อาหารกับสายตา

ผู้เฒ่าผู้แก่มักจะบอกลูกหลานให้กินผักบุ้งเยอะๆ
จะได้ตาหวาน ความเชื่อนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างยิ่ง
เนื่องจากผักบุ้งจะมีสารอาหารพวกวิตามินและแร่ธาตุอยู่มาก
วิตามินที่เกี่ยวข้องกับตาคือวิตามินเอ
ซึ่งในผักบุ้งหรือผักใบเขียวและเหลืองวิตามินเอจะอยู่ในรูปแคโรทีนอยด์


ตัวที่สำคัญและรู้จักกันดีคือเบต้าแคโรทีน
ในร่างกายเบต้าแคโรทีนจะถูกเปลี่ยนไปเป็นวิตามินเอที่เยื่อบุลำไส้
แคโรทีนอยด์นอกจากจะเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอแล้ว
ยังทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ยับยั้งการก่อกลายพันธุ์ ป้องกันเนื้องอก
ลดความเสี่ยงเกี่ยวกับการเสื่อมของตาเนื่องจากสูงอายุ และต้อกระจก



วิตามินเอมีความสำคัญเกี่ยวกับการมองเห็นในที่แสงสลัวและ
ความแข็งแรงของเยื่อบุต่างๆ การขาดวิตามินเอทำให้การปรับตาในที่มืดช้าลง
ซึ่งสามารถสังเกตได้ เช่น เวลาเข้าไปในห้องที่มืด หรือเข้าไปในโรงภาพยนต์
คนที่ขาดวิตามินเอต้องใช้เวลานานกว่าคนอื่นกว่าจะปรับสายตาให้มองเห็นทาง
เดินได้


 สำหรับคนที่ขับรถยนต์ในเวลากลางคืน
การปรับสายตาในที่มืดได้ช้านี้จะเพิ่มความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ
เนื่องจากเมื่อมีรถยนต์สวนทางมา
แสงสว่างจากรถที่สวนมาจะทำให้ตาพร่างและมองทางข้างหน้าไม่ชัด




เพื่อป้องกันการขาดวิตามิน
เอ ควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอสูงๆเช่น ตับหมู ตับไก่ ไข่ น้ำนม
หรือรับประทานพืชผักที่มีสีเขียวเข้ม และผลไม้ที่มีสีเหลืองส้ม เช่น
ผักบุ้ง ผักตำลึง ฟักทอง มะละกอสุก แครอท เป็นต้น
ถ้าการขาดวิตามินเอยังคงดำเนินต่อไปจะมีผลทำให้เนื้อเยื่อตาแห้ง และเป็นแผล
(ตาไม่หวานเสียแล้ว)
ถ้าขาดรุนแรงมากขึ้นจะทำให้การเสื่อมของจุดภาพชัดที่ตาบริเวณตาดำเป็นแผล
และทำลายเลนส์ตา ซึ่งจะทำให้ตาบอด



การขาดวิตมินเอขั้นรุนแรงนี้เคยพบในทารกที่ได้รับการเลี้ยง
ดูด้วยนมข้นหวาน


เนื่องจากนมข้นหวานมีน้ำตาลสูง
เวลาผสมให้ทารกก็จะจางมาก ทำให้ทารกได้รับน้ำตาลเป็นหลัก
ทารกจึงเสี่ยงต่อการขาดอาหาร
โดยเฉพาะโปรตีนและวิตามินเอซึ่งอาจถึงขั้นตาบอดได้
ปัจจุบันบนฉลากนมข้นหวานจึงต้องมีข้อความ “ห้าม
ใช้เลี้ยงทารก”



