แล้วทำไม ทำไมถึงยิ่งเกลียดยิ่งตาม.... เค้นจนสมองขี้เลื่อยๆจะระเบิดก็ตอบไม่ถูก ทำไมตามขนาดนั้น.... ตามเพื่อจะหาเรื่องด่ามั้ง แต่ก็ไม่ใช่คำตอบที่สมเหตุสมผลอยู่ดี แล้วไปซื้อ อุดหนุนผลงานมันทำไม ดีวีดี Lord don't slow me down นั่งดูไปก็ด่าไป
อย่างต่อมา ตอนที่พวกเขาประกาศถึง Dig Out Your Soul อันเป็นอัลบั้มที่เจ็ดออกมา ก็ไม่แปลกหรอกที่ฉันจะติดหนึบความเคลื่อนไหว Oasis อีก(เพื่อคอยด่า-ฮา) เพราะฉันได้ด่าสมใจตั้งแต่ตอน Don't Believe The Truth ถ้าคราวนี้เป็นไปตามที่หมายก็คงเป็นที่สมใจฉันเป็นที่สุด คือ การดับไปอย่างสนิทของวงที่ฉันเฝ้าสาปแช่งมาอย่างยาวนาน
The Shock of the Lightning เป็นที่ถูกใจของแฟน Oasis ส่วนมาก ส่วนฉันคงไม่ใช่แนวที่จะชอบได้ แต่มีอีกเพลงที่(หลุด) ออกมาช่วงไล่เลี่ยกันแล้วทำให้ฉันชอบ คือ Falling Down กระนั้น DOYS ไม่ใช่สิ่งที่ฉันคาดหวังว่าจะเป็นอัลบั้มที่ประทับใจกระทั่งได้ฟังเต็มๆไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ความประทับใจบนความเกลียด ว่ากันอย่างนี้แหละ และเพลงแทรกที่ห้าของอัลบั้ม I’m Outta Time สามารถทำให้ฉันร้องไห้และป้ายน้ำตาที่หยดร่วงลงมาได้ มันเป็นเพลงที่สองในปีนี้(นับจากการrelease)ที่ฉันฟังแล้วร้องไห้
เพลงแรกที่ร้องไห้ของปีเป็น Viva La Vida คือครั้งแรกที่ได้ยิน Viva La Vida ฉันร้องไห้ออกมาเพราะความไพเราะของเพลง เอาล่ะ ไม่ได้โอเวอร์แต่อย่างใด เพราะฉันเฝ้ารอ VLVODAAHF มานาน และรอพิสูจน์กับสิ่งที่ Coldplay พูดมาตลอด Viva La Vida คือเพลงที่เพราะเหลือทนจนฉันรู้สึกว่าโลกนี้ต้องขาดอะไรไปแน่ๆถ้าไม่มีเพลงนี้ ฉันร้องไห้และยิ้มเมื่อฟังมัน และก็กระหน่ำฟังมันมากกว่าพันรอบจริงๆ คือ โอเค ว่าแล้วก็นอกเรื่องไปไกล มีช่วงนึงคอมฯเฮงซวยฉันเสียทำให้ทรัพย์สินโดยเฉพาะเพลงอันเฝ้าเก็บสะสมทั้งริปและโหลด(เลว) มาตลอดต้องอันตรธานหายไปอย่างไม่มีหวนกลับ ภาวะที่เครียดเช่นนั้นส่งผลให้ฉันตัดสินใจประชดชีวิตด้วยการฟัง Viva La Vida เพลงเดียว โดยตั้งปณิธานอันแน่วแน่ว่าต้องประชดความซวยสุดกู่ของตัวเองแบบนี้แหละ ฟังให้เพราะตายไปเลย ในเมื่อมันเพราะขนาดนี้ ก็ต้องกระหน่ำฟัง พันรอบคือเป้าหมาย แต่ฉันว่าฉันฟังเกินมากกว่านั้นอีก ช่วงนั้นฉันคิดไปไกลถึงขนาดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ คือ กินเนสบุ๊คส์จะมาบันทึกสถิติฉันไว้ แล้วหนังสือพิมพ์ สำนักข่าวทั่วโลกมาทำข่าวเกี่ยวกับแฟน Coldplay โรคจิตคนนึงที่ไม่ทำอะไรนอกจากฟัง Viva La Vida นั่นก็จะทำให้ฉันมีชื่อเสียงขึ้นมาอันทำให้ข่าวไปเข้าหูวง วงก็จะมาเมืองไทย เชิญฉันไปพูดคุย ฉันจะได้พบ Coldplay ตัวเป็นๆ คริสก็จะบอกกับ NME ประมาณว่า นั่นไง เห็นไหมล่ะว่าเพลงของ Coldplay เข้าถึงจิตใจและมีอิทธิพลต่อคนมากขนาดไหน รวมถึงวงการแพทย์อาจจะเอากรณีนี้ไปพิจารณารักษาคนไข้ท้องผูก โอวววววววววววววว มันเป็นไปได้นะ แต่ฉันแค่จินตนาการไปและมันก็ดันไม่เกิดด้วยสิ นอกเรื่องไปไกลมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
