Group Blog
 
All blogs
 

CupCake อิ่มบุญ

ทำขนมกินกันเองในบ้านมาก็นาน เพิ่งได้มีโอกาสทำขนมออกสู่สายตาสาธารณชนก็เมื่อไม่นานนี้ค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงเทศกาลทอดกฐินที่ผ่านมานี่ ที่บ้านก็จะไปทำบุญทอดกฐินตามวัดต่างๆ กันแทบทุกอาทิตย์ แม่ก็เลยชวนทำขนมไปถวายพระ แล้วก็แจกให้คนที่มาทำบุญที่วัดด้วย

วัดแรกนี่ไปที่จังหวัดนครนายก วัดป่าศรีถาวรนิมิต วัดนี้ไปบ่อยค่ะ เพราะมีกระดูกของอาม่าอยู่ที่นั่น เห็นว่ามีแม่ขาวอยู่ที่วัดเยอะ อายุท่านก็มากๆ กันแล้ว ก็เลยเลือกทำเอแคลร์ไป นั่งบีบไส้กันเลอะเทอะทั้งบ้าน ลูกไหนเสีย แม่ก็จะทำหน้าที่รับผิดชอบ กินซะเอง 55 ออกจากบ้านตั้งแต่ตีสี่ตีห้า จะได้ทันถวายตอนเช้า ไปถึงวัดก็ไปป๊ะกับคนที่ทำเอแคลร์มาเหมือนกัน แทบอยากจะเทของเราทิ้งเลยล่ะค่ะ เพราะของเค้าอ้ะ ลูกเล็ก น่ารัก ดูผู้ดี้ ผู้ดี ส่วนของเรานี่ ลูกมหึมา ไส้ปลิ้นไหลทะลัก เฮ้ออ.. แต่ถึงหน้าตาอาจสู้ไม่ได้ แต่ความอร่ิอยนี่ ไม่เป็นรองใครแน่นอนค่ะ (แฮะๆ เข้าข้างตัวเองไว้ก่อน) พอถวายพระเสร็จ ส่วนที่เหลือจากพระฉัน ก็นำมาแจกจ่ายให้ญาติโยมกินกัน ก่อนจะกลับแอบเหลือบดูขนมที่่วางอยู่ เห็นเอแคลร์เราเหลือ 2 ลูก ก็ยังดีเนอะ นึกว่าจะไม่มีคนกล้ากินซะแล้วว

วัดต่อมาไปไกลถึงนครสวรรค์เลยค่ะ ที่ ธุดงคสถานเขาช้างฟุบถาวรวนาราม วัดนี้แม่เคยเอารถแมคโครไปช่วยขุดบ่อน้ำอยู่หลายเดือน คราวนี้เปลี่ยนเป็นทำท๊อฟฟี่เค้กบ้าง หน้าตาดูไม่ได้เลยค่ะ แทบจะไม่อยากถือลงจากรถ อายเจงๆ ทั้งที่ครั้งแรกที่เคยทำออกมา ดูดีจะตายย อร่อยมากๆ ด้วยย แม่บอกว่าคราวหลังอย่าตั้งใจทำมาก เพราะมันจะเครียด แล้วออกมาเละทู้กกที ต้องแบบ ทำเล่นๆ ชิลๆ ตั้งใจมั่ง ไม่ตั้งใจมั่ง อย่างงี้ ถึงจะออกมาดูดี 555

วันสุดท้ายของเทศกาลทอดกฐิน ไปทำบุญที่วัดคุณแม่จันทร์ ตรงเขตประเวศนี่เองค่ะ ปีที่แล้วก็มาทำบุญที่วัดนี้ เห็นว่า เด็กๆ เยอะ ก็เลยวางแผนทำ cupcake น่ารักๆ ดีกว่า คราวนี้ทำเรื่อยๆ แบบไม่คาดหวังมาก เดี๋ยวจะเละเหมือนครั้งที่แล้วอีก ค่อยๆ ทำ ตั้งแต่ เก้าโมงเช้า มาเสร็จเอาเกือบสามทุ่ม แต่ก็ออกมาน่ารักน้าาา อิอิ

เลือกทำ very vanilla cupcake สูตรของคุณแม่น้องโมไอ //www.bloggang.com/viewblog.php?id=mo-ai&date=01-09-2008&group=3&gblog=3 ค่ะ



Very Vanilla Cupcake (สูตรสำหรับ 12 ที่ นะคะ)

แป้งเค้ก 2 ถ้วยตวง
ผงฟู 1/2 ชช
โซดา 1/8 ชช
เนยสด 150 กรัม
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
บัตเตอร์มิลค์ 3/4 ถ้วยตวง (ถ้าไม่มีก็ใช้นมสดผสมน้ำมะนาว 2 ชชค่ะ)
วานิลลา 2 ชช.
ไข่ไก่ 3 ฟอง + ไข่แดง 1 ฟอง

วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบไว้ที่ 180 องศาซี

2. ร่อนแป้งผงฟูโซดาเข้าด้วยกัน



3. ใส่น้ำมะนาวไปในนม คนให้เข้ากัน พอทิ้งไว้ซักพัก นมมันจะหน้าตาแปลกๆ นะคะ อธิบายไม่ถูกค่ะ



