เนินนานที่ไม่ได้อัพบล็อก จน ลืม ลืม ไปเลยว่าทำไง
แต่ใช้เวลาไม่นานก็ฟื้นความทรงจำพอได้กลับมาบ้าง
เป็นความภาคภูมิใจว่า ในหัวเรายังคงมีมันสมองน้อยๆอยู่บ้าง อิอิ
ดังนั้นอย่าได้ช้าเลย จัดไป อัพไป ก่อนสมองจะฝ่ออีกครั้ง

เมื่อต้นเดือน ต.ค บ้านเราได้พาย่าซึ่งหายจากอาการป่วยไปไหว้พระหลวงพ่อพุทธโสธร
เนื่องจากย่าได้ขอให้หลวงพ่อพุทธโสธร ช่วยให้หายป่วย งานนี้ไปพร้อมกับไข้ต้มเป็นร้อยๆฟอง
เราไปถึงวัดค่อนข้างสาย เก้าโมงกว่า คนเยอะมากเพราะเป็นวันเสาร์
หลักฐานไข่ต้มกับเด็กหญิงใบบัว
ยังโชคดีที่ได้ที่จอดรถ ด้านในติดริมน้ำ แม้จะเดินไกลนิดหน่อยแต่ก็ยังสามารถเลือกที่ร่มๆได้ ใช้ลูกชายสุดที่รักของย่าแบกไข่ต้มไปเนอะ
สองพี่น้องตัวแสบไม่ได้เจอกันนาน พอขึ้นรถก็เกินอาการเล่น เล่น และ เล่น จนผู้โดยสารในรถเวียนหัวกันไปตามๆกัน
เด็กหญิงใบบัว เป็นลูกพี่ลูกน้องอายุมากกว่า โบนัสปีหนึ่ง ใบบัวรักน้องยอมตลอด ปล่อยให้น้องเลือกของและให้ตลอด ที่สำคัยหลานคนนี้เรียนเก่งด้วย น่ารักและฉลาดจริงๆ หลานคนนี้เระหลานรักของย่าเลย
โบนัสเป็นหลานชายคนโตของย่า และเป็นตัวแสบประจำบ้านเรา

รูปถ่ายไม่ค่อยจะได้เพราะเด็กกำลังบ้านาฬิกาแปรงร่างของเบ็นเท็น ของบอกว่าอันนี้เป็นอันที่สองแล้วขอรับท่าน อุๆ อันแรกไม่รู้หายไปไหน เดือนร้อนพ่อกับแม่ต้องเจียดเงินค่าขนมซื้อให้ใหม่อีกอัน โดยมีข้อแม้ว่าต้องเอาดาวจากโรงเรียนมาฝากให้ได้ครบห้าดวง ดาวเด็กดี และดาวเด็กดีประจำบ้าน ช่วงนั้นเกือบจะลงแดงเพราะเบ็นเท็นกันทั้งบ้าน
กลับมาเข้าเรื่องดีกว่า
วัดโสธรวรารามวรวิหาร
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางประกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เอ่ยชื่อนี้ใครๆก็รู้จัก เรื่องความศักดิ์สิทธ์และความศรัทธาเป็นที่รู้กันดี สิ่งที่ยืนยันปรากฏเด่นชัด คือกระแสผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามากราบไห้วบูชาอย่างหนาแน่น ในวันที่เราไปถึงตอบคนค่อนข้างเยอะแม้เป็นช่วงเวลาสายๆ และที่แน่นอน พวกเค้ามาพร้อมไข่ต้มกับดอกไม้พวงยาวๆ
เมื่อได้เข้าไปอยู่กลางผู้คนจำนวนมากๆ ที่ต่างพากันเข้ามาจุดธูปเทียน ควันแทบเล่นงานน้ำหูน้ำตาไหลเชียวหล่ะ เราเองปล่อยให้ย่ากับลูกชายเค้าไปกันสองคน จูงลูกและหลานออกมายืนมองห่างๆ
ได้ยินเสียงตามสายจากเจ้าหน้าที่แจ้งให้จุดธูปเทียน และถวายดอกไม้ในบริเวรที่จัดไว้ เพราะด้านในไม่มีที่วางดอกไม้แล้ว ทำได้แค่เพียงนำแผ่นทองไปบูชาที่องค์พระเท่านั้น
พาลูกและหลานไปนั่งด้านใน ก่อนหน้านี้ให้พ่อโบนัสเอาไข่ต้มไปวางไว้ก่อน ประมาณจองที่ไว้นั่นหล่ะ ใช้เวลาพอสมควร ยิ่งเข้าไปด้านในเห็นไข่ต้มเต็มเลยหล่ะ เคยได้ยินเค้าบอกต่อๆกันมาว่า หลวงพ่อท่านชอบฉันท์ไข่ต้ม อืมๆๆ ท่าจะจริงแฮ่ะ ไม่งั้นไข่คงไม่มากันมากมายขนาดนี้น้อ....
เราเองไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศมาให้ดู เพราะห่วงแต่หลานกับลูก พอเสร็จพิธี พากันจูงมือออกมาเดินสูดอากาศโบสถ์เก่า โบสถ์ใหม่แตกต่างเห็นชัดเจน แต่ความศรัทธา ไม่เปลี่ยนแปลง...






