Group Blog
 
All blogs
 

Lily Allen – Guess Who Batman / Get Wit The Brogram (F**k You Very Much)







เพื่อให้เข้ากระแสThe Dark Knight Fever
Lily Allen เลยออกมาทำOST หนังขายให้เขา โดยเป็นเพลงที่จะอยู่ในอัลบั้มซึ่งจะออกปลายปีนี้




อ้าวววววววววว...............
ไม่ใช่หรอกเร้อ???



อ้อๆ ล้อเล่นอ่ะนะ



ความจริงแล้ว เพลงที่มีชื่อว่า Guess Who Batman หรือ Get Wit The Brogram

อะไรล่ะ จะเรียกอะไรกันแน่เนี่ย
แถมตอนแรกที่เธอปล่อยเพลงนี้ในเน็ตยังมีคำว่า ฟัก ยู เวรี่ มัช ตามมากำกับในวงเล็บอีก

แต่เอาเถอะอย่างไรซะสาวติสต์แตก เปรี้ยวซ่า บ้าบ๊องอย่างเธอก็กำลังจะกลับมาในงานเพลงชุดที่สอง

ตั้งชื่อเรียบร้อยกิ๋บเก๋แสบทรวงว่า
"Stuck on the Naughty Step"

ยืนยันแล้วเป็นอย่างดีกว่าซิ้งเกิ้ลแรกคือ Everyone's At It


แต่อย่าเพิ่งไปสนใจเพลงนี้ เพราะยังไม่มีหลุดมาให้ฟัง
ไปสน Guess Who Batman ที่เธอเอาไปลงไว้ใน Myspace ให้ฟังกันแล้วดีกว่า
อ่ะ หรือจะเรียกว่า Get Wit the Brogram ก็เอาเหอะ
ชื่อประหลาดดีพิกล
ความหมายก็ไม่รู้
ตอนแรกเธอเขียนเพื่อเจาะจงหมายถึง พรรค BNP (British National Party)ที่เป็นพรรคการเมืองฝ่ายขวาในอังกฤษ แต่ก็เปลี่ยนใจภายหลัง ไม่เอาดีกว่า รู้สึกสื่อความหมายได้กว้างไป
อย่างไรก็ตาม ว่ากันว่าเจ๊อยากจะกัด George W Bush ด้วยเลยเล่นกับตัวอักษรแบบนี้ซะเลย


แสบดีมั้ยล่ะคะ


อินโทรขึ้นมาก็น่ารัก จึ้งจ๊องๆแบบที่นึกถึงสไตล์เธอขึ้นมาทันที ฟังแล้วอาจยังไม่ได้รู้สึกอะไรมากว่าเธอจะเปลี่ยนไปในอัลบั้มที่ 2


GWB (Fuck You Very Much) - Lily Allen


เนื้อเพลง

Look inside
Look inside
Your tiny mind
Then look a bit harder
Cos we're so uninspired
So sick and tired
Of all
The hatred you harbour
So you say
It's not okay to be gay
Well I think
You're just evil
You're just some racist
Who can't tie my laces
You're point of view
Is medevil

Fuck you, fuck you
Very, very much
Cos we hate
What you do
And we hate
Your whole crew
So please
Don't stay in touch
Fuck you, fuck you
Very, very much
Cos your words
Don't translate
And it's getting
Quite late
So please
Don't stay in touch

Do you get
Do you get
A little kick out
Of being small minded
You want to be
Like your father
His approval your after
Well that's not how
You'll find it
Do you
Do you really enjoy
Living a life
That's so hateful
Cos there's a hole
Where your soul
Should be
You're losing
Control of it
And it's really
Distasteful

Fuck you, fuck you
Very, very much
Cos we hate
What you do
And we hate
Your whole crew
So please
Don't stay in touch
Fuck you, fuck you
Very, very much
Cos your words
Don't translate
And it's getting
Quite late
So please
Don't stay in touch





Stuck on the Naughty Step จะวางแผงเดือนธันวาปีนี้ Lily บอกว่าแนวดนตรีจะเปลี่ยนไปจากเดิม คือไม่เอาสกาอีกแล้ว แต่จะเป็นอิเล็กโทรพ็อพมากขึ้น

ก่อนหน้านี้เพลงที่เธอโพสต์ไว้ใน Myspace มี I could say กับ I don't know
ซึ่งจะเป็นเพลงที่รวมอยู่ในอัลบั้มดังกล่าวด้วย

เมื่อไม่นานนี้ก็มีอีกเพลงคือ Who'd of known แต่จะไม่ได้รวมอยู่ในอัลบั้มใหม่ด้วย
เพราะว่าไปเอาท่อนคอรัสจากเพลงเก่าของ Take That มา
เนี่ยสิถึงไม่เหมือนแนวเธอเลย ป๊อปเกินเลยและฟังหวานๆชวนง่วงและเอียนไปพร้อมๆกัน



รายชื่อเพลงที่คาดว่าจะอยู่ในอัลบั้ม
"Everyone's At It"
"I Don't Know"
"Not Fair"
"Guess Who Batman?" / "Get Wit The Brogram"
"He Wasn't There"
"Oh No"
"Fighting Chance"
"The Law of Averages Said That I Was Going to Get My Heart "Broken"
"I Could Say"
"Steve from Accounts"
"Pushing You Away While I Push Myself Inside"
"Wherever We Go" (featuring Lindsay Lohan)




Lily Allen's MySpace










 

Create Date : 21 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 21 กรกฎาคม 2551 4:43:07 น.
Counter : 1071 Pageviews.  

