<<
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
22 เมษายน 2554
 

ทริปโบราณสถาน อยุธยา-ลพบุรี : Part V



ความเดิมตอนที่แล้ว

นั่งมองวิวข้างทาง หูก็ฟังเสียงวิทยากรกับเพื่อนร่วมทริปเมา์ืท์
ไม่นานก็ "หลับ" ....ตื่นอีกครั้งรถจอดหน้า "พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์"



เข้าไปยืนรอรถบัสอีกคันที่ยังมาไม่ถึง สงสัยจะขับกันคนละเส้นทาง
เห็นอาคารสำนักงาน เป็นอาคารเก่า สวยดี



แล้วก็มีป้ายอิงค์เจคบอกเรื่องราวมหัศจรรย์ เกี่ยวกับภาพรัชกาลที่ 5 เหนือประตูทางเข้า
เราก็มองหาบ้่าง .....มองอยู่ตั้งนาน กว่าจะเห็น เป็นภาพรัชกาลที่ 5 จริงๆ ด้วย


ลองมองดูให้ดีๆ นะ


ช่วงเวลาีที่คณะของพวกเราไปถึงก็บ่าย 3 โมงกว่าแล้วล่ะ
ใกล้จะหมดเวลาชมพิพิธภัณฑ์แล้ว เราจึงได้เห็นคณะนักเรียนโรงเรียนต่างๆ
ที่คงมาทัศนศึกษากัน ทะยอยเดินออกประตูไป ..ดูมากมาายคึกคักดีจัง
ไม่ยักเห็นแบบนี้ที่พิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพบ้างเลย (หรือมีแต่เราไม่เห็นเอง)



พระนารายณ์ราชนิเวศน์ เป็นพระราชวังซึ่งสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2199 - 2231 โปรดให้สร้างขึ้น ณ เมืองลพบุรี เมื่อ พ.ศ. 2209 บนพื้นที่ 41 ไร่ สำหรับเป็นที่ประทับพักผ่อน ล่าสัตว์ ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมืองอย่างไม่เป็นทางการ พระองค์โปรดประทับอยู่ ณ เมืองลพบุรีนานเกือบตลอดปี เฉพาะฤดูฝนเท่านั้นจึงจะเสด็จไปประทับ ณ กรุงศรีอยุธยา เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคตใน พ.ศ. 2231 เมืองลพบุรีหมดความสำคัญลง

ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้โปรดฯ ให้ซ่อมแซมพระราชวังของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และสร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่เพิ่มเติมสำหรับเป็นที่ประทับในปี พ.ศ. 2399 และพระราชทานชื่อพระราชวังว่า พระนารายณ์ราชนิเวศน์

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานหมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฎ อันเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้รัฐบาลใช้เป็นศาลากลางจังหวัด และต่อมา สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และสมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ขึ้นที่พระที่นั่งจันทรพิศาล ในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2467 เรียกว่า ลพบุรีพิพิธภัณฑสถาน และในปี พ.ศ. 2504 จึงได้ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ ปัจจุบันได้จัดแสดงศิลปโบราณวัตถุตามอาคารและพระที่นั่งต่างๆ ภายในพิพิธภัณฑ์เป็นจำนวนกว่า 1,864 รายการ


ชาวคณะมาครบกันแล้ว ก็เริ่มต้นฟังบรรยายโดยวิทยากรของพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
บริเวณหน้าพระที่นั่งจันทรพิศาล ซึ่งท้องพระโรงสำหรับประชุมเสนาบดีในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

อาคารด้านซ้ายมือ


ก็เป็นเรื่องราวความเป็นมา การก่อสร้าง และความสำคัญของสถานทีแห่งนี้ แล้วจึงย้ายไปชมโบราณวัตถุที่จัดแสดงภายใน พระที่นั่งพิมานมงกุฎ



อาคารสูง 3 ชั้น สร้างขึ้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
สำหรับเป็นที่ประทับส่วนพระองค์


เราค่อยๆ ปลีกตัวจากหมู่คณะออกมาชมสิ่งปลูกสร้างในเขตพระราชวัง
เพราะอยากจะเดินดูให้ทั่วๆ มากกว่าดูโบราณวัตถุที่จัดแสดง

จุดแรกที่ไปเยือนก็คือ พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท

เป็นพระที่นั่งองค์หนึ่งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นกลางของ พระนารายณ์ราชนิเวศน์
สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อปี พ.ศ. 2209
เป็นพระที่นั่งท้องพระโรง มียอดแหลมทรงมณฑป ศิลปกรรมแบบไทยผสมผสานกับฝรั่งเศส ประตูและหน้าต่างท้องพระโรงด้านหน้าทำเป็นรูปโค้งแหลมแบบฝรั่งเศส ส่วนตัวมณฑปด้านหลังทำประตูหน้าและหน้าต่างเป็นซุ้มเรือนแก้วฐานสิงห์แบบไทย ตรงกลางท้องพระโรงมีสีหบัญชร เป็นที่เสด็จออกเพื่อมีปฏิสันถารกับผู้เข้าเฝ้าในท้องพระโรงตอนหน้า



ผนังภายในท้องพระโรงประดับด้วยกระจกเงา ซึ่งโปรดให้คนไปจัดซื้อมาจากประเทศฝรั่งเศส ดาวเพดานเป็นช่องสี่เหลี่ยมประดับลายดอกไม้ทองคำและแก้วผลึก