เดินเล่นท่ามกลางเแดดร้อน แต่เด็กลิงสองตัวไม่กลัวแดด วิ่งเล่นยังกะสวนสนุกซึ่งแม่มันไม่สนุกด้วยเอาซะเลย
วัดค่ะ ลูก วัด สงสัยไม่ค่อยได้พาเข้าวัดอ่ะ ไม่มีอาการสำรวมใดๆ เกรงใจประชาชีแถวนั้น เป็นเหตุทำให้ไม่ได้เดิน
ชมด้านในโบสถ์ พระอุโบสถ 2,000 ล้านแค่เพียงเห็นจากด้านนอกก็สวยงามเป็นสง่าดี สวยนอกสวยในอยู่ที่ใจจริงๆ


พระอุโบสถหลังใหม่สร้างทดแทนหลังเก่าที่ทรุดโทรมและคับแคบ อาคารเป็นลักษณะทรงไทยออกแบบพิเศษ ผนังภายนอกอุโบสถใช้หินอ่อนอิตาลีเพื่อความคงคน ผนังด้านในใช้หินอ่อนในประเทศ ซุ้มประตู หน้างต่างใช้ดินเผาขาวเผาด้วยความร้อนสูง เคลือบน้ำ้ทองทำให้สวยเปร่งปรั่ง ส่วนกลางพระอุโบสถมียอดมณฑป เป็นฉัตรทองคำแท้ 5 ชั้นด้วยกัน เฉพาะยอดมณฑปนี้ก็มีมูลค่าถึง 44 ล้านบาท
น่าเสียดายที่ไม่ได้เดินชมด้านใน ว่ากันว่าผนังด้านในเป็นงาน จิตรกรรมฝาผนัง โดยศิลปินแห่งชาติซึ่งเป็นผู้เขียนภาพประกอบพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก
โดยเฉพาะบริเวณที่ที่ประดิษฐานหลวง พ่อพุทธโสธร ประกอบด้วยภาพ
จิตรกรรมฝาผนังอันงดงาม
ใช้เวลาไม่นานในการเดินชมบรรยากาสด้านนอก เราออกวัดไปต่อกันที่ตลาดบ้านใหม่แบบไม่ได้ตั้งตัว
ไม่ได้เตรียมเส้นทางไว้ก่อน เลยถามทางจากคุณตำรวจใจดีแถวนั้น พอจะรู้คร่าวๆว่าออกจากวัดแล้วเลี้ยวขวา
ตรงไปโลด ไปไม่ยากเพราะสังเกตุป้ายบอกทางมาตลอด แต่จะเสียเวลาตรงที่มองหาแต่ป้ายนี่หล่ะ

