ยง > คนอื่นอาจจะให้ซ้อนได้ แต่เธอซ้อนเราไม่ได้แน่นอน ลำัพังเอาตัวให้รอดตลอดทริป เราก็แย่แล้ว ...
อ้อ...จักรยานของกทม. ซ้อนไม่ได้นะจ๊ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:13:01:53 น.  

 
 
 
วันที่ออกทริปนี่ลงเดือนหรือปีผิดหรือป่าวครัีบ...ผ่านมาแล้วหรือว่าจัดทริปปลายปีนี้ ถ้าเป็นปลายปีขอจองทริปไปปั่นด้วยคน
 
 

โดย: ชะโดทะเล (ชะโดทะเล ) วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:00:28 น.  

 
 
 
คุณชะโดทะเล > ผิดปีค่ะ แก้ไขแล้ว ...ทิ้งช่วง up blog นานไปหน่อย
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:07:45 น.  

 
 
 
เข้ามาดูรูปเห็นหัวข้อน่าสนใจ กรุงเทพน่าจะมีเลนจักรยานเนอะ ถึงแม้แดดจะแรงไปหน่อย ปลูกต้นไม้บังๆก็พอได้

ปล ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพวกสถาปัตย์อะไรเลย แต่ก็พอรู้ว่าสมัยก่อนใช้ช่างอิตาลีเยอะ
 
 

โดย: settembre วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:18:06:55 น.  

 
 
 
คุณ settembre > กรุงเทพมีเลนจักรยาน และมีเส้นทางท่องเที่ยวสำหรับจักรยานค่ะ
แต่ทว่า...ถูกบดบังด้วย "แผงลอย"
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:18:30:03 น.  

 
 
 
ทักททายยามค่ำคืนนี้นะจ่ะ อิอิ เอิ๊กๆๆ
 
 

โดย: ตะวันเจ้าเอย วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:41:10 น.  

 
 
 

ไม่เคยปั่นจักรยานเที่ยวกรุงเลยค่ะ
อยากจะลองถีบรอบเมืองมั่ง
แต่หาโอกาสเหมาะไม่ได้สักกะทีเลยล่ะ
 
 

โดย: อุ้มสี วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:27:19 น.  

 
 
 
เราไม่มั่นใจตัวเองว่าจะขี่จักรยานได้อีกครั้งมั้ยค่ะคุณนัทธ์ จักรยานสมัยนี้คันมันใหญ่เกินตัวเราอ่ะ ตอนเราไปเชียงคานอยากขี่เองนะ แต่จักรยานไม่อำนวยเลยต้องซ้อนท้ายเค้า เกรงใจคนปั่นจะแย่ น้ำหนักเราก็ไม่ใช่เบาๆ เลยค่ะ
 
 

โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:24:48 น.  

 
 
 
คุณตะวันเจ้าเอย >

คุณอุ้มสี > ทริปแบบนี้ต้องลองเองค่ะ

คุณส้ม > จักรยานของกทม. ไม่ใหญ่นะ เราก็ตัวเล็ก ปั่นไ้ด้สบายเลย
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:12:46:55 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com