สาบานได้ว่าเกลียด Muse
Neutron Star Collision (Love Is Forever) เพลงของ Muse ซาวน์ดแทร็คหนังที่คุณก็รู้ว่าเรื่องอะไร (ไม่กล้าเอามาลงบล็อก) แน่ใจนะว่าเพลงนี้ตั้งใจแต่งแบบสุดๆ แล้ว หรือว่าไปเอาเพลงเก่าๆ มาแปะต่อกัน?
รวยไม่พอ อยากได้ตังค์อีก จึงต้องทำเพลงให้มันต่อไป? . . . . . . . . . .
แต่... ช้าก่อน! ฉันมีวิธีรับมือกับเหตุการณ์นี้
วิธีการคือ ให้เดินไปตรงผนังบ้าน (ขอแบบเป็นปูนแข็งๆ ยิ่งดี) ยืนตรง เอามือสองข้างไขว้หลัง ก่อนเอาศีรษะเอนไปข้างหลังเล็กน้อย ทำมุมให้ตั้งฉาก 90 องศากับระนาบพื้น แล้วบรรจงจรดหน้าผาก หรือถ้าจะให้ดีเอาทั้งใบหน้าเลยก็ได้ ให้มันกระทบใส่ผนังเป็นจังหวะจะโคนที่ไพเราะสม่ำเสมอ เว้นช่วงห่างให้สัมพันธ์กับแรงกระเพื่อมและความสั่นสะเทือนที่สมองข้างในรู้สึก ทำต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะลืมหรือเสแสร้งไม่รับรู้ความเป็นจริงอีกต่อไป หากมีเลือดออกให้รีบเลียให้หมดก่อนที่แวมไพร์เอ็ดเวิร์ดผู้หล่อลากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก(ที่ส่องประกายวับๆ ได้) จะมาดูดเลือดไปซะ
อนึ่ง การเปิดเพลง Neutron Star Collision (Love Is Forever) ประกอบไปด้วยจะทำให้ได้อรรถรสยิ่งขึ้น
และเมื่อเห็นรายชื่อวง/ศิลปินของซาวน์ดแทร็คหนังดังกล่าวแล้ว
Metric – 'Eclipse (All Yours)' Muse – 'Neutron Star Collision (Love Is Forever)' The Bravery – 'Ours' Florence And The Machine – 'Heavy In Your Arms' Sia – 'My Love' Fanfarlo – 'Atlas' The Black Keys – 'Chop And Change' The Dead Weather – 'Rolling In On A Burning Tire' Beck And Bat For Lashes – 'Let’s Get Lost' Vampire Weekend – 'Jonathan Low' UNKLE (Featuring The Black Angels) – 'With You In My Head' Eastern Conference Champions – 'A Million Miles An Hour' Band Of Horses – 'Life On Earth' Cee-Lo Green – 'What Part Of Forever' Howard Shore – 'Jacob's Theme'
(จาก //www.nme.com/news/muse/51050 )
จงกลับไปปฏิบัติตามวิธีการข้างต้นต่อไป
บทสัมภาษณ์ Muse กับ Q ฉบับ 288 เดือนมิถุนายน ปก Muse VS U2 (แปลทุเรศๆ เพราะเกลียด Muse!)