กลับมาพูดถึง Dig Out Your Soul ต่อ เพลงที่ฉันชอบที่สุดในอัลบั้มก็คือเพลงนี้ I’m Outta Time ซึ่งอย่างที่บอก ฉันร้องไห้เมื่อฟังครั้งแรก เพราะเสียงเลียมทำให้ฉันนึกถึงจอห์น เพราะท่วงทำนองอันทำให้หวนคิดถึงเพลงบัลลาดหวานๆของจอห์น เพราะอินโทร la la la ขึ้นมาก็ทำให้ฉันขนลุกซู่ซ่า เพราะเขาเล่นเอาเสียงของจอห์นมาใส่ไว้ช่วงท้ายเพลง แบบนี้จะไม่ร้องไห้ได้ไง
I’m Outta Time (เขียนโดย เลียม กัลลาเกอร์ : Ode to J. Lennon 555+) ไม่แน่ใจความถูกต้อง เพราะบางท่อนไปค้นดูหลายๆที่รู้สึกจะเขียนต่างกัน
Here’s a song It reminds me of when we were young Looking back at all the things we've done You gotta keep on, keep on Out to sea, it's the only place I am asleep Can get myself some piece of mind You know it's gettin' hard to fly If I'm to fall Would you be there to applaud? Or would you hide behind them all? 'Cause if I have to go, In my heart you'll grow And that's where you belong... If I'm to fall Would you be there to applaud? Or would you hide behind them all? 'Cause if I have to go, In my heart you'll grow And that's where you belong... If I'm to fall Would you be there to applaud? Or would you hide behind them all? 'Cause if I have to go In my heart you'll grow And that's where you belong... Guess I'm outta time... I'm outta time... I'm outta time I'm outta time I'm outta time
I’m Outta Time (ถอดความอย่างมั่วและอาจจะเสียจริต โดย Lucy in the sky with diamonds)
Dig Out Your Soul วางขายที่อังกฤษไป 6 ต.ค. ที่ผ่านมา โดย Dave Sardy ทำหน้าที่โปรดิวเซอร์ ทิศทางใหม่อันน่าชวนประทับใจของทั้งแฟนและไม่ใช่แฟน(อย่างฉัน เป็นต้น) คงเป็นคำจำกัดความง่ายๆของการกลับมาในอัลบั้มที่ 7 ของ Oasis หลายเพลงในอัลบั้มให้ความรู้สึกถึงงานแบบ Beatles มาก ฉันรู้สึกราวกับโดนอารมณ์แห่ง Sgt. Pepper หรือ White Album ถูกสูบขึ้นมาอีกครั้ง
แทรกแรกขึ้นมาก็กระชากใจได้แล้วกับ Bag It Up เสียงร้องตามสไตล์เลียมกับจังหวะเหมาะกับการเปิดเร้าอารมณ์ กลองที่หนักแน่นและช่วงคอรัสเนี่ย ฟังไปฟังมาได้ร้องคลอตามแน่ๆ
The Turning อินโทรเพราะดี จากเสียงเปียโนก่อนจะนำเข้าสู่การสอดประสานกันของเสียงกีต้าร์ เพลงนี้เสียงร้องแบ็คอัพช่วยหนุน และชอบตรงท่อนคอรัสที่สนุกเร้าใจ
ต่อด้วย Waiting for the Rapture เว้นช่วงปล่อยอารมณ์มาฟังเสียงโนเอลกับโทนเพลงโทนเนิบๆแต่มันส์เพราะจังหวะกีตาร์ โดยรวมเสียงร้องเพลงนี้โอเค
The Shock Of The Lightning ซิงเกิ้ลแรกที่เห็นโนเอลบอกเพลงนี้รีบเขียน รีบอัด จบ! ฉันไม่ได้ถูกใจเพลงนี้มากมาย แต่ยอมรับว่าประเมินไวไปหน่อยที่รีบตัดสินภาพรวมแห่งการเปลี่ยนไปของ Oasis จากการได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรก เพลงนี้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการในความเป็น Oasis เป็นอย่างมาก
