Bloggang.com : ลำเนา - took it as learning experience

ว่าด้วยเรื่องกาแฟที่เข้าเส้นมาตั้งแต่อายุ 14
และปัจจุบันก็ยังคงเป็นเช่นนั้น
เคยตอบไว้ในกระทู้หนึ่งว่า
แต่ละวัน กินกาแฟกี่แก้ว
...
ตอนเช้าหลังตื่นนอน ต้มกาแฟสดเอง 1 เหยือกเล็ก
ตอนสาย ๆ ชง espresso 1 ช็อตคั่วเข้ม

ตอนบ่ายถ้าไปคาเฟ่
จะเลือก dirty coffee 1 แก้ว
ร้านประจำ dirty coffee ราคา 140 บาท
พอกินได้
อีกร้านที่อยู่ไม่ไกลบ้าน ราคา 120 บาท
ไม่ค่อยอร่อยนัก
สุดท้ายไปเจอร้านที่ขาย dirty coffee แก้วละ 80 บาท
3 ครั้งแรกที่ไป รสชาติอร่อยกว่า 2 ร้านแรก
แต่ปรากฏว่าไปกิน 2 ครั้งหลัง
รสชาติแย่ลงมาก ๆ
และบาริสต้าคนใหม่ก็ช่างเหวี่ยงวีนจนน่ากลัว

.
.

เอาจริง
ตั้งแต่มีแกร๊บส่วนตัว ก็มักชวนกันออกไปหากาแฟกิน
บางวัน นั่งตรวจอ่านงานจนตาล้า
ก็จะกริ๊งไปหาน้องแกร๊บข้างบ้าน

น้องว่างมั้ย ไปหากาแฟกินกัน

น้องเป็นแกร๊บจริง ๆ ใส่เสื้อเขียวนี่แหละ
แต่น้องจะรอรับงานอยู่ที่บ้าน
ถ้ามีงานใกล้บ้าน น้องก็กดรับงานทันที
ถ้าไกลบ้าน น้องก็ไม่ไป

ตอนหลังมารู้จักกัน เพราะสั่งอาหาร
แล้วเลยได้ผูกมิตรต่อกัน
เรียกใช้บริการเป็นส่วนตัว
ในราคาแกร๊บนี่แหละ

ความที่ไปส่งร้านกาแฟบ่อย ๆ
น้องเลยถามในวันหนึ่งว่า
กาแฟที่พี่กิน ต่างกันยังไง
สีดำเหมือนกัน แต่ทำไมพี่เรียกไม่เหมือนกันเลย
ยกเว้น dirty coffee ที่พี่ซื้อให้ลองกิน
นอกนั้น หนูแยกไม่ออกเลยค่ะ
มันดำไปหมด

เลยบอกน้องแกร๊บว่า
เรามาตั้งต้นกันที่หัวกาแฟนะคะ
หัวกาแฟ เรียกว่า espresso
สกัดหัวกาแฟเอาไปต่อยอดในทุกเมนูกาแฟค่ะ
ปกติพี่ก็กินเอสเปรสโซ่ สลับกับกาแฟดำ
ที่น้องเรียกเหมารวมว่า อเมริกาโน่ นั่นแหละ

ทว่า ความจริงแล้ว
กาแฟดำ มันต่างกันค่ะ

americano
=
espresso ตั้งต้น แล้วเติมน้ำร้อน
สัดส่วน 1:2, 1:3, 1:4 แล้วแต่เราเลย
ว่าจะให้กาแฟเข้มแค่ไหน

long black
=
น้ำร้อนตั้งต้น แล้วเติม espresso shot ตามลงไป
ผลคือจะมี crema บนผิวมากกว่า americano
และมีกลิ่นหอมมากกว่าด้วย

lungo (ลุงโก่)
เป็นภาษาอิตาลี แปลว่ายาว (long)
ก็คือการทำ espresso shot แต่ปล่อยให้น้ำไหลผ่าน
จนได้ปริมาณกาแฟที่ต้องการ
(บางคนเรียกว่า การลากน้ำกาแฟ)
รสชาติกาแฟจะ... เข้ม ขม
เอาว่าฝาดกว่า americano และ long black
เนื่องจากมีการสกัดกาแฟที่ใช้ระยะเวลานานกว่า

ส่วน black coffee หมายถึง
กาแฟดำที่ไม่ผสมอะไรเพิ่ม
วิธีการชงก็หลากหลาย
จะชงแบบไหนก็ได้ มีหลายอุปกรณ์และวิธี
ที่ไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์ใด วิธีการไหน
ก็คือการทำให้น้ำร้อนไหลผ่านเมล็ดกาแฟบด
จนออกมาเป็นกาแฟดำ 1 แก้ว
และจะไม่มี crema เลย

จำแนกแยกง่าย ๆ ว่า
americano กับ long black
จะมี crema ปะหน้า
ครีมาที่เกิดจาก espresso นั่นละ

...