Q: เราควรคาดหวังอะไรดีกับกลาสตันเบอร์รี่ปีนี้ แมตต์: ผมไม่อยากพูดถึงเผื่อว่ามันจะไม่เกิดขึ้นครับ แต่เราก็กำลังคิดกันอยู่ว่าจะขนออร์เคสตร้าเต็มวงไปเล่นกลาสตันเบอร์รี่เลย การจัดการวางแผนจะหนักหนาถึงลูกถึงคนเอาการล่ะ...เราจะคงรักษาให้มันเป็นตาม ปกติครับ
Q: กัญชาหรือว่ายาหลอนประสาท? ดอม: ครั้งสุดท้ายที่ผมใช้ก็ตอนที่พวกเราอยู่ที่อัมสเตอร์ดัมกันน่ะครับ เราแบบว่า “เฮ้ ไปหาอะไรมาลองสักหน่อยเพื่อวันเวลาเก่าๆ เถอะ” แล้วผมก็ตื่นตัวหวาดระแวงเป็นบ้าเป็นหลัง วิ่งดิ่งกลับโรงแรม ครั้งสุดท้ายที่พี้เห็ดเมากันเราลงเอยด้วยการไปโผล่อยู่ในปราสาทยางกลางทะเล ทรายนอกลาส เวกัสซะงั้น [ตอนนั้นวงไปงานปาร์ตี้แฟนซี ดอมผู้ซึ่งแต่งตัวสมหน้ากากสุนัข หลังเล่นยาได้วิ่งไปทะเลทราย แมตต์จึงวิ่งตามเขาไป – ผู้แปล]
Q: คุณได้รับโอกาสให้ไปเล่นเปิดงานโอลิมปิค 2012 ที่ลอนดอน เงินไม่เป็นปัญหาอยู่แล้ว มันจะออกมาเป็นอย่างไร แมตต์: เกี่ยวกับแม่เหล็กอะไรสักอย่างอ่ะครับ รู้จักป่ะ คือ ในเรื่อง Back To The Future II อ่ะ พวกเขาทำถนนเทียมด้วยแม่เหล็กเข้มๆ ขึ้นมาเพื่อจะได้ทำให้กระดานเหาะดูสมจริง คุณต้องใช้แม่เหล็กเป็นพันๆ ใส่ไปลงในพื้นที่ขนาดเท่าสนามฟุตบอลหนึ่งสนาม แล้วคุณก็ปรากฏตัวอยู่บนแผ่นจานที่ลอยออกมา นั่นคงน่าตื่นตาสุดยอดเลยล่ะครับ
Q: แมตต์ เบลลามี่กับลิลี่ อัลเลน เกิดอะไรขึ้นกันแน่เหรอ [แมตต์และลิลี่ได้สานสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนกันเมื่อคอนเสิร์ตบิ๊กเดย์เอ้าท์ ที่ออสเตรเลียเมื่อต้นปีที่ผ่านมา – ผู้แปล] แมตต์: (หัวเราะเล็กน้อย) ไม่มีความเห็นฮะ... ก็ไปเที่ยวพักผ่อนกันสองสามวัน คุยกันเล็กน้อยเรื่องเพลง (ยิ้มเป็นนัยลึกลับ)
Q: ดอม คุณโดนกีต้าร์แมตต์ลอยใส่มาแล้วหลายครั้ง อะไรคือวิธีการที่คุณใช้เพื่อปกป้องตัวคุณเองจากอาการอินจัดสุดเหวี่ยงของเขาเหรอ ดอม: ปฏิกิริยาผมรวดเร็วขึ้นมากครับ ผมเย็บไปหลายเข็มตรงแถวๆ ตาหลังจากเขาทำมันซะเป็นแผล กับฉีดยากันบาดทะยักหนึ่งเข็มฮะ แมตต์: ตรงก้นเขาอ่ะ เรากลับไปหลังเวทีแล้วเห็นดอมโก้งโค้งอยู่โต๊ะ ก้นโผล่ออกมาด้วย นั่นคือเหตุผลหลักที่ผมทำล่ะ เป็นข้ออ้างที่จะให้ทำดอมค้อมตัวแล้วถลกกางเกงเขาลงได้ฮะ
Q: เคยได้ยินทฤษฎีสมคบคิดสักทฤษฎีนึงแล้วคิดว่า “แหวะ โคตรไร้สาระเลย” บ้างหรือปล่าว แมตตต์: ไอ้ที่ว่าน้ำมันจะหมดโลกไง มีกลไกหนึ่งอยู่แก่นกลางของโลกซึ่งโดยทั่วไปจะหลอมละลายอะไรบางอย่าง และบ่อน้ำมันทั้งหมดก็จะเต็มอีกครั้งอย่างสม่ำเสมอนะ แต่บริษัทน้ำมันกลับเสแสร้งเป็นว่าน้ำมันจะหมดเพื่อทำให้ราคาสูงขึ้น นี่เป็นหนึ่งในพวกทฤษฎีสมคบคิดบ้าๆ พวกนั้นที่ผมอยากจะให้เป็นจริงครับ Q: แมตต์ คุณยังใช้เครื่องไอพ่นติดหลังอยู่หรือปล่าว แมตต์: ผมไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่ามันกลายเป็นเครื่องไอพ่นติดหลังได้ยังไง มันเป็นเครื่องพารามอเตอร์ขนาด 50 ซีซี กับใบพัดแล้วก็ร่มชูชีพ ผมไปเรียนขับแล้วล่ะ นั่นเป็นสิ่งที่ผมเคยจะทำถ้าหากวงเหลวเป๋วไม่เป็นท่า ผมมีคนรู้จักที่อยากจ้างผมไปบินในงานคอนเสิร์ตนึงของจามิโรไคว์ที่เวโรนา นี่เป็นวิธีง่ายๆ ที่จะได้ภาพฝูงชนจากทางอากาศเพราะมันถูกกฎหมายที่จะบินเหนือผู้ชมในคราว เดียว สิ่งเลวร้ายที่สุดซึ่งคุณทำได้คือหักคอคนไปสักสองคน ตราบใดที่ Muse จบตัวเองลง ผมจะตรงดิ่งกลับไปขับมันแน่ ไม่ใช่แค่ในตอนเสิร์ตนะ พวกงานกีฬาไรงั้นด้วยฮะ
Q: คุณเคยอ่านนิยายอิโรติคออนไลน์ที่เขียนเกี่ยวกับพวกคุณบ้างมั้ย ดอม: ไม่ฮะ แต่ผมเห็นอะไรประหลาดๆ ในกระดานข้อความเราอยู่นะ พวกแฟนๆ ที่นั่นกระตือรือร้นกันเลยทีเดียว มีกระทู้อะไรประมาณ ภาพตัดต่อนู้ดของดอม แมตต์ คริสด้วยอ่ะ พวกเขาเริ่มด้วยการใช้รูปพวกเราตอนเล่นสดที่ทำหน้าบิดเบี้ยวแปลกๆ คล้ายมีเซ็กซ์อ่ะฮะ เป็นหน้าตอนถึงจุดสุดยอดของพวกเราดีๆ นั่นเอง คนพวกนี้ประหลาดกันจริงๆ นะ
Q: สำหรับดอมและคริส คุณว่าอะไรคือสิ่งที่แมตต์ใส่แล้วน่าขายหน้ามากที่สุด ดอม: คืนนึงเราไปเที่ยวบาร์แห่งหนึ่งแล้วเจอร็อด สจ๊วต ซึ่งแมตต์ดันบังเอิญใส่ชุดแบบเดียวกันกับร็อดเป๊ะเลยฮะ กางเกงปักหมุดลายยาวสีดำ แจ็คเก็ตสีเทากับเสื้อกั๊ก คริส: ตอนที่แมตต์มางานคิว อวอร์ดสแล้วเข้าบ้านตัวเองไม่ได้ เขาเลยมาปรากฏตัวด้วยชุดยิมครับ
