โปรดิวเซอร์: Stuart Price(ผู้ซึ่งร่วมงานกับ Madonna บ่อยๆ เคยโปรดิวซ์ Mr. Brightside ,Leave the Bourbon on the Shelf และ Sweet Talk ในSawdust รวมถึงทำ System ให้ Seal)
คีย์แทรก :ซิงเกิ้ลแรกคือ Take Back The City จะrelease ที่UK วันที่ 13 ต.ค. เอ็มวีกำกับโดย Alex Courtes (Seven Nation Army ของ The White Stripes) เพลงทั้งหมดในอัลบั้ม If There's a Rocket Tie Me to It Crack the Shutters Open Take Back the City Lifeboats The Golden Floor Please Just Take These Photos From My Hands Set Down Your Glass The Planets Bend Between Us Engines Disaster Button The Lightning Strike What If This Storm Ends? (Bonus Track) Sunlight Through the Flags(Bonus Track) Daybreak(Bonus Track)
ข่าวคราว: อัลบั้มนี้บันทึกเสียงทั้งที่ Hansa Studios ในเยอรมันและ Grouse Lodge ในไอร์แลนด์ ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทางวงบอกว่านี่จะเป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดของพวกเขาเท่าที่เคยทำมาและก็ต่างภูมิใจกับงานครั้งนี้มาก
สำหรับซิงเกิ้ลแรก Take Back the City เพิ่งจะเปิดไปเป็นครั้งแรกที่radio1 ล่าสุดมีหลุดมาในyoutubeเอามาแปะให้ฟังคร่าวๆกันก่อน แต่ภาพในนี้ไม่เกี่ยวกันโดยสิ้นเชิง ช่องทางอื่น จะเข้าไปฟังออนไลน์ที่เว็บไชต์ของวงหรือbbc-radio1ก็ได้นะ
กลับมาหลังจาก : ไม่นานก่อนหน้ามีEP J.Smith และเพิ่งจะปีที่แล้วนี้เองกับ The Boy With No Name ซึ่งขึ้นถึงอันดับ 4ใน UK Chart โปรดิวเซอร์ : Emery Dobyns
แนวทาง : ได้อารมณ์ดั่งตอนได้ฟังพวกเขาใน Good Feeling
คีย์แทรก : Something Anything เพลงนี้จะถือว่าเป็นซิงเกิ้ลแรกของ Travis ที่ไม่ได้แต่งโดย Fran แต่เป็นมือเบส Dougie Payne มาแสดงฝีมือแทน กำหนดการ release วันที่15 กันยายน เอ็มวีเพลงนี้ออกมาเรียบร้อยแล้ว เพลงในอัลบั้ม 01:Chinese Blues 02: J. Smith 03: Something Anything 04: Long Way Down 05: Broken Mirror 06: Last Words 07: Quite Free 08: Get Up 09: Friends 10: Song To Self 11: Before You Were Young
ข่าวคราว: พวกเขาทำการบันทึกเสียงอยู่ที่ RAK Studios ในกรุงลอนดอนช่วงเดือนกุมภาพันธ์กับมีนาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้น Fran จึงเดินทางไปมิกซ์เสียงที่นิวยอร์กจนถึงเดือนเมษายน
เกร็ดอื่นๆ :อัลบั้มนี้เป็นครั้งแรกที่ Travis แยกจาก Independiente Records มาสู่ชายคาหลังใหม่ของ Red Telephone Box ของตัวพวกเขาเอง และยังเป็นที่ซึ่งพวกเขาเคยออก EP All I Want To Do Is Rock เมื่อปี 1996