สอนกาแฟแบบง่าย ๆ ให้กับน้องแกร๊บ
น่าจะกว่าครึ่งปีแล้ว
ดังนั้นเมื่อน้องแกร๊บไปเจอะเจอร้านกาแฟใด
น้องก็จะมาบอกและชวนไปลอง

วันนี้น้องมาชวนไปกินกาแฟที่คาเฟ่บนรถสวย ๆ
รถสีขาว
ที่เมื่อก่อนคือแผงขายน้ำริมทาง
ตรงตลาดเกาะกลางถนน ย่านมุสลิม
หน้าแบงค์สีม่วงแห่งหนึ่ง
แล้วเปลี่ยนมาเป็นรถคาเฟ่ หน้าตาน่ารัก
ติดประกาศว่า กาแฟสด

ไปยืนดู
อืมมมมมมม เห็น moka pot วางเรียง 3 ใบ
น่าจะโอเคอยู่นะ
เมนูน้อยมาก
ส่วนใหญ่คือ น้ำโซดาสารพัดส่วนผสม
เน้นติ่งฟงเป็นหลัก

เวลาสั่งก็ยืนบนพื้นทางเท้า
จึงเท่ากับยืนอยู่ต่ำกว่าเคาน์เตอร์ที่น้องใช้ชงกาแฟ
ดูอะไรไม่เห็นเลย
เลยสั่งง่ายสุดละกัน
อเมริกาโน่ร้อน
เพราะเป็นคนไม่กินกาแฟเย็น ๆ

ระหว่างรอ ก็ยืนมองนั่นนี่ไปรอบ ๆ
ก่อนจะหันไปเห็นน้องคนขาย
กดน้ำร้อนจากกระติกต้มน้ำ
ใส่แก้วชง
แล้วกวน ๆ คน ๆ กาแฟในนั้น

หืมมมมม ??
กาแฟสด หรือ กาแฟผงในขวด

...

....

moka pot วางเรียงไว้ประดับรถหรือคะ

เลยถามว่า อเมริกาโน่ ชงแบบนี้เหรอคะ
มันคือการชงกาแฟสำเร็จรูป
ใช่ไหม

น้องคนขายเงียบ
หน้าตาบึ้งตึงมาก ๆ แล้ว
แล้วน้องก็รินกาแฟดำ ๆ
ใส่ถ้วยพลาสติก
กาแฟร้อน? ใส่ถ้วยพลาสติก
ที่ไม่ใช่ถ้วยกระดาษ
ยิ่งไม่ต้องถามถึงถ้วยกระเบื้อง ถ้วยแก้ว

ก็เลยยิ้ม ๆ จ่ายไป 35 บาท แล้วรับมา

เดินไปหาน้องแกร๊บที่ซื้อลูกชิ้นปิ้งอยู่
เห็นถังขยะแล้วแหละ
แต่ขอจิบกาแฟดำสัก 1 ซิบ เหอะ

แค่ลองให้ได้คำตอบชัด ๆ
ก่อนจะทิ้งลงถังขยะตรงนั้นเลย

น้องใช้กาแฟผงสำเร็จ ไม่ว่า
กาแฟเปรี้ยว เหม็น จิบเดียวมึน ไม่ว่า
แต่อย่าโกหกคนซื้อ
ขอแค่นั้น

...

น้องแกร๊บหัวเราะเลย

แล้วเราก็กลับไปร้านกาแฟ
เจ้าประจำของเรา

ยืนมองเครื่องชงกาแฟ
ยืนสูดกลิ่นเมล็ดกาแฟหอม ๆ
และซื้อเมล็ดกาแฟ arabica 100% คั่วเข้ม
กลับบ้าน 1 ถุง 800 บาท

พร้อมบทเรียนว่า
อย่าลองไปทั่ว
เพราะเจอแบบนี้
แม้จะ 35 บาทที่เสียไป ก็ยังเสียดาย

พอถึงบ้าน น้องแกร๊บเอ่ยว่า
เซ็งเลยเนาะพี่เนาะ

ตอบว่า ไม่เป็นไร
จะได้อยู่บ้านชงกาแฟกินเองสักระยะ
เป็นการพักรักษาแผลใจ

บทเรียนว่า
ถ้าหลงรูป "รถน่ารัก" จะเจ็บเข้าไปถึงทรวง
เมื่อพบกับรสชาติที่ไม่เป็นสับปะรด

ฮือ ฮือ ฮือ