Q: ตอนนี้คุณมีชื่อเสียงมากขึ้นแล้ว คุณคิดว่าคุณจะมีโอกาสมากขึ้นที่จะถูกเอเลี่ยนลักพาตัวหรือปล่าว แมตต์: ดอมเคยถูกเอเลี่ยนลักพาตัวจริงๆ นะ แต่เขาทำวิจัยและค้นพบว่าอันที่จริงมันก็คือการเป็นอัมพาตตอนนอน ดอม: มันเกิดตอนคุณเหนื่อยสุดขีด เข้านอนแล้วหลับเป็นตาย แต่ทันใดนั้นคุณคิดว่าตัวเองตื่นแล้วขยับไม่ได้ คุณโดนทำให้เป็นอัมพาตอยู่บนเตียง สิ่งที่มักควบคู่มาบ่อยๆก็คือการปรากฏของอะไรแปลกๆ ในห้องครับ แมตต์: เล่าเรื่องก็อบลินน้อยให้เขาฟังหน่อยสิ ดอม: ผมเห็นพวกก็อบลินน้อยวิ่งอยู่รอบๆ ปลายเตียงผม ผมถูกลากจากเตียงไปอ่ะครับ คือมันมีกรณีแบบสุดโต่งที่คนคิดจริงๆ ว่าพวกเขาถูกเอเลี่ยนลักพาตัว ซึ่งจริงๆ พวกเขาก็แค่ทุกข์ทรมานจากการเป็นอัมพาตตอนนอน ส่วนผมอ่ะ แน่ใจได้เลยว่าผมเจอมาจริงๆ แล้วครับ ดังนั้นผมเลยสบายใจว่ามันไม่ใช่การโดนเอเลี่ยนลักพาตัว ผมไม่ได้ตื่นมาพร้อมกับปวดก้นด้วยนะ แมตต์: (ท่าทางตื่นเต้น) ผมดีใจจังที่มีคนแบบนี้อยู่ในวง ผมหวังว่าคุณจะรู้ว่าตอนนี้ผมไม่ใช่คนเพี้ยนอะไร
Q: เคยเจอประสบการณ์เฉียดตายบ้างหรือปล่าว คริส: สองสามวันก่อนนี่เองฮะ เจอเที่ยวบินระทึกขวัญไปแอลเอ อากาศแย่เลยล่ะ ผมคิดว่ามันซี้แหงแก๋ไปแล้วด้วยตอนนึง เราดูเหมือนจะลดระดับไปหนึ่งพันฟิตโดยฉับพลันอ่ะครับ แมตต์: ถ้าเครื่องกระตุกไปมากกว่านี้ล่ะก็ ดอมคงก้าวออกมาและประกาศว่า “กรูเป็นเกย์” แล้วล่ะ
Q: การสะสมเสบียงเตรียมรับมือกับสงครามอาร์มะเกดอนเป็นไงแล้วบ้าง ฆ่าไก่ไปเยอะมั้ย แมตต์: ไม่ฮะ แต่คัดเตรียมเอาไว้สองสามตัวแล้วล่ะ ผมซื้ออาหารอบแห้งไว้เยอะแยะเผื่อไว้อีก 25 ปีได้เลย ที่คุณทำก็แค่เติมน้ำร้อน แค่นี้ก็ได้สปาร์เก็ตตี้โบโลนเนส ลาซานญ่า แกงกะหรี่ เสบียงสำหรับสองปีและเมนูหลากหลาย คือ จริงๆ ก็น่าจะเป็นได้แค่เสบียงปีนึงถ้าเอาอาหารพวกนี้ออกมาตลอด
Q: ในฐานะเด็กจากทีนมัธ ลองแนะนำที่ที่แจ่มสุดสำหรับกินชาเดเวินหน่อยสิ [cream tea หรือ Devon cream tea เป็นอาหารว่างตอนบ่ายของคนอังกฤษ ไม่ได้หมายถึงชาใส่ครีม แต่จะมีชาเสิร์ฟพร้อมขนมแป้งอบกลมๆ หรือ scone กับคล้อตครีมและแยม – ผู้แปล] แมตต์: ผมจะไปที่บีชคอมเมอร์ฮะ (The Beachcomber) ที่นั่นไม่ใช่ที่ที่เต็มไปด้วยพวกชั้นสูงหรูหรา มันคือร้านติดชายทะเลแบบเก่าดั้งเดิมที่เหมาะเจาะเลยล่ะครับ