I'm Outta Time อย่างที่พูดๆไปข้างบน ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าอย่างเลียมจะสามารถแต่งเพลงหวานเศร้าแบบนี้มาได้ เพลงนี้ฟังแล้วใครไม่นึกถึงจอห์น เลนนอนคงต้องไปเช็คระบบประสาทฟังเพลงสักหน่อยแล้วล่ะ
(Get Off Your) High Horse Lady เพลงชื่อตลก เสียงโนเอลมาอีกที เด่นที่ริทึมกีต้าร์ให้โทนเพลงโยกๆกับจังหวะปรบมือ ฉันว่าบางช่วงมันดูหลอนไม่น้อยนะ คือ เสียงเป็นปรี๊ดๆ บีบๆ มั่นใจว่าไปได้ยินลอยๆแล้วบอกว่าเป็น Oasis ก็ไม่เชื่อเหมือนกัน นับว่าลองสไตล์ใหม่ได้เยี่ยม
กลับมาฟังเสียงเลียมต่อใน To Be Where There's Life ที่ฉันไม่ได้ฝันไปแน่ๆ เพราะได้ยินเสียงซีต้าร์ด้วย พวกเขาหยิบความเป็น Beatles มาให้หวนรำลึกถึงจอร์จ แฮร์ริสันในเพลงที่เสียงเบสหนักแน่นและจะต้องเป็นหนึ่งในแทรกโปรดฉันได้เลย
Ain't Got Nothing แทรกโปรดน้อยสุดในอัลบั้ม แต่คิดภาพไว้เพลงนี้แบบ live มีหวังมันส์เกินบรรยาย
The Nature Of Reality เอาอารมณ์ Beatles มารำลึกถึง คล้ายกับได้ฟัง Heltter Skelter อยู่ในที
>>> Travis – Ode To J. Smith อุทิศทุกอย่างเพื่อ Travis ไปแล้ว จะทำแบบไหนมาฉันก็รับได้หมด และอัลบั้มนี้ฟรานแอนด์โคพาฉันนั่งไทม์แมชชีนไปสูดกลิ่นอายสมัยงานแรกเริ่มที่ร็อคหนักแน่น แต่แน่น้อนนนนน Travis ก็ยังเป็น Travis >>> The Coral – The Singles Collection ขอสถาปนาตัวเองเป็นแฟนวงนี้เลย รักแล้วจริงๆ (วงนี้โนเอลชอบสุดฤทธิ์) >>> Human – The Killers ชอบมากกกกกกกกกก เพราะจนอยากตาย และรอ Day And Age แทบไม่ไหวแล้ววววววววววว ก็อดๆๆๆๆๆๆ >>> Keane – Perfect Symmetry ฉันฟังไปสองสามรอบๆ ยังพยายามจับจุด แต่โดยรวมโอเคเลย Keane แบบเดิมๆยังคงอยู่และช้อบ ชอบกับการใส่กลิ่นยุค80’s มาด้วย ตอนนี้ขอบอกว่าเป็นอัลบั้มที่ชอบสุดของ Keane ก็ว่าได้ >>> Kaiser Chiefs – Off With Their Heads ยังโดนอยู่เหมือนเดิม ชอบ Half The Truth >>> Kings Of Leon – Only By The Night กับ The Walkmen - You & Me แต่ยังฟังไปไม่กี่เพลง >>> James Taylor – Covers หยิบมาฟังเวลาอยากเปลี่ยนอารมณ์และบรรยากาศ ผู้ชายคนนี้ฉันหลงรักเสียงเขาตั้งแต่หนุ่มและปัจจุบันเสียงเขาก็กระชากใจฉันได้ไม่เปลี่ยน
- ผล Q Awards (บางส่วน) Coldplay สอย best album, best act ขณะกล่าวคำขอบคุณตอนรับรางวัลคริส มาร์ตินหยอดมุกพวกเขาเป็นวงดีที่สุด ก่อนเสริมว่า U2 กำลังพักร้อนอยู่น่ะ ขณะที่ best track เป็นของ Spiralling จาก Keane, best live act เป็นของ Kaiser Chiefs, best video ได้แก่ Vampire Weekend - A Punk, best new act คือ The Last Shadow Puppets
- EP Prospekt’s March ของ Coldplay เปิดเผยรายชื่อเพลง(ที่ยืนยัน)แล้ว มี 'Life In Technicolor II' 'Postcards From Far Away' 'Glass Of Water' 'Rainy Day' 'Prospekts March'/'Poppyfields' 'Lost +' >> feat. กับ Jay-Z เอ่อ... 'Lovers In Japan (Osaka Sun mix)' 'Now My Feet Won't Touch The Ground' คืออันนี้จะมีเป็น EP นี้ต่างหากแล้วก็จะมี Viva La Vida Prospekt’s March Edition เป็นอัลบั้มพิเศษอีกอันซึ่งจะบวกเพลงใน EP นั้นด้วย วางขาย 24 พ.ย. (UK)
- Lost ก็จะวางขายเป็น EP (10 พ.ย.) เหมือนกัน มีมากมายหลายเวอร์ชั่น 1. Lost! (album version) 2. Lost? (acoustic version) 3. Lost@ (live at Chicago) 4. Lost+ (with added Jay-Z)
- Dig Out Your Soul ขายวันแรกในUK ได้ 89,434 ก็อปปี้
- Day And Age ของ The Killers เปิดเผยรายชื่อเพลงมาแล้ว มีดังนี้(วางขาย 24 พ.ย.) 'Losing Touch' 'Human' 'Spaceman' 'Joyride' 'A Dustland Fairytale' 'This Is Your Life' 'I Can't Stay' 'Neon Tiger' 'The World We Live In' 'Goodnight, Travel Well'
- Dirty Pretty Things วงแตกซะแล้ว แม่เจ้า!!!
- อัลบั้มใหม่ The Rakes ออกประมาณกลางปีหน้า ตอนนี้กำลังบันทึกเสียงที่เบอร์ลิน
- Arctic Monkeys จะออกดีวีดี Live At The Apollo 3 พ.ย. ในเว็บวงเพิ่งจะให้โหลด The View From The Afternoon แบบไลฟ์ไปด้วย
- เพลงธีมของ Quantum of Solace ที่ร้องโดยแจ็ค ไวท์กับอลิเชีย คียส์ Another way to die เผยออกมาแล้ว ไม่อยากบอกเลยว่าฉันไม่ปลื้ม โหยยย เชอะ น่าจะลองเอาบางเพลงของ The Last Shadow Puppets มา 555+ แบบว่า อย่างเหมาะ ยังไงซะ อยากดูหนังมากกกกกกกกกกกกกกก รอๆ
Kaiser Chiefs โอเค แต่ก็แค่พอฟังได้อ่ะ ยังคงให้Employmentเป็นที่สุดไว้อยู่
ได้ Only by the night มาฟังเต็มๆแล้ว ใช้ได้เลย ก่อนโน้น เคยสังสัยว่าKings of Leon มันมีดีขนาดไหนNME ถึงได้เชียร์เอามากๆ เลยไปเริ่มติดใจจากชุดสามอ่ะ
ส่วน The Walkmen ก็ใช่เลยอย่างที่ว่า นี่แหละอินดี้ที่เจ๋งๆและรู้สึกเลยว่าถ้าอยากหาอินดี้วงดีๆ นิวยอร์กมีคำตอบให้คุณเสมอ เราไปโดนมาจาก The rat แล้วเลยไปฟังอัลบั้มแรกดูแล้วจี๊ดกับซาวนด์มาก แนวเขาสุดๆว่ะ ํYou&me ยังหาฟังได้ไม่หมดค่ะ แต่ติดใจไปแล้วกับ In the new year,I lost you และ On the water
ส่วน HUMAN ของ THE KILLERS ผมเฉยๆครับ แน่นอนว่าเพลงมันดีแหละครับ แต่มันเหมือนถูกแต่งมาเพื่อความฮิตมากไปหน่อย คือ มันต้องฮิตแน่นอน เมโลดี้ติดหูซะขนาด 555 แต่ฟังไปนานๆคงจะเบื่ออ่ะครับ (เหมือนฟัง GO WEST ของ PET SHOP BOYS อะไรประมาณนั้น) หลับตาแล้วเห็นภาพ เหล่าชาวสีม่วง เต้นอย่างเมามันส์กับเพลง HUMAN แถวๆ สีลมซอย 2 ได้เลย
- ผล Q Awards (บางส่วน) Coldplay สอย best album, best act ขณะกล่าวคำขอบคุณตอนรับรางวัลคริส มาร์ตินหยอดมุกพวกเขาเป็นวงดีที่สุด ก่อนเสริมว่า U2 กำลังพักร้อนอยู่น่ะ ขณะที่ best track เป็นของ Spiralling จาก Keane, best live act เป็นของ Kaiser Chiefs, best video ได้แก่ Vampire Weekend - A Punk, best new act คือ The Last Shadow Puppets
- EP Prospekt’s March ของ Coldplay เปิดเผยรายชื่อเพลง(ที่ยืนยัน)แล้ว มี
'Life In Technicolor II'
'Postcards From Far Away'
'Glass Of Water'
'Rainy Day'
'Prospekts March'/'Poppyfields'
'Lost +' >> feat. กับ Jay-Z เอ่อ...