ตลาดบ้านใหม่ ฉะเชิงเทรา แต่เดิมเป็นตลาดเก่ากว่าร้อยปี ตั้งแต่สมัย รัชกาลที่5 ความที่ใกล้แม่น้ำบางประกง เป็นเส้นทางติดต่อค้าขายมานาน ของแหล่งชุมชนชาวจีน โดยยังคงสภาพเดิมไว้ได้ดี และชาวชุมชนเค้าฟื้นฟูท้องถิ่น อนุลักษณ์บรรยากาศแบบเดิมๆ ร้านเก่าๆ ตู้กาแฟ ร้านของเล่น ย้อยยุคแถมยังเป็นที่ถ่ายทำหนัง ละครย้อนยุคหลายสมัย คงได้ผ่านตากันบ้างเนอะ ยกตัวอย่างเช่น อยู่กับก๋ง แม่นาค เป็นไงจำกันได้มั้ย ไม่กล้าบอกว่าจำได้กลัวๆ กลัวเค้ารู้อายุจริง อิอิ เราเองสมัยละอ่อน ก็อ่านอยู่กับก๋งเหมือนกัน..ช่วงเวลาที่มาถึงได้ที่จอดรถสะดวกพอดี แต่เห็นมีแบบนั่งเรือจากท่าน้ำชมวิวแม่น้ำบางประกง ล่องเรือมาจอดที่ตลาดก็เข้าท่าดีเนอะ ไว้โอกาศหน้า น่าจะลองดู
บรรยากาศของกินของฝาก จะนำพาสตางค์ออกจากกระเป๋าได้ง่ายดาย แต่เราเองไม่อาจการันตีเรื่องรสชาติได้ เดินไม่ทั่ว เห็นใจย่าเดินไกลๆก็เหนื่อย และเด็กทั้งสอง อารมณ์กินอิ่ม ได้ของเล่น อยากกลับเป็นต้นไป




บ้านเราเสียตังส์ซื้อของเล่นให้โบนัส 10 บาท เป็นใบพัดเล็กๆใช้มือปั่นถึงจะหมุนไกลๆได้
ไอเดียพ่อเค้าหล่ะ ตอนแรกเห็นทำท่าเหมือนไม่ถูกใจ พอเห็นพ่อเล่น เอ้อ กลับชอบแฮ่ะ ดีๆไม่เปลืองเงินมาก
ร้านอาหารหลากหลาย น้ำดื่ม ของหนักท้อง กินเล่น กินจริงจัง อาหารน่าตาน่าเสียตังส์ไปหมด อดใจไม่ไหว

ขนมเบื้องญวน ของโปรดเราเหมือนกัน จะอร่อยหรือไม่ก็อยู่ที่ไส้กะน้ำจิ้มนี่หล่ะ
ส่วนเจ้าข้างล่างนี่คือ ขนมกล้วย ขนมฟักทองและขนมเผือก
เห็นเค้าห่อใบตองอันเล็กๆน่ารักดี



หากินง่ายนะเจ้าไข่นกเนี๊ยะ




ข้าวห่อใบบัว เมนูนี้เคยคิดว่าจะลองนะ แต่โดนอย่างอื่นซะก่อน คิดว่าน่าจะเหมือน
บะจ่างมั๊ย ดูด้านนอกก็ทรงเครื่องดี แต่ถ้าจะให้ลึกซึ้ง ต้องชิมทั้งอันอ่ะ
เคยปวดใจมาหลายตลาดประเภทหน้าตาดูดี แต่รสชาติไปคนละทาง อันนี้เราไม่ได้ลอง
ถ้าเพื่อมีใครเคยลองก็เฉลยมา จะได้กล้าๆๆซื้อ อิอิ
เมี่ยงคำ เราเองเป็นคนหนึ่งที่ชอบเมี่ยงมากๆๆ
ชอบความหอมของเครื่องปรุงมะพร้าวคั่ว ถั่ว กุ้งแห้ง ที่เด็ดสุด
ที่น้ำเมี่ยงนี่หล่ะ ถ้าได้ใส่ปากพร้อมเครื่องเคียงทั้งหมด พร้อม
พริก มะนาว โอ๊ะ โอ๋ เข้ากั๊น เข้ากัน แต่ว่าสำคัญสุด ของคั่วนี่ต้องใหม่จะได้หอมกรุ่น เคี้ยวกรุปๆดี
เดินวนเวียนมานาน จนล้าทั้ง พลังงานหมด ทั้งเมื่อยปาก เพราะลิงสิงตัว
เลือกที่จะนั่งร้านนี้