Q: เลียมหรือโนล กัลลาเกอร์? คริส: ผมมีเรื่องทะเลาะกันนิดหน่อยกับการ์ดรักษาความปลอดภัยของเลียมที่งานเทศกาล หนึ่งที่เบลเยียม เขาไม่ชอบที่ผมเตะบอล เขาก็เลยเกือบเตะเข้าที่หัวผมแน่ะ ดอม: ก็เพราะว่านายดันเตะบอลไปโดนห้องแต่งตัวพวกเขานี่หว่า แต่จริงๆ คือเลียมไม่มีลูกฟุตบอลและโผล่ออกมาบอกนายด้วยตัวเองอ่ะนะ
Q: เดวิด เอ็ค [นักเขียนและนักพูดชื่อดังชาวอังกฤษ] เชิญไปดื่มชาและกินขนมปังด้วยกันหรือยัง แมตต์: ยังรออยู่เนี้ย เราเล่นที่ไอล์ออฟไวท์ (Isle Of Wight) แล้วเขาก็อาศัยอยู่นั่นนะ ผมคิดว่าเขาจะมาคุยอะไรด้วยสักหน่อย แต่ผมอยากเจอเขาสักครั้งนึง เขาทัวร์ไปทุกแห่งพร้อมกับการรวมตัวกันของความอัจฉริยะและการพูดจาบ้าบอ ผมพูดได้ว่า 80% คืออัจฉริยะ ส่วนอีก 20% คือความบ้าเต็มขั้น นั่นอาจดูเป็นพวกแมงดาหน่อย แต่ 80% ที่ว่าวิจัยมาอย่างดีแล้วนะ เขาเป็นพวกในกรณีนั้นเลยแหละฮะ
Q: แมตต์ คุณเป็นเพื่อนบ้านกับจอร์จ คลูนีย์ที่เลค โคโม เคยชวนเขามาทานอาหารค่ำที่บ้านหรือเปล่าล่ะ แมตต์: โชคไม่ดีที่ยังอ่ะครับ ผมเห็นเขาขี่จักรยานไปมา เขาชอบจักรยานของเขาฮะ ผมหวังว่าจะได้รับคำเชิญไปเล่นโป๊กเกอร์ ผมจะต้อนเขา เหลือดวลกันแค่เขากับผม เดิมพันครั้งละหมื่นนึงเลยเอ้า ผมเล่นโป๊กเกอร์เก่งพอดูที่จะต่อกรกับคนอย่างเขาได้ หรือเขาจะมาเยี่ยมผมที่บ้าน กินโบโลญเนสก็ได้นะ
Q: คุณเคยเล่นกีต้าร์ฮีโร่เพลงตัวเองมั้ย แมตต์: ผมเล่นกีต้าร์ฮีโร่ได้โคตรห่วยเลย หัวผมตามมันไม่ทันอ่ะ ผมไม่เข้าใจไอ้พวกการทำงานกันของปุ่มและทุกอย่าง ดอมและคริสนี่เล่นเก่งมากๆ ฮะ ถึงงั้นผมก็พยายามเล่น Livin’ On A Prayer นะ และผมชอบ On The Road Again ของวิลลี่ เนลสันครับ
