เรื่องเล่า_เขาใหญ่ในวันวุ่นวาย อีกครั้งกับการเที่ยวเขาใหญ่เป็นการเที่ยวก่อนเปิดภาคเรียนของลูก และพ่อเค้ามีวันหยุดสามวันติดกัน วันศุกร์พาเค้าไปหม่ำของอร่อยๆที่ซีคอน
โปนัสชอบโออิชิเอ็กเพรสที่นั่นมากๆๆพอกับที่แม่เองก็ชอบเหมือนกัน นั่งกินไปเรื่อยๆให้พุงมันปลิ้นสมกับราคาค่าหัวที่จ่ายไป
จนในที่สุดพอตื่นมาวันเสาร์อาการกำเริบ คืออยากออกไปเที่ยวอีก ตกลงกันได้ว่าไม่ควรจ่ายเยอะต้องไปกางเต็นท์นอนถือเป็นการฉลองเต็นท์ใหม่ของเราด้วย เหตุผลดีอย่างนี้ใกล้บ้านเราที่สุดคือเขาใหญ่ จ่ายน้อยที่สุดก็คือเขาใหญ่ คิดได้อย่างนี้ จัดของเสร็จออกเดินทางตอนเที่ยง แวะกินมื้อเที่ยงเติมพลังด้วยก๋วยเตี๋ยวเนื้อใกล้บ้าน ดูนาฬกา เืกือบๆๆจะบ่ายแล้ว รีบบึ่งไปเขาใหญ่กันเลย
เราใช้เส้นทางแหลมฉบังปราจีน ดันไปเจอฝนที่ปราจีนทำเอาใจเสียนิดหน่อย เอาเถอะไปให้ถึงก่อนดีกว่า
ถึงเขาใหญ่ประมาณเกือบสี่โมง จ่ายค่าเข้าอุทยานไป 90บ.
ถ่ายรูปไม่เยอะมาบ่อยๆเลยไม่เกิดอารมณ์ หลับตายังเห็นภาพเขาใหญ่ได้ปีนี้มาสองครั้งแล้ว
โอ้วพระเจ้า นี่มันเิกิดมหกรรมเขาใหญ่กันแน่ ตอนขึ้นเขาก็เห็นรถเยอะแต่ไม่คิดว่าจะเจอคนขนาดนี้
มองไปทางไหนก็เจอแต่เต็นท์ๆๆๆ และคนเยอะแยะ เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุด ใครก็มาเที่ยวกันนี่ขนาดเจ้าหน้าที่เค้าจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวแล้วนะ เห็นคนเยอะ ห้องน้ำก็เต็มไปต่อคิวกันอาบน้ำ ที่นี่ห้องน้ำแยกสุขา กับที่อาบน้ำ ของผู้ชายเป็นแบบอาบรวมกันตักราดหัวซะ น้ำเย็นสุดๆ
ขอบอกก่อนว่าอย่ามาตัวไฮโซแถวนี้เด็ดขาด คิดจะกางเต็นท์นอนมันต้องติดดินนะจ๊ะ
หลังจากที่แม่มันเดินสำรวจเรื่องชาวบ้าน แล้วกลับมาดูสองคนพ่อลูกเค้าช่วยกันกางเต็นท์ เลยได้ภาพน่ารักพ่อลูกเค้าทะเลาะกัน ก็พ่อทำงานส่วนลูกเอาอุปกรณ์กางเต็นท์ไปเล่นนะสิ จะอะไรซะอีก
ใช้เวลาไม่นานห้องนอนของเราก็เสร็จดีๆๆ ชอบๆๆ อีกอย่างเราต้องรีบทำกับข้าว
ที่จุดบริการเค้ามีให้เช่าทุกอย่าง เต็นท์ ที่นอน ผ้าห่ม เตาถ่าน ถ่าน ตามสะดวก(ถ้ารับได้นะ)
แต่เราเอาไปเองหมด เตาก็เอาไปและเนื่องจากเป็นเตาใหม่พอๆๆกะเต็นท์จึงได้อาหารหน้าตาแบบนี้ออกมา (แก้ตัว)