'Lovers In Japan (Osaka Sun mix)'
'Now My Feet Won't Touch The Ground'
คืออันนี้จะมีเป็น EP นี้ต่างหากแล้วก็จะมี Viva La Vida Prospekt’s March Edition เป็นอัลบั้มพิเศษอีกอันซึ่งจะบวกเพลงใน EP นั้นด้วย วางขาย 24 พ.ย. (UK)
- Lost ก็จะวางขายเป็น EP (10 พ.ย.) เหมือนกัน มีมากมายหลายเวอร์ชั่น
1. Lost! (album version)
2. Lost? (acoustic version)
3. Lost@ (live at Chicago)
4. Lost+ (with added Jay-Z)
- Dig Out Your Soul ขายวันแรกในUK ได้ 89,434 ก็อปปี้
- Day And Age ของ The Killers เปิดเผยรายชื่อเพลงมาแล้ว มีดังนี้(วางขาย 24 พ.ย.)
'Losing Touch'
'Human'
'Spaceman'
'Joyride'
'A Dustland Fairytale'
'This Is Your Life'
'I Can't Stay'
'Neon Tiger'
'The World We Live In'
'Goodnight, Travel Well'
- Dirty Pretty Things วงแตกซะแล้ว แม่เจ้า!!!
- อัลบั้มใหม่ The Rakes ออกประมาณกลางปีหน้า ตอนนี้กำลังบันทึกเสียงที่เบอร์ลิน
- Arctic Monkeys จะออกดีวีดี Live At The Apollo 3 พ.ย. ในเว็บวงเพิ่งจะให้โหลด The View From The Afternoon แบบไลฟ์ไปด้วย
- เพลงธีมของ Quantum of Solace ที่ร้องโดยแจ็ค ไวท์กับอลิเชีย คียส์ Another way to die เผยออกมาแล้ว ไม่อยากบอกเลยว่าฉันไม่ปลื้ม โหยยย เชอะ น่าจะลองเอาบางเพลงของ The Last Shadow Puppets มา 555+ แบบว่า อย่างเหมาะ ยังไงซะ อยากดูหนังมากกกกกกกกกกกกกกก รอๆ
- เอ็มวี Troublemaker ของ Weezer ทำสถิติลงกินเนสบุ๊คถึงห้าอย่าง คือ คนโชว์แอร์กีต้าร์ถึง 233 คน, เกมด็อดจ์บอลที่ใหญ่ที่สุด ประกอบด้วยสองทีม ทีมละ 50 คน, เล่น guitar hero มาราธอน 10 ชม.12 นาที 54 วิ, ศึกดวลคัสตาร์ดพายที่มีกันถึง 120 คน และคนขี่สเก็ตบอร์ด(อันใหญ่ยักษ์)จำนวนมากที่สุด คือ 22 คน
- โนเอลด่า Keane (อีกแล้ว) ว่าห่วย ทอมตอกกลับมาว่าเลิกโง่ซะที โตและเคารพคนอื่นบ้างเหอะ
- The Shock of the Lightning เปิดตัวเข้าสู่ UK chart ในลำดับที่ 3 ตามตูด So What ของ Pink และ Sex On Fire ของ Kings of Leon
- เซอร์พอล แม็คคาร์ทนีย์ชวนบอยคอต McDonald’s สาเหตุก็เนื่องจากเขาไม่พอใจที่แม็คฯดันเอารูป The Beatles ไปใช้เพื่อโปรโมตขายสินค้า (พอลเป็นมังสวิรัติ)