Q: นานแค่ไหนกว่า Muse จะได้เป็นวงดนตรีวงแรกที่ได้เล่นบนดวงจันทร์ แมตต์: ยี่สิบปีครับ เราทำงานกันในชั้นอวกาศกันเป็นพวกแรกแล้วนะ มีทั้งหมดสองมุมด้วยกัน ผ่านทางเวอร์จิ้นกาแลคติคและอีกบริษัทหนึ่ง ผมคิดว่าริชาร์ด แบรนสัน [เจ้าของเวอร์จิ้นกาแล็คติค] อยากใช้เพลงของเราเพลงนึงไปใส่โฆษณาโทรทัศน์ นั่นมันก็เป็นหนึ่งในมุมที่เราทำด้วย มีโอกาสที่เราอาจจะทำสำเร็จในอีกห้าปีครับ
Q: ในฐานะวงเสือผู้หญิง ใครคือบุคคลมีชื่อเสียงที่สุดที่คุณเคยตามจีบ ดอม: เจน ฟอนด้าฮะ เธออายุ 72 แล้ว ผมชอบหญิงแก่ๆ กว่านี้ คุณเข้าใจนะ เธอเคยลัลลากับร็อด สจ๊วตด้วยครั้งนึง ดูเหมือนเป็นคนดีทีเดียว เธออ่ะ แต่ผมพลาดไปซะฉิบ ผมไม่ต้องตาต้องใจเธอเท่าไหร่
Q: คำแนะนำที่ดีที่สุดที่โบโนมอบให้ตอนที่พวกคุณเล่นสนับสนุน U2 เมื่อต้นปีคืออะไร ดอม: ผมคุยกับเขาตอนเมาหน่อยๆ ไปสองครั้งนะ เขาพูดเกี่ยวกับว่ามันดีมากแค่ไหนในการเป็นวงเล่นสนับสนุน เขาว่า “โอ้ววว วิเศษเลยนะที่เป็นวงสนับสนุนน่ะ คุณแค่สนุกสนานกับตัวเอง เล่นคอนเสิร์ตสั้นๆ แล้วมีคืนที่สุดเหวี่ยงกันทั้งคืน” เป็นวาทะที่แหล่มอ่ะ ผมว่า ก็หนุกหนานกับมันขณะที่ทำอยู่ตอนนั้นอ่ะครับ Q: แมตต์ คุณเคยทำงานเป็นช่างทาสีและตกแต่งบ้าน ถ้าผมจะจ้างคุณไปทำห้องนั่งเล่นให้สักหน่อย คุณจะคิดเท่าไหร่ แมตต์: ชั่วโมงละสิบปอนด์ฮะ ผมจะทำงานวันละเก้าชั่วโมง แล้วพักชั่วโมงนึง ผมคงจะยิ่งกว่ามีความสุขที่ได้ทำเลยล่ะ จริงๆ นะ ช่วงเวลาดีที่สุดตอนนึงที่ผมมีก็ตอนทาสีอยู่เนี่ยแหละ แต่ตอนที่แย่สุดคือตอนที่เราต้องทาสีคอกลา วันหนึ่งลาดันทะลึ่งหนีไป ผมกับเจคเพื่อนผมเลยวิ่งบ้าไปรอบทุ่งในชุดทาสี พยายามจับลาเข้าคอกก่อนที่ชาวนาเขาจะกลับ บางทีนั่นอาจเป็นที่มาของ Knights of Cydonia ก็ได้ครับ
Q: ใครในพวกคุณที่มักจะเป็นพวกไปเที่ยวบาร์ตอนกลางคืนอยู่เสมอ แมตต์: พวกเราจัดการเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีคนไปกันด้วยล่ะ คือ เราต้องแน่ใจว่าเราไปกับคนที่จะซื้อเครื่องดื่มให้เรา ไม่ก็ไปที่บาร์ซึ่งเจ้าของเขาเตรียมอะไรที่ไม่ต้องจ่ายตังค์ไว้ให้ทั้งหมด
Q: ตอนไหนที่เราจะได้เห็นอัลบั้มเดี่ยวของคริส โวลสเทนโฮล์ม คริส: ไม่รู้ฮะ ไม่มีเวลาที่เราจะทำอะไรแบบนั้นกันหรอก เรามักจะตรงดิ่งไปบันทึกเสียงเลยหลังจากออกทัวร์เสร็จ อาจจะสักวันนึงล่ะมั้งฮะ ผมมีอะไรๆ จะทำอยู่สองสามอย่าง แนวไหนดีล่ะ ผมมั่นใจว่ามันจะยังอยู่ในขอบเขตของร็อคอยู่ฮะ
