ทำอย่างไรเมื่อต้องขับรถนานๆ



อาการ
ปวดเมื่อยและวิธีการ บรรเทาอาการเบื้องต้น

          
ทั่วๆไปแล้วอาการปวดบ่า กระบอกตา คอ หลัง หน้าขา(สะโพก) และน่อง
เป็นอาการที่พบได้บ่อย เรามาลองดูสาเหตุและการบรรเทาอาการเหล่านี้กัน

          
เมื่อขับรถต้องใช้สายตามากไม่สามารถพักสายตาได้
ต้องเพ่งและมองไปข้างหน้าตลอด
ถ้าหากแสงแดดจ้าก็จะทำให้ตาต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันการเพ่งสายตามีผลต่อท่าทางของคอ คือคอต้องตั้งตรงนานๆ
ย่อมมีผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อคอ
ทำให้กล้ามเนื้อคอทำงานหนักและเกิดอาการล้าได้

          
การเมื่อยล้าของคอส่งผลต่อการบีบรัดเส้นประสาทโดยเฉพาะที่ฐานกะโหลกด้านหลัง
ทำให้ปวดศีรษะและกระบอกตาได้

          
วิธีการแก้ไขปัญหาปวดกระบอกตาและล้าของตาคือ
ต้องใส่แว่นปรับสายตาหากมีปัญหาเรื่องสายตาสั้นหรือยาว
จะทำให้ลดการเพ่งในขณะขับรถและหากขับรถในเวลาที่แดดจัดควรใช้แว่นกันแดด
เพื่อลดปริมาณแสงที่อาจทำให้ม่านตาทำงานหนักได้

          
ขณะที่พักรถหรือช่วงติดไฟแดงอาจใช้เวลาเล็กน้อยที่จะมองไปยังต้นไม้ที่มีสี
เขียวหรือหลับตาพักสายตาสักครู่ และหากเป็นไปได้การนวดบริเวณต้นคอและบ่า 2
ข้าง
จะสามารถลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อบริเวณนั้นส่งผลให้ความรู้สึกล้าลดลง
ได้

          
ในขณะขับรถกล้ามเนื้อบ่าจะทำงานเพื่อยกบ่าและแขนในการควบคุมพวงมาลัย
หากการจับพวงมาลัยห่างจากตัวมากจะมีผลทำให้ต้องเอื้อมมือยืดแขนไปข้างหน้า
กล้ามเนื้อบ่าและไหล่จึงทำงานมากขึ้นอีกและทำให้เกิดอาการเมื่อยล้ากล้าม
เนื้อบ่าและเกิดกล้ามเนื้ออักเสบได้ในที่สุด
ซึ่งสามารถตรวจได้โดยการคลำกล้ามเนื้อนั้นๆ จะพบลำหรือปมแข็งในกล้ามเนื้อ
เมื่อกดก็จะมีอาการเจ็บและร้าวได้

          
ดังนั้นการปรับระยะและความสูงของพวงมาลัยเป็นสิ่งที่สำคัญ
แต่ต้องเข้าใจว่าในขณะขับต้องทิ้งน้ำหนักแขนส่วนหนึ่งไว้ที่พวงมาลัย
ไม่เกร็งแขนและไหล่ตลอด
การเกร็งและยกแขนนี้อาจทำให้การควบคุมพวงมาลัยทำได้ยากกว่าที่ควรจะเป็น

          
อย่างไรก็ตามคุณสามารถลดอาการตึงและปวดเมื่อยบ่านี้ได้โดยการหมุนไหล่แบบกาย
บริหารของ เด็กๆ ที่หมุนไหล่มาข้างหน้าและย้อนกลับหลัง
โดยทำเมื่อหยุดพักหรือหากเมื่อยในขณะขับรถท่านสามารถทำการแบะไหล่ไปด้านหลัง
และแอ่นตัวมาข้างหน้าหรือทำการหมุนไหล่ข้างเดียวได้
โดยพิจารณาถึงความปลอดภัยในขณะขับขี่เป็นหลัก

          
สำหรับอาการปวดเมื่อย
หลังเกิดขึ้นได้เนื่องจากท่านั่งเป็นท่าที่หมอนรองกระดูกสันหลังมีแรงกด
มากกว่าท่าอื่นๆ แม้ว่าจะมีเบาะพนักพิงก็ตาม แต่หลังที่อยู่ในลักษณะโค้งงอ
ย่อมส่งผลต่อแรงดันในหมอนรองกระดูกสันหลัง
โดยมีแรงกดด้านหน้าหมอนรองกระดูกมากกว่าด้านหลัง
หมอนรองกระดูกจึงมีแนวโน้มที่จะปลิ้นไปทางด้านหลังและอาจเกิดปัญหาของหมอน
รองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทได้
เอ็นและกล้ามเนื้อที่อยู่ด้านหลังจะถูกยืดมากกว่าเมื่อหลังอยู่ในท่าตรง

