to reach our full potential
"คนที่เหมาะสม" และ"คนที่ชอบ" หลายครั้งก็ไม่ใช่คนเดียวกัน แต่เวลาจะเลือก ส่วนใหญ่เรามักเลือกตามความชอบ เพราะเรา, จะหาเหตุผล เพื่อให้เกิดความเหมาะสมได้เอง . . จากเคสของ 'สงกรานต์'
ช่วงพักชีวิต มีรายการ the voice เป็นเพื่อน จำได้ว่าบอกมะเฟืองตั้งแต่ต้น ว่า ชอบเสียงคนร้องเพลง "เจ้าตาก" มะเฟืองบ่นเช็ดว่า สูน่ะหูเพี้ยน ก็เออ ๆ ก็ชอบอะ เสียงมีเสน่ห์ดีนะ
แต่ก็ไม่ได้โน้มน้าวเพื่อน จนมะเฟืองได้ฟังเพลง "ยอม" คราวนี้นางเลยกรี๊ดด้วย
และที่สุดก็สั่งการโหวตข้ามประเทศกัน (แต่มะเฟืองเลือกโหวตให้แตงโม)
ที่สุดพอถึงวันชิงชนะเลิศ สงกรานต์มาวิน มะเฟืองบอก เพื่อนแม่นสุด ๆ อะ ด้วยเหตุว่า ปีที่แล้ว ออกตัวเป็นแม่ยกน้องนนท์ ปีนี้ รับเป็นติ่งสงกรานต์ตั้งแต่ก้าวแรก
ก็เลยชนะผลการทำนาย อิอิ มะเฟืองเลยมารับไปกินชาฉลอง เพราะมะเฟืองคิดว่าแตงโมน่าจะได้
หากหลังจากมื้อชาอังกฤษแล้ว ปรากฏว่า ตอนนี้นางมะเืฟืองพร่ำเพ้อถึงแต่เสียงสงฯ แบบกู่ไม่กลับซะแล้ว
บอกแล้วไม่เชื่อ ชั้นไม่ต้องเรียน voice อย่างแก แต่ลางสังหรณ์ชั้นแม่นย่ะ
หลังคาเถา 'กีวี่' ที่บ้านปีนี้ ผลออกมาเร็วกว่าทุกปี แต่จำนวนน้อยลง
กระนั้น มะเฟืองก็มาให้เมฆช่วยสอยไป 1 ถุง นางบอกว่า จะเอาไปจิ้มพริกเกลือกิน น้าได้ยิน เลยว่าเดี๋ยวจะเอามายำแบบเม็กซิกันให้กินกัน
สรุป มันอยู่ของมันมาน๊านนาน ปกติมีฉันคนเดียวที่ชอบไปเด็ดมาจิ้มเกลือกิน (ช่วงแรก กีวี่จะเปรี้ยว ๆ จิ้มเกลืออร่อยดี) เหลือไปจนสุกหวานก็จะให้เพื่อนบ้านมาเก็บไปบ้าง
มาปีนี้ ออกมาน้อยมากเพระอากาศเปลี่ยน แต่ก็มีผู้สนใจชิมกันเพียบแล้ว
ตอนบอกว่าปีนี้กีวี่ออกน้อย เมฆบอก "มากกว่าที่นำเข้าไปขายที่เมืองไทยซะอีก"
อ้าวเหรอ 555+
กลับมาบ้านหลายวัน แต่เหมือนจะยังงงกับชีวิตในลูปใหม่ และพบว่า การไม่ใช้มือถือตลอดหลายนาน ก็โอเคนะ
เลยบอกน้องว่า ไม่ต้องรีบไปซื้อมือถือของตัวเองหรอก ใช้กระดานชนวนของพี่ไปก่อนได้ ด้วยเหตุว่าเครื่องของน้องไม่ใช่ unlock เลยใช้กับซิมที่นี่ไม่ได้
แต่ตอนนี้ เรื่องมือถือของน้องไม่ใช่ปัญหา เพราะใช้ของพี่ไปพลาง ๆ ได้ ปัญหาใหญ่จริงคือ ต้องไปสอบใบขับขี่ให้ได้ก่อน