คีย์แทรก: ซิ้งเกิ้ลแรกคือ Everyone's At It จะrelease ประมาณเดือนกันยานี้ ขณะที่ก็มีเพลงซึ่งเธอได้โพสต์ไว้ใน Myspace อย่าง I could say กับ I don't know และอีกเพลงที่เป็นที่ฮือฮาพอสมควรอย่าง GWB(F**k You Very Much) อันย่อมาจาก Get Wit the Brogram หรือ Guess Who Batman ตอนแรกเธอเขียนเพื่อเจาะจงหมายถึง พรรค BNP (British National Party)ที่เป็นพรรคการเมืองฝ่ายขวาในอังกฤษ แต่ก็เปลี่ยนใจภายหลัง ไม่เอาดีกว่า รู้สึกสื่อความหมายได้กว้างไป อย่างไรก็ตาม ว่ากันว่าเจ๊อยากจะกัด George W Bush ด้วยเลยเล่นกับตัวอักษรแบบนี้ซะเลย
รายชื่อเพลง(ที่คาดว่าอาจจะรวมในอัลบั้ม) "Everyone's At It" "I Don't Know" "Not Fair" "Guess Who Batman?" / "Get Wit The Brogram" "He Wasn't There" "Oh No" "Fighting Chance" "The Law of Averages Said That I Was Going to Get My Heart "Broken" "I Could Say" "Steve from Accounts" "Pushing You Away While I Push Myself Inside" "Wherever We Go" (featuring Lindsay Lohan)
ข่าวคราว: นอกจากโปรดิวซ์เซอร์ นายMark Ronson ที่เข้าขากันดีกับเธอไม่น้อยแล้ว ส่วนใหญ่ Lily จะบันทึกเสียงร่วมกับ Greg Kurstin ซึ่งเคยทำงานให้ The Bird and the Bee เธอบอกว่า Greg เรียบเรียงทำนองกับคอร์ดมาแล้วเธอก็แค่คลอๆไปตามพร้อมกับคิดเนื้อขึ้นมา นั่นก็ทำให้เธอได้โครงร่างเพลงคร่าวๆมาแล้ว
กลับมาหลังจาก : หายไปสองปี หลังจาก Under the Iron Sea โคตรจะโด่งดังและมียอดจำหน่าย 2.5 ล้านก็อปปี้ทั่วโลก โปรดิวเซอร์ : โปรดิวซ์เองร่วมกับ Andy Green, Jon Brion และ Stuart Price แนวทาง: แปลก เปลี่ยนไป และเข้มข้นกว่าเดิม สังเกตได้จาก Spiralling ที่ขนาดอินโทรขึ้นมาก็แทบตกเก้าอี้ ขณะที่เพลงอื่นๆซึ่งจะตามมายังคงจะได้เห็นแนวเดิมพวกเขาอยู่แน่นอน คีย์แทรก: เมื่อไม่นานนี้ก็ให้ดาวน์โหลด Spiralling แบบฟรีๆ ไปฟังกันยั่วน้ำลาย เรียกน้ำย่อยและลืมสไตล์เปียโนนุ่มละมุนไปพลางๆแล้ว The Lovers Are Losing จะเป็นซิงเกิ้ลแรก มีกำหนดrelease วันที่ 20ตุลาคม รายชื่อเพลง 'Spiralling' 'The Lovers Are Losing' 'Better Than This' 'You Haven't Told Me Anything' 'Perfect Symmetry' 'You Don't See Me' 'Again And Again' 'Playing Along' 'Pretend That You're Alone' 'Black Burning Heart' 'Love Is The End'
Off With Their Heads อัลบั้มที่สามของ Kaiser Chiefs
กำหนดวางขาย : 13 ตุลาคม
กลับมาหลังจาก : ปีที่แล้วสร้างความประทับใจไว้กับ Yours Truly, Angry Mob ที่ขึ้นอันดับหนึ่งของชาร์ต UK มาแล้ว
โปรดิวเซอร์ : Mark Ronson และ Eliot James
แนวทาง: Never Miss A Beat ซิงเกิ้ลแรกอาจดูแปลกไป แต่นี่คือ Kaiser Chiefs จริงๆ ไม่ผิดแน่ ถึงจะไม่ใช่ Stephen Street มาโปรดิวซ์ให้เหมือนเก่า แต่อะไรแปลกๆที่แฟนวงนี้ชอบยังคงอยู่ เนื้อหาเพลงยังคงความเป็นพวกเขา ประเภทใส่ด้านมืดหม่น ด่าสังคม และเพิ่มอารมณ์ใหม่กับแขกรับเชิญมากมายที่มาร่วมทำอัลบั้ม