          
ดังนั้น สิ่งที่ควรทำเมื่อพักรถคือ ค่อยๆ ลงจากรถ
ไม่ลุกแบบพรวดพราดและก่อนจะลุกขึ้นควรทำการยืดตัวและแอ่นหลังประมาณ 3-4
ครั้งก่อน แล้วค่อยลุกขึ้น
และเมื่อลุกขึ้นแล้วควรทำการยืดหลังและแอ่นหลังในขณะท่ายืนอีก 10 ครั้ง
แล้วถึงจะทำการก้มหลังหรือใช้งานหลังได้ตามปกติ
เหตุที่ให้ทำเช่นนี้เพราะว่าเอ็นที่อยู่ด้านหลังเมื่อนั่งนานๆ จะล้า
ขาดความยืดหยุ่นตัวและถ้าก้มบิดตัวหรือใช้งานหลังหนักๆ(เช่น การยกของหนัก)
การก้มขณะที่จะลุกจากรถ
อาจมีผลต่อการเคลื่อนหรือปลิ้นตัวของหมอนรองกระดูกสันหลังได้

          
หากเกิดอาการปวดเมื่อยล้าหลังขณะขับรถคุณสามารถนำหมอนเล็กๆ
สอดไว้ที่หลังส่วนล่างระหว่างเบาะกับหลังของคุณเพื่อให้หมอนเป็นตัวดันให้
หลังแอ่นตัวเล็กน้อย แต่ไม่ควรนั่งพิงหมอนนั้นตลอด
เพราะจะเกิดความล้าต่อหลังได้เช่นกัน

          
การขับรถเกียร์อัตโนมัติ
ความเมื่อยล้ากล้ามเนื้อหน้าขาและน่องเกิดได้จากการที่ต้องขยับขาเพื่อการ
เหยียบเบรกและคันเร่ง

          
ขณะที่ถ้าขับรถเกียร์ธรรมดาจะมีอาการเมื่อยล้าขาซ้ายเพิ่มขึ้นเนื่องจากการ
เหยียบคลัตช์

          
การแก้ไขหรือลดอาการปวดขณะขับรถสามารถทำได้โดยการหมุนข้อเท้าจิกปลายเท้า
กระดกปลายเท้าขึ้น เหยียดปลายเท้าลงให้สุด
โดยสามารถทำกับเท้าข้างซ้ายข้างเดียวในขณะขับรถและหากเมื่อหยุดพักแล้วคุณ
สามารถทำการหมุนหรือดัดต่อเท้าข้างขวา รวมทั้งทำการยืดกล้ามเนื้อหน้าขาได้
การยืดกล้ามเนื้อหน้าขาทำได้โดยยืนแล้วพับเข่าไปด้านหลังโดยเอามือช่วยจับ
เข่างอเข้ามายังก้น

          
อย่างไรก็ตามการขยับเขยื้อนออกกำลังกายแบบนี้เป็นการบรรเทาอาการเท่านั้น
และหากทำขณะขับรถให้คำนึงถึงความปลอดภัยในการขับขี่เป็นหลักด้วย





           สิ่งที่จะต้องทำที่สุดคือ
การหยุดพักบ่อยๆ เพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ
ล้างหน้าล้างตาและทำการออกกำลังกายตามที่ได้กล่าวมา
หรือทำการบิดขี้เกียจก็ได้ในลักษณะเหมือนการบิดขี้เกียจตอนเช้าก่อนลุกขึ้น
มาอาบน้ำและเมื่อถึงที่หมายแล้ว ควรทำการนอนยกขาสูง
โดยการนอนราบกับพื้นแล้วทำการยกขาแบบงอเข่าเล็กน้อยพาดกับเก้าอี้หรือโซฟา
เพื่อให้เลือดไหลและน้ำเหลืองไหลกลับได้ง่ายขึ้น
และทำให้หลังได้พักตัวลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อหลังได้






ขณะที่นอนนั้นคุณอาจใช้ผ้าเย็นประคบที่บ่าหรือคอเพื่อช่วยลดอาการตึงบริเวณ
ฐานคอได้อีกด้วย







Free TextEditor







































































































Create Date : 28 พฤษภาคม 2553
Last Update : 28 พฤษภาคม 2553 14:22:18 น. 0 comments
Counter : 831 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.