Q: พ่อของแมตต์ [จอร์จ เบลลามี] เป็นมือกีต้าร์ให้ The Tornados นี่ เมื่อไหร่คุณจะเชิญเขามาเล่นร่วมเวทีด้วยกันล่ะ แมตต์: เราให้เขามาเล่น Knights of Cydonia ด้วยก็ได้นะ จังหวะเพลงนี้ค่อนข้างได้อิทธิพลจากเพลงที่เขาทำเลยทีเดียว หลายเพลงของ The Tornados มีจังหวะแบบนั้นครับ
Q: แมตต์ ไปทำบ้าบอยังไงถึงได้ผอมตลอดอย่างนั้นน่ะ แมตต์: ผมไม่รู้ ผมกินเยอะเลยนะ พาสต้างี้ ผมซัดไม่ยั้งเลย บางทีผมอาจเสียพลังงานไปบ้างบนเวที ผมไม่ใช่คนชอบออกกำลังกายอะไรด้วย ผมอาจมีกระบวนการเผาผลาญอาหารที่รวดเร็วล่ะมั้ง ครั้งนึงที่อิตาลีผมเกือบเป็นปกติแล้วนะ แต่หลังจากนั้นผมก็ล้มเลิกไปอีกครั้ง
Q: ใครจะเป็นผู้ชนะการขับเคี่ยวกันในฐานะวงเฮดไลน์ที่กลาสตันเบอร์รี่ ระหว่างพวกคุณกับ U2 แมตต์: ยากเลยล่ะ เรากำลังพนันกันว่า U2 จะเล่นซะเกินคุ้ม จนถึงจุดที่ผู้คนเป็นแบบว่า “นี่แหละกลาสตันเบอร์รี่ นี่คือสุดยอดการแสดงของ U2” เราคิดว่าบางทีกลาสตันเบอร์รี่อาจนึกว่านั่นดูท่าจะรับไม่ได้เท่าไหร่ ดังนั้นเราก็เลยจะทำในทางตรงข้าม คือเราจะทำแบบโล-ไฟ แล้วก็...ทำให้เพราะๆ ไปเลย พวกเราจะใช้เงินเราจ้างวงออร์เคสตร้ามาวงนึงเพื่องานโปรดัคชั่นโดยเฉพาะ เรามุ่งมั่นทำเพื่อดนตรีครับ ดอม: แต่ในการสู้กันจริงๆ เนี่ย U2 เขาตัวเล็กๆ กันหมดอย่างน่าประหลาดเลยแฮะ แมตต์: แล้วผมกับดอมคิดว่าเราก็เตี้ยกันแล้วนะ ถ้ามีการสู้กันจริงๆ ของงานโปรดัคชั่น พวกเราจะมีนักดนตรี 50 ชีวิต ดังนั้นตราบใดที่เรามีวงออร์เคสตร้าอยู่ข้างเรา มันก็เท่ากับ 60 ต่อ 4 แล้วฮะ
เพลงที่ชอบช่วงนี้ และชอบบบบบบบ Flashover ของ Klaxons
ป.ล. เป็นการอัพฯ บล็อกแบบทุเรศ ขี้เกียจ อุบาทว์ สิ้นคิด และเหียกเหมือนประเทศไทยช่วงนี้ แถมไม่ต้องใช้สมองคิดมาก ฮ่าๆๆ (อย่างกับว่าปกติเคยใช้สมองเขียนบล็อก?)
Create Date : 25 พฤษภาคม 2553
Last Update : 26 พฤษภาคม 2553 14:51:42 น.
5 comments
Counter : 1559 Pageviews.