The Last Shadow Puppets --- "The Age Of The Understatement"



The Last Shadow Puppets อัลบั้ม The Age Of The Understatement




อเล็กซ์ เทอร์เนอร์ ทิ้ง Arctic Monkeys ชั่วคราวเพื่อมาทำ The Last Shadow Puppets กับ ไมล์ส เคน ของ The Rascals สองคนนี้ซี้กันตั้งแต่ไมล์สอยู่ The Little Flames แล้วแสดงเป็นวงเปิดให้ Arctic Monkeys บ่อยๆ อเล็กซ์นั้นเคยให้ไมล์สมาเล่นกีตาร์เพลง 505 ในอัลบั้ม Favourite Worst Nightmare การปิ๊งโปรเจกต์ทำงานนี้ร่วมกันจึงเสมือนเป็นการระดมหัวคิดและสร้างสรรค์แนวดนตรีที่พวกเขาต่างใฝ่ฝันจะทำ ขณะที่สำหรับอเล็กซ์คงเป็นการพิสูจน์ฝีมืออีกขั้น เพราะที่ผ่านมาเขาได้รับการยกย่องและยอมรับในระดับหนึ่งแล้ว

แล้วผลที่ได้ออกมากับงานสุดพิเศษนี้ก็เป็นงานดนตรีอันน่าสนใจที่มีลักษณะเฉพาะตัว พวกเขาผสมดนตรีย้อนยุคอย่างป็อป ร็อค โซล แม้จะเก่าแต่เก๋าและล้ำสมัยไม่น้อย เพิ่มด้วยกลิ่นอายคาวบอยตะวันตก บวกกับออเคสตร้าโดย London Metropolitan Orchestra และครื่องสายอลังการ แปลกไหมล่ะเนี่ย จะทำเพลงอินดี้แบบมีออร์เคสตร้า หรูหราซะไม่มี อัลบั้มนี้อยู่ภายใต้การโปรดิวซ์ของเจมส์ ฟอร์ดที่ทำให้ Favourite Worst Nightmare กลายเป็นงานคุณภาพมาแล้ว





ซิ้งเกิ้ลเปิดตัว The Age of the Understatement ชื่อเดียวกับอัลบั้ม งานที่จะทำให้ลืม Arctic Monkeys ไปได้เลย เพราะนี่คือสิ่งที่จะหาฟังไม่ได้จากฝีมืออเล็กซ์ใน Arctic Monkeys แต่หากใครเคยฟังThe Rascals มาก่อนก็คงไม่แปลกใจมากนัก เพลงมาแนวเรโทรอย่างไม่เกรงใจใคร มีทั้งเสียงกลองประกอบจังหวะมาร์ชเร้าใจ เสียงประโคมของแตร การเข้ามาสลับฉากด้วยเสียงประสานอันให้อารมณ์ยิ่งใหญ่ ฟังไปก็คล้ายสกอร์หนังสายลับยุโรปตะวันตก(บอนด์กำลังปฏิบัติภารกิจที่โซเวียตนี่เอง) แถมกลิ่นอายแบบให้หวนคิดถึงหนังแนวสปาเก็ตตี้เวสเทิร์น (คลิ้น อีสต์วู้ดกำลังควักปืนเตรียมพร้อม)
เอ็มวีเพลงนี้ใช้มอสโกเป็นฉากหลัง พร้อมกับการปรากฏของสิ่งที่ดูแล้วก็งงอย่างนักสเก็ต นักบุญออร์ธอด็อกซ์หรือรถถัง???