ผนังด้านนอกพระที่นั่งตรงมณฑปชั้นล่าง เจาะเป็นช่องเล็กๆ รูปโค้งแหลมคล้ายบัว สำหรับตั้งตะเกียงในเวลากลางคืน เช่นเดียวกับที่ซุ้มประตูและกำแพงพระราชฐานชั้นกลางและชั้นใน ซึ่งมีช่องสำหรับวางตะเกียง ประมาณ 2,000 ช่อง


สถานที่นี้เป็นพระที่นั่งท้องพระโรงสำหรับเสด็จออกรับคณะราชทูตในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช



เดินผ่านประูตูออกมาสู่เขตพระราชฐานชั้นนอก


เรื่องประตูและกำแพงวังนี้เคยมีกรณีพิพาทในขณะการบรูณะด้วย


ประตูและกำแพงก่อนการบรูณะ



โรงช้างหลวง มีทั้งหมด 10 โรงด้วยกันอยู่ติดกำแพงกั้นระหว่างเขตพระราชฐานชั้นนอกกับชั้นกลาง
และช้างที่ยืนโรงอยู่คงเป็นช้างทรงของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชหรือเจ้านาย



ตึกรับรองคณะทูตต่างประเทศตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก บันทึกของชาวฝรั่งเศสกล่าวว่า ตึกหลังนี้อยู่กลางอุทยานซึ่งแบ่งเป็นช่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส รอบตึกมีคูน้ำล้อมรอบ ภายในคูน้ำมีน้ำพุพุ่งเรียงรายได้ ระยะยาว 20 แห่ง สมเด็จพระนารายณ์ฯได้พระราชทานเลี้ยงแก่คณะทูตจากประเทศฝรั่งเศส ณ สถานที่นี้ใน พ.ศ. 2228 และ พ.ศ. 2230



สิบสองท้องพระคลัง สันนิษฐานว่าเป็นคลังเก็บสินค้าหรือเก็บสิ่งของเพื่อใช้ในราชการเลี้ยงตึกแขกเมือง




จากบันทึกของชาวฝรั่งเศสกล่าวว่าระบบการจ่ายทดน้ำ เป็นผลงานของชาวฝรั่งเศสและอิตาลี
โดยน้ำที่เก็บในถังเป็นน้ำที่ไหลมาจากอ่างซับเหล็ก โดยผ่านมาทางท่อดินเผา
ที่เชื่อมมาจากอ่างซับเหล็ก เพื่อนำน้ำมาใช้ภายในพระราชวัง



นอกจากนี้ก็ยังมีตึกพระเจ้าเหา สันนิษฐานว่าคงเป็นหอพระประจำพระราชวัง และมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายในตึก ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้อาจมีชื่อว่า พระเจ้าเหา จึงเป็นที่มาของชื่อตึกแห่งนี้ ซึ่งเราไม่ได้ถ่ายรูปมา



เพลิดเพลินเจริญใจเดินวนเวียนถ่ายภาพไปมา
ระลึกถึงความเจริญรุ่งเรืองของแผ่นดินอโยธยา ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์
สิ่งก่อสร้างที่โอ่อ่า งดงามไปด้วยแก้วประดับ ผสมผสานศิลปะไทยและยุโรป
คงสร้างความตืนตะลึงให้แก่ชาวต่างชาติที่เข้ามาติดต่อปฏิสัมพันธ์ของแผ่นดินสยามมากมายนัก

แวะกลับไปที่สำนักงาน จะซื้อคู่มือนำชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไว้ ก็หมดซะอีก

เลยไม่มีให้อ่านอีกภายหลัง
และแล้วเวลาก็ผ่านอีก 1 ชั่วโมง เราต้องขึ้นรถบัส รับอาหารว่าง
มุ่งหน้าสู่จุดหมายสุดท้าย ก่อนที่จะค่ำเกินไป



ข้อมูลประวัติ จาก
//www.thailandmuseum.com/narayana
//th.wikipedia.org/

โปรดติดตามตอนต่อไป


Create Date : 22 เมษายน 2554
Last Update : 22 เมษายน 2554 19:37:21 น. 5 comments
Counter : 1800 Pageviews.  
 
 
 
 
แอบเข้ามาเยี่ยมจ้าๆๆ
 
 

โดย: konseo วันที่: 22 เมษายน 2554 เวลา:18:10:38 น.  

 
 
 

เคยมาที่นี่ 3 ครั้ง
มาทีไรก็ชอบทุกทีเลยล่ะ
สวยและดูมีอำนาจดึงดูดให้มานั่งที่สนามหญ้า
แล้วมองดูโบราณสถานอย่างทึ่ง
 
 

โดย: อุ้มสี วันที่: 23 เมษายน 2554 เวลา:0:11:20 น.  

 
 
 
ตอนไปเมืองนี้ (ลพบุรี) กลัวลิงมาก เดินเลิ่กลั่กตลอดทาง
 
 

โดย: neutral วันที่: 23 เมษายน 2554 เวลา:18:33:36 น.  

 
 
 
สวัสดีค่ะ..

อ้อมแอ้มมีเลขเด็ดมาฝากในงวดนี้นะค่ะ

ขอให้โชคดีนะค่ะ

 
 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:9:43:29 น.  

 
 
 

ชวนไปชม อีกมุมหนึ่งของนางยักษ์ .......เกศสุริยง
สร้างกริตเตอร์

ทักทายยามสายของวันพุธ อากาศขมุกขมัวแต่ร้อนจับใจ หวังว่าคุณนัทธ์ คงสบายดีนะคะ
 
 

โดย: เกศสุริยง วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:9:48:56 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com