คีย์แทรก: Never Miss A Beat เป็นซิงเกิ้ลแรกที่จะ release วันที่ 6 ตุลา เพลงนี้โปรดิวซ์โดย Mark Ronson รวมถึงมีเสียงร้องแบ็คอัพโดย Lily Allen และ New Young Pony Club ขณะที่อีกครั้งLily Allen จะมาโผล่ใน Always Happens Like That รายชื่อเพลง 1."Spanish Metal" 2."Never Miss A Beat" 3."Like It Too Much" 4."You Want History" 5."Can't Say What I Mean" 6."Good Days Bad Days" 7."Tomato In The Rain" 8."Half The Truth" 9."Always Happens Like That" 10."Addicted To Drugs" 11."Remember You're A Girl"
ข่าวคราว: มีหลายคนที่มาร่วมแจมในอัลบั้มนี้รวมถึง David Arnold ผู้ประพันธ์สกอร์หนังบอนด์ชื่อดัง จะมาช่วยเรื่องออร์เคสตร้าใน Always Happen Like That กับ Like It Too Much และแร็ปเปอร์ Sway กับเพลง Half The Truth
เกร็ดอื่นๆ : เพราะจะออกอัลบั้มใกล้กับ Dig Out Your Soul ของOasis ซึ่งกำหนดออกก่อนหน้าในวันที่ 6 เลยมีอะไรให้มาด่ามากัน ช่วงนี้ทั้งสองเลยทำสงครามประสาทผ่านสื่อกันอยู่เนืองๆ
<< The Verve กับ อัลบั้มForth กลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีหลังจากเพิ่งrelease ในUK เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ณ เวลานี้ทะยานขึ้นอันดับหนึ่ง UK Album Chart ได้สำเร็จแล้ว อัลบั้มนี้โดยรวมปลื้มมาก ถึง Love is noise จะไม่โดนใจเท่าไหร่ แต่เพลงอื่นๆสุดยอด เช่น ตอนนี้กำลังอินกับ Sit and wonder ยิ่งไปดูแบบlive ยิ่งขนลุกไปใหญ่>>
<<ไม่ต้องรอกันให้นานอีก อยากฟังColdplay จะได้ฟังจุใจ คริส มาร์ตินเิ่พิ่งให้สัมภาษณ์ว่าเร็วๆนี้จะมี EP ชื่อ Prospekt's March ออกมาเป็นของขวัญคริสต์มาสปีนี้ มีกำหนดขายวันบ็อกซิ่งเดย์ ซึ่งจะรวมถึงการร่วมงานกันไคลี่ มิโนกในเพลง Luna เ่ท่านี้นยังไม่พอ คุณColdplay ยังจะขยันทำงานต่อ อัลบั้มใหม่ต่อจาก Viva la vida..จะตามมาในปีหน้าเดือนธันวา ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็เตรียมตัวรอฟังกันปีหน้าต่อเลย>>
Katy Perry - I Kissed A Girl; The Ting Tings - That's Not My Name.
:: BEST VIDEO - Hot Chip - Ready To The Floor; Coldplay - Violet Hill; The Ting Tings - That's Not My Name; Vampire Weekend - A-Punk; Goldfrapp - Happiness
:: BEST LIVE ACT - Kaiser Chiefs; Kings Of Leon; Nick Cave And The Bad Seeds; The Verve; Rage Against The Machine.
:: BEST ALBUM (sponsored by Nixon) - Coldplay - Viva La Vida Or Death And All His Friends; Fleet Foxes - Fleet Foxes; The Last Shadow Puppets - The Age Of The Understatement; Vampire Weekend - Vampire Weekend; Nick Cave And The Band Seeds - Dig!!! Lazarus, Dig!!!
:: BEST ACT IN THE WORLD TODAY (Sponsored by Russian Standard Vodka) – Coldplay; Oasis; Muse; Metallica; Kings Of Leon.