4. ตีเนยกับน้ำตาลให้ขึ้นฟูด้วยความเร็วกลางๆ น้ำตาลค่อยๆใส่นะคะ ทีละช้อน ทีละช้อน

5. ฟูขาวแล้วใส่ไข่ลงไปทีละฟอง ตีให้เข้ากันเนียนๆนะคะ คุณแม่น้องโมอายบอกว่า ให้ตีไข่ให้เข้ากันก่อน แล้วค่อยตักไข่ใส่ทีละช้อนค่ะ



6. แบ่งแป้งกับบัตเตอร์มิลค์ (นมที่ผสมกับน้ำมะนาวเมื่อกี้) เป็น แป้ง 3 บัตเตอร์มิลค์ 2

ึ7. ใส่แป้งตีเข้ากัน ใส่บัตเตอร์มิลค์ตีเข้ากัน สลับกันไป เริ่มที่แป้ง จบที่แป้งนะคะ



8. ส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ตักใส่ถ้วยมัฟฟินเลยค่ะ

9. เอาเข้าอบ อบไฟบน-ล่างค่ะ ประมาณ 15-20 นาที ไฟ 180 C ค่ะ



10. คุณแม่น้องโมอายบอกว่า เอาออกจากเตาแล้วให้็คีบออกจากถาดมัฟฟินเลยค่ะ เพื่อไม่ให้มันสุกไปมากกว่านี้ ไม่งั้นเค้กจะร่อนออกจากถ้วยกระดาษนะคะ

อิอิ ออกมาแล้นนนน เย้ๆ เต็มพิมพ์พอดี สีสวยด้วยละ



ไม่พอแค่นั้น พลังยังมีมากมาย ขอทำ Best Chocolate Cupcake สูตรคุณแม่น้องโมอายต่ออีกค่ะ //www.bloggang.com/viewblog.php?id=mo-ai&date=12-10-2008&group=3&gblog=21 แต่คราวนี้ไม่ได้ถ่ายรูปตอนทำไว้ มีแต่รูปตอนก่อนกะหลังอบค่ะ

ตอนทำฟ้ามืดครึ้ม น่ากลัวมากๆๆๆ

เห็นในสูตรไม่มีผงฟู เลยคิดเอาเองว่าคงไม่ฟูเท่าไหร่ล่ะมั้งง เลยใส่พิมพ์ไปซะเกือบเต็ม ผลปรากฎออกมาเป็นเยี่ยงนี้ค่ะ



แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวบีบครีมปิดเอาค่ะ

มาดูวิธีทำครีมกันบ้างค่ะ

ส่วนผสมค่ะ

ส่วนที่ 1
เนยขาว 300 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 400 กรัม

ส่วนที่ 2
เนยสด 300 กรัม
มาการีน 200 กรัม
เนยขาว 500 กรัม

ส่วนที่ 3
น้ำเปล่า 300
นมข้นจืด 100
น้ำตาลทราย 600
เกลือ นิดหน่อย

วิธีทำ

1 ส่วนที่ 1 ตีเนยขาวให้ฟูๆหน่อยค่ะ แล้วทยอยใส่น้ำตาลไอซิ่งลงไปจนหมด แล้วตีต่อไปเรื่อยๆจนเนียนเลยนะคะ พักไว้ (ตอนทำแอบคิดว่า ตรูซื้อเนยมาผิดรึป่าวหว่า ทำไมเนยขาวมันเลื้องเหลืองง )

2 ส่วนที่ 3 เอาทุกอย่าง (สำหรับส่วนผสมที่ 3) ผสมกัน ขึ้นตั้งไฟคนให้น้ำตาลละลาย (เราใช้ไมโครเวฟค่ะ ตั้งไฟแรง ใช้เวลาซักสองสามนาที ดูให้น้ำตาลละลายอ้ะค่ะ) พักไว้ให้เย็นค่ะ

3 เทใส่แก้วมีจงอยยย (ที่บ้านไม่มีจ้า เลยใส่ชามใบโตๆ นี่แหล่ะ ) แล้วเอาเข้าตู้เย็นค่ะจะได้เย็นเร็วๆ




4 ตีเนยสดให้แผ่กระจายๆค่ะ

5 ใส่มาการีนกับเนยขาวลงไปเลยค่ะ

ุ6 ตีต่อไปเรื่อยๆ

ึ7 แล้วก็เอาส่วนที่ 1 ที่ตีไว้ก่อนแล้วทยอยใส่ไปตอนนี้เลยค่ะ แล้วก็ตีต่อไปจนฟูๆขาวๆอวบๆเลยค่ะ (อวบไงหว่าา..แอบงง ^^")

8 ทยอยใส่น้ำเชื่อมลงไปนะคะ เป็นสาย สาย (เทเป็นสายไม่ได้อ้ะ พอตั้งท่าจะเท น้ำเชื่อมก็ไหลลงมาพรวดดด เลยเปลี่ยนเป็นใส่ทีละช้อนแทน ^^) มีเคล็ดลับมาบอกด้วยยย (คุณแม่น้องโมไอบอกมาอีกที ) น้ำเชื่อมอย่าให้เย็นไปนะคะ อย่าให้ร้อน ให้แค่รู้สึกเฉยๆอ่ะค่ะ (หนังสือของUFMบอกมา) มันจะดีต่อครีมของคุณ




