ช็อคโกแลตซีสท์ คืออะไร
เยื่อบุ โพรงมดลูกเจริญผิดที่เกิดจากอะไร... โดยปกติภายในโพรงมดลูกจะมีเยื่อบุโพรงมดลูกซึ่งจะหนาตัวและมีเลือดคั่ง จากนั้นก็จะสลายตัวเป็นเลือดระดู แต่ในบางคนเยื่อบุโพรงมดลูกบางส่วนไปเจริญผิดที่นอกโพรงมดลูก เช่น ที่รังไข่ ท่อนำไข่ กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ หรือ เนื้อเยื่อต่างๆที่ยึดมดลูกไว้
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากมีเยื่อบุโพรงมดลูกที่อยู่ในเลือดประจำเดือนไหล ย้อนผ่านท่อนำไข่ เข้าไปฝังตัวอยู่ตามที่ต่างๆดังกล่าวแล้ว โดยเยื่อบุเหล่านี้จะมีการเปลี่ยนแปลง คือ เกิดการหนาตัว มีเลือดคั่ง และมีเลือดออก เป็นวงจรทุกเดือน เช่นเดียวกับเยื่อบุที่อยู่ในโพรงมดลูก จึงเกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อโดยรอบจนเกิดเป็นพังผืดดึงรั้งอยู่ภายใน ช่องท้อง ทำให้เกิดการปวดประจำเดือน หรือ ปวดท้องเรื้อรัง
ในกรณีที่ไปเกิดที่ผิวของรังไข่ มักจะกลายเป็นถุงน้ำหรือซีสท์ ที่มีขนาดเท่าไข่ไก่ หรือผลส้ม และมีเลือดคั่งอยู่ข้างใน เรียกว่า ถุงน้ำช็อคโกแลต หรือ ช็อคโกแลตซีสท์ (Chocolate cyst)
โรคนี้มีอาการอย่างไร....?
ไม่พบมีอาการผิดปกติ แต่มีการตรวจพบโรคโดยบังเอิญจากการตรวจสุขภาพประจำปี หรือจากการเจ็บป่วยด้วยโรคอื่น หรือผ่าตัดอย่างอื่นหรือมาปรึกษาแพทย์เรื่องภาวะมีบุตรยาก อาจมีอาการ ปวดประจำเดือน ซึ่งจะปวดรุนแรงในช่วงวันท้ายๆของการมีประจำเดือน อาจมีอาการปวดประจำเดือนครั้ง แรกเมื่ออายุมากกว่า 25 ปี ปริมาณประจำเดือนมากกว่าปกติ หรือกระปริดกะปรอย ปวด ท้องน้อยหลังมีเพศสัมพันธ์ คลำพบก้อนที่บริเวณท้องน้อย ซึ่งเกิดจากขนาดของถุงน้ำที่รังไข่โตขึ้น ปวดขณะเบ่งถ่ายอุจจาระ หรือปัสสาวะ ในรายที่ถุงน้ำช็อคโกแลตเกิดการแตก จะมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงเฉียบพลัน ร้อยละ 60-70 ของผู้เป็นโรคนี้มีประวัติว่ายังไม่เคยมีบุตรมาก่อน ซึ่งเป็นสาเหตุให้มีบุตรยาก
ใครบ้างที่มีโอกาสเป็น... โรคเยื้อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
โรคนี้พบได้บ่อยในสตรีวัยเจริญพันธุ์ที่มีอายุ 30-50 ปี และมีโอกาสเป็นมากขึ้น ถ้ามีแม่ หรือพี่น้องเป็นโรคนี้มาก่อน
จะ ทราบได้อย่างไร..ว่าเป็นโรคนี้หรือไม่...?
จากการซักประวัติและหากมีอาการดังกล่าวข้างต้นแพทย์จะตรวจร่างกายร่วมกับ ตรวจภายในหรือส่องกล้องผ่านทางหน้าท้อง (Laparoscopy) โดยเปิดแผลขนาดเล็กๆที่บริเวณขอบล่างของสะดือและบริเวณเหนือหัวเหน่า เพื่อใส่เครื่องมือ หรือกล้องผ่านแผลนี้ไปดูอวัยวะภายในให้เห็นได้ชัดเจนขึ้น
การตรวจด้วยการส่องกล้องจะทำภายใต้การดมยาสลบและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงมักไม่ต้องนอนพักค้างคืนในโรงพยาบาล การส่องกล้องภายในช่องท้องสตรีนี้นอกจากตรวจวินิจฉัยหารอยโรคหรือความผิด ปกติแล้ว ยังสามารถทำการผ่าตัดได้ในขั้นตอนเดียว
โรคนี้จำเป็นต้องรักษาหรือไม่และรักษาอย่างไร....?
ในรายที่ไม่มีอาการหรืออาการรุนแรงไม่มาก แพทย์อาจให้สังเกตและติดตามอาการเป็นระยะ ในรายที่มีอาการ แพทย์อาจรักษาโดยใช้ยา หรือหากใช้ยาแล้วไม่ได้ผลอาจจำเป็นต้องผ่าตัด
การผ่าตัดมีหลายวิธี อาจจะตัดเฉพาะตำแหน่งของโรค หรือสลายพังผืดออก โดยยังคงเก็บมดลูก ท่อนำไข่ และรังไข่ไว้ สามารถผ่าตัดโดยการส่องกล้องผ่านทางหน้าท้อง แผลจะมีขนาดเล็ก ใช้เวลาในการพักฟื้นน้อย ทำให้ลดอาการปวดประจำเดือน และเพิ่มความสามารถในการมีบุตรได้ดีขึ้นในรายที่เป็นมาก หรือผู้มีอาการรุนแรงและมีบุตรเพียงพอแล้ว แพทย์อาจพิจารณาแนะนำให้ผ่าตัดเอามดลูกและตัดรังไข่ออกข้างเดียว หรือทั้งสองข้าง แล้วแต่ความรุนแรงของโรค ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จากโรงพยาบาลนครธน
Free TextEditor
Create Date : 08 พฤษภาคม 2553 |
Last Update : 8 พฤษภาคม 2553 9:21:34 น. |
|
2 comments
|
Counter : 414 Pageviews. |
|
|