Bloggang.com : ลำเนา - tone for the rest of the day

เช้าวันที่ 15 ธันวาคม 2565
ขณะนั่งจิบกาแฟ และอ่านนิยายไปพลาง
หน้าจอมือถือปรากฏชื่อรุ่นน้องคนสนิท
น้องคนนี้ เคยมาขอให้เปิดไพ่ยิปซี
แล้วไพ่บอกว่า
แม่น้องจะเกิดอุบัติเหตุผ่าตัด
แล้วเกิดจริงตามนั้นในวันรุ่งขึ้นนั่นแหละ

นับแต่นั้น
รุ่นน้องก็จะพาคนมาให้ช่วยเปิดไพ่บ่อย ๆ
อย่างน้อยก็สัปดาห์ละ 2-3 คน

..

และก็ตามนั้น (อีก), รุ่นน้องเริ่มต้นคำถามว่า
วันนี้ทำอะไรบ้างคะ
ต่อด้วย
มีคิวว่าง เปิดไพ่ยิปซีมั้ยคะ

จริง ๆ สารภาพเลยว่า
ไม่อยากอ่านไพ่ให้ใคร วันนี้
แต่เกรงใจ
เลยบอกว่า
ก็ได้นะ แต่ขอเป็นช่วงบ่ายจัด ๆ ได้ไหม

รุ่นน้องมาบอกทีหลังว่า
เสียงพี่ งอแงมาก

แต่ก็รับแหละ เพราะเป็นคนรู้จักของรุ่นน้อง
และรุ่นน้องจะมาด้วย
เพื่อที่ว่า หลังจากอ่านไพ่แล้ว
รุ่นน้องชวนไปไหว้ศาลเจ้า ส่งท้ายปีเสือด้วยกัน
...

คนที่มาให้ช่วยอ่านไพ่วันนี้
มีวิถีชีวิตที่แปลกดี
และไพ่ก็ออกมาตรงตามนั้น
ตรงตั้งแต่ประโยคแรกที่อ่านไพ่เลยเชียว

ยิ่งอ่าน ก็ยิ่งใช่
ยิ่งอ่าน ก็ยิ่งสารภาพ

ทุกครั้งที่อ่านไพ่ให้ใคร
ฉันไม่เคยนึกตำหนิการใช้ชีวิตของใครเลย
ไม่ว่าจะเด็กสาววัย 25 ที่คบซ้อน 5 คน
พนักงานธนาคารสาวสวยที่มีโลก 2 ใบ
หรือชายหนุ่มที่รู้ดีว่า แฟนสาวขายบริการ
แต่เพราะเขาว่า เขารักหญิงสาวมาก
เขา, ชายหนุ่มคนนั้นจึงต้องเอาหูไปนา เอาตาไปไร่
และสารภาพว่า
เอาเงินหญิงสาวที่นางได้มาจากเหล่าชายอื่น
มาใช้ไปด้วยพลาง ๆ

สบายดีนะพี่ เขาเอ่ยอย่างนั้น
ยังจำได้
..

ทุกคน มีชีวิตของตนเอง
ตลอดทั้ง 500 กว่ารายที่ฉันอ่านไพ่ให้
ฉันเชื่อว่า ทุกคนมีเหตุผลเป็นของตนเอง
ดังนั้น จะทำอะไรก็ทำเถิด
เพราะทางแก้ ไพ่ก็บอกไว้ชัดเจน
และล้วนแล้วแต่เป็นทางแก้
ที่เป็นไปตามเหตุผลและศีลธรรม

ส่วนบอกแล้ว... จะทำหรือไม่
แล้วแต่เจ้าของชะตา

สิ่งเดียวที่ฉันได้รับจากการเปิดไพ่ทุกครั้ง
คือบทสรุปว่า เทียบกับคนอื่นแล้ว
ชีวิตฉัน
ดี๊ดี
...

เมื่อวานก็เช่นกัน, และเช่นเดิม
ที่เชื่อว่าน้องคนนี้จะต้องโทรมานัด
อีกรอบ
ทว่าฉันก็คงต้องหาทาง ปฏิเสธ หากทำได้
...
...