ปล. ขอระบายนิด อาจไม่สุภาพหน่อย โปรดหลีกเลี่ยง มันประกอบไปด้วยอคติและคห.ส่วนตัวล้วนๆ คือ ไม่ชอบThe Ting Tingsมากๆ อย่างแรง นี่มันวงที่เกิดมาสร้างสรรค์วิมานเหวอะไรฟะเนี่ย จริงๆ ตอนแรกก็ชอบด้วยซ้ำ เพราะ Great DJ ท่าจะดี แต่หลังๆฟังแล้ว โอ๊ย! เนื้อเพลงก็ปัญญาอ่อน ช่วงนี้เห็นได้เข้าชิงอะไรต่างๆมากมาย เห็นแล้วก็งง มันดีจริงดิ พยายามเปิดใจแล้วนะ ฟังทุกเพลงแล้ว แต่...ไม่ไหวๆ รับไม่ได้ Shut up and let me go เอ่อ แกน่ะฟังเพลงตัวเองดูซะ แล้วshut the f**k upไปเลย
ปล. อีกที Vampire Weekend เป็นวงที่ทำเอ็มวีน่ารักจริงๆนะ A Punk ดูแล้วก็อดขำไม่ได้ทู้กที นี่ดิ คุณภาพ หุหุ
เออ เราว่า The Ting Tings มันเป็นเรื่องฮิตของเด็กสมัยนี้อ่ะ ที่ไม่เคยได้ฟังงานเจ๋งๆ เก่าๆ หรืองานอินดี้ที่ทำได้ดีกว่านี้ อีกอย่างมันคงติดหูมั้ง เราไม่ชอบ แต่ก็ยังแอบเต้นกับ That's not my name นะ
1. Prospekt's March 2. Famous Old Painters 3. Death Will Never Conquer (Hidden track: Postcards From Far Away). 4. Glass Of Water 5. Leftrightleftrightleft 6. Poppy Fields 7. The Dubliners
ข้อมูลคร่าวๆ
- Prospekt's March - เป็นดนตรีบรรเลง ประมาณว่าภาคต่อของ Life in Technicolor
- Famous Old Painters - คล้ายกับ Solsbury Hill ของ Peter Gabriel "Famous Old Painters, spreading peace around the world"
- Death Will Never Conquer - เป็น hidden track ที่ Coldplay ให้แฟนเพลงโหลดในเว็บฟรีๆไปแล้วเดือนก่อน เพลงเน้นที่เสียงเปียโนง่ายๆกับความยาวประมาณ 1 นาทีกว่า
- Glass Of Water - คล้ายStrawberry Swing เวอร์ชั่นเสียงอิเล็กทริกกีตาร์ค่อนข้างหนัก "Spend your whole life living in the past, going nowhere fast, though we measured to get used to a life like that"
Poppy Fields - ทำนองสไตล์อัฟริกันอย่าง Strawberry Swing(ที่บางคนบอกว่าเหมือนเพลงอีสานมาก)แต่หนักกว่าหน่อย "I don't want to lie on my own in a separate sky, and there I don't want to die" "Poppy fields, Poppy fields, where ugliness become beauty"
The Dubliners - อารมณ์โฟล์กยุค 60's "Everybody wants this, everybody wants that, everbody just complains about the mysteries of the life"
ชอบCold play เหมือนกัน
ได้ดูตอนที่คณะแวะมาเล่นที่Impack เมืองทอง
เป็นสาวกป้าวาสนา แห่งThe Radio
จึงทำให้ชอบวงจากอังกฤษ English Sound>ฝั่งอเมริกัน
ว่างๆจะเข้ามาใหม่
เห็นชื่อหลานน่ารักดี..Lucy in the Sky with Diamands
ขอ add friendไว้นะคะ
เผื่อเข้ามาอ่าน+up date ข่าวสารข้อมูล
อ้อ!!..Across the Universe ก็ดูนะ
พระเอกน่ารักแถมเป็นแฟนLiverpool(เหมทอนกัน) อีกตังหาก
รักษาตัวนะคะ
Take care..