ดินเนอร์ใต้เแสงดาวคืนนี้มี ไข่เจียวฝีมือเด็ก กุนเชียงกะไก่ย่าง(หมักไปจากบ้านไปถึงก็ปิ้งย่างได้เลย)
ยำปลากระป๋อง อิ่มอีกแล้ว ช่วยกันเก็บของ พ่อไปล้างจานกะลูก แม่เตรียมที่นอนและชุดอาบน้ำ
นั่งทำใจไปอาบน้ำเพราะไม่ชอบห้องน้ำแบบนี้ที่สุด เอาหล่ะฟ่ะมาถึงขนาดนี้แล้วจะมัวมานั่ง ดจร.อีกทำไม
ตัดใจไปอาบน้ำ ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ขึ้นอยู่กะใจคนมากกว่า แต่ห้องน้ำนี่บอกตรงๆๆนะ
เจ้าหน้าที่เค้าทำไม่ทันหรอก ทุกคนต้องร่วมรับผิดชอบในความสะอาด เข้าห้องน้ำก่อนลุกก็ต้องสำรวจความเรียบร้อย
จะได้ไม่โดนด่าตามหลัง อ้อมันเป็นเรื่องนิสัย หรือสันดานล้วนๆๆจริง
กลายเป็นบ่นไปซะ 
ในที่สุดเรื่องที่เราเกลียดที่สุดก็ได้เจอจนได้ ทากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
นี่มันอะไรกัน ระหว่างที่อาบน้ำ สายตาก็จับจ้องไปทุกๆๆส่วนของห้องน้ำ
ผนัง ประตู ลูกบิด ที่แขวนผ้า ถุงใส่ผ้าของเรา
จนได้เจอเจ้าตัวร้ายเดินดุกดิก เชื่อมั้ยเราไม่สงเสียงร้องโวยวาย (หน้าห้องน้ำมีผู้หญิงคนหนึ่งแหกปากร้องก่อนหน้านี่เลยรู้ตัวเอง)
นิ่งไว้ นิ่งไว้เพราะแก้ผ้าอาบน้ำอยู่จะแหกปากไป ก็วิ่งออกมาไม่ได้อยู่ดี ตัวก็เปื้อนสบู่ งานนี้สุดๆๆ
จ้องกันไป จ้องกันมา ไอ้ทากบ้านี่มันก็ขยันเดินนะ เราต้องคอยมองไว้
ไปทางไหน ตูจะได้รู้ รีบอาบน้ำซะ
น้ำเจ้ากรรมก็ไหลได้อารมณ์จริง คนยิ่งรีบๆๆน้ำไหลอย่างกะเยี่ยวเด็กของแท้เลย
กว่าจะเอาตัวรอดจากห้องน้ำได้ โกยตีสุนัขเข้าเต๊นท์ทันที่ ไปถึงใส่ถุงเท้ากันตัวเองเสร็จสับ
นั่งดูดาวไปใจหายไป แต่..เราไม่ฆ่าเค้า ก็นี่มันบ้านเค้า
เอาชนะใจตัวเองได้ไม่เบียนเบียดกัน ตอนแรกเกือบเอาอีแตะฟาดให้แล้ว
เฮ้อ...