9 ตีต่อไปให้ฟูๆเหมือนเดิม แล้วลดมาตีต่ำสุด 2 นาทีเพื่อความเนียนนะคะ เอ่อ.. ลืมบอกตั้งแต่เริ่มต้นตีเบอร์ 4 ตลอดเลยนะคะ

10 ตักขึ้นมาใส่ถ้วย เตรียมผสมสีได้เลยค่า ที่บ้านมีแค่สีชมพูสีเดียว ก็เลยใช้วิธีีถ้วยนึงหยดน้อยหน่อย (ได้สีส้มพาสเทล) อีกถ้วยก็หยดเยอะหน่อย (ได้สีชมพูพาสเทล) ได้ออกมาสีน่ารักทีเดียวค่ะ



เสร็จแล้วค่าา บีบครีมตกแต่งได้ตามใจชอบ

ได้เวลาอวดผลงานแล้วค่าาาาาา







หย่อนใส่ถ้วย เตรียมขนไปวัดค่ะ



ไม่อยากจะอวดแต่ว่า พอถวายพระเสร็จ ลงมาวางแจกคนที่มาทำบุญกัน พรึ่บเดียวไม่ถึงห้านาทีหมดเกลี้ยงเล้ยยยย วะฮะฮ่าาา ปลื้มใจสุดขีดดด




 

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2551    
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2551 22:43:47 น.
Counter : 1162 Pageviews.  

TripLe ChoColate CheeSeCake

เปิดตู้เย็นเจอครีมชีส กะวิปปิ้งครีมที่ซื้อมาตุนเอาไว้ ใกล้จะหมดอายุ ก้อเลยหาเรื่องทำขนมซะเล้ยย ไม่งั้นถ้าหมดอายุไปต้องทิ้งละก็ เสียดายแย่

ก้อเลยตกลงว่าจะทำ Triple chocolate cheesecake สูตรจากหนังสือ MAY MADE Volume 4 ที่เพิ่งฝากพี่ซื้อมาให้เมื่อตอนงานสัปดาห์หนังสือ

จะอร่อยมั้ยน้าาา มาพิสูจน์กันเล้ยยย

ส่วนผสมครัสต์

ชอคโกแลตบิสกิต 150 กรัม (เราใช้โอริโอ 1 ห่อ)
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
เนยเค็ม 30 กรัม
ดาร์กชอคโกแลต 30 กรัม

วิธีทำครัสต์

1. บดโอริโอให้ละเอียด เราใช้วิธีเอาไม้ทุบๆๆ จากในถุงเลยล่ะค่ะ แบบว่าขี้เกียจแกะห่อ แต่อย่าทุบแรงมากนะคะ ไม่งั้นห่อระเบิด จะหาว่าไม่เตือนน ทุบเสร็จ แกะห่อ เทใส่ชามผสม ถ้ายังมีชิ้นใหญ่ๆ เหลืออยู่ก็ทุบๆ ให้ละเอียด ถ้าขี้เกียจทุบก็.. หยิบเข้าปากเลยค่าา อิอิ ทำบ่อย แฮะๆ

2. ละลายเนยในไมโครเวฟ นำออกมาผสมกับน้ำตาล คนให้น้ำตาลละลาย

3. ละลายดาร์กชอคโกแลตในไมโครเวฟ อย่านานนะคะ ตั้งเวลาไว้ก่อนซัก 30 วินาที ก็พอ ถ้ายังไม่ละลายค่อยใส่เข้าไปใหม่ ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าเนอะ ไม่งั้นตั้งนานเกิน ชอคโกแลตจะไหม้อ้ะ

4. นำทุกอย่างมาคลุกรวมกันในชาม

5. กดใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ เสร็จแล้วก็แช่ตู้เย็นไปเล้ยยยย



ส่วนผสมชีสเค้ก

วิปปิ้งครีม 3/4 ถ้วยตวง
ครีมชีส 250 กรัม
นมข้นหวาน 1/4 ถ้วยตวง
กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
ไวท์ชอคโกแลต 120 กรัม
เจลาติน 2 ช้อนชา (เราใช้แบบแผ่น 1 แผ่น)
น้ำเย็น 2 ช้อนชา

วิธีทำตัวชีสเค้ก

1. นำชีสเค้กมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ

2. ปั่นจนเนื้อเนียน (ของเรายังเป็นก้อนๆ อยู่เลย )

3. ใส่นมข้นหวาน วิปปิ้งครีม และกลิ่นวานิลลา



4. ละลายไวท์ชอคโกแลตในไมโครเวฟ (อย่านานนะคะ อย่านาน)

5. ใช้นิ้ว จิ้ม ดูด จิ้ม ดูด อิอิ อันนี้คุณเมไม่ได้สอน แต่มันห้ามใจไม่อยู่ แฮะๆ

6. ใส่ไวท์ชอคลงไปในครีมชีส ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน

7. ละลายแผ่นเจลาตินในน้ำเย็นจนนิ่ม บีบน้ำออก

8. ใส่เจลาตินในชาม ใส่น้ำลงไป 1 ช้อนโต๊ะ นำไปอุ่นในไมโครเวฟ ใช้ไฟแรง 1 นาที หรือจนเจลาตินละลายหมด