เลยว่าจะให้ไปลงเรียนกับครูสอนขับรถ เขาจะได้พาไปสอบไปอะไรได้ก่อน ถ้าขืนรอพี่ คาดว่าปีหน้าโน่นแหละ
อยู่ที่นี่ถ้าไม่ได้ขับรถเอง จะค่อนข้างลำบากในการจะเดินทางไปไหน เพราะเสียเวลาเดินทางนาน ยกเว้น ผู้สูงอายุที่ไ่ม่ต้องทำงานแล้ว มีเวลาเหลือเฟือ ก็สามารถใช้บริการฟรีได้ทุกทาง รวมทั้งเรียกรถมารับ-ส่งฟรีถึงหน้าบ้าน
ช่วงที่ผ่านมา มีเรื่องน่าประทับใจหลายเรื่อง
เอาแค่ในแบงค์ ที่พนักงานคนหนึ่งหน้าหงิกงอได้ทั้งปี และฉันก็ได้แต่มอง ๆ และเงียบ ๆ ติดต่อทำธุรการเท่าที่จะเป็น
จนหนล่าสุดที่เพิ่งผ่านมา
ภายในแบงค์เงียบตามปกติ เข้าแถวแล้วก็เจอช่องบริการของพนักงานหน้าบึ้งพอดี ก็บึ้งปกติแหละ แอบ ๆ มองแล้วก็นึก ๆ
นึกถึงวันที่อาสาช่วยป้าหยิบจากรถเข็น คือวันนั้นไปซื้อของเข้าบ้านปกติ แต่คงเพราะเป็นวันถัดจากวันหยุดยาว ก็เลยคนเยอะมาก แต่พนักงานช่องจ่ายเงินมีแค่ช่องเดียว หากทุกคนในแถวก็เฮฮากันดีไม่มีใครบ่น ป้าคนข้างหลังก็ชวนคุยดี ป้าคนข้างหน้าก็ซื้อของเยอะ แบบเต็มล้นคันรถเข็นเลย ยืนมองสักพักก็เลยถามป้าคนข้างหน้าว่า ต้องการความช่วยเหลือมั้ยคะ ป้าบอก มากเท่าที่ยูจะช่วยได้เลยจ้ะ เลยช่วยป้าหยิบของขึ้นจากรถเข็น เพื่อจะได้เร็วขึ้น ป้าก็ขอบคุณน่ารักเชียว ส่วนป้าข้างหลังก็ยิ้มแย้ม และเมื่อฉันจ่ายตังค์เสร็จก็ยังได้โบกมือ กล่าวลาป้าข้างหลังว่า ขอให้ทำงานวันอาทิตย์อย่างมีความสุขนะคะ เหตุก็เพราะคุยกัน แล้วพบว่าฉันหลงวัน คือจำสับสนกันไปหมด เลยมีประเด็นให้คุยกันนั่นแหละ แล้ววันนั้นพอกลับถึงบ้านก็เล่าให้น้องฟัง น้องบอกว่า แค่เรายิ้มก่อน คุยก่อน โลกก็สดใสแล้วเนอะ เลยได้คิด ว่ามัวแต่คิดนั่นนี่นู่น แต่ไม่ลงมือทำก่อน ก็แล้วจะคิดให้เปลืองพื้นที่สมองไปทำไมล่ะ
ทีนี้วันที่ไปแบงค์ ระหว่างพนักงานบึ้งก้มหน้าทำหน้าที่ ที่ก็บังเอิญว่าหนนี้จำนวนเช็คเยอะกว่าปกติ เลยใช้เวลานานกว่า 5 นาที
ฉันเลยเอ่ยหลังจากเห็นข้อมือนาง
"กำไลยูสวยจังเลยนะ ชั้นชอบมันจัง" แล้วยิ้มให้ก่อน
เท่านั้นแหละ บทสนทนาจากนางก็พรั่งพรูมาพร้อมรอยยิ้มตอบ . .
ดีเหมือนกันนะ แค่เริ่มต้น แค่เริ่มต้นก่อน
. .
ช่วงนี้ยังมึนยา เหมือนเหนื่อย ๆ และก็เดินยังโคลงเคลง บางวันก็นั่งมองยาแล้วคิดถึงข่าวปล้นยาชนิดนี้
. .
