even in rainy days
ประตูที่ปิดตายบานนั้น ถ้าเคยเปิดมาแล้วครั้งหนึ่ง และวันนี้ ยังมีกุญแจอยู่ในมือ การจะเปิดประตูบานนั้นอีกครั้ง ... ก็แค่ต้องไขให้ถูกดอก, เท่านั้น . . . เมื่อคืนนอนตอน 3 ทุ่ม ท่ามกลางเสียงฝนกระหน่ำ
ตอนเช้าตื่นตี 5.15 ท่ามกลางเสียงฝนกระหน่ำ
รีบอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปเจาะเลือด เพราะวันนี้ นัดหมอตอน 9.45 น. สัก 6.45 น. โทรเข้าเบอร์รุ่นน้อง เพราะฝนยังตกพอสมควร พบว่ารุ่นน้องให้สามีน้องช่วยขับรถมาให้ (ที่นัดกันคือ ไปด้วยรถมอเตอร์ไซค์)
เจอสามีของรุ่นน้องคนนี้ 3-4 ครั้งแล้ว เป็นหนุ่มอิสานที่อัธยาศัยดีทีเดียว
ฝ่าฝนไปถึงโรงพยาบาล ตอน 7.15 น. บอกรุ่นน้องกับสามีน้องว่า กลับไปบ้านก่อนเลยนะ เพราะต้องรอนานแน่ หาหมอเสร็จแล้วจะโทรไปบอก
เดินไปแผนกเจาะเลือด วันหยุดจะเปิด 7.30 น. เลยวัดความดัน ชั่งน้ำหนักก่อนคนจะเยอะ แล้วเดินไปยื่นบัตรนัดเจาะเลือด
ได้เข้าเจาะเลือดเป็นคนที่ 3 เจาะเลือดแล้วก็ไปกินกาแฟที่ร้าน etc อเมริกาโน่ ร้อน 1 แก้วค่ะ น้องพนักงานถามเหมือนทุกที หวานมั้ยคะ ตอบเหมือนทุกที เอาแบบปกติที่ไม่หวานค่ะ
กินกาแฟ นั่งอ่านหนังสือ เดินกลับไปแผนกอายุรกรรม ยื่นบัตรตอน 9.00 เพื่อพบคุณหมอ 9.45 น.
ปรากฏว่า 9.30 ก็ได้พบคุณหมอแล้ว คุณหมอถึงกับทัก อ้าว ได้เจอหมอคนแรกเลยวันนี้ บอกคุณหมอว่า นั่นสิคะ แต่ดีนะคะ
คุณหมอบอกว่า น้ำตาลดี ตับดี ไตดี ไขมันดี แต่ทำไมไตรกีเพิ่มขึ้นเป็น 159 ได้เล่า (มันควรต้องต่ำกว่า 150)
คุณหมอนั่งทวนว่าอะไรกินได้ไม่ได้ เหล้าไม่ดื่มแน่นอน ปลาหมึก หอย ปู กุ้ง ก็ตัดญาติขาดมิตรแล้ว ทำไมไตรกีขึ้น
สรุปว่านึกออกในกาลต่อมา อ๋อ กินเต้าหู้ทอดตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา คือ กินทุกวันอังคาร และศุกร์ ที่รุ่นน้องขายหน้าบ้าน ส่วนวันอื่น กินน้ำเต้าหู้มาหลายเช้าแล้ว และยังกินคู่กับปาท่องโก๋ด้วย
กับล่าสุด สัปดาห์นี้ กินข้าวต้มมัดกะทิเน้น ๆ ถั่วหนัก ๆ ที่ป้าข้างบ้านทำขาย 3 วันติด
คุณหมอบอก ถั่วกับกะทิ จำได้มั้ย ผมห้ามกินไงครับ เลย ฮือ ฮือ รู้สึกสอบตก
คุณหมอชวนคุยอีกนิดหน่อย แล้วก็ยกมือไหว้ลากัน เจอกันใหม่อีก 2 เดือนค่ะ
...
เดินมาแผนกการเงิน ผ่านแผนกเวชสำอาง จำได้ว่าน้องคนขายเวชสำอาง นิสัยดี เลยช่วยอุดหนุนครีมกันแดดกับน้อง แม้ราคาจะแพงกว่าอเมริกาหลายเท่า แต่ก็ถูกกว่าซื้อในห้าง
จ่ายค่าตรวจเลือด + พบหมอ 1,900 บาท ค่าครีมกันแดด 1 หลอดจิ๋ว 1,200 บาท จบข่าววันฝนตก
. .
จ่ายเงินแล้วก็คิดว่าจะไปไหนดีนะ เกรงใจคนมารับ เพราะวันนี้ได้พบหมอเร็วมาก แต่ก็นึกไม่ออก เลยโทรบอกรุ่นน้อง
รอแป๊บเดียว รุ่นน้องกางร่มมารับแล้ว เดินไปขึ้นรถสามีรุ่นน้อง ฝนตกหนักขึ้น
รุ่นน้องชวนไปกินมื้อใกล้เที่ยง จบที่ก๋วยเตี๋ยวหมูย่างร้านดัง และกินโอเลี้ยงยกล้อ เย็น ๆ ครั้งแรก หวานแหลมปะแล่ม ๆ ไม่อร่อย ก๋วยเตี๋ยว 3 ยกล้อ 2 124 บาท ถูกมาก
กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จ ฝนยังตก ชวนกันไปหาขนมหวาน แต่ดูรีวิวแล้วไม่ถูกใจ ที่สุดก็จบลงที่คาเฟ่สไตล์สวนญี่ปุ่น ดูจากรีวิวอีกนั่นแหละ แต่ไม่ไกล เลยไปได้ง่าย
ฝ่าฝนไปถึงคาเฟ่ สถานที่โอ่โถงเหมือนวัดญี่ปุ่นเลย ชอบอะ แต่กาแฟไม่อร่อยเท่าที่คิด
ค่ากาแฟ 3 แก้ว + ขนม 2 ชิ้น 505 บาท นับว่าแพงเกินรสชาติ แต่บรรยากาศดี
และที่คาเฟ่แห่งนี้ ก็พบว่า แทบจะเป็นสังคมไร้เงินสดแล้ว เพราะน้องพนักงานไม่มีเงินทอนเลย ถ้าจะจ่ายเงินสด ต้องจ่ายเป๊ะ ๆ เพราะไม่มีเงินทอน
ตอนซื้อชุดน้ำมันหอมระเหยกับยาดมเท่ ๆ 368 บาท ก็ต้องจ่ายเงินสดเป๊ะ ๆ เช่นกัน เพราะคาเฟ่นี้รับโอนอย่างเดียว ไม่รับบัตรเครดิตด้วย
เอากะเค้าสิ อย่างโหด
น้องพนักงานถามว่า ทำไมพี่ไม่โอนคะ บอกว่า พี่ไม่ชอบโอนเงินค่ะ แค่นั้น
. .
นั่งที่คาเฟ่นั้นประมาณ 45 นาที ดีนะ ชอบแหละ คาดว่าจะกลับไปอีกได้เรื่อย ๆ แต่ต้องไม่ลืมแลกแบงค์ย่อยไปด้วย
ไม่งั้นอด
. ..
Create Date : 03 ธันวาคม 2565 |
Last Update : 3 ธันวาคม 2565 15:04:49 น. |
|
0 comments
|
Counter : 262 Pageviews. |
 |
|
|
| |
|
|