9. ใส่เจลาตินลงไปในส่วนผสมครีมชีส คนส่วนผสมให้เข้ากัน

10. เทพรวดลงไปในครัสต์ที่แช่เย็นไว้ แล้วก็นำไปแช่ตู้เย็นต่ออีกอย่างน้อย 5 ชั่วโมงค่ะ




ส่วนผสมหน้าชอคโกแลต

ชอคโกแลตนม 100 กรัม
วิปปิ้งครีม 1/2 ถ้วยตวง

วิธีทำหน้าชอคโกแลต

1. ละลายชอคโกแลตในไมโครเวฟ

2. จิ้ม ดูด จิ้ม ดูด อิอิ

3. ใส่วิปปิ้งครีม คนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว ทิ้งไว้ให้เย็นตัว

4. นำเค้กที่แช่ไว้ออกจากตู้เย็น กรีดขอบข้าง คว่ำออกมาวางบนตะแกรง

5. นำชอคโกแลตมาราดหน้าเค้กให้ทั่ว

6. นำไปแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ก่อนตัดเสิร์ฟ (ใช้มีดคมๆ ตัดนะคะ ไม่งั้นจะอร่อย แต่หน้าตาดูไม่ได้เหมือนของเรา)



เสร็จแล้วค่าาา อร่อยมากกกกก แต่ตัดไม่สวย เลยดูไม่ค่อยได้ แฮะๆ แต่คอนเฟิร์มความอร่อยนะคะ






 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2551    
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2551 21:21:19 น.
Counter : 1208 Pageviews.  

^ ^ เอแคลร์ ^ ^

ทำเอแคลร์หนนี้กว่าจะสำเร็จนี่ ต้องทำถึงสองรอบ แม่ก็เคยบอกแล้วว่ายากนะๆ แต่หนูอยากโชว์พาวค่ะแม่ 55 ทำรอบแรกออกมา ไส้อร่อยมากก แต่ว่าตัวแป้งนี่...ต้องทิ้งทั้งถาดดด ฮือๆๆ ทั้งไหม้ ทั้งฟีบ ทั้งแข็ง เศร้าใจจริงๆ ค่ะ

แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ มีรึคนอ้วนๆ จะยอมแพ้อะไรง่าย ตัดสินใจทำใหม่อีกรอบ แต่รอบสองนี่ บังเอิญมีเพื่อนมาที่บ้านด้วย เครียดเลยค่ะ แม่ศรีเรื้อน แม่ศรีเรือน อย่างเรา เฮ้ออ จะรอดมั้ยตรู แถมยังหาญกล้าจะทำสองไส้ ทั้งวนิลาและใบเตย (เห็นที่บ้านปลูกไว้อยู่หลายต้น เลยอยากเล่นอ้ะ) หุหุ มาถึงขั้นนี้แล้ว เดินหน้าเต็มที่ค่ะ เพื่อนก็มาช่วยทำด้วย ก็สนุกดีนะคะ ไส้ทั้งสองผ่านไปด้วยดีเช่นเดิม และ แต่น แต้นน แป้งเอแคลร์ที่ร้ากกก ไม่ไว้หน้ากันมั่งเล้ยย ต้องเททิ้งอีกแล้วอ้ะ ทั้งเศร้า ทั้งอาย ฮือๆ แต่ก็ ยังสู้ต่อไปค่ะ ส่งถาดที่สองเข้าไปอบ และแล้วฟ้าดินก็เป็นใจ แป้งออกมาสวยงาม เย้ๆๆ แม่ๆๆๆๆ หนูทำได้แล้นนนน

แต่น แต่น แต้นน แอแคลร์ของเรา



สูตรและวิธีทำ มาจากคุณแมว "ดวงใจพ่อแม่" ค่ะ ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้นะคะ //www.bloggang.com/viewblog.php?id=pitida-kitty&group=15

คุณแมวแนะนำให้ริ่มทำไส้ก่อนนะคะ

ส่วนผสมสำหรับไส้เอแคลร์ค่ะ

น้ำตาลทราย 155 กรัม (คนหวานๆ อย่างเรา ขอใส่น้ำตาลเพิ่มเป็น 200 กรัมจ้า - - ส่วนน้ำตาลทรายนี่ รอบแรกที่ทำใช้ไอซิ่ง รอบสองลองใช้น้ำตาลทรายธรรมดา ผลก็ไม่ต่างกันนะ)
ไข่ไก่ (ทั้งฟอง) 2 ฟอง
นมข้นจืด 240 กรัม
น้ำเปล่า 240 กรัม (ถ้าทำไส้ใบเตยก็เปลี่ยนเป็น น้ำใบเตยสด แทนนะคะ)
เกลือ 1/4 ช้อนชา
วานิลา 2 ช้อนชา
แป้งข้าวโพด 50 กรัม
เนยสดเค็ม 50 กรัม

วิธีทำ

1. ตีไข่กับน้ำตาลจนขึ้น ประมาณ 3 นาที



2. ใส่ นมข้นจืด น้ำเปล่า เกลือ แป้งข้าวโพด วานิลา ลงไปตีต่ออีกประมาณ 1 นาทีให้ส่วนผสมเข้ากันดี (ถ้าทำไส้ใบเตย ก็ใส่น้ำใบเตยลงไปแทนน้ำเปล่านะคะ)