ขอเล่าข่าวนี้เพิ่ม (ตามคำขอของสายฟ้า) วันที่เมฆกับน้าอยากไปทำบุญที่วัดมอญ เพราะมีรายการสวดพระไตรปิฎก 9 วัน 9 คืน จริง ๆ ไม่ได้คิดจะทำบุญจำเพาะเวลาขนาดนั้น แต่ด้วยบางเหตุผล เลย 'ก็ดีเหมือนกัน' นาน ๆ สักครั้ง ไม่ได้เสียจุดยืนอะไรนอกจาก 300 เหรียญ ขากลับบ้าน เมฆอยากไปกินเค้ก ก็ว่าจะไปร้าน back door bakery แต่ร้านปิด เลยหาร้านกาแฟใหม่ ๆ ก็เจอร้าน gio อายุ 6 เดือน จัดร้านได้อารมณ์ฝรั่งเศสครบครัน นั่งเม้าท์กัน 3-4 ชั่วโมงแล้วลุกเดินไปดูลานหิมะ เป็นลานหิมะที่ซิตี้ขนมาปูลงบนถนน เพื่อให้เด็ก ๆ ในเมืองได้ออกมากรี๊ดกร๊าดกัน วันนั้นเลยกลับบ้านประมาณ 5 โมงเย็น ปรากฏว่า ขับรถมาก็เจอรายการปิดถนน แบบรถติดหนักตรงหน้าพลาซ่าที่รวมแหล่งซื้อของ รวมทั้งร้านยาเจ้าประจำของฉัน แบบเอ๊ะรถติดจัง ก็เลยอ้อมไปอีกเส้น จนถึงบ้าน แว่วข่าวในทีวีว่าขณะนี้ ตำรวจปิดถนนสายนี้มา 5 ชั่วโมงแล้ว เนื่องจากเมื่อบ่ายมีคนไป"ปล้นยาแก้ปวด" (แบบเดียวกับที่ฉันกินเลยล่ะ) ปล้นใน Rite Aid แบบมันเข้าขู่ก่อน แล้วเภสัชกรไม่ให้ มันเลยชักปืนขู่ เภสัชกรเลยยอมให้ยาแก้ปวดไป 1 ขวด (เม็ดละ 40 เหรียญ ขวดนึงมี 100 เม็ด) แล้วมันก็หนีไปแอบซ่อนในร้าน Wireless ติดกับร้านยานั่นแหละ ซึ่งอิร้านนั้นที่มันไปแอบซ่อนอยู่ ก็ดันร่วมผนังกับสถานีตำรวจ แบบสถานีสาขาที่มีตามเมืองเล็ก ๆ อยู่ในย่านการค้าอะไรแบบนั้นอะ แต่กว่าตำรวจจะหาคนร้ายเจอก็นานนะ เรียกว่าอยู่ตรงปลายจมูกแท้ ๆ แล้วก็เลยล้อมอยู่จนถึงช่วงที่ฉันขับรถผ่าน เพื่อจะกลับบ้านนั่นแหละ หลังจากฉันกลับถึงบ้านสัก 10-15 นาที มันก็ยิงตัวเองตายในร้านนั้นเลย บรื๋อออออออออออออออออออออ จบข่าว สยองเลยอะ เพราะเป็นที่ที่ต้องไปรับยาทุก 15 วัน และนับแต่นั้นก็เลยย้ายไปอีกสาขาที่อยู่คนละฝั่งเมืองแล้ว จริง ๆ ยาตัวนี้ ในแอลเอก็เคยมีคดีปล้นกันเป็นข่าวโด่งดังเลย หนแรก โจรปล้นยาไปขู่เภสัชกร เขาก็ให้มันไป 1 ขวด หนสอง มันได้ใจจากหนแรก เลยไปขู่อีก คราวนี้เภสัชกรเตรียมปืนไว้แล้ว ก็เลยชักปืนขึ้นมายิงมันตาย แต่ตอนนั้น เหตุเกิดในแอลเอ ก็เลยดูข่าวผ่าน ๆ หนนี้ใกล้ตัวมากมาย เลยสยองงงงงงงงงงงงงงงงงง ความที่กินยานี้เวลาผ่าตัดทุกครั้ง เลยมักมีเหลือเสมอ แบบเหลือจากกินไม่หมด เพราะกินแล้วจะเมา หลับ แบบน็อคไปเลย ซึ่งก็เท่ากับหายปวดเป็นปลิดทิ้ง ก็รู้แหละว่าคนติดยาตัวนี้กันเยอะมาก แต่ความที่เวลาไปเบิกมา 1 ขวด ก็จ่ายแค่ 15 เหรียญ ตามราคาประกัน เลยไม่ค่อยรู้ว่าในตลาดมืดเขาขายกัน เม็ดละเกือบร้อยเหรียญ บ้าไปแล้ว
Create Date : 10 ธันวาคม 2556 | | |
Last Update : 17 ธันวาคม 2556 7:06:10 น. |
Counter : 631 Pageviews. |
| |
|
|
|