การขาด
สังกะสีทำให้การปรับตาในที่มืดช้าลงได้เช่นกัน
เนื่องจากสังกะสีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนวิตามินเอให้อยู่ในรูปแบบที่
จะทำงานได้ที่ตา สังกะสีพบได้มากในอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น ในหอยนางรม
เนื้อ ตับ ไข่ นม ไก่ และปลา เนื้อสัตว์ที่มีไขมันมากจะมีสังกะสีน้อย
ธัญาหารเป็นแหล่งสังกะสีเช่นกัน ปริมาณสังกะสีในธัญาหารขึ้นกับการขัดสี
สังกะสีจะมีมากบริเวณเปลือกนอกของเมล็ด ดังนั้นเมล็ดพืชที่ผ่านการขัดสีน้อย
เช่นข้าวซ้อมมือจะมีสังกะสีมากกว่าข้าวที่ขัดสีจนขาว



นอก
จากนี้การเสื่อมของจุดภาพชัดที่ตาหรือโรคตาเสื่อมในคนสูงอายุจะพบได้เสมอ
ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเสื่อมของกระจกตา ทำให้คนสูงอายุมองไม่ชัด
เป็นอุปสรรคในการเลือกอาหาร
เวลารับประทานอาหารคนสูงอายุมักจะถามลูกหลานว่าอาหารแต่ละจานเป็นอะไร
ลูกหลานก็อย่าเพิ่งรำคาญ ต้องเข้าใจนะว่าท่านมองไม่ชัดว่าอาหารนั้นคืออะไร



การเสื่อมของจุดภาพชัดที่ตา หรือโรคตาเสื่อม และต้อกระจก
เกิดจากการถูกทำลายด้วยปฏิกิริยาออกซิเดชัน (oxidative damage)
สำหรับโรคต้อกระจกจะมีผลทำให้เลนส์ตาขุ่นมัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากที่เริ่มมีอาการและเมื่อถึงจุดหนึ่งก็สามารถผ่าตัดออกไปได้
ส่วนการเสื่อมของจุดภาพชัดที่ตาจะเกี่ยวข้องกับการเสื่อมของกระจกตา
ทำให้การมองภาพเสื่อมอย่างถาวรจนอาจถึงขึ้นตาบอดได้ และไม่สามารถรักษาได้
ดังนั้นการป้องกันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น



การ
เสื่อมของตาเนื่องจากสูงอายุ (age – related macular degeneration)
พบว่าถ้ามีแคโรทีนอยด์ 2 ชนิดคือ ลูทีน
และซีแซนทิน
น้อยจะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้ ลูทีน
และซีแซนทิน เป็นแคโรทีนอยด์ที่พบในพืชผักมีส่วนเกี่ยวข้องกับตา
โดยจะพบสารทั้ง 2 ชนิดนี้ที่บริเวณกระจกตาและในเลนส์ตา
และมีส่วนป้องกันการเสื่อมของตาและโรคต้อกระจกในคนสูงอายุ
จากการศึกษาพบว่าการเพิ่มการรับประทานอาหารที่มีลูทีน
และซีแซนทินในผู้สูงอายุที่มีระดับสารทั้ง 2
ชนิดต่ำจะลดโอกาสเสี่ยงของโรคตาเสื่อม และโรคต้อกระจกในคนสูงอายุ



ใน
ช่วงทศวรรษที่ผ่านมาได้มีการทดลองให้ผู้สูงอายุรับประทานสารอาหารที่มี
คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรคตาเสื่อม
และโรคต้อกระจก ซึ่งพบว่าการรับประทานวิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน
และแคโรทีนอยด์จะลดอัตราการเกิดโรคดังกล่าวได้



ปัจจุบัน
การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสารต้านอนุมูลอิสระกับการเสื่อมของตายังอยู่ใน
ระหว่างการศึกษาเพื่อยืนยันผลที่แน่ชัด
ก่อนที่จะแนะนำให้รับประทานวิตามินเหล่านี้เสริม
ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีของดวงตา ควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินซี
วิตามินเอ วิตามินดี แคโรทีนอยด์ และสังกะสี สูง ได้แก่ ตับหมู ตับไก่ ไข่
ผัก ผลไม้ ธัญหาร และข้าวซ้อมมือ





ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today






Free TextEditor







































































































Create Date : 24 เมษายน 2553
Last Update : 24 เมษายน 2553 15:55:27 น. 0 comments
Counter : 310 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.