เข้านอนคืนนี้กว่าจะหลับตาลง เด็กน้อยก็แหกปากคุยๆๆ เค้าตื่นเต้นนี่น่า ถามอยู่นั่นแหละเสียงอะไร ใครคุยกัน ใครหัวเราะ ใครเล่นกีต้า ใครทำอะไร และที่สำคัญพยายามจะเปิดเต็นท์ล่อยุงเข้ากินเลือดนะซิ
งานนี้กว่าจะหลับปากเกือบถึงหู
อ้อลืมบอกไปถ้าอยากส่องสัตว์ ให้ไปติดต่อที่จุดบริการ เค้าจะนัดให้มาตอนเจอกันตอนสองทุ่ม แต่เราไม่ไป เห็นสัตว์มาพอควรและยังไม่ไว้ใจเด็กกลัวเอาไม่อยู่ เกิดแหกปากโวยวายเกรงใจชาวบ้านเค้า
ในที่สุดพ่อโปนัสก็หลับไปก่อนเรา เราต้องปล่อยให้เค้าได้พักเหนื่อย เล่นกะลูกไปสองคน จนโปนัสไปปลุกพ่อ ขอกินข้าวต้มมื้อดึก แล้วต่อด้วยมาม่า อีกซอง สามคนพ่อ แม่ ลูก ก่อนสลบไปด้วยความเพลียและอิ่มจัด แถมก่อนนอนยังบอกให้แม่ซื้อเต็นท์แบบติดแอร์ นี่อากาศเย็นขนาดนี้แล้วยังร้อง หาแอร์อีก เด็กนี่น่าจริง หนาวจะตาย แล้วไปเชียงรายภูชี้ฟ้าจะรอดมั้ยเนี้ย
และแล้วก็ถึงเวลาที่เรารอคอย 10:00am เจ้าหน้าที่บอกให้นักท่องเที่ยวปิดไฟ ยกเลิกกองไฟ เลิกร้องเพลง (เหมือนอยู่โรงเรียนเลย เค้ามีเวลาเข้าออกด้วยนะ) เป็นเสียงที่เรารอคอย ตูจะได้นอนซะที เต็นท์ข้างๆๆดีดกีต้าร้องเพลงอยู่ก็เงียบไป คราวนี้มีแต่เสียง คนกระซิบกัน ก็ป่านี่คร้า เงียบจะตายใครตดดังก็ได้ยินแน่ๆ และแล้วเวลาผ่านไป ความเงียบก็มาเยื่อนของจริง
คุณจะได้ยินเสียงลำธารน้ำไหล เสียงนก จิ้งหรีด สัตว์อื่น เงียบจนเราหลับได้ลง
และเราได้เริ่มเช้าวันใหม่กัน สามีค่ะปลุกดิฉันให้ไปเดินดูดาว เอาก็เอาฟ่ะ ไปแป๊บเดียวเดินใกล้ๆๆ ส่วนใหญ่ผู้คนเริ่มตืนเพื่อจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาเดียวดาย สวยนะเคยไปมาแต่มิใช่รอบนี้ งานนี้กินกะนอนอย่างเดียว การทึ่ทุกคนทะยอยกันตื่นเอารถออก ทำให้การจรารถวุ่นวายพักหนึ่ง ถ้าออกแล้วจอดยากนะจะบอกให้ เราเลยไม่ไปไง อ้างงั้นแหละ