Standing Next to Me คือซิ้งเกิ้ลต่อมา เพิ่งออกมาเมื่อไม่นานนี้ แล้วก็แปลกดีที่อุตส่าห์ใช้อคูสติกกีต้าร์เสียงสเปะสะปะกับออร์เคสตร้าร่วมกัน จังหวะชวนให้ผงกหัวและเคาะตามจังหวะได้ไม่ยาก อีกทั้งเนื้อหาเพลงดูธรรมดาไปหน่อยสำหรับคนอย่างนายอเล็กซ์ เพราะฉะนั้นงานนี้อาจไม่ใช่ฝีมืออเล็กซ์สักถึงกึ่งหนึ่ง และเอ็มวีที่ดูแล้วนึกว่าBeatles ก็เล่นใส่สูทคอเต่า ทำผมกะลาครอบหัว สร้างบรรยากาศยุค 60’s มีนักเต้นเป็นฉากสลับ ความเป็นเลนนอนและแมกคาร์ทนีย์มาสิงร่างสองคนนี้หรือปล่าวไม่รู้ แต่อย่างน้อยความพยายามสร้างสรรค์เพลงและเนื้อร้องในเพลงนี้ก็ทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง







แทรกอื่นๆที่น่าสนใจ

In my room อันนี้มาอีกแล้ว theme James Bond สนใจไปแต่งสกอร์ให้เขาหน่อยไหมคะเนี่ย
Calm like you ฟังแล้วได้กลิ่นอายแบบ Arctic Monkeys เต็มที่ ใครเป็นแฟนอยู่แล้ว คงปลื้มได้ไม่ยาก
Only the truth สัดส่วนการร้องเท่าๆกันทั้งสองคน ฟังไปก็คล้ายๆ The age of the understatement


รายชื่อเพลงทั้งหมดในอัลบั้ม

1."The Age of the Understatement"
2."Standing Next to Me"
3."Calm Like You"
4."Separate and Ever Deadly"
5."The Chamber"
6."Only the Truth"
7."My Mistakes Were Made for You”
8."Black Plant"
9."I Don't Like You Anymore"
10."In My Room"
11."Meeting Place"
12."The Time Has Come Again"


โดยรวมบางเพลงอาจฟังเนือยๆ ลอยล่อง ชวนง่วงไปหน่อย ใครชอบสไตล์ Arctic monkeys มากอาจผิดหวัง แต่หากใครยังอยากจะพิสูจน์ฝีมืออเล็กซ์ เทอร์เนอร์
์และคู่หูก็ลองเปิดใจกว้างรับสไตล์แปลกใหม่ที่พวกเขาสร้างสรรค์ดู อัลบั้มนี้น่าสนใจและยอดเยี่ยมไม่น้อยเลยค่ะ เท่าที่ทราบหลายสำนักก็ให้คะแนนผ่านฉลุย ชอบกันมากมาย










 

Create Date : 19 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 19 กรกฎาคม 2551 22:30:27 น.
Counter : 1935 Pageviews.  

ฟังแล้วจะรู้ Viva la Vida or Death and All His Friends - Coldplay





Viva la Vida or Death and All His Friends

เริ่มจาก Parachutes เมื่อปี 2000 ตามด้วย A Rush of Blood To The Head ในอีกสองปีต่อมา ต่อด้วย X&Y กระทั่งมาถึงอัลบั้มล่าสุดของสี่หนุ่ม Chris Martin Jonny Buckland Guy Berryman และ Will Champion ในชื่อ Viva la Vida or Death and All His Friends ก็กลับมาให้แฟนๆได้ฟังกันพร้อมแบกความหวังที่ไม่มากไม่มายเลย แค่ว่าต้องเป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดของพวกเขาเท่านั้น
Viva la vida เป็นชื่อภาพวาดของ Frida Kahlo ศิลปินเม็กซิกันเลื่องชื่อซึ่งChris Martinประทับใจอย่างมาก 12 มิถุนาคือ วันที่ชาวสหราชอาราจักรจะได้ครอบครองอัลบั้มนี้ก่อนใคร ตามด้วยอเมริกาเหนือวันที่ 17 หลังจากที่ก่อนหน้านั้น Coldplay ปล่อยแผนการตลาดออกมาเช่นการปล่อยให้ดาว์นโหลดซิ้งเกิ้ลแรก Violet hill ไปฟังกันฟรีๆก่อนขายออนไลน์ หรือล่าสุดที่เอาทั้งอัลบั้มมาให้ฟังกันในเว็บ myspaceของตัวเอง (ก่อนหน้านั้นเพลงบางส่วนก็รั่วออกมาแล้วด้วย) เรียกว่าวัดใจกันไปเลย. ให้สมดังเป้าประสงค์ของพวกเขาที่อยากให้ทุกคนได้ฟังอัลบั้มนี้ก่อนตาย ฟังทั้งอัลบั้ม และยืนยันเหลือเกินว่านี่เป็นอัลบั้มที่ทุกคนจะจดจำไว้ในประวัติศาสตร์




