เลียบริมโขง เมืองอุบุล : Part II
ความเดิมตอนที่แล้ว
เมื่อจุดท่องเที่ยวหลักของเราคือ "สามพันโบก" ของเพื่อนอีกคนคือ "ผาแต้ม" ที่พักที่พี่ณงแนะนำให้คือ บ้านสวนพีรดา อำเภอโขงเจียม เมื่อกินอิ่มกันแล้ว ก็เริ่มต้นเดินทางกันต่อ เส้นทางอำเภอเมือง มุ่งหน้าโขงเจียม พร้อมแวะเที่ยวรายทาง จนกว่าจะถึงที่พัก
จุดแรกก็แวะกราบนมัสการหลวงปู่ชาที่วัดหนองป่าพงกันก่อน
ที่วัดนี้เป็นสถานปฏิบัติธรรมที่ร่มรื่นมาก มีนักท่องเที่ยว (ชาวไทย) แวะเข้ามาเที่ยวชมพอสมควรเลยล่ะ พวกเราเดินตามป้ายกันไปเงียบๆ กลัวบรรยากาศจะไม่สงบ
ตั้งใจเดินหาพระอุโบสถแต่ก็หาไม่เจอ กลับมาเจอ เจดีย์พระโพธิญาณเถร
รูปแบบสถาปัตยกรรมผสมผสาน ระหว่างสถาปัตยกรรมอีสานกับล้านช้าง ส่วนองค์เจดีย์เป็นบัวเหลี่ยมตั้งอยู่บนฐานกลม
ภายในบรรจุอัฐิหลวงปู่ชา
นั่งสงบจิตใจกันสักพักนึง แล้วออกมาเดินย้อนกลับเส้นทางเดิม ตามต้นไม้มีคำสอนของหลวงปู่และพระเถระรูปอื่นๆ ติดไว้สอนใจ เราก็เลยเก็บบันทึกเป็นภาพกลับมา
แดดกำลังดีส่องลอดร่มไม้ลงมา สายลมพัดเสียดสีใบไ้ม้ น้อมใจให้นิ่ง สงบ ทบทวน และคิดตามถ้อยคำที่ได้อ่าน รู้สึกสงบดีจัง ...ช่างเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมเป็นอยางยิ่ง แต่ก็ยังอุตส่าห์วอกแวก หัดถ่ายภาพช้อนใต้ดอกไม้ซะหน่อย แบบว่า ...อยากลองดูว่าจะได้ภาพลำแสงแบบทีอ่านในตำรารึป่าว
นั่งยองๆ กดชัตเตอร์เป็นจุดๆ ไป เลือกมาได้แค่ภาพเดียวที่แปะไว้นั่นแหละ เดี๋ยวจะเสียเวลาเพื่อนๆ รีบเดินกลับมาดุในพิพิธภัณฑ์กันดีกว่า
พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถร เป็นอาคารสามชั้นทรงไทยประยุกต์ มีโถงบันไดอยู่ตรงกลาง ชั้นล่างมีตู้แสดงโครงกระดูกมนุษย์อยู่สองข้าง ชั้นสองจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้านที่ชาวบ้านนำมาถวายวัด ชั้นสามประดิษฐานหุ่นขี้ผึ้งขนาดเท่าจริงของหลวงปู่ชา ในท่านั่งอยู่บนเก้าอี้หวายและเครื่องอัฐบริขารของท่าน
ชมกันทั่วแล้ว ก็ออกมากราบลาองค์พระที่ประดิษฐานหน้าอาคาร แล้วขึ้นรถตู้ออกเดินทางกันต่อไป ....
พวกเราไม่ได้กำหนดจุดท่องเที่ยวตายตัวไว้เลย ก็ต้องมาดูกันว่า สถานที่แนะนำในแผนที่ว่ายังไงบ้าง ซึ่งเราถือแผนที่ ของ "นายรอบรู้" แล้วก็มาถามรถตู้ดูว่า ไปสะดวกมั๊ย จะเสียเวลาเดินทางมากไปรึป่าว
แล้วจุดหมายที่หยุดเป็นลำดับถัดมาก็คือ วัดภูเขาแ้ก้ว
วัดภูเขาแก้ว สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2480 สำหรับให้พระสงฆ์ปฏิบัติกัมมัฏฐาน สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดคือ พระอุโบสถ ที่ประดับด้วยกระเบื้องทั้งหลัง มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ ความงามของอุโบสถ ได้ถูกถ่ายทอดจากฝีมือของช่างพื้นบ้าน โดยการออกแบบของเจ้าอาวาส (พระอาจารย์โชติ)
พระพุทธรูปหน้าพระอุโบสถ ศิลปะอินเดีย
บานประตูพระอุโบสถ แกะสลักทวารบาลแและนางอัปสรา ศิลปะขอม
ครุฑประดับใต้หลังคา ศิลปะไทย
ยอดปราสาทบนหลังคาพระอุโบส ศิลปะลาว
จากภายนอกจะเห็นว่ามีการผสมผสานกันหลากหลายศิลปะ ภายในพระอุโบสถตกแต่งด้วยภาพนูนสูง อยู่เหนือบานประตูและหน้าต่าง เป็นรูปพระธาตุที่สำคัญของประเทศไทย พร้อมทั้งเล่าประวัติพระธาตุแต่ละองค์โดยย่อ
พระประธานในพระอุโบสถก็เป็นศิลปะอินเดีย
ถ้าถามว่า "สวยมั๊ย" ดูแต่ละส่วน เราก็ว่า "สวย" ฝีมือช่างพื้นบ้าน คงไม่งดงามอ่อนช้อยเท่ากับฝีมือช่างหลวงหรอก แต่พอความสวยในหลายๆ ศิลปะ มารวมกันไว้ในที่เดียว จาก "สวย" เราว่า "แปลก ประหลาด" มันดู "มากเกินไป "
นั่งรับลมเย็นๆ ในพระอุโบสถสแบบสบายๆ ไม่ดูเวลากันเลยว่าเลยเที่ยงนานแล้ว ช่างเป็นทริปเย็นใจกันจริงๆ ปล่อยอารมณ์ ปล่อยความเครียด แบบชิวๆ กันพอสมควรแล้ว ก็ต้องสะกิดกันออกเดินทางต่อได้เลย เส้นทางยังอีกยาวไกล และยังมีจุดให้แวะเที่ยวได้อีกหลายจุด
จะเขย่าให้เบาได้อย่างไร วานบอก
โปรดติดตามตอนต่อไป
ปล. ประวัติวัดหนองป่าพงและประวัดิหลวงปู่ชา : //www.watnongpahpong.org/ ข้อมูลวัดภูเขาแก้ว : //guideubon.com/news/view.php?t=18&s_id=8&d_id=19
Create Date : 19 พฤษภาคม 2554 |
|
7 comments |
Last Update : 19 พฤษภาคม 2554 17:57:46 น. |
Counter : 1289 Pageviews. |
|
|
|
ชอบภาพทางเข้าที่มีต้นไม้รื่นรมณ์มาก
ภาพที่มีลำแสงส่องก็สวยงาม