ที่นอนของเรา ตื่นมาไม่ล้างหน้า หนาวๆๆ ต้มน้ำหุงข้าว คิดว่าเป็นเต็นท์แรกที่ทำอาหารกิน มองไปรอบๆๆเค้าออกไปเที่ยวกันทั้งนั้น
ปล่อยสองคนพ่อลูกให้ไปถ่ายรูปให้


เป็นการเก็บรูปความวุ่นวายกัน คนเราเช้ามาก็เห็นกันทั้งนั้นแล้วเค้าทำไรบ้าง

ล้างหน้าล้างตากันตรงนี้ ล้างจานก็ตรงนี้ ดีมั้ย


นายแบบพยายามบอกจุดกางเต็นท์
และนี่คือมุมสุดฮิต
เอากะเค้าด้วย แม่หนับหนุน
มุมสะพานยอดฮิต หลายๆๆคนค้นพบตัวตนที่นี่ว่าเกิดมาเป็นนายแบบ คอยดูนะ เราแอบเค้าอยู่

ถ้าใครจะเป็นนางแบบ หรือนายแบบตัวจริงตื่นมาปุ๊บ สวย หล่อปรั๊บ เชิญเลยค่ะที่นี่คือที่ปั้นดินให้เป็นดาว และบอกตรงๆๆ มีคิวนะค่ะทำเหนียมๆๆระวังจะไม่ได้รูปสะพานแขวนนะ เราแอบเห็นผู้ชายบางคนมันเก็กซะ ขำตัวเอง ไปเจือกเรื่องชาวบ้านตั่งนานๆๆ ไปๆกลับมาเรื่องเราต่อดีกว่า
หลังจากอิ่มท้องมื้อชาวด้วยข้าวเปียกกุ้ง เฮ้ยข้าวต้มกุ้งหุงกลายเป็นข้าวเปียกแฉะๆๆ แต่กินไปห้ามบ่น ยำ กุนเชียง ผัดผักบุ้ง ดูอาหารเช้าซะก่อน เต็นท์อื่นเพิ่มกะก่อเตา เราหม่ำกันเรียบร้อย ภูมิใจจริงๆๆ ไม่ได้เก็บรูปมาฝาก เพราะนั่งหม่ำไปดูบรรยายกาศไป คนรีบเดินไปต่อคิวเข้าห้องน้ำ รีบล้างหน้าแต่งสวย รีบออกไปดูวิวหมอกยามเช้า ส่วนเราเจือกเรื่องชาวบ้านนั่งดูภาระกิจคนอื่นเพลินดี
ที่ทำอย่างนี้เพราะไม่อยากรีบเก็บเต็นท์ อยากตากแดดให้แห้งก่อน จะได้ไม่เป็นรา เห็นมะมีเหตุผลนะ พอแดดออกเต็มที่ผึ่งพุงหลามเสร็จก็ได้เวลาเก็บของที่ไม่ใช้แล้วขึ้นรถ ดีที่ได้จอดใกล้ จากนั้นพาเด็กไปเล่นลำธารใกล้ๆ



แม่มันสภาพเนี้ยแหละ เลยอดแขวะคนสวยไม่ได้ อิจฉาจ้าไม่มีอะไรหรอก งานนี้เป็นอะไรที่ไม่ห่วงภาพพจน์ไม่มีสวย หลอนอย่างเดียว ฮิๆๆ
ไปดูเด็กเล่นน้ำดีกว่า

พ่อพยายามบอกลูก ว่าน้ำไม่ลึกอย่ากลัว 


กลัวอยู่นาน นั่งแต่ตักพ่อ

เริ่มสนุก และปัญหาเดิมเล่นไม่เลิก กว่าจะเลิก แหกปากซะ
อีกรูปก่อนกลับเดี๋ยวมาใหม่แน่นอนคนที่บ้านเค้าชอบ
เก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน ขับรถย้อนไปดูเื่ขื่อนลำตะคอง เพื่อจะทานมื้อเที่ยงริมเขื่อนและชมวิวแต่ไม่ไหวอิ่มมากๆ
จนเก็บท้องไว้ไปทานเอาช่วงบ่ายๆที่ร้านนี้


ของแม่

ของพ่อ

หม่ำสลัดผักร่วมกัน เลิฟๆๆ เพื่อสุขภาพหลังจากกินไก่กะกุ๊นเชียงไหม้ 555

ของโปนัส
ร้านนี้ชอบตรงผักสด ของแท้ต้องที่นี่เพราะวังน้ำเขียวผักสดจริงๆ เค้าเสริฟ์ผักสดหนึ่งกระปุกน่ารัก เราเองก็ชอบผักด้วย ล้างพิษสะหน่อยนะ
หม่ำหนำสำราญใจจ่ายไปแค่ทั้งหมด 313บ. ราคากับคุณภาพโอเค รับได้
ทริบนี้เติม ngv ประมาณ300บ.
ค่าอุทยาน 90บ.ค่ากางเต็นท์30บ.
ซื้อขนมกิน100.
ประหยัดงบประมาณ นำอาหารไปเอง คุ้มมากถึงบอกว่าต้องมาอีกแน่นอน คราวหน้าจะมาช่วงวันที่คนไม่หนาแน่นหน่อย
ก่อนอื่นต้องบอกว่าขอโทษที่ไม่ได้เก็บรูปจุดชมวิวมาฝาก น้ำตกอื่นก็ไม่ได้ไป แวะดูบล็อกเก่าของเราได้ไปมาเมื่อสองเดือนที่แล้วแต่ถ่ายจากมือถือกล้องพัง ทริปนี้จึงไม่ได้รูปเยอะ มีแต่บ่นๆๆๆ อิ่มๆๆ หนุกๆๆๆ
เขาใหญ่มีอะไรให้เรากลับไปอีกแน่นอน
Create Date : 14 กันยายน 2553 |
Last Update : 14 กันยายน 2553 13:41:07 น. |
|
1 comments
|
Counter : 2710 Pageviews. |
 |