จากหน้าปกอัลบั้มเอารูปของศิลปิน Eugene Delacroix ที่มีชื่อว่า Liberty Leading the People ภาพช่วงของการปฏิวัติ ผู้หญิงที่ถือธงอยู่คือ Marianne ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของฝรั่งเศสช่วงนั้น มีกราฟฟิตี้เขียนว่า viva la vida การปฏิวัติคำนี้ก็จะเป็นหัวใจสำคัญของอัลบั้มด้วย ภายใต้การโปรดิวซ์ของหัวเรี่ยวหัวแรงหลักอย่าง Brian Eno ที่ทำ U2 ไว้เป็นอย่างไรคงไม่ต้องอธิบาย ภาพรวมทั้งหมดใน Viva la Vida or Death and All His Friends จากคำสัมภาษณ์ของChris กับนิตยสารNME บอกว่า “ถ้าคุณฟังมันดูจะเห็นว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างมากในนั้น มีเรื่องเซ็กส์ ความตาย ความรัก ความกลัว การท่องเที่ยว ผู้หญิง และเรื่องร้ายๆ ทั้งหมดมีในนั้น”

ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม อย่าเชื่อจนกว่าจะลองฟัง และต้องฟังทั้งอัลบั้มด้วยนะ

รีวิวคร่าวๆกับ Viva la Vida or Death and All His Friends


LIFE IN TECHNICOLOR
อันนี้เป็นดนตรีบรรเลงค่ะ สไตล์อิเล็กโทรอคูสติก ตอนฟังจบแทบกรี๊ดทันที ได้อารมณ์ไปอีกแบบที่coldplay หันมาจับงานบรรเลงแบบนี้ เพราะจะว่าไปแล้ว ที่ผ่านๆมา โดยเฉพาะใน X&Y จะเห็นว่าด้านการบรรเลงดนตรีพวกเขาก็พัฒนาไปมาก เริ่มต้นด้วยการเปิดบรรเลงอย่างเนิบๆ แล้วค่อยๆเปลี่ยนสไตล์ก่อนที่จะมาถึงเสียงกีต้าร์และกลอง(ตอนที่ได้ยินเสียงกลองครั้งแรก แทบกลั้นหายใจนั่งฟังทีเดียวว่าดนตรีจะไปแนวไหน) บวกกับเสียงคริสที่ โว้ โว... มาเล็กน้อย เพลงนี้โดยรวมเราว่าวิเศษไปเลย ถ้าทำเป็นเพลงมีเนื้อออกมามีหวังเพราะชัวร์ แต่ในเมื่อออกมาเป็นบรรเลงก็ต้องดูกันต่อว่าcoldplayจะสนทำแบบนี้ออกมาอีกรึปล่าว


CEMETERIES OF LONDON
หลังจากสดใสไปในเพลงแรก แทรกที่สองนี้ก็เปลี่ยนโทนจากด้านสดใสเข้าสู่ด้านมืดทันที เพลงนี้ชอบตรงsinging la la laa la laa laa eeeeyyyyy คอรัสกันซะงดงามชวนฟัง รวมทั้งเสียงเปียโนช่วงท้ายตอนจบเพลง กระชากอารมณ์ให้หยุดนิ่งได้พักหนึ่ง
เนื้อหาเพลงเหมือนchris ดูจะเล่นกับศาสนาอีกเพลง แถมยังมีพวกแม่มด เมืองผี คำสาปอะไรอีก ชวนขุนลุกดีแฮะ
ท่อนสุดยอด
“I see God come in my garden, but I don't know what he said, for my heart it wasn't open"
อยากให้เพลงนี้ตัดเป็นซิลเกิ้ล นึกภาพเอ็มวีงามๆในหัวไว้เรียบร้อยแล้วด้วย

LOST!
แปลกแหวกแนวมาก็เพลงนี้แหละ เสียงปรบมือก็ดูไม่ใช่แนวพวกเขาเท่าไหร่ แต่ทำให้เพลงมีจังหวะคึกคักขึ้นมา ช่วงโชว์ผีมือโซโลกีต้าร์ของ Jonny Buckland คือจุดเด่นของเพลง
ท่อน Just because I'm losing doesn't mean I'm lost อันนี้ช่างตรงไปตรงมาดีแท้ ไม่เหมือนภาษาเพลงcoldplayที่เป็นเอกลักษณ์ที่เรารู้จักกัน แต่นี่คือคติประจำตัวนายคริสเขาแหละ
ทว่า เนื้อเพลงก็ยังมีภาษาสวยๆอย่างเช่นเนื้อที่ว่า
"You might be a big fish in a little pond, doesn't mean you've won"

42
42 ขึ้นต้นด้วยเสียงเปียโนเนียนๆ นุ่มนวลด้วยเสียงร้อง ฟังไปก็ชวนโงกหลับและเคลิบเคลิ้ม ว่าแล้วก่อนที่จะชวนกันไปหาเตียงนุ่ม หมอนอุ่น พวกเขาก็จัดการกระชากใจเราเข้าสู่จังหวะร็อกคึกคัก ตรงส่วนนี้รับอิทธิพลมาจาก Rammstein วงร็อคชื่อดังของเยอรมันมาอย่างเต็มที่ ก่อนจะปิดท้ายด้วยเปียโนในแบบฉบับตัวเองอีกที เพลงนี้เหมือนการพลิกด้านจากมุมมืดไปสู่แสงสว่างที่ค่อยๆส่องลอดเข้ามาทีละน้อย เช่นเดียวกับเนื้อหาของเพลง
those who are dead are not dead
they're just living in my head
เพลงนี้รูปแบบอาจดูคล้ายๆงานของ Radiohead โดยเฉพาะ Paranoid android ซึ่งบทสัมภาษณ์ในnme คริสก็ยอมรับว่าได้แรงบันดาลใจมาจากพวกเขาเอง

