เป็นอีกวันหนึ่ง ที่อยากออกไปสูดอากาศดี และได้เห็นพื้นที่สีเขียว
พร้อมกับการได้ย่อยสลายไขมันอันเนื่องมาจากการบริโภค จนเกินเหตุ
หลังจากได้ไปเดินเล่นหม่ำมื้อร่อย จนอิ่มแปร่เต็มพุงกะทิ ทำให้เกิดอาการอยากจะเบรินพลังงานสุด
เบื่อห้าง เบื่อแอร์ ในที่สุดก็มาลงตัวที่นี่
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลนเพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(จังหวัดชลบุรี)
เราไปถึงเกือบจะสี่โมงเย็น แดดไม่จัดจ้านมากนัก ยังพอเดินไหว เมื่อมาถึงก็แหงนหน้าสบตากับสาระเบื้องหน้า
ก่อนจะพาสองขาก้าวเดินต่อไป

ด้วยสภาพพื้นที่ติดทะเลของเขตจังหวัดชลบุรี ทำให้ได้พบกับป่าชายเลนได้ง่าย และยังอุดมสมบูรณ์ดี
เพราะเรายังได้เจอ ปลาตีน เจอปู สัตว์น้ำทะเลที่ยังอาศัยรากเหง้าของต้นโกงกางเป็นบ้านของเค้า
แสดงว่า ยังมีบ้านดีๆให้เค้าได้อาศัยกันอยู่

ที่นี่เป็นสะพานไม้เดินได้รอบๆประมาณเกือบสองกิโล เรียกเหงื่อได้พอซึม เดินไปดมขี้เลนไปสุขดีแท้ อิอิ

ยกกล้องตัวเก่าให้โบนัส คุ้มจริงๆ สุขใจที่เค้าชอบและช่างสังเกตุมากขึ้น

เห็นทางแยกเป็นสองฝาก วันนี้ลูกวิ่งตามแม่มา วันหน้าแม่ไม่รู้ ............
ไม่ว่าลูกวิ่งไปทางไหน แม่ก็ขอให้ลูกได้สุขอย่าทุกข์ใจก็พอ

ท้องฟ้าหม่นๆ เพราะเมฆฝน แต่ดีที่ไม่ตก รูปออกมาดำๆพิลึก


ป่าชายเลนได้สร้างความสนใจให้กับเด็กได้มากมาย
เพราะเจ้านี่หล่ะ แม่เรียกปลาตีน แต่บอกกับลูกชายว่า..........

ปลาทีน...เพราะเค้ามาขาสองข้างไง

เยอะมากมาย ชี้ชวนกันดูเพลินเลย

ตัวเล็กจะมีสีด้านข้างเงินวาวๆด้วย

เจ้าตัวนี้ก็เด่นนะ

ที่ยังมีการร่วมด้วยช่วยกันอนุรักษืผืนป่าชายเลน และปลูกป่าเพื่อเป็นแนวกันน้ำทะเลเซาะ
และเป็นแหล่งที่อาศัยให้กับเพื่อนร่วมโลก เพื่อประโยชน์ในการจับกิน เอ้า...ว่าไปนั่น

เดินชมธรรมชาติมองสิ่งรอบตัวก็สบายใจไปอีกอย่าง


กว่าจะเดินก้าวต่อไปช่างแสนจะยากเย็นเพราะหยุดชมวิวกันตลอด


อันนี้พวกชอบก้มต่ำ

ชะอึ๊ยยยยย ม่ายรู้งู รึปลาไหลอ่ะ

เข้าร่มกันดีกว่า

ช่วงเวลาเย็นเป็นจังหวะตอนน้ำขึ้น เราได้ยินเสียงเปาะแป๊ะ ดังลั่นป่า เหมือนกับยืนฟังธรรมชาติเล่นดนตรีเลย

พากันเดินไปไกลสุดๆ จากในร่มจนออกไปเจอกับทะเลด้านนอก

แบบนี้


แล้วก็ตามตามสะพานวกกลับด้านในหลังไปเล่นกับแดดมาระยะหนึ่ง ร้อนกำลังพอดี


น้ำขึ้นจนไม่เห็นเลน
แต่เราสามก็เดินต่อไป


จนไปเจอกับแนวสะพานเชือก และยังอยากไปต่อ ให้รู้ที่หมายด้านหน้า



ความสุขของโบนัส


รากต้นโกงกางต้นหนึ่ง ผู้ไม่ยอมแพ้ แม้จะล้ม แต่ยังแตกหน่อ.....ต่อไป

ปลายทางของสะพานแขวนที่เห็นคือจุดนั่งพักนั่งชมวิว เสียดายที่เสื่อมโทรม
และไม่น่าเดินไปชมเพราะเด็กมือบอนประเภทต้องบอกให้โลกว่า มาเระที่นี่ มากะใคร รักกะใคร ..........มึน

จากสะพานเชือกแขวนเดินกลับออกมาก็ต้องผ่านที่นี่

ครั้งหนึ่งคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าจะนิยมมากมาย เพราะว่าเวลาน้ำขึ้น
เราจะได้นั่งมอง หรือยืนชมสายน้ำและสัตว์น้ำตัวจิ๋วๆ

น่าเสียดาย.............
จบทริปวันนี้ด้วยความรู้สึก ...อยากให้ที่นี่คงอยู่ในสภาพที่ดีกว่านี้ เพราะตอนนี้สะพานเริ่มผุ
เชือกกันราวสะพานบางตอนก็ขาด นี่หล่ะสะพานไม้ชมป่าชายเลน2300เมตรที่ยาวที่สุดของประเทศไทย
ลดความเครียดด้วยไอศครีมดีกว่า

ปิดท้ายด้วยสุดหล่อคนเดิม หนุ่มน้อยของแม่ ลูกชายตัวแสบโบนัส

ขอตามมาเดินชมธรรมชาติ ด้วยคนค่ะ
เอา ไอครีม มาฝากค่ะ
ขอให้มีความสุขนะคะ