Group Blog
 
All blogs
 

found beauty in unusual things

โลก, เป็นเพียงแห่งเดียวที่ผู้คนได้รับอำนาจที่พิเศษมากอย่างหนึ่ง
นั่นคือ อำนาจที่จะเลือกได้
มี
เพียงที่นี่เท่านั้น ที่ไม่ว่าสภาพแวดล้อมจะเลวร้ายเพียงไร
ธอก็ยังได้รับอนุญาตให้กำหนดชะตากรรมของตัวเอง
โดยการเลือกที่จะกระทำลงไป
ที่นี่ เธอเลือกได้ ว่าจะเป็นผู้การุณย์หรือเกลียดชัง
กล้าหาญหรือขี้ขลาด
รวยหรือจน เกียจคร้านหรือขยัน
เป็นคนบาปหรือนักบุญ
และแน่นอนว่า จะทนทุกข์ทรมานหรือไม่
ก็ได้รับรางวัลจาก ‘กรรม’
ที่เลือกกระทำลงไป
ไม่มีใครที่เกิดมาในโลกนี้โดยปราศจากอำนาจนี้, นับตั้งแต่สวนอีเดน

-- A Gift of Acabar, 1978: Og Mandino & Buddy Kaye
-- ของขวัญจากอคาบาร์, 1983: สุริยฉัตร ชัยมงคล

เมื่อวาน ออกไปประชุมตอน 10.30
ถึงสถานที่ทันเวลาพอดิบพอดี คือ 11.00
และปรากฎว่า ก็ไปนั่งรออีกประมาณ 10 นาที
สำหรับการตกลงตารางงานเดือนมีนาคม - เมษายน
ที่กินเวลา 45 นาที

หลังจากประชุมเสร็จก็นั่งคุยกันอีกแป๊บ อืมม ไม่แป๊บ
น่าจะนานอยู่ เพราะออกไปกินเที่ยงที่ร้านเฝอ
สักน่าจะประมาณ 14.18 แล้ว
ไปถึงก็สั่งกันมาด้วยความหิว อย่างน่าจะเลี้ยงกองทัพ
สำหรับผู้หญิง 2 คน
สั่งจนพนักงานหน้าตาน่ารักบอกว่า จะหมดหรือนี่
และก็จริง ต้องใส่กล่องกลับบ้านใน 2 จานสุดท้าย

ก็ตามที่เขาว่า อย่าสั่งซื้ออาหารตอนหิวจัด
(และพบว่า กาแฟเวียดนาม ชงแบบเวียดนามแท้ ๆ ทำให้ตาค้างถึงตี 1)

ออกจากร้านเฝอตอน 15.35 ว่าจะกลับไปทำงาน
แต่หลังจากติดอยู่บนถนน hollywood เพื่อรอเลี้ยวเข้า highland
นานถึง 25 นาที ก็ตัดสินใจทันที
กลับบ้านเหอะ

ระหว่างทางกระดื๊บกลับบ้าน
เพราะเป็นวันสิ้นเดือน และเป็นช่วงชั่วโมงเลิกงาน
ก็ลองโทรหาคุณนายตุ๊ก เผื่อจะแวะเอาสร้อยข้อมือไปให้
ปรากฎว่า นางกำลังเป็นแจ๋ว ไม่พร้อมจะรับแขก
เลยบอกว่าไม่เป็นไร ชั้นก็ขี้เกียจไปนั่งดูแกคลีนบ้าน
นางเลยนัดวันพฤหัสหน้า ว่าจะไปเม้าท์มอยกัน

คาดว่าคงหนีไม่พ้นร้าน vegas buffet ข้างบ้านนาง

หลุดพ้นขึ้นทางด่วนมาได้ก็เจอหญิงชรา
แซงปาดหน้า 2 เลนซ้อนแบบไม่ให้สัญญาณไฟ
น่าเกลียดมาก แต่พอขับผ่านก็เห็นว่าชีกำลังกดมือถือ
โอ้ มาย นิสัยเยี่ยงนี้ รอดมาจนไฮไลท์ผมสีเงินยวงได้ไง

ขากลับ แวะซื้อต้นดอกหน้าวัว 1 ต้น ที่ smart & final
ในราคา 12.99 เหรียญ
(ทั้งที่รู้ว่า trader joe's ถูกกว่าพะเรอ แต่อำนาจขี้เกียจชนะขาด)

กลับถึงบ้าน นั่งมองต้นดอกหน้าวัวสีแดง
อืมม นะ ต้นไม้ของอารมณ์จริง ๆ

หวังว่า ต้นไม้ดอกกระถางต่อไปจะสวยงามกว่านี้

จัดการวางงานที่ต้องดูแล
เยอะเหมือนกันสำหรับ 11 แฟ้มที่ต้องส่งภายใน 31 พฤษภา
แต่เอาน่ะ สู้ ๆ ที่ถ้าไม่ไหวก็ยอมละที่จะขอให้ paul รับผิดชอบบ้าง
เพียงแต่ตอนนี้ เพื่อตัดความปวดหัวล่วงหน้า
จะต้องพยายามกระจายเวลาจากงานในหน้าที่
มาแบ่ง ๆ ทะยอยทำงานพิเศษล่วงหน้าไปก่อน
คาดว่า น่าจะทัน
(แม้จะต้องจัดตารางคิวการทำงานแบบตารางเรียนของเด็กนักเรียนก็ตาม)