LOVERS IN JAPAN/ REIGN OF LOVE
นี่ก็เป็นรูปใหม่ที่coldplayนำมาใช้อีก กับการนำสองแทรกมาใส่ไว้ด้วยกัน เข้าใจว่าคงอภินันทนาการหรืออย่างไร ประมาณว่าซื้อหนึ่งได้สอง อย่างนี้โหลด iTunes มาก็มีแต่คุ้มกับคุ้ม จุดมุ่งหมายนั้นคริสบอกว่าอัลบั้มเขาต้องฟังทั้งอัลบั้ม
Lovers in Japan เพลงมีจังหวะสอดประสานเมโลดี้เร็วขึ้นมาหน่อย ดูหวานๆง่ายๆ เพิ่มความน่าสนใจในช่วงกลางอัลบั้มได้ไม่น้อย Brian Eno ช่วยให้แทรกนี้คนฟังฟังไปพลางจินตนาการหน้าBonoร้องไปได้อีกต่างหาก
ต่อด้วย Reign of love ซึ่งอ่อนนุ่มละมุนละไม หวานๆแต่ก็เรียบง่าย หากฟังตอนบรรยากาศเย็นเยียบ เหงาหงอยอยู่จะได้อารมณ์ร่วมมากขึ้น

YES
โอววววววววว คริสร้องเสียงต่ำๆแบบนี้ถูกใจดีนักแล แถมยังมาแนวเซ็กซี่เล็กๆ ไม่เพียงแต่โทน เนื้อหา โดยรวมมันช่างน่ายั่วยวนให้จิตใจหลงใหลเคลิบเคลิ้ม(เป็นไรไปฟะเนี่ยตู) ก็พ่อคริสมาคร่ำครวญอะไรไม่รู้นี่เนอะ มันกวนใจขนาดนั้นเชียวรึ เฮอะๆ แถมยังมีความแปลกใหม่เพิ่มมาอย่างเสียงกีต้าร์แบบกลิ่นอายตะวันออก เสียงเบสขึ้นลงก็ประกอบกันพอเหมาะได้จังหวะดี เพลงนี้ยิ่งฟังยิ่งชอบไปเลย แม้ครั้งแรกได้ยิน แฟนcoldplay คงได้เป็นอึ้งกันบ้าง แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้พยายามลองสิ่งใหม่ๆ แล้วนี่ก็เป็นส่วนผสมที่ลงตัวอย่างน่าทึ่ง นอกจากนี้ช่างท้ายเพลงยังแอบมี Chinese sleep chant แทรกสั้นๆโผล่เป็นกีต้าร์จังหวะแนวๆบวกเสียงร้องอะไรสักอย่าง ฟังไม่ออก


VIVA LA VIDA >> เพลงนี้ ถ้ายังไม่ได้ฟัง อย่าเพิ่งตาย!!!
เพลงสวดหรืออย่างไรกันเนี่ย แต่ viva la vida คือเพลงที่โปรดที่สุดและดึงดูดใจได้ตั้งแต่ฟังครั้งแรกเลยทีเดียว ฟังครั้งแรกนี่คิดว่าใช้ได้แล้ว เพราะกว่า violet hill แต่ยิ่งฟังหลายๆๆๆๆๆรอบแล้วรู้เลยว่าเพลงนี้ทำให้ยิ้มได้และซาบซึ้งกับมันจนแยกไม่ออก ขออภัยถ้าจะโอเวอร์ไปนิ้ด ความไพเราะบดบังดวงตาไปซะแล้ว เพราะจนแทบน้ำตาแตก(ร้องไห้ไปเลยจริงๆ ไม่อยากเชื่อตัวเอง) พลางคิดขอบคุณcoldplayที่ไม่ได้ทำให้แฟนผิดหวังเลย อัลบั้มนี้มันยอดเยี่ยมมากจริงๆ
นับแต่clock แล้ว เพลงนี้แหละคือการออกมาประกาศความเป็นสุดยอดของพวกเขาได้อย่างเต็มภาคภูมิ
Viva la vids ประกอบไปด้วยเครื่องดนตรีครบเครื่องลงตัว แม้แต่กลอง...(เรียกว่าอะไรอ่ะ?) เครื่องสาย เบสเป็นจังหวะๆ ไวโอลิน วงออเครสต้า เสียงคอรัสเป็นแบ็กกราวน์ นี่มันเพอร์เฟคชัดๆ ยิ่งเนื้อเพลงด้วย มีความสวยงามของภาษาดังเดิม
ชอบตรงท่อนที่ว่า
For some reason I can't explain I know Saint Peter won't call my name ช่วงที่คริสร้องด้วยเสียงสูงตามสไตล์