3. นำส่วนผสมที่ตีเข้ากันแล้ว (ซึ่งมันจะฟูฟ่องราวฟองแฟบ ไม่ต้องตกใจนะคะ เดี๋ยวก็จะเข้าสู่สถานการณ์ปกติอย่างรวดเร็วค่ะ) เทใส่หม้อตุ๋นที่ใส่เนยเค็มรอไว้แล้ว (แบ่งเนยประมาณ ๑ ช้อนทานข้าวไว้ใส่ในตอนท้ายด้วย) กวนด้วยไฟอ่อน คนไปในทางเดียวกันตลอดเวลาเพื่อให้ครีมเนียน ไม่เป็นเม็ด

4. เริ่มแรกคนประมาณ 9 – 10 นาที ส่วนผสมในหม้อก็จะเริ่มข้นขึ้นนิดหน่อย หรี่ไฟไปทางอ่อนๆ กวนต่อไปในทางเดียวกันอีกประมาณ 5 – 7 นาที ลองยกตะกร้อมือขึ้น ถ้าเริ่มเห็นรอยตะกร้อมือจางๆ หรือชิมแล้วไม่มีรสแป้งก็กวนต่ออีกแค่ 1 - 2 นาที ยกลง ใส่เนยที่แบ่งไว้ กวนให้เข้ากัน (ทำรอบหลังนี่ มีเพื่อนช่วยกวนให้ หายเมื่อยไปเยอะทีเดียว แฮะๆ ขอบคุณนะเนย )

5. กวนไส้ต่อเพื่อให้คลายความร้อน พักไว้ให้เย็นและนำเข้าตู้เย็น รอใส่ไส้ในขั้นตอนต่อไป




สำหรับคนที่อยากลองทำไส้ใบเตยนะคะ ก้อไม่ยากนะ ตัดใบเตยมา ไม่ทันดูว่ากี่ใบอ้ะ เอามาสับๆๆ ต้องระวังด้วยนะคะ เพราะใบมันคมอ้ะ เนยมาช่วยสับ โดนบาดไปเหมือนกัน แล้วก็เอาใบไปใส่เครื่องปั่น ใส่น้ำ มั่วอีกเหมือนกัน ไม่ได้วัดว่าใช้สัดส่วนเท่าไหร่ กะว่า ให้เป็นสีเขียวเป็นใช้ได้ ปั่นเสร็จก็เอามากรองกับผ้าขาวบางนะคะ บีบเอาแต่น้ำ ตวงให้ได้ 240 กรัม แล้วก็เอาไปใช้แทนน้ำเปล่าในสูตรได้เลยค่ะ



เสร็จแล้วค่ะ ไส้เอแคลร์ สบายมาก อร่อยด้วย จิ้มดูดๆ 55

ตัวปัญหาอยู่นี่ค่ะ แป้ง/เปลือกเอแคลร์ จริงๆ ทำก็ไม่ยากนะ เดี๋ยวจะบอกให้ว่าที่ทำไม่ได้นี่ เพราะอะไร

ส่วนผสมเปลือกเอแคลร์ค่ะ

แป้งสาลีอเนกประสงค์ หรือ แป้งเค้ก 110 กรัม (ใช้แป้งเค้กค่ะ เพราะคุณแมวบอกว่าแป้งจะนิ่มกว่า)
น้ำเปล่า 195 กรัม
เนยสดชนิดเค็ม 95 กรัม
ไข่ไก่ (เบอร์ 0) 3 ฟอง (พอดีเบอร์ 1 ลดราคา เลยใช้เบอร์ 1 ค่ะ --")
ผงฟู 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ร่อนแป้งเค้กพักไว้

2. ใส่น้ำเปล่า น้ำตาล เนย รวมกันในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางจนกระทั่งเนยละลายและน้ำเดือด




3. หรี่ไฟอ่อน ใส่แป้งที่ร่อนไว้ คนแรงๆ เร็วๆ ไปในทางเดียวกัน ยกลงจากเตา (อย่ากระพริบตานะคะ เพราะใช้เวลาไม่นาน จากของเหลวกลายเป้นของแข็งไวมากค่ะ)

4. คนต่อไปจนแป้งร่อนออกจากขอบหม้อ และแป้งคลายความร้อนลงบ้าง

5. นำมาตีไล่ความร้อนในเครื่องผสม ให้ส่วนผสมอุ่นค่อนไปทางเย็น



6.ตอกไข่ใส่ทีละฟอง ตีต่อให้เนียน จนส่วนผสมข้นและเหนียว ใส่ผงฟูลงไป ตีต่อให้เข้ากัน (ระหว่างนี้ วอร์มเตาอบไว้ที่ 220 c เลยค่ะ)

***7. ตักส่วนผสมแป้งใส่ถุงบีบบนถาดที่ทาเนยขาวและปูกระดาษไขทับ ใช้นิ้วเปียกน้ำจิ้มลบยอดแหลมก่อนนำเข้าอบ (ไม่ได้ลบเลยค่ะ เหลือยอดแหลมเปี๊ยว ให้ดูต่างหน้าเกือบทุกลูก อิอิ)