วันนี้ วันศุกร์
ช้างท่องขานนาคจำแล้วใช่ปะ
หวังว่า วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม เวลาบ่ายโมง
ทุกอย่างจะราบรื่นดุจความเรียบมันของดอกหน้าวัวนะจ๊ะ




 

Create Date : 01 มีนาคม 2556    
Last Update : 1 มีนาคม 2556 23:45:46 น.
Counter : 534 Pageviews.  

always do what interests you

day 01-06

บัดนี้ เธอแก่ดังใบไม้เหลือง
ยมทูตกำลังเฝ้ารออยู่
เธอกำลังจะจากไปไกล
แต่เสบียงเดินทางของเธอไม่มี

ปณฺฑุปลาโสว ทานิสิ ยมปุริสาปิ จ ตํ อุปฏฺฐิตา อุยฺโยคมุเข จ ติฏฺฐสิ ปาเถยฺยมฺปิ จ เต น วิชฺชติ[๒๕/๒๓๕]

.

.

หายเงียบไป 35 วัน
และล่าช้าไป 6 วันสำหรับคำรับปากว่าจะบันทึก
ทุกวันนับจากวันที่ 23 กุมภาพันธ์
ที่ช้างต้องไปอยู่วัด

ด้วยเหตุที่เคยไปอยู่ศูนย์ปฏิบัติธรรม
ทีปภาวัน 10 วันในช่วงท้าย ๆ ปีก่อน
ทำให้พอจะนึกออกว่าช้างจะเป็นไง
ตลอดช่วงระยะเวลา 39 วัน

เอาว่า .. เล่าฝั่งนี้ที่น่าจะมีกิจกรรมมากกว่าละนะ
เผื่อจะต่อติดเมื่อกลับมา

เริ่มจาก 5-6 วันที่ผ่านมา
ป่วยอินเทรนด์ตาม ๆ กันในออฟฟิศ
แล้วเลยกินยา นอน นอน กินยา นอน
ตามที่ช้างก็รู้ในวันที่จะไปวัด

จนวันนี้ พอจะลุกได้ เนื่องจากต้องไปประชุม
จริง ๆ จะเริ่มประชุม 11 โมง
แต่ 9.25 ยังนั่งอยู่หน้าคอมฯ ที่บ้านเลย

อ้อ ลืมเล่าช้างว่า
เมื่อวาน ออกไปเติมน้ำมันรถ
ตอนไปถึงปั๊มประจำก็เลี้ยวเข้าไปจอด
เจอผู้ชายเสื้อฟ้าเดินมาขอเงิน
อ้างว่า ไม่มีเงินสด ทำบัตร atm หายด้วย

เลยถามว่า ไม่มีเงินสดสัก 4-5 เหรียญเลยเหรอ
เขาตอบว่า เขากับแฟนมีเงินสดแค่ 2 เหรียญ
ถามต่อไปว่า ต้องการเท่าไหร่
(เพราะแต่งตัวก็ดี รถก็ยังใหม่และดูดี)
เขาบอกว่า อยากได้เงินเติมสัก 2-3 แกลลอน
ดูค่าน้ำมันแล้ว วันนี้แกลลอนละ 4.21 เหรียญ
เลยยื่นให้ 10 เหรียญ
(ค่าแรงขั้นต่ำต่อชั่วโมงเลยนะนั่น)

ยื่นไปแล้วก็ อืมมม นึกได้ว่า
น่าจะเดินไปจ่ายให้ข้างในปั๊มเลย
ไม่น่าส่งเงินสดให้เลย
แต่ก็ช่างมันเหอะ ให้แล้วแล้วกัน

เจ้าของปั๊มที่ก็คุ้นหน้ากันมาหลายปี
เอ่ยถามขึ้นว่า
ยูให้เงินคนพวกนั้นไปเหรอ
บอกว่าให้ไปแล้ว
เขาว่า ถ้าไอเห็นชัด จะเดินออกไปห้าม
เพราะมันคือพวกหลอกเงิน
ขนาดจอดรถยังจอดผิดด้านเลย

ก็ อืมมม อ้าว โดนหลอกเหรอ
แต่ก็ช่างมัน
เจ้าของปั๊มบอก ยูให้เงินไปเยอะด้วยนะ
ก็ยิ้ม ๆ เดินกลับออกมาเติมน้ำมัน

สองคนนั้นคงเห็นฉันยืนคุยกับเจ้าของปั๊ม
เลยแกล้งขับรถมาจอดให้ถูกทาง
ทำเนียนว่ากำลังจะเติมน้ำมันจริง ๆ

ทำเพื่อให้ฉันตายใจว่า ฉันทำถูกแล้วที่ให้เงินมัน

พอฉันเติมน้ำมันเต็มถัง
37.01 เหรียญ
ก็เดินเข้าไปในปั๊มเพื่อจะเซ็นชื่อและเอาบัตรเครดิตคืน
มันก็คงเห็นแล้วว่า
เดี๋ยวฉันต้องรู้ความจริง