Viva la Vida - Coldplay


VIOLET HILL
ซิ้งกิ้ลแรกที่เปิดตัวมากับความแตกต่างที่พวกเขาเคยบอกเอาไว้ ไม่ว่าจะเสียงกลองแนวตึงๆของนายวิล เปียโนที่ดูจะเป็นรองเครื่องสายที่เพิ่มหนักขึ้น รวมถึงความมืดหม่นหรือด้านมืดมาเยือนพวกเขา เนื้อหายำทั้งศาสนา การเมือง สงคราม violet hill มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่ดูกันในแง่พัฒนาการ coldplay ก็พิสูจน์ไปอีกก้าวนึง
ทำในสิ่งใหม่ๆ ยิ่งการปล่อยให้มีการดาว์นโหลดฟรีในเว็บไชต์ตัวเองอาทิตย์แรกก่อนขายออนไลน์ก็ชวนฉงนกันไปแล้ว
อินโทรเริ่มง่ายๆชวนให้เข้าสู่เพลงอย่างน่าติดตาม โซโลกีต้าร์ตรงกลางชวนเร้าใจ ก่อนจะปิดท้ายด้วยแบบฉบับที่เป็นแบบcoldplay จริงๆ
ท่อนที่โดนใจมาก > When the future’s architectured by a carnival of idiots on show

STRAWBERRY SWING
ซาวน์ไปแนวแอฟริกันโน่นเลย อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งการทดลองแนวใหม่ๆ จากการที่พวกเขาไปทัวร์คอนเสิร์ตแถวอเมริกาใต้มา เป็นเพลงที่ฟังแล้วอมยิ้มมีความสุขได้ ราวกับได้ไปอยู่ในอีกโลกนึงชั่วขณะ จะฟังไปเต้นระบำลอยเลื่อนไปก็น่ารัก รู้สึกผ่อนคลายสบายไม่น้อย
such a perfect day….

DEATH AND ALL HIS FRIENDS
เพลงปิดท้ายที่ให้อารมณ์คล้ายๆกับ fix you เริ่มต้นด้วยคริสร้องกับเปียโน ก่อนค่อยๆเพิ่มจังหวะทีละนิด รัวด้วยเสียงกลองเร้าอารมณ์ กีต้าร์คลอ ปิดท้ายที่คอรัสกันกลมกลืนในช่วงท้าย
I don't want to follow death and all of his friends
เมื่อเพลงหยุดก็มี hidden track เพลง The escapist อันนี้รู้สึกเหมือนเป็นอีกเวอร์ชั่นของ Life in Technicolor ก็ว่าได้ แต่มีเสียงร้องมากหน่อย





เพลงโปรด : ถามอย่างนี้ ฆ่ากันให้ตายดีกว่า เอาเป็นว่าที่ถูกใจเป็นพิเศษ คือ viva la vida, cemeteries of London,yes,violet hill,lost
ให้คะแนน : เต็มสิบจะให้สิบก็เดี๋ยวเขาหาว่าบ้าจนลำเอียงมากไป ให้แค่ 9 ก็พอแล้วมั้ง
เพิ่มเติม : ข้อมูลบางส่วนจากนิตยสารNME ฉบับวันที่ 10 พ.ค. มีเนื้อหาสัมภาษณ์เปิดใจพวกเขากับอัลบั้มใหม่ครั้งแรก ที่สำคัญแถมแผ่นเสียง Violet hill พร้อมแทรกพิเศษ A spell a rebel yell ด้วย
เพิ่มเติม 2 : ถ้ายังไม่ได้ฟังก็ลองฟังได้ ที่coldplay's myspace ก่อนที่จะไปนอนร้องเพลงรอเป็นเจ้าของอัลบั้มเต็มซึ่งแน่นอนว่าต้องอิมพอร์ตจึงจะมีสิทธิครอบครอง


















 

Create Date : 08 มิถุนายน 2551    
Last Update : 19 กรกฎาคม 2551 21:11:44 น.
Counter : 2545 Pageviews.  

Sleep Through the Static อัลบั้มใหม่ของหนุ่ม Jack Johnson



อัลบั้มใหม่Sleep Through The Static ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ 5 ของพ่อหนุ่มเสียงนุ่มJack Johnson จะวางแผงวันที่5 ก.พ.นี้แล้วค่ะ คราวนี้หนุ่มแจ็คลงทุนไปบันทึกเสียงที่แอลเอ จากที่แต่ก่อนจะทำอัลบั้มที่ฮาวายมาตลอด ความแปลกใหม่อัลบั้มนี้แจ็คบอกว่าจะมีกีตาร์ไฟฟ้าเข้าไปมากกว่าเดิม แต่แฟนๆที่ชอบสไตล์อะคูสติกแบบเดิมก็อย่าเพิ่งผิดหวัง เพราะยังไงซะเขาก็ไม่ทิ้งสไตล์เก่าๆแน่นอน

รายชื่อเพลงทั้งหมดในอัลบั้ม
# "All at Once"
# "Sleep Through the Static"
# "Hope"
# "Angel"
# "Enemy"
# "If I Had Eyes"
# "Same Girl"
# "What You Thought You Needed"
# "Adrift"
# "Go On"
# "They Do They Don't"
# "While We Wait"
# "Monsoon"
# "Losing Keys"



สำหรับซิงเกิ้ลแรกจะเป็น If I Had Eyes แล้วจะตามด้วยเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้ม Sleep Through the Static


เอาเพลงมาให้ลองฟังดู
เพลงแรก If I Had Eyes อินโทรน่ารักๆ สไตล์เฮียแจ็ค เพลงเป็นสไตล์บลูส์ๆที่มีเสียงกีต้าร์ไฟฟ้าแบบอะคูสติก เพราะดีค่ะ ชอบ



เนื้อเพลง
If I had eyes in the back of my head
I would have told you that
You looked good
As I walked away

And if you could've tried to trust the hand that fed
You would've never been hungry
But you never really be

The more of this or less of this or is there any difference
or are we just holding onto the things we don't have anymore

Sometimes time doesn't heal
No not at all
Just stand still
While we fall
In or out of love again I doubt I'm gonna win you back
When you got eyes like that
It won't let me in
Always looking out

Lot of people spend their time just floating
We were victims together but lonely
You got hungry eyes that just can't look forward
Can't give them enough but we just can't start over
Building with bent nails we're
falling but holding, I don't wanna take up anymore of your time
Time time time

Sometimes time doesn't heal
No not all
Just stand still
While we fall
In or out of love again I doubt I'm gonna win you back
When you got eyes like that
It won't let me in
Always looking out
Always looking



เอ็มวียังไม่ออกมา แต่มีแบบฮาๆที่แฟนทำขึ้นมา เอาไปดูพลางๆก่อนนะ





********************************************************************
ส่วนอีกเพลง Sleep Through the Static
ขึ้นมาแบบมีเสียงฮาโมนิก้าด้วย ตามด้วยกลองแบบโจ๊ะๆ และเสียงกีต้าร์ไฟฟ้ากับเบสนุ่ม
ขณะที่ความหมายเพลงก็เน้นในทางต้านสงคราม

ฟังเพลงที่นี่



เนื้อเพลง
Trouble travels fast
When you’re specially designed for crash testing
Or wearing wool sunglasses in the afternoon
Come on and tell us what you’re trying to prove

Because it’s a battle when you dabble in war
You store it up, unleash it, then you piece it together
Whether the storm drain running rampant just stamp it
And send it to somebody who’s pretending to care

Just cash in your blanks for little toy tanks
Learn how to use them, then abuse them and choose them
Over conversations relationships are overrated
“I hated everyone” said the sun

And so I will cook all your books
You’re too good looking and mistooken
You could watch it instead
From the comfort of your burning beds
…Or you can sleep through the static

Who needs sleep when we’ve got love?
Who needs keys when we’ve got clubs?
Who needs please when we’ve got guns?
Who needs peace when we’ve gone above
But beyond where we should have gone?
We went beyond where we should have gone

Stuck between channels my thoughts all quit
I thought about them too much, allowed them to touch
The feelings that rained down on the plains all dried and cracked
Waiting for things that never came

Shock and awful thing to make somebody think
That they have to choose pushing for peace supporting the troops
And either you’re weak or you’ll use brut force-feed the truth
The truth is we say not as we do

We say anytime, anywhere, just show your teeth and strike the fear
Of god wears camouflage, cries at night and drives a dodge
Pick up the beat and stop hogging the feast
That’s no way to treat an enemy
Well mighty mighty appetite
we just eat ‘em up and keep on driving
Freedom can be freezing take a picture from the pretty side
Mind your manners wave your banners
What a wonderful world that this angle can see

But who needs to see what we’ve done?
Who needs please when we’ve got guns?
Who needs keys when we’ve got clubs?
Who needs peace when we’ve gone above
But beyond where we should have gone?
Beyond where we should have gone
We went beyond where we should have gone
Beyond where we should have gone



ล่าสุดมีวีดีโอเพลงWhat You Thought You Needed แบบไลฟ์ครั้งแรกออนไลน์ที่yahooแล้วค่ะ
ถ้าอยากดูก็ที่ ดูตรงVideo Premier Jack Johnsonนะคะ



ถ้าชอบและเป็นแฟนของหนุ่มJack Johnsonก็อย่าลืมอุดหนุน แล้วเตรียมรออัลบั้มใหม่นะคะ วางแผง 5 ก.พ. ใกล้ๆนี้แล้ว


"




 

Create Date : 19 มกราคม 2551    
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2551 2:43:12 น.
Counter : 1397 Pageviews.  