อย่างไม่มีเหตุผล มองผ่านๆตอนแรก ไปตั้งแต่แรก แต่ย้อนกลับมาเพราะมีที่นั่ง และอยากลองหม่ำดู
มีแบบแห้งและน้ำซุป พร้อมเสริฟ เลือกตามสบาย

แห้ง ที่ร้านเค้ามีน้ำพริกเผาให้
น้ำซุปอ่ะ เราเฉยๆสงสัยหลงไหลน้ำซุปบ้านบึงเมืองชลมากกว่า น้ำซุปแบบบ้านบึงต้องใส่ปลาหมึกแห้งด้วย
อ้อ แบบน้ำก็ปรุงตามใจฉัน ใส่ตัวก๊วยเตี๋ยวปากหม้อลงไป ปรุงๆๆ ตามใจฉัน(อีกเระ)
ใส่ปากได้เลย รึอยากปรุงแต่น้ำซุป แล้วตัดก๊วยเตี๋ยวปากหม้อตามไป ก็ตามสบายจ้า
และอีกจานหนึ่งที่อยากลอง ผัดไทยโบราณ
ตรงไหนเราก็ลืมถามนะ

เด็กๆสบายอารมณ์เล่นของเล่นพักสบาย พักสายตามองผ่านวิวด้านหลังร้าน

เด็กน้อยขยันขันแข็ง น่าชื่นชม 


อิ่มจากตลาดบ้านใหม่ ตัดสินใจกระทันหันแบบไม่รู้ตัว ไม่ได้เตรียมตัว ไปต่อที่นี่
วัดสมานรัตนาราม
พาแม่ไปไหว้พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขที่ใหญ่ที่สุดในโลก


พระพิฆเณศปางเสวยสุข มีขนาดความสูง 16 เมตร และความกว้าง 14 เมตร เนื้อชมพู
ลักษณะนั่งกึ่งนอนตะแคงบนฐาน พระหัตถ์ซ้ายถืองาที่หัก พระหัตถ์ขวาถือดอกบัว
โดยรอบฐานจะมีพระพิฆเนศทั้ง 32 ปางซึ่งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง
การขอพรจากพระพิฆเนศ ให้กระซิบฝากบอกท่าหนูมุสิกะ โดยเอามืออีกข้างอ้อมไปปิดรูหูของท่านหนูอีกข้างด้วย ทั้งนี้เพราะป้องกันการฝากขอพรจะไม่เข้าหูซ้ายทะลุออกไปหูขวานั่นเอง ผู้เป็นต้นห้องขององค์พระพิฆเนศจะนำพรที่เราขอไปบอกท่านพระพิฆเนศ อย่าลืมติดสินบนท่านหนูทั้งสองด้วยนะคำขอพรจะได้สำเร็จ เมื่อคำขอเป็นจริงแล้ว บางคนก็จะมาวิ่งรอบองค์พระพิฆเนศตามจำนวนรอบที่ได้บอกไว้ ก็เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลนะ

บรรยากาศโดยรอบๆรอบ มีร้านค้าให้เลือกซื้อหา มีเรือนำเที่ยว และที่สำคัญเราว่ารวมๆที่นี่สะอาดตาดี




สุดท้ายวันนี้เราได้มาเที่ยวฉะเชิงเทาอย่างคุ้ม ไหว้พระ ทานอาหารอิ่ม อิ่มบุญดี
และขอปิดท้ายหนุ่มน้อยจอมซน วันนี้เราไม่ได้ค่อยมีโอกาศถ่ายรูปกันเล้ย ซน อย่างเดียว

ขอโทษเพื่อนๆด้วยหากห่างเหินไม่ได้ไปทักทาย ช่วงนี้งานเข้า
เลี้ยงโบนัสเพราะเค้าปิดเทอม บล็อกนี้ใช้เวลาอัพ 3 วัน ขอย้ำ 3 วันกว่าจะเสร็จจริง

Create Date : 12 ตุลาคม 2553 |
Last Update : 27 ตุลาคม 2553 13:22:17 น. |
|
56 comments
|
Counter : 7072 Pageviews. |
 |
ดีใจที่แม่ปูมาอัพบล๊อคอีกครา
คิดฮอดหลายเด้อ