พอเดินเข้าไปในปั๊ม
เจ้าของก็บอกเป็นฉาก ๆ เลยว่า
เห็นมั้ย พอมันเห็นยูเดินมา และน่าจะคุยกับไอนาน
มันรู้แล้วว่า ไอเตือนยู

มันเลยแกล้งเปิดฝาถังน้ำมัน
แกล้งเอาสายเติมน้ำมันไปจ่อไว้
แกล้งเดินเข้ามาในปั๊ม
เพื่อจะให้ยูเห็นว่า มันเข้ามาจ่ายเงิน
แต่มันไม่ได้จ่ายเลย
มันมาแกล้งยืนรี ๆ รอ ๆ แล้วเดินออกไป

5555+
นับว่า ลงทุนแสดงมากเลยนะนั่น

ฉันก้มหน้าสำนึกผิด ยอมรับว่า
ขาดความเฉลียว
บอกเจ้าของปั๊มว่า
ช่างมันเหอะ คิดเสียว่าทำทาน
มันเอาเงินฉันไปซื้อยาเสพติด
ก็เท่ากับมันเลือกทางตายเร็วขึ้นนั่นล่ะ
เจ้าของปั๊มบอกว่า
ยูให้เงินมันเพราะสงสาร อยากช่วย
มันเอาเงินยูไปด้วยใจทุจริต
ไม่เป็นไร พระเจ้าเห็น พระเจ้าจะลงโทษมันเอง

ฉันยิ้มให้เจ้าของปั๊มแล้วขับรถกลับบ้าน

ไม่เป็นไรนะช้าง
10 เหรียญ
ซื้อนมได้ 3 แกลลอน
ซื้อน้ำส้มได้ 1.5 แกลลอน
ซื้อดอกไม้ช่อสวย ๆ ได้ 1 ช่อใหญ่
และอีก ฯลฯ
ถือว่าทำทานส่วนหนึ่ง

อีกส่วนหนึ่ง
ถือว่าได้ใช้เป็นค่าเปิดประตูมิตรภาพ

ก็เติมน้ำมันที่ปั๊มนี้มา 5-6 ปี
เจอหน้าเจ้าของปั๊มทุกครั้งที่มาเติมในช่วงกลางวัน
ก็ไม่เค๊ยไม่เคยนะที่จะได้คุยกัน
นอกจากคำว่า
hi .. fill up number
และปิดท้ายด้วย have a good day
กับ .. thank you

วันนี้ จ่าย 10 เหรียญให้คนจรหมอนหมิ่นที่ไหนไม่รู้
แต่ได้ 'มิตรภาพ' คืนมา

คุ้มดี .. ช้างว่าปะ?




 

Create Date : 01 มีนาคม 2556    
Last Update : 1 มีนาคม 2556 0:42:52 น.
Counter : 712 Pageviews.  

soothe the soul

หลาย ๆ คนคิดจะเปลี่ยนโลก
แต่ไม่ค่อยมีใครคิดจะเปลี่ยนตัวเอง

-- leo tolstoy

.

.

มีบุคคลหนึ่งในวงการงานของฉัน
ที่ชื่อเสียงลือเลื่องสะบัดไปทั่วทุกแผนก
ว่าเลวเลยละ
กระทั่งฉันเองก็ยังเคยเจอ 'ความไม่ดี' ของคนผู้นี้แบบจัง ๆ
แต่ด้วยเหตุว่า
ส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกันในสายงาน
ก็เลยเลือกเฉย ๆ
และด้วยถือว่า
กรรมใคร
ก็ใครคนก่อกรรมนั่นละที่ต้องรับกรรมนั้นไป

แต่หลายครั้งที่ต้องรับฟังเสียงคนบ่น ๆ
จนบางทีก็แอบคิดไปว่า
เมื่อไหร่กรรมจะส่งผลละหนอ

หากก็นั่นแหละ
ไม่ใช่เรื่องของเรา
ก็ฟังเงียบ ๆ ไปวัน ๆ เป็นเรื่อง ๆ มาเรื่อย ๆ
จนนานแล้วแหละ ฟันธงว่า
นายคนนี้ไม่เพียงแค่เป็นมนุษย์สีเทา
แต่เข้าขั้นดำทะมึนเลยเชียว

ชั่วได้ใจ
เรียกว่าถ้าเป็นชาวพุทธ
ศีล 5 ข้อนี่ขาดกระจุยกระจาย
ดีใจที่นายนั่นไม่ใช่ชาวพุทธนะเนี่ย

ก็ฝังจำนั่นละ

บ่ายวันนี้งานเยอะอยู่หรอกนะ
แต่ผู้ช่วยสมัยนานมาแล้วแวะมาหา
นางแต่งงานแล้วย้ายไปได้งานใหม่ที่รัฐอื่น
แต่เมื่อปีก่อน
นางย้ายกลับมารัฐนี้
และไปได้งานทำกับมนุษย์สีดำ
ตนนