โปรดจงทำเหมือนฉันไม่คิดอะไร
สมมุติว่าเขาต้องการดื่มน้ำ วันละ 8 แก้ว เราเอาน้ำเทใส่เขา วันละถัง เขาก็ต้องการดื่ม 8 แก้ว หรือเอาน้ำให้เขา วันละ 1 แก้ว เขาก็ต้องการดื่ม 8 แก้ว ถ้าเขาคิดถึงเรา ไม่ว่าเราจะตาม หรือไม่ตาม เขาก็จะคิดถึงเท่าเดิม ถ้าเขาไม่คิดถึงเรา ต่อให้เราวิ่งตาม หรือเราหายไป เขาก็ไม่ได้คิดถึงอยู่ดี . .คุณสมาชิกหมายเลข 7198937 ตอบไว้ในกระทู้นี้ https://pantip.com/topic/42044207 เมื่อวานวันที่ 1 มิถุนายน เดินออกไปไขตู้รับจดหมาย เจอกับจดหมายแจ้งจากธนาคาร ว่า chase จะคิดเงินค่าตู้นิรภัย 70 เหรียญต่อปีนับจากสิ้นเดือนนี้ ถึงกับงง และเลยโทรไปยัง call center เจ้าหน้าที่บอกว่า ธนาคารยกเลิกการให้บริการใช้ตู้นิรภัย ฟรี สำหรับบัญชีที่มียอดฝากสูงกว่า 1 แสน 5 หมื่นเหรียญแล้ว ถึงกับงงรอบ 2 และบอกว่า ไม่เคยได้รับจดหมายแจ้งใด ๆ เลย เจ้าหน้าที่ก็ขออภัย แล้วก็วางสายกัน นั่งนึกไปนึกมา ว่าก็แล้วทำไมต้องจ่ายค่าธรรมเนียม เพราะที่ใช้ก็แค่ใกล้บ้าน และฟรี เลยคว้ากุญแจฝ่าฝนพรำไปธนาคารหน้าปากซอย เจ้าหน้าที่การเงินเดินมาช่วยดำเนินการปิดตู้นิรภัยหมายเลข 1089 ทุกอย่างเสร็จสรรพในเวลาไม่ถึง 15 นาที รวมการไปเอาเอกสารและสิ่งของออกมาจากตู้ 1089 ก่อนจาก เจ้าหน้าที่บอกว่า ผมอยากยกยอดค่าธรรมเนียมให้มาก เพราะเข้าใจดีว่า ที่คุณรักษายอดเงินไว้ ทั้งที่ดอกเบี้ยยังกับผงฝุ่น เป็นเพราะเรื่องบริการให้ใช้ตู้นิรภัยนี่แหละ เลยตอบว่า เข้าใจดี และยกเลิกบริการให้ใช้ฟรี แบบนี้ก็ดีนะ จะได้ถอนเงินไปซื้อหุ้นให้หมด แล้วเลยถามว่า ทำไมถึงยกเลิกบริการนี้ล่ะ ริกกี้ตอบว่า เพราะประกันไม่ครอบคลุม และรัฐบาลต้องการตัดการซ่องสุม เก็บอาวุธปืน ไว้ในตู้นิรภัย อีกอย่างคือ ตัดการเก็บซ่อนเงินสด ก็อืมมม เข้าใจ และเข้าใจเลย เพราะฉันไม่มีปัญหานั้น ฉันแค่ใช้เก็บเอกสารสำคัญ กับเครื่องประดับบางส่วนเท่านั้น กลับบ้านแล้วก็คิดว่าจะทำอย่างไรดี เลยเริ่มแยกประเภทเอกสาร และจัดแยกเครื่องประดับ พบว่า มันก็ไม่ได้ยากอะไร ไปเก็บไว้ในตู้เซฟที่ธนาคารไกลออกไป ซึ่งมีบัญชีฝากประจำ อย่างน้อยก็ราคาค่าธรรมเนียมก็ถูกกว่า chase ที่ใช้บริการเพราะเป็นธนาคารที่ใกล้บ้านที่สุด แบบเดินถึงนั่นแหละ ก็เลยจบเรื่องไปง่าย ๆ พอวันนี้ 2 มิถุนายน 2023 ตอนบ่าย 3 นั่งดูซีรีส์เรื่อง lady of the dignity ป้าจิ๋วโทรมา ด้วยเบอร์บ้าน ... เสียงเหมือนร้องไห้เลย สรุปได้ความว่า ป้าไปเดินซื้อของ แล้วกระเป๋าหายทั้งใบ โดยเฉพาะกระเป๋าสตางค์ใบใหญ่ ที่เก็บทุกสรรพสิ่งสำคัญในชีวิต สารพัดบัตรทุกเรื่อง หายไปกับกระเป๋าใบนั้น รวมทั้งบัตรเสริมในการเข้าชมสวนญี่ปุ่น และนอร์ตันมิวเซียม ที่ฉันให้ป้าไว้ใช้ รวมถึงไอโฟนรุ่น 2-3 ปีก่อน แต่เป็นเครื่องใหม่ ที่ป้าเพิ่งซื้อมาแทนอันเก่าที่หมดสภาพ บอกป้าว่า ไม่เป็นไรค่ะ ฟาดเคราะห์ไปแล้ว แค่โทรแจ้งพวกสารพัดบัตร ให้ครบก็จบแล้วค่ะ และป้าต้องทนยุ่งยากกับการไปทำบัตรใหม่ ทั้งหมด ป้าบอกว่า คนร้ายได้เงินสดไปด้วย 300 เหรียญ และมีการเอาบัตรไปรูดซื้อของ 2 แห่ง นั่นคือ 250 เหรียญ ที่ walmart กับ 75 เหรียญ ที่ wallgreens เรียกว่า รูดบัตรในทันทีที่ขโมยไปได้ เจ้าหน้าที่บัตรเครดิตบอกป้าตอนโทรไปแจ้งว่า ขโมยเพิ่งรูดใช้ไปเมื่อ 20 นาทีก่อนป้าจะโทรมานี่เอง ป้าบอกว่า นั่นแหละ หายทั้งกระเป๋าเวลานั้นพอดี ยังดีที่กุญแจรถอยู่ในเสื้อกันหนาว เลยกลับบ้านได้ทันมาโทรอายัตบัตร จากนั้นป้าก็ขับรถไปธนาคารข้างบ้าน เพื่อจัดการเรื่องบัญชีธนาคาร เพราะในกระเป๋ามี ATM และสมุดเช็คด้วย รวมถึงบัตรรับเงินคนแก่ที่ป้าได้จากรัฐบาล ก็สรุปว่า ต้องอายัตทุกอย่าง และทุกที่จะส่งเลขบัญชีและบัตรใหม่มาให้ ยกเว้นธนาคารที่ป้าต้องเอาใบขับขี่ใบใหม่ ไปยืนยันตัวตน เพื่อเปิดบัญชีหมายเลขใหม่ ดังนั้น ส่วนที่ต้องเร่งทำคือ ใบขับขี่ กับใบ SSN และบัตร madicare ของป้า กับบัตรเรียกใช้บริการรถโดยสารของรัฐ บอกป้าว่า ตอนนี้ป้าไม่มีใบขับขี่ จะไปไหน บอกมานะคะ ป้าบอกว่า วันจันทร์ว่างมั้ยคะ จะขอให้พาไปทำใบขับขี่ใหม่ บอกป้าว่า ได้เลยค่ะ ว่างเสมอ ป้าบอกว่า จะต้องทำงาน หรือมีนัดอะไรอยู่แล้วมั้ยคะ บอกป้าว่า ไม่มีค่ะ ไปได้ค่ะ ไม่ไกลบ้านเราสองคนด้วย แค่ 8 ไมล์ และงานเลื่อนไปได้ค่ะ ตอนนี้งานไม่สำคัญเท่ากับพาป้าไป แล้วป้าก็ร้องไห้ คงจะตกใจ ขวัญเสีย ว้าวุ่น และวุ่นวาย ปล่อยให้ป้าร้องไห้ตามสายสักพัก แล้วเลยถามป้าว่า วันเสาร์-อาทิตย์นี้ อยากไปไหนบ้างคะ ต้องไปตลาดมั้ยคะ ป้าตอบว่า ป้าไปตลาดมาแล้ว ก่อนกระเป๋าหาย เลย อืมมม นึกได้ว่า วันพรุ่งนี้ 3 กับ 4 มิถุนายน มีงาน art and craft ตรงย่าน old town เลยถามว่า ป้าอยากไปเดินมั้ยคะ จะได้ไม่เครียด ไม่หมกมุ่นกับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว ป้าปล่อยโฮอีกรอบ ... ป้าบอกว่า ทำไมคนในครอบครัวถึงไม่เคยคิดแบบนี้ มีแต่ด่าซ้ำ มีแต่บอก ชั้นบอกแกแล้ว ผมบอกพี่แล้วให้ระวัง ฟังแล้วก็เงียบ ..... พอป้าสะอื้นจางลง ก็บอกว่า ไม่เป็นไรค่ะป้า พรุ่งนี้สาย ๆ หนูไปรับที่บ้าน เราไปเดินเล่นกันนะคะ ป้าบอกว่า ยังไม่มีบัตรเครดิตใบใหม่ และไม่มีเงินสดติดตัวเลย บอกป้าว่า เราไปเดินเฉย ๆ ไงคะ แล้วหนูก็เลี้ยงข้าวป้าได้นะคะ ... หนูเลี้ยงได้แน่นอนค่ะ ไปกันค่ะ ไปกัน ... ไปปล่อยความทุกข์ใจนะคะ ใครจะพูด ใครจะคิดอย่างไร ใครจะอะไร ๆ เราแค่ทำทุกทางให้ใจเราสุขค่ะป้า เราแค่ต้องอยู่อย่างสุขใจให้ได้ มากหรือน้อย เราก็ต้องสุขกับมัน
Create Date : 03 มิถุนายน 2566
Last Update : 3 มิถุนายน 2566 23:59:46 น.
Counter : 149 Pageviews.
เราต่างเข้าใจในแบบของตัวเอง
อักษรตัวหนาในหน้า ... [07] เมื่อลืมตาตื่น โลกยังคงเป็นไป [20] ทุก ๆ วันมีใครบางคนหายไป [26] เป็นปกติเหมือนหลายสิบปีก่อน [27] ไม่มีอะไรเลวร้ายกว่านี้ [32] เราเอนกายลงนอนอีกครั้ง : : มาจากในหน้าหนังสือเล่มนี้ หนก่อนหนล่าสุดที่ไปสปา เจอ 2 หญิงอาร์มีเนี่ยน เอามือถือเข้าไปในห้องออนเซ็น เลยบอกพนักงาน ที่ก็เดินไปเตือน หญิง 1 ในนั้นหันมาถาม ยูเป็นคนบอกเหรอ ตอบว่า ใช่ เพราะมันผิดกฎ และมีป้ายประกาศอยู่ ชี้ไปให้ดู หญิงคนนั้นถามว่า ยูเป็นประธานของที่นี่เหรอ ตอบว่า เปล่า เป็นคนมาใช้บริการธรรมดา ๆ คนหนึ่ง หญิงคนนั้นบอก ชั้นก็เป็นเช่นนั้น ตอบว่า นั่นสิ ดังนั้น เราควรเคารพกฎกติกา นางสะบัดหน้าพรืดด้วยความโกรธ แต่ฉันส่งยิ้มกลับไปให้ .... วันที่ไปเดินดูงานของจอร์เจีย โอคีฟ ที่มิวเซียมศิลปะของซานดิเอโก หลังจ่ายค่าบัตรคนละ 30 เหรียญ ก็เดินอยู่ 2 ชั่วโมง ก่อนกลับ เจอคนชั้น 2 เดินไปชูมือถือออกมากดถ่าย กลางโถงหลัก เพื่อถ่ายรูปคนที่ยืนชั้นล่าง ได้ยินเจ้าหน้าที่ในชุดดำบอกว่า ห้ามชูมือถือออกไปถ่ายรูปกลางอากาศ เพราะหากร่วงหล่นลงไป สัญญาณกันขโมยจะดัง และตำรวจจะมาทันที คนที่ถือมือถือ กล่าวว่า ขอบคุณที่ตักเตือน และเดินต่อไป ฉันยืนมองกับเพื่อน แล้วยิ้มให้กัน พอกลับถึงบ้าน เพื่อนถามว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไหร่ บอกเพื่อนว่า เดี๋ยวส่งให้นะ กดหน้าจอของบัตรเครดิตให้เพื่อนรวมยอด เพื่อบอกว่า ออกมาทั้งสิ้น 600 เหรียญ ค่าโรงแรม ค่ากิน ค่าชากาแฟ ค่าตั๋ว ค่าน้ำมันรถ เพื่อนบอกว่า เดี๋ยวโอนให้คนละครึ่งนะ บอกเพื่อนว่า ไม่เป็นไร เราเลี้ยง ไว้เธอค่อยเลี้ยงอาหารเราสักมื้อละกัน เพื่อนบอกว่า ได้ ได้ เหตุผลไม่มีอะไรมาก แค่เพราะ 'เพื่อนเป็นเพื่อนที่ดี' ตลอดมา ... เมื่อ 7 วันก่อน นัดไปกินมื้อเที่ยงกับเพื่อน ที่ร้าน Bottega Louie ในดาวน์ทาวน์แอลเอ ที่จริง ว่าจะจอดรถบ้านเพื่อน แล้วเดินไป เพราะห่างจากบ้านเพื่อนแค่ 1.7 ไมล์ แต่เพราะเพื่อนมาสาย และเพื่อนหิว เลยตกลงว่า ไปจอดรถแบบจ่ายเงินในดาวน์ทาวน์ ฝั่งตรงข้ามร้าน มีตึกจอดรถ ทุก 12 นาที 2 เหรียญ เลยตามนั้น แต่กว่าจะจอดรถได้ ก็ขับวนไปจนถึงชั้น 4 และพบว่า ลิฟต์ไม่ทำงาน บอกเพื่อนว่า ดีแล้ว เราจะได้ออกกำลังขาไง เพื่อนหัวเราะแหะ ๆ และเดินข้ามถนนไปถึงร้านที่พอดีเที่ยงตรง คนเยอะมาก และทุกคนอยู่ในชุดสูท คาดว่าเป็นคนที่ทำงานในดาวน์ทาวน์นั่นแหละ สั่งสลัด Louie และพิซซ่า Napoli กับขนมหวาน Tiramisu ปรากฏว่า สลัดอร่อยมากกกก มากเลยแหละ แต่พิซซ่าแม้จะทำสด ๆ ตรงหน้า ก็จืดชืดนิดหน่อย ขนมหวานก็ไม่ได้ดีอะไรมาก บรรยากาศก็ดังมากกกกกกกก แบบ ก ไก่ ล้านตัว เพราะคนเยอะ เพดานร้านสูง เสียงเลยก้องกังวานจนต้องนั่งเงียบ ๆ ทว่า ... ประทับใจกับบริการ จบที่จ่ายคนละครึ่ง ด้วยบัตรเครดิตของใครของคนนั้น ร้านนี้คิดทิปแล้วในบิล แต่เพราะประทับใจ เลยเพิ่มทิปให้อีกคนละ 5 เหรียญ เท่ากับจ่ายไปคนละ 35 เหรียญพอดี มีพิซซ่าอีกครึ่งถาด + ขนมที่กินไม่หมด บอกเพื่อนว่า เอาไปให้ลูกสาวเพื่อนได้เลยนะ เพื่อนขอบคุณ พอไปถึงที่จอดรถ เจอค่าจอดรถ 14 เหรียญ บอกเพื่อนว่า ฉันจ่ายเองนะ เพราะเพื่อนอุตส่าห์ไปรับมา กลับบ้าน เพื่อนส่งรูปลูกสาวกินพิซซ่า แล้วฝากข้อความเสียงมาว่า อร่อยมากค่ะ ... เป็นเด็กนี้ ดี กินอะไรก็อร่อยไปหมด ... อย่างอื่น ไม่ได้ทำอะไรอีก เลือกรูปจากนิตยสาร มาเปลี่ยนรูปในกรอบ ทั่วบ้าน ออกมา สวยดี เป็นไปในโทนเดียวกัน นอกจากนั้นก็อ่านหนังสือ แล้วจู่ ๆ นักเขียนที่ช่วยตรวจปรู๊ฟให้ก็ส่งข่าว บอกว่า นิยายเรื่องนั้น วางขายไป 20 วัน ได้ยอดดาวน์โหลด 3,000 ครั้งแล้ว คิดจากราคาโปรโมชั่น คือ 680,000 บาท โว้ววววววว ... อยากเป็นนักเขียนออนไลน์เลยเชียว
Create Date : 01 มิถุนายน 2566
Last Update : 1 มิถุนายน 2566 3:30:16 น.
Counter : 229 Pageviews.
ดีใจ 1 วัน = มีความสุข 1 วัน
3 วันก่อน จู่ ๆ อากาศก็กลับมาตกลงสู่เลขตัวเดียว อีกรอบ แล้วเช้านั้น ป้าจิ๋วก็โทรมาบอกว่า ... อยากกินซุปหัวหอม แปลว่า ป้าอยากไปนั่งกินในร้านฝรั่ง ถามว่า ป้าอยากจะไปเมื่อไหร่คะ ป้าบอกว่า มื้อบ่ายวันนี้เลยมั้ย เหลือบมองงานพิสูจน์อักษรในมือ มีงานเร่งอยู่ 2 เรื่อง เรื่องหนึ่ง กำหนดส่งวันที่ 20 อีกเรื่อง กำหนดส่งวันที่ 24 แต่ตอบป้าว่า ได้ค่ะ แล้วย้ำ งั้นเดี๋ยวไปรับที่บ้านป้า สักเที่ยงครึ่งนะคะ ป้าบอกว่า ป้าจะขับรถโบราณของป้าไปจอดหน้า cvs เพราะป้าเกรงใจที่ต้องไปรับถึงบ้าน ทุกที ให้ไปเจอกันที่นั่น บอกป้าว่า บ้านเราห่างกันแค่ 6 ไมล์เองนะคะ แค่นี้เอง ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย แต่ป้าก็ยังยืนยันเช่นเดิม เลยตามใจป้า นั่งอ่านงานไปเรื่อย ๆ เพราะดีที่เป็นคนอาบน้ำแต่งตัว เตรียมตัวเองพร้อมตั้งแต่ 8 โมงเช้าของทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ เคยถามว่า ไม่ได้ออกไปทำงานออฟฟิศ ทำไมแต่งตัวพร้อมทุกวัน ตอบเพื่อนว่า แค่เดินออกไปไขตู้รับจดหมาย ก็ถือว่าออกจากบ้าน ออกจากบ้านทุกก้าว ต้องพร้อมไหมอะเธอ ... พอเที่ยง 15 ก็คว้ากุญแจรถ cvs ห่างจากบ้าน แค่ 2 ไมล์ ไปถึงก็เห็นรถโบราณของป้า จอดอยู่ข้าง ๆ ดงกุหลาบขาว บอกป้าว่า วันนี้จะไม่พาไปร้าน black cow ที่ป้าชอบ แม้ที่นั่นจะมีซุปหัวหอมที่ป้าโปรดปราน เพราะวันนี้อยากจะป้าพาไปชิมซุปหัวหอม ในร้านฝรั่งเศสใกล้ ๆ ตรงนี้ ห่างออกไปไม่ถึง 2 ไมล์เองนะคะ ชื่อร้าน france cafe ตั้งอยู่บน foothill blvd. นี่แหละ ป้ามีอาการงอแงนิดหน่อย กลัวจะไม่อร่อย เกลี้ยกล่อมป้าว่า ลองค่ะลอง ไม่อร่อย เราก็ไม่ต้องกลับไปอีก แต่ถ้าอร่อย เราจะได้มีร้านใกล้บ้าน ใกล้กว่าร้านเดิมไงคะ ขับรถออกจาก cvs ไป 2 ไมล์ ประมาณ 3 - 4 ไฟแดงสั้น ๆ เลี้ยวเข้าลานจอดรถทางขวา ว้าว ร้านเล็กมาก ๆ มีเพียง 2 โต๊ะใหญ่ และ 2 โต๊ะเล็ก สมกับเป็นคาเฟ่จริง ๆ ทว่า ก็แสนจะมีความเป็นฝรั่งเศสทั่วทั้งร้าน โดยเฉพาะเชฟ พนักงาน และแคชเชียร์ สุดยอดเลย และก็มีรายการอาหารพิเศษประจำวันด้วย ถูกใจแล้ว นั่งคุยกับป้าไปพลาง มองภาพเขียนของแวนโก๊ะไปพลาง สวยดี แล้วก็เห็นสินค้าสไตล์ชาวฝรั่งเศสโบราณ วางขายอยู่หลายอย่าง รวมถึงซอสแบบฝรั่งเศสหลายขนาน ตอนนี้ป้าจิ๋วเงียบกริ๊บแล้ว เพราะถูกใจเช่นกัน หลังจากสั่งกาแฟคนละแก้ว ก็สั่งอาหาร แน่นอนว่า ป้าต้องกินซุปหัวหอม ส่วนฉัน กินเมนูพาสต้าของเชฟวันนี้ อร่อยดีนะ ... ชอบแหละ แต่ก็เห็นร้านปิดวันอาทิตย์ พร้อมเขียนกำกับว่า ทุกวันอาทิตย์ ไปเจอกันได้ที่ตลาดชาวนา ก็เลย อืมมมม น่าสนใจ .. พอจ่ายเงินแล้ว กิน 2 คน 2 เมนู คือ 82.79 เหรียญ รู้สึกว่า แพงแฮะ เพราะของป้า แค่ซุปหัวหอมถ้วยเดียว จึงจัดว่าแพง! รวมทิปแล้วเกือบจะ 100 เหรียญเชียว แต่ก็โอเค ทว่าป้าบอก คราวหน้าเรากลับไป black cow กันเหอะ ... ผ่านมา 3 วัน คราวหน้าของป้าจิ๋วก็มาถึง ป้าจิ๋วโทรมาตอนเช้า บอกว่าทำน้ำสลัดแขกมาให้ และถ้าว่างวันนี้ อยากไป black cow เพราะยังมีความอยากซุปหัวหอม เลย ไปก็ไปค่ะ ขับรถพาป้าไปกินซุปหัวหอม ไปถึงร้าน คนเยอะมากเช่นเดิม หนนี้ป้าสั่งแซนด์วิชเนื้อ + สลัด และแน่นอนว่า จะต้องมีซุปหัวหอมเป็นนางเอก ส่วนฉันสั่งข้าวรวมธัญพืช ราดกุ้งไดนาไมต์ ปรากฏว่า ขณะกิน ฉันเจอเส้นผมขนาด 1 เซนติเมตร ในจาน, ถึงกับหัวเราะ และสะกิดบอกพนักงานชายชรา ... พนักงานขอโทษ ยกจานนั้นออกไป ถามว่า จะสั่งแบบเดิม หรือจะสั่งเมนูอื่น ได้ทั้งหมด เกรงสั่งเมนูเดิมจะสะอิดสะเอียน ครั้นจะสั่งเมนูอื่นก็หมดความอยากกินแล้ว เลยไม่ได้สั่งอะไร แบ่งสลัดของป้ามากิน 3 คำ และหั่นแซนด์วิชครึ่งนึงมากินพลาง ๆ แล้วสั่งเอสเปรสโซ่ร้อนมา 2 ช็อต ตอนจ่ายเงิน พนักงานไม่ได้คิดค่าอาหารในส่วนของฉัน ทุกรายการเลย ข้าว + กาแฟ และพนักงานยังเอาเค้กกล้วยหอมมาให้ 1 ปอนด์ บอกว่า โปรดรับไว้ด้วย นี่เป็นคำขอโทษจากทางร้าน ฉันก็ ... ไม่กินขนมอบเป็นทุนเดิม แต่ก็ยอมรับมา และ (แวะไป) ให้กับเพื่อนอีกคนแล้ว ... ป้าจิ๋วหัวเราะ และว่า นี่ไงเสน่ห์ของร้านในอเมริกา จากนั้น ก็ควรจะต้องไปส่งป้า ที่รถป้าจอดไว้อยู่ แต่พอป้าได้ยินว่า ฉันจะไปเดินที่ home goods เพื่อซื้อชั้นไม้มาตอกติดผนัง เพื่อจะวางกล้องหุ่นยนต์ (กล้องวงจรปิด) ป้าก็ขอไปด้วย, เลยพาป้าไปด้วย และมั่นใจว่า ป้าน่าจะซื้อเยอะ แล้วก็จริง ป้าชอบซื้อของใช้ในบ้าน ตามประสาอดีตนักตกแต่งภายใน ที่จบช่างศิลป์มาก่อน เดินซื้อของกับป้า แบบต่างคนต่างเดิน เดินแยกกันจนครบชั่วโมง จากนั้นก็พาป้าไปส่งที่รถของป้า แล้วกลับบ้าน, มือเปล่า เพราะสิ่งที่ตั้งใจไปซื้อ ไม่มีชิ้นไหนถูกใจ ส่วนป้าที่งอแงขอติดสอยห้อยตามไปด้วย กลับได้ข้าวของมา 2 ถุงใหญ่ ๆ .... คิดแล้วก็ขำ ๆ แหละ แต่เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขดี และดีใจ ที่ได้พาคนแก่วัย 77 ไปโน่นมานี่ ดั่งใจ "ป้า" ปรารถนา, เสมอ ๆ
Create Date : 14 พฤษภาคม 2566
Last Update : 14 พฤษภาคม 2566 9:35:50 น.
Counter : 316 Pageviews.
รอกางใบเรือเมื่อลมพัด
เกือบเป็น 2 อาทิตย์แห่งการเข้าสังคม เริ่มจากนัดเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนาน 4 ปี จากนั้นก็นัดเจอเพื่อนรุ่นพี่ เพื่อฟื้นฝอยเรื่องราวเก่า ๆ แล้วก็ไปปาร์ตี้จัดสวนไม้อวบน้ำ ในขวดโหล ... แล้วก็ไปกินข้าวกับเพื่อน และแฟนเพื่อน ติดตั้งกล้องวงจรปิดแบบหมุน 360 องศา 3 ตัว ในบ้าน หน้าประตูหน้า และในโรงรถ ก่อนจะตั้งสติแป๊บนึง แล้วไป "สถานกงสุล" เพื่อลงลายมือชื่อในเอกสารสำคัญ ของชีวิต 10 พฤษภาคม 2023 ... จู่ ๆ เพลงนี้ก็ดังเข้ามาในสมอง และสองหู we were good, we were gold we were right 'til we weren't built a home and watched it burn started to cry, but then remembered i can buy myself flowers ... วันนี้ วันศุกร์ หยิบเสื้อสีขาวมาใส่กับกางเกงยีนส์ เดินดูดอกไม้สดในบ้าน และนอกบ้าน ดอกไม้บนโต๊ะกินข้าวในรูป คือดอกเบบี้คาร์เนชั่นสีแดง หน้าตาสงบเสงี่ยมดี และทนนานด้วย เปลี่ยนน้ำมา 3 หนแล้ว ยังบานสวย ... วันนี้ไม่ทำงานพิสูจน์อักษร เพราะเหมือนสติจะกระเจิดกระเจิงนิดหน่อย เลยตั้งใจเก็บงานในบ้านให้เสร็จ นั่นคือ การห่อของขวัญให้ป้า ป้าเปรยว่าจะต้องเอาของขวัญ วันแม่ ไปให้คนสูงอายุที่สนิทกับป้า เลยช่วยรับเอามาห่อ เพราะป้าเริ่มจะทำอะไรไม่ไหวแล้ว บอกป้าว่า ถึงหนูไม่ได้จบช่างศิลป์เหมือนป้า แต่หนูก็ห่อของขวัญได้สวยน้าาาาา ... อารมณ์สมัยสาว ๆ เคยไปเรียนห่อของขวัญ ในร้านขายเครื่องเขียนตรง pasadena และยังพอหลงเหลือความรู้ติดสมองอยู่บ้าง หนนี้ ห่อให้เทศกาลวันแม่ เน้นสีชมพู คิดว่าถ้าใช้ดอกไม้สดมาตกแต่งบนกล่องของขวัญ แทนการใช้โบว์หรือผ้าทอ ดอกไม้สดจะต้องเละก่อนถึงวันอาทิตย์ แน่นอน คิดแล้วเลยคว้ากุญแจรถ สะพายกระเป๋าผ้าสีน้ำเงิน ออกไปซื้อดอกโบตั๋น สีชมพู ที่จริงในบ้านมีดอกโบตั๋นสีแดง เป็นดอกสดที่เก็บไว้จนแห้ง ห้อยช่ออยู่ตรงขอบหน้าต่างห้องน้ำแขก ชั้นล่าง แต่นึกไม่ออกว่าเคยซื้อโบตั๋นสดมาจากที่ไหน จำไม่ได้ แต่ฤดูกาลนี้ ไม่มีโบตั๋นดอกไม้สด เลยนึกว่า มันมีดอกโบตั๋นที่ทำได้เหมือนจริงมาก ๆ นี่นา และเคยเห็นขายที่ home goods อยู่ช่วงหนึ่ง เลยออกจากบ้านไป home goods ที่เมือง la canada ... แต่ที่สุดก็ไม่ถูกใจ มันสวย มันสวยมาก เหมือนจริงสุด ๆ แต่ราคาลดแล้ว ยังตั้ง 29.99 เหรียญ ด้วยเหตุว่าไม่ได้ขายแยกก้าน แต่เป็นแบบจัดช่อสำเร็จลงแจกันใสแล้ว สวยแหละ แต่ไม่ตอบโจทย์ ก็เลยตรงไป ross แป๊บนึง เผื่อใจว่าอาจจะมี ... และแน่นอนว่า ไม่มีหรอก เพราะ ross ขายสินค้าเกรดจีนแดง เลยวกรถกลับไป TJ Max ตรง la canada อีกรอบ ตั้งใจว่า ถ้าไม่มี ค่อยไปดูที่ marshalls ปรากฏว่า มีขายพอดี ราคาลดต่ำสุดแล้วคือ 6 ก้าน 8 เหรียญ เลือกไม่ได้ เพราะเค้ามัดช่อไว้ เลยซื้อมา ... ตอนเดินผ่านชั้น 1 เห็นแถวรอจ่ายเงินยาวเหยียด เลยขึ้นไปจ่ายชั้น 2 ก็ยาวแหละ แต่คนน้อยกว่า ตอนยืนเข้าคิว ผู้หญิงญี่ปุ่นวัยกลางคน หันมาชวนคุยเรื่อง สินค้าราคาแพงขึ้นมาก ม า ก คุยกัน 4-5 ประโยค มีคนแก่ฝรั่งมาต่อแถว แล้วก็ดูว่า จะรีบ ๆ เลยถามว่า ยูอยากไปก่อนไอมั้ย ถ้าต้องการ เชิญได้เลยนะ ผู้หญิงฝรั่งยิ้มขอบคุณ และบอกว่า ชั้นต้องรีบไปรับลูกชายน่ะ เกรงจะไม่ทัน แล้วก็ขอบคุณอีก ฉันตอบว่า ไม่เป็นไรค่ะ ยินดี ตอนจ่ายเงิน แคชเชียร์เอ่ยว่า ... ดอกไม้สวยจัง เหมือนของจริงเลย เหมือนมาก ๆ และกลีบดอกไม้ นุ่มมากด้วย เอาไปปักแจกัน จะเหมือนดอกจริงมาก เลยตอบว่า ซื้อไปใช้ตกแต่งกล่องของขวัญวันแม่น่ะ ไม่ได้ซื้อไปปักแจกันหรอก ฉันนิยมดอกไม้สด แต่เพราะมีบางคนในวันแม่ ชอบดอกโบตั๋น เลยต้องตามล่าหาโบตั๋น หลังคุยกันแล้วก็ลงบันได เดินตัดผ่านลานจอดรถ รอบ ๆ ลานจอดรถ กุหลาบขาวบานสะพรั่งเลย และหอมกรุ่น ๆ คิดถึงกุหลาบที่ลานดินหน้าบ้าน ดอกบานรอบต้น เช่นกัน แต่ไม่สะพรั่งไปทั้งต้นแบบที่เห็นตรงนี้ ถึงเวลาใส่ปุ๋ยคอกแล้ว ... กลับถึงบ้านแล้วรู้สึกโหวง ๆ เลยโทรหาเอเย่นต์ขายตั๋วเครื่องบิน ที่จริงก็ซื้อตั๋วออนไลน์ได้เองแหละ แต่ก็อุดหนุนกิจการของรุ่นน้อง เพราะรุ่นน้องเพิ่งซื้อคอนโดในย่านลิตเติ้ลโตเกียว เลยต้องช่วยสมทบทุนค่าผ่อนคอนโด ... จากนั้น จองโรงแรมริมทะเล ตอนแรก ว่าจะจองพักแบบ air bnb แม้จะราคา 240 เหรียญ 1 คืน แต่เพราะบ้านสวยมากกกกกกก ก็คุ้ม ทว่าวันที่ต้องการไปพัก เต็ม เลยคลิกหาไปเรื่อย ๆ พบว่าเต็มหมดเลย ไปได้ห้องว่างในโรงแรม 2 ดาว+ครึ่ง แต่อยู่ริมทะเลเป๊ะ คืนเดียว 180 เหรียญ อย่างโหด แต่อ่านรีวิว พบว่า ดี ก็คงดีแหละ เนื่องจากไปเพื่อจะแค่นอนจริง ๆ เพราะเข้าพักก็คงจะเที่ยงคืนแล้ว และต้องออกตั้งแต่เช้า เลยแค่นี้พอ... ... ขณะกำลังเดินในบ้าน จู่ ๆ เพลงนี้ก็ดังขึ้นในหัว, อีกแล้ว i can buy myself flowers write my name in the sand talk to myself for hours i can take myself dancing and i can hold my own hand yeah, i can love me better than anyone can
Create Date : 13 พฤษภาคม 2566
Last Update : 13 พฤษภาคม 2566 7:28:19 น.
Counter : 233 Pageviews.
ใจห้ายใจหาย & ใจดี๊ใจดี
เมื่อหลายวันก่อน มีความอยากเปลี่ยนผ้าม่านในครัว เพื่อให้เข้ากับฤดูใบไม้ผลิ ชีวิตเลยวุ่นวายกับการออกไปเสาะแสวงหาผ้าม่าน แบบสำเร็จรูป ไปดูทุกสถานที่ ทุกแห่ง ทุกห้าง ไม่ถูกใจสำหรับหน้าต่างในครัว+ห้องกินข้าว แต่กลับได้ผ้าม่านสำหรับห้องนอนใหญ่ และห้องนอนเล็ก สรุปก็คือยังคงตระเวนหาผ้าม่านสำหรับครัว ต่อมาอีก 3-4 วัน จนที่สุด คิดว่าจะไปดูที่ ikea แล้วน่าจะจบ คือซื้อมา แล้วจ้างข้างบ้าน ช่วยตัดเย็บให้ยาวพอดีหน้าต่าง แต่ไปเดินแล้วก็ยังไม่ถูกใจกับเนื้อผ้าและลายผ้า จนเกือบถอดใจแล้ววันนั้น แต่นึกยังไงไม่รู้ ... ขับรถไป ross แถวบ้าน ไม่คาดหวังเลย ไม่คิดอะไรเลย เพราะ ross คือห้างที่ขายของลดราคาก็จริง ทว่าสินค้าส่วนใหญ่คือ เสื้อผ้าที่ไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าไหร่ แต่ในส่วนของเครื่องใช้ในบ้าน พอเลือกได้บ้าง หากก็ไม่เคยซื้อผ้าม่านที่นี่มาก่อนเลย ปกติซื้อผ้าม่าน และของใช้ในบ้านที่ bed bath & beyond แต่สาขาประจำ ปิดตัวไปแล้วด้วยความเศร้า เดินใน ross วันนั้นอย่างเริงร่ามาก เพราะได้ผ้าม่านลายถูกใจมากกกกกกกกกก ที่สำคัญคือ มีขาย 2 set พอดี เลยแสนจะดีใจ พอเดินมาจ่ายเงิน เนื่องจากเป็นวันอังคาร คนจะเยอะมากกกกกกกกก เพราะผู้อาวุโส 55 ปีขึ้นไป จะได้ลด 10% ทุกวันอังคาร แถวจ่ายเงินเลยยาวสุด ๆ แต่วันนั้น ได้เจ้าหน้าที่พาไป self-checkouts โดยเจ้าหน้าที่มาช่วยถอดตัวสัญญาณกันขโมยให้จากสินค้า พอจ่ายเงินเสร็จ ก็เดินหอบของไปใส่รถ และคิดจะเดินไปตลาดเกาหลีแสนแพง เพื่อซื้อ jeyuk bokkeum แบบตัดใจ เพราะตลาดนี้ ขายแพงกว่าทุกตลาด แต่ก็อร่อยกว่าขั้นสุด เก็บของแล้ว หยิบถุงผ้า ขณะปิดท้ายรถ ก็เปิดกระเป๋าสะพายหามือถือ เพื่อโทรถามเพื่อนว่า เพื่อนจะให้ซื้อให้ด้วยหรือเปล่า ปรากฏ ... ไอโฟนหาย หาย หาย หาย วิ่งกลับเข้าไปใน ross ถามเจ้าหน้าที่ ทุกคนในแถวจ่ายเงินช่วยกันมองหา มีคน 3 คน ช่วยกด find my iphone ปรากฏว่า เจอ 3 เครื่อง ก็เลยบอกว่า ฉันมีไอโฟน 2 เครื่อง และ 1 ไอแพด 2 เครื่องอยู่ในบ้าน ขึ้นว่า on อีก 1 เครื่องขึ้นว่า offline ซึ่งคืออันที่หาไม่เจอ แต่ก็งงว่า ทำไมขึ้น offline เจ้าหน้าที่ รปภ. มาสอบถาม และช่วยหา ไม่เจอ ตอนนั้น มีการคีย์ข้อมูลเพื่อแจ้งว่า iPhone 14 Pro Max หายบริเวณ check out area ทึ่งมากกับการช่วยกันประสานงาน โดยเฉพาะหัวหน้าเจ้าหน้าที่ที่หน้าตาดีสุด ๆ หน้าตาดีแบบกงยูยังอายเลยแหละ ผู้หญิงกับลูกสาววัย 7-8 ขวบ บอกให้โทรหา AT&T เพื่ออายัดเบอร์ และแจ้งเครื่องหาย ฉันบอกว่า ซื้อไอโฟนตรงกับร้านแอปเปิล เจ้าหน้าที่ AT&T เลยให้ติดต่ออีกเบอร์ ระหว่างคุยไปคุยมา ปรากฏว่า ต้องโทรไปแจ้งอีกเบอร์เพื่ออายัดเบอร์ ระหว่างนั้น แม่ลูกสาวชาวฝรั่งน่ารักมาก ช่วยเหลือเต็มที่ ให้ยืมมือถือใช้แบบไม่มาเฝ้าเลย ตอนนั้นใจเต้นมาก แบบกลัว กลัว กลัว ไม่ได้กลัวที่เครื่องหาย แต่กลัวข้อมูลธนาคาร กลัวข้อมูลต่าง ๆ ... สักพัก จะครบ 1 ชั่วโมงแล้ว มีคู่สามีภรรยาผิวดำตะโกนมาจากลานจอดรถ ว่า นี่ใช่ไอโฟนของยูรึเปล่า มันตกอยู่บนพุ่มไม้ข้างที่จอดรถเลย โห .... ทุกคนตะโกน เย้ เย้ อย่างดีใจ เหตุผลคือ กระเป๋าที่สะพายไปไม่มีซิป ดังนั้น ตอนเดินหอบผ้าม่านมาที่รถ น่าจะกระเป๋าที่สะพายตีลังกา มือถือหล่นผลุบลงไปตรงนั้นพอดี โชคดีมากกกกกกกกกกกกกกกก หันไปขอบคุณแม่ลูกสาวที่ช่วยเหลือสุดใจ ขอบคุณสามีภรรยาผิวดำด้วยความซาบซึ้งใจ ... ในเรื่องร้ายมีเรื่องดี ๆ ... เสมอ วันนั้น ไม่ได้ซื้อหมูหมักเกาหลี กลับบ้านทันที หัวใจยังเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ แต่ก็ยิ้ม เล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอก เพราะแกไปเที่ยวโบสถ์เก่ามารึเปล่า เป็นโบสถ์หินอายุ 200 กว่าปี สร้างด้วยมือ 9 ปี ใช้งาน 6 ปี 3 เดือน แล้วแผ่นดินไหวในเช้าหนึ่ง มีคนตายทันทีใต้ซากนั้น 40 คน นอกนั้นหลายร้อยคน บาดเจ็บ แล้ววันที่ฉันไปเที่ยว ประโยคหนึ่งที่พูดขึ้นมาหน้ากำแพงซากโบสถ์ อันสูงตระหง่านคือ ...คนทั้ง 40 คน จะรู้สึกยังไงนะ ที่สูญเสียลมหายใจโดยไม่ทันรู้ตัว อยากรู้จัง เพื่อนบอก ... นี่ไง ได้รู้แล้ว เอ่อ ถึงกับพูดไม่ออก พูดไม่ออกเลย บันทึกไว้ว่า จากเหตุการณ์นี้ นอกจากได้คิดว่า จงอย่าใช้กระเป๋าสะพาย แบบไร้ซิปอีก ยังได้พล็อตนิยายทะลุมิติด้วย เล่าพล็อตให้เพื่อนฟัง ... เพื่อนยุ เขียนเลย เขียนเลย อืมมมมม ... เดี๋ยวเคลียร์งานแป๊บ เขียนแน่เลย ว่าแล้วก็ยินดีต้อนรับเข้าสู่โครงการพล็อตที่ร้อย ค่อยเขียน ค่อยเขียนอีกแล้วเนี่ย
Create Date : 29 เมษายน 2566
Last Update : 29 เมษายน 2566 2:40:34 น.
Counter : 374 Pageviews.
Location :
United States
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [? ]
เรื่องของคน คนหนึ่ง อาจเป็นประโยชน์สำหรับใครบางคน อาจไร้สาระสำหรับใครอีกบางคน ถ้ามันไร้สาระ โปรดทิ้งมันไปเฉย ๆ อย่างง่าย ๆ หากมันมีประโยชน์ ฉันก็ดีใจ .. .. ..