ขั้นตอนที่ 7 นี่แหล่ะค่ะ ที่เป็นสาเหตุของความผิดพลาดที่ผ่านมา คือที่บอกว่าต้องเทแป้งทิ้งหลังจากอบเสร็จแล้ว ก็เนื่องจากว่า ตอนบีบแป้งนี่ เราบีบเป็นวนๆ อบกี่ทีๆ ก็แข็งทุกครั้ง คิดว่าการบีบแป้งนี่ก็น่าจะสำคัญนะคะ ให้เพื่อนๆ บีบปู๊ดลงมาเลย อย่างเราใช้ที่บีบเป็นทรงกระบอก ก็คือ ตั้งกระบอกตรงๆ แล้วก็บีบปรู้ดลงมา ทีนี้ จะอบอีกกี่ที ก็ไม่ต้องเททิ้งแล้วล่ะค่ะ





8. การอบเอแคลร์แบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกอบไฟ 220 c เป็นเวลา 11 นาที แล้วช่วงหลังปรับเป็นไฟ 180 c เป็นเวลา 10 นาที (วิธีสังเกตว่าเปลือกได้ที่ สามารถเอาออกจากเตาอบได้แล้วคือ เปลือกจะแห้ง ไม่มีฟองอากาศหรือไอน้ำเกาะอยู่ค่ะ) ขอเพิ่มเติมนะคะ เวลาอบก็แล้วแต่เตาและขนาดของเอแคลร์ของแต่ละคนด้วย ซึ่งอาจจะไม่เป๊ะๆ ตามนี้ ต้องคอยสังเกตกันเอานะคะ

9. พักเปลือกเอแคลร์ให้เย็นสนิทจึงนำไปใส่ไส้ (ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สนุกและเละเทะมาก 55 บีบปู้ดๆ ไส้ไหลทะลักตลอด เราใช้วิธีตัดเปลือกเอแคลร์ให้พอมีรู แล้วก็แหย่ที่บีบลงไป บีบปรู้ดดดด พอทะลักก็เป็นอันใช้ได้ น่าเกลียดจริงๆ ค่ะ )



เสร็จแล้นนน แหวกดูไส้ น่ากินใช่มั้ยล่า




ไส้ใบเตยเหลือ ยังเอามาทำเป็นสังขยา ทา / จิ้มกะขนมปัง กินได้อีกตั้งหลายวัน อร่อยจริงๆ นะ ไม่ได้โม้ๆ



อ้อ..อีกเรื่องที่อยากบอก ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึป่าว แต่รู้สึกว่า ถ้าทิ้งไว้ซักคืน หลังจากทำเสร็จ เอแคลร์จะอร่อยกว่า ตอนทำเสร็จใหม่ๆ นะ เหมือนตอนทำเสร็จใหม่ๆ ตัวแป้งพอกินแล้วมันแปลกๆ อ้ะ แต่พออีกวันมาลองกินอีกที อูวววว อร่อยสุดยอดดด (เอ่อ..นี่ชมตัวเองไปกี่รอบแล้วฟระ แฮะๆ อายมั้งมั้ยเนี่ยเรา)




 

Create Date : 20 กันยายน 2551    
Last Update : 20 กันยายน 2551 21:39:17 น.
Counter : 3204 Pageviews.  

ToFFee CaKE

เห็นที่บ้านชอบซื้อมากินจริงจิ้งงง ทอฟฟี่เค้กเนี่ย เลยขอลองทำเองซะหน่อย หุหุ ออกมาเป็นที่เชิดหน้าชูตาได้อยู่บ้างง เลยขออวดซักกะหน่อย อิอิ
สูตรที่ใช้เป้นของคุณ triny ค่ะ ต้องขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยนะคะ ตามลิ้งไปดูของต้นฉบัยได้เลยค่า ของเค้าดีจิงๆ ค่ะ //topicstock.pantip.com/food/topicstock/2006/02/D4082493/D4082493.html

ทีนี้ก็มาดูหน้าตา ทอฟฟี่เค้ก ของแม่ศรีเรือนนางนี้ ดูบ้างนะคะ



ส่วนประกอบค่ะ

ส่วนผสมตัวเค้ก
1.แป้งเค้ก 125 g
2.กาแฟผง 2 ชต
3.ผงโกโก้ 2 ชต
4.น้ำตาลทราย 200 g
5.ผงฟู 2 ชช
6.เนยจืด 150 g
7.ไข่ไก่เบอร์ใหญ่ 4 ฟอง
8.เกลือ 1/8 ชช

ส่วนผสมหน้าทอฟฟี่
1.เนยจืด 150 g
2.นมข้นจืด 60 g
3.น้ำตาลทราย 140 g
4.เกลือ 1/4 ชช
5.เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ 170 g
6.กาแฟผง 1 ชช
7.แป้งเค้ก 3 1/2 ชต

ลอกมาเด๊ะๆ เลยค่า วิธีทำก็ลอกคุณตรีมาค่ะ (พูดด้วยความภาคภูมิจายย
)

วิธีทำตัวเค้ก
1.ร่อนแป้ง ผงฟู ผงโกโก้ กาแฟผง 3 รอบค่ะ (ร่อนเสร็จตามตำราไป 3 รอบ ถ่ายรูปเรียบร้อย เตรียมอวดสาธารณชน เอ.....ทำไมมันสีแปลกๆ หว่า แป่ววว ตรูลืมใส่ผงโกโก้ว่ะค่ะ ดูรูปจิ ขนาดตอนถ่ายส่วนผสมยังลืมหยิบผงโกโก้มาวางด้วยเลย พอร่อนรวมกับผงโกโก้เสร็จ ที่เห็นเป็นกระจุกสีน้ำตาลเข้มนั่น คือกาแฟค่ะ มันเม็ดใหญ่เกินกว่าจะร่อนผ่านรูตะแกรงมาได้ เลยมากองรวมกันอยู่ตรงนั้นค่ะ )