หลังเปิดไพ่ตั้งแต่ 11.00 – 13.00 น. ซึ่งนานมาก
ปานประหนึ่งเปิดไพ่การกุศล
ก็ถึงเวลาแยกย้าย

...
รุ่นน้องพาฉันไปกินขนมจีนในสวน
2 คน สั่งมากินแบบไม่ยั้ง
ขนมจีน เท่าคั่ว ไก่กอแระ ส้มตำไทย แกงหน่อไม้
418 บาท คุ้มมาก
ป้าคนขายลดให้ 18 บาทแน่ะ
ใจดีจัง

จากนั้นไปศาลเจ้า
ต้นเดือนนี้ บริจาคโลงศพ-ยาไปแล้ว 500
วันนี้เลยบริจาคอีก 500 บาท

จากนั้นไปไหว้เจ้า
สมทบค่าธูปเทียน 50 บาท
เสี่ยงเซียมซีตามวิถีอันควรทำเวลาไปไหว้เจ้า
ผลทายออกมา ดี
บอกว่า ที่ทำอยู่ดีแล้ว ทำต่อไป
ทำดี ดี ทำชั่ว ชั่ว

จากนั้นตรงไปตลาดผลไม้
เพื่อซื้อส้มไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือ กับศาลเจ้าแม่กวนอิม

ที่ศาลเจ้าพ่อเสือ
จัดส้ม 2 ถาด
บริจาคค่าธูปเทียน + น้ำมัน 50 บาท
บริจาคโลงศพ + ผ้าขาว 500 บาท
และร่วมสมทบจ่ายค่าน้ำค่าไฟอีก 200 บาท
เหตุผลเพียงเพราะคนช่วยงานในศาลเจ้าพ่อเสือ
พูดจาดี๊ดี
นั่นคือ สุภาพ ไม่มามะรุมมะตุ้ม
หรือขู่จะให้หยอดเงินลงตู้
...

ออกจากศาลเจ้าพ่อเสือเพื่อข้ามถนน
ไปศาลเจ้าแม่กวนอิมฝั่งตรงข้าม

ถือถุงส้มลงไป
ทันใด เจอการพูดจาที่ไม่ดีเลย
อาซิ่มตรงดิ่งมาเซ้าซี้ให้ไปจ่ายค่าธูปเทียน
พูดย้ำ 2-3 ครั้ง จนหันกลับไปตอบ

ไม่จุดธูปเทียนค่ะ
อยากมาถวายส้ม กับไหว้เท่านั้นค่ะ

ซิ่มสะบัดหน้าหนีไปเลย
...

ออกจากศาลเจ้าแม่กวนอิม ไปมูลนิธิอนาถา
ไหว้พระพิฆเณศวร กับ พระพรหม

บอกรุ่นน้องว่า ถ้าไหว้ศาลฮินดู
ให้ไหว้พระพิฆเณศวรก่อนเทพองค์อื่น ๆ
เพราะเพื่อนชาวฮินดูเคยบอกว่า
พระพิฆคเณศวรเป็นหัวหน้าของเหล่าเทพทั้งหลาย
จึงได้ชื่อว่า คณปติ Ganapathi แปลว่า
lord of the ganas
การจะทำพิธีบูชาใด ๆ จึงมีธรรมเนียม
เริ่มต้นด้วยการบูชาพระพิฆคเณศวรก่อนเสมอ
...

ธูปดำที่นี่ หอมมากจริง ๆ
และวันนี้ วันพฤหัสด้วย
วันดีในการไหว้พิฆเณศวร
...

ออกจากมูลนิธิอนาถา ไปศาลหลักเมือง
ปรากฏว่า ปิดแล้ว
เพราะปิด 16.00 แต่เรามาถึง 16.18
เลยไปไหว้ราหูที่ศาลจตุคามรามเทพ
...

จุดธูปที่นี่ 35 ดอกแน่ะ
และธูปดำก็หอมมากอีกแล้ว
คาดว่าจะต้องซื้อมาใช้บ้างแล้ว
หอมมากจริง ๆ

จากนั้นก็ไปซื้อข้าวสารเพื่อบริจาคให้คนชรา
แล้วก็กลับบ้าน
18.00 พอดี

เป็นวันแห่งความไม่อยากออกนอกบ้าน
แต่ออก เพราะความเกรงใจ
จนได้อิ่มใจ, และคล้ายได้ยินเสียงบางเสียง
ที่นุ่มนวลในหู เบา ๆ
...

เสียดาย ไม่ซื้อหวย!