Across the Universe (เพลง)

Across the Universe

จากอัลบั้ม : No One's Gonna Change Our World
แต่ง : Lennon/McCartney



เนื้อเพลง
Words are flying out like
endless rain into a paper cup
They slither while they pass
They slip away across the universe
Pools of sorrow waves of joy
are drifting thorough my open mind
Possessing and caressing me

Jai guru deva om
Nothing's gonna change my world
Nothing's gonna change my world
Nothing's gonna change my world
Nothing's gonna change my world

Images of broken light which
dance before me like a million eyes
That call me on and on across the universe
Thoughts meander like a
restless wind inside a letter box
they tumble blindly as
they make their way across the universe

Jai guru deva om
Nothing's gonna change my world
Nothing's gonna change my world
Nothing's gonna change my world
Nothing's gonna change my world

Sounds of laughter shades of life
are ringing through my open ears
exciting and inviting me
Limitless undying love which
shines around me like a million suns
It calls me on and on across the universe

Jai guru deva om
Nothing's gonna change my world
Nothing's gonna change my world
Nothing's gonna change my world
Nothing's gonna change my world
Jai guru deva
Jai guru deva

ถ้อยคำผู้คน หลั่งไหล ราวห่าผน แห่งนิรันดร์ ลงสู่ถ้วยกระดาษใบน้อย
สายฝนไหลหลั่ง และร่วงหล่น แผ่ไพศาล ทั่วทั้งเอกภพ
สระน้ำแห่งความเศร้า เกลียวคลื่นแห่งความสุข ต่างถั่งโถม แล้วผ่านไป ในใจของฉัน
ต่างเข้ามาครอบครอง และโอบกอดฉัน
ไม่มีสิ่งใด จะเปลี่ยนแปลงโลกของฉันได้
ภาพของแสง ที่โลดแล่น เริงระบำต่อหน้าฉัน ราวกับดวงตา วาวระยับ นับล้านดวง
ดวงตาเหล่านั้น ร้องเรียกเพรียกหาฉัน ผ่านเอกภพอันไพศาล
ความคิด เลี้ยวลด วนเวียน ดุจดังสายลม ที่หมุนวนอยู่ ในกล่องไปรษณีย์
ทั้งความคิด และสายลม ต่างล้มลุกคลุกคลาน ระหว่างทาง ที่เคลื่อนไป ในเอกภพอันไพศาล
เทพยดาฟ้าดินทั้งหลาย
เสียงหัวเราะ ทาบทาทั่วพิภพ และกังวานก้อง
ฉันสดับ สำเนียง ที่ร้องเรียก
ความรักนิรันดร์ กำลังสาดส่องอยู่รอบตัวฉัน
ราวกับแสงสุรีย์นับล้าน แสงนั้นกำลังเรียกชั้นผ่านเอกภพอันไพศาล
เทพยดาฟ้าดินทั้งหลาย


Jai Guru Deva Om คืออะไร?
ตอบ >>> Jai เป็นคำแสดงความยกย่องขอบคุณ(ชัย)
Guru คือ คุรุนั่นแหละ ครูนั่นเอง
Guru Dev เป็นอาจารย์ของ Maharishi ที่เป็นอาจารย์สอนสี่เต่าทองในปี 1968
Om คือvibration of universe เหมือนโอม(โอมมมมมมม เพี้ยง)

เพลงนี้ในเวอร์ชั่นอื่น :
Cyndi Lauper
Fiona Apple ร้องost Pleasantville เพราะมาก หลอนปนเศร้าดี
Rufus Wainwright ร้องในเรื่อง I am sam อีกเวอร์ชั่นที่เพราะมากๆ
รวมถึงเขายังเคยร้องเพลงนี้ร่วมกับSean Lennon (ใช่แล้ว ลูกจอห์นนั่นแหละ)และMobyที่งาน 2001 John Lennon tribute ที่ Radio City Music Hallด้วย หาดูได้ในเว็บหมูทุบหรือdvd Come Together
ล่าสุด Jim Sturgess ใน Across the Universe
อื่นๆ โอ๊ย! เยอะมากๆ ตามประสาเพลงBeatlesที่จะมีคนมาตามคัพเวอร์มากมาย
Billie Joe Armstrong
Bono
Steven Tyler
Alicia Keys
Alison Krauss
Pink Floyd
Texas
Stevie Wonder




"




 

Create Date : 14 มกราคม 2551    
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2551 2:43:52 น.
Counter : 824 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  

Lucy in the sky with diamonds
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]







New Comments
Friends' blogs
[Add Lucy in the sky with diamonds's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.