2.ละลายเนยสด ในไมโครเวฟประมาณ 2 นาที พักไว้




3.ตอกไข่ใส่โถตี ตีด้วยสปีดสูง พอขึ้นฟูก็ใส่เกลือ และค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายจนหมด (ตรีใส่ครั้งละประมาณ 1 ชต ค่ะ --> หนิงก็ใส่ครั้งละประมาณ 1 ชต เช่นกันค่ะ แฮะๆ )

4.ตีไข่จนฟูข้น จนฟองละเอียด (ใช้เวลาประมาณ 15 นาที)




5.นำส่วนผสมแป้งที่ร่อนแล้วใส่ลงใส่ไข่ ใส่ทีเดียวเลยค่ะ
(ถ้าให้ดี ร่อนแป้งลงในโถอีกทีก็ดีค่ะ จะได้เค้กฟูขึ้นดีทีเดียว)

6.ตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันเบา ๆ ด้วยพายยาง พลิกไปพลิกมาหน่อยค่ะ

7.นำเนยที่ลายไว้ค่อย ๆ เทเป็นสาย คนไปด้วยระหว่างเทเนยลงส่วนผสม (เนยต้องอุ่น ๆ นะคะ อย่าให้เนยเย็นเชียว)

8.เทใส่พิมพ์ที่ ทาเนยแล้วปูกระดาษไข ใช้ไม้จิ้มฟันลาก ๆ ส่วนผสมเพื่อไล่ฟองอากาศ อย่ากระแทกนะคะ เดี๋ยวยุบ

9.อบที่อุณหภูมิ 175 องศา ประมาณ 30 นาทีค่ะ(ไม่แน่ใจเรื่องเวลา ลองแตะดูหน้าเค้กถ้าเด้ง ๆ ก็ลองเอาไม้จิ้มฟันจิ้มดูถ้าไม่มีส่วนผสมติดมาก็ใช้ได้ค่ะ)

10.ตั้งส่วนผสมทิ้งไว้ให้เย็นแล้วนำหน้าทอฟฟี่มาราด

รูปดูไม่ดีเลยอ้ะ ยังเห็นกาแฟเป็นเม็ดๆ เลย สีก็แปลกๆ เนอะ มองข้ามๆ ไปละกันนะคะ

ตัวเค้กเสร็จแล้ว ก็มาทำหน้าทอฟฟี่ต่อ ชอบๆ ทำง่าย แล้วก้อหนุกดีด้วยล่ะ


วิธีทำหน้าทอฟฟี่
1.นำเนยสด น้ำตาลทราย เกลือ นมข้นจืด ผสมรวมกัน

2.ใส่ไมโครเวฟประมาณ 1 นาทีครึ่ง

3.กวนส่วนผสมให้เข้ากัน ใส่กาแฟผงกวนให้เข้ากัน ใส่แป้งกวนส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง

4.นำเข้าไมโครเวฟ นำออกมาคนทุก ๆ 1/2 นาที จนส่วนผสมข้น (รอบแรกอาจจะยังดูใสอยู่ จนคิดในใจว่า ตรูจะต้องใส่อีกกี่สิบรอบล่ะเนี่ย ถึงจะข้น แต่ทำจริงๆ ก็ไม่กี่รอบหรอกค่ะ มันก็จะข้นแล้ว สู้ๆ นะ )




5.ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่อบแล้ว รอจนส่วนผสมอุ่นแล้วนำไปราดหน้าตัวเค้ก

6.อบเฉพาะไฟบนที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 10-15 นาที
หรือจนหน้าค่อนข้างแห้ง และสีน้ำตาลสวย




เสร็จแล้วค่า... ตอนจะตัดก็ให้คว่ำหน้านะคะ เวลาตัดหน้าจะได้ไม่แตก (นี่ก็คุณตรีสอนมาอีกล่ะค่ะ )

ใส่กล่องเตรียมแจกจ่าย ถ้าอร่อย ก็บอกว่าทำเองนะเนี่ยยย ถ้ากินกันแล้วบอกไม่อร่อย ก็จะได้บอกว่า อ้อออ ชั้นซื้อมา 555



น่ากินเนอะๆ (ทำให้แฟน แฟนก็ไม่ยอมกิน เลยต้องชมตัวเอง เชอะๆๆ )









 

Create Date : 16 สิงหาคม 2551    
Last Update : 11 ตุลาคม 2551 11:22:58 น.
Counter : 1070 Pageviews.  

FriEd IcE-CreAm

อากาศร้อนๆ แดดเปรี้ยงๆ อย่างนี้ มาทำไอศครีมทอด เย็นชื่นใจ ทานกันดีกว่าค่ะ

ส่วนประกอบ

1. ไอศครีม
2. ขนมปัง
3. ไข่ไก่
4. เกล็ดขนมปัง
5. น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำก็ง่ายมาก แต่ก่อนตอนทานครั้งแรก งงอยู่นาน คนทำนี่อัจฉริยะจริงๆ ทำได้ไง เอาไอติมไปทอดด แล้วไม่ละลายด้วยย จนมาทำเอง ถึงเข้าใจ อ้อออออ ง่ายซะเหลือเกิ้นนนน


เริ่มจากซื้อไอศครีม กะขนมปังแผ่นมา ถ้าหาแผ่นใหญ่ๆ ได้ก็ดีนะคะ จะได้ห่อง่ายๆ

จากนั้น ก้อเอาขนมปังมารีดๆ ให้แบนๆ บานๆ กว้างๆ แต่ก็ไม่ต้องถึงกะบางมากนะคะ เดี๋ยวไอติมซึมอ้ะ

เสร็จปุ๊บ ก็ถือขนมปังไว้บนมือโดเรมอนของเรา แล้วก็ตักไอติมมาวางโป๊ะ ไว้ตรงกลางของขนมปัง ห่อๆ ให้มิดไอติม ถ้าตักลูกใหญ่หน่อย หรือขนมปังแผ่นเล็ก ก็ใช้สองแผ่นเลยนะคะ ห่อยังไงก็ได้ค่ะ ให้มิดไอติมเป็นงั้นใช้ได้ แต่ต้องทำเร็วๆ นะคะ ไม่งั้นไอติมจะละลายก่อน (ก่อนจะตักไอติมนี่ ก้อแช่ให้ไอติมแข็งๆ ไว้ก็ดีค่ะ เพราะทำใหม่ๆ ตอนห่ออาจต้องใช้เวลานานนิดนึง กว่าจะมั่วเสร็จ ..แต่ก็ระวังอย่าแข็งมากนะคะ เพราะตอนตักนี่ โอยยย แทบตักไม่ออก ทางสายกลางนี่..ไม่เคยเดินเลยตรู)

พอห่อขนมปังสองแผ่น มิดไอติมได้ปุ๊บ (อย่าให้เห็นรู หรือไอติมโผล่นะคะ เดี๋ยวตอนทอดมันจะละลาย) ก็ห่อด้วย plastic wrap ให้แน่นๆ แล้วก้อแช่ช่องฟรีซไว้เลยค่ะ

เสร็จไปครึ่งทางละ สนุกใช่มั้ยล่า 5555

พักการบรรยาย ด้วยรูปประกอบแสนงดงามค่ะ



แช่ไว้นานเท่าไหร่ก็ได้นะคะ เก็บไว้สองสามวันเลยก็ได้ แต่นี่อยากกินไวๆ มันตื่นเต้ลลล แช่ได้ซักชั่วโมงก็มาทอดละ

อ้ออ ก่อนจะเอาขนมปังออกมา เตรียมอุปกรณ์การทอดให้พร้อมก่อนนะคะ

ไข่ไก่ (กะปริมาณตามจำนวนก้อนที่ทำ) ทำน้อย ใช้ฟองเดียวก็พอ ตีๆ พอแตก เหมือนทำไข่เจียว แต่ไม่ต้องถึงขั้นฟองขึ้นปุดๆ หรอกนะ

แล้วก้อเตรียมเทเกร็ดขนมปังใส่จานไว้

ตั้งน้ำมันในกะทะให้ร้อนนนน ใส่น้ำมันกะพอให้ท่วมก้อนไอติมขนมปังของเรา (แอบเปลืองเนอะ แต่ทอดเสร็จ ก็เก็บน้ำมันไว้ทอดอย่างอื่นต่อได้ แต่ก็อย่าใช้จนน้ำมันดำปี๋ละ มะเร็งถามหาไม่รู้ด้วย)

พอทุกอย่างพร้อม ก็อันเชิญก้อนซาลาเปาของเราออกมาจากตู้เย็นได้ หุหุ

แกะ plastic wrap ออก แลวก้อเอาไปจุ่มในชามไข่ มห้ทั่วทั้งสองด้าน แล้วก้อย้านจากชามไข่ไปที่จานเกร็ดขนมปัง คลุกไปคลุกมาให้ทั่ว อย่าลืมนะคะว่าต้องทำอย่างรวดเร็ว เดี๋ยวไอติมจะละลายซะก่อน




พอเสร็จปุ๊บ ก็โยนลงกะทะเล้ยยยย (น้ำมันต้องร้อนก่อนนะคะ ถึงจะโยนลงได้ ไม่งั้นตายตอนใกล้จบไม่รู้ด้วยย)

ใช้ไฟกลาง เกือบแรงค่ะ ใช้เวลาทอดไม่เกินสองนาที พลิกกลับไปมาไม่น่าเกินสองสามครั้ง (ก้อนแรกนี่ มัวแต่ห่วงถ่ายรูป ไอติมเกือบเละแน่ะ ) พอเห็นว่าเป็นสีน้ำตาลก็รีบตักขึ้นมา

เสร็จแล้วจ้า ตกแต่งตามใจชอบ เรียกพ่อแม่พี่น้อง พี่ป้าน้าอา มาหม่ำๆ กันได้แล้วค้า






 

Create Date : 27 มิถุนายน 2551    
Last Update : 11 ตุลาคม 2551 11:24:20 น.
Counter : 1500 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

NiNg GaNooNg
Location :
Melbourne Australia

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Free


Melbourne, Australia Local Weather

Friends' blogs
[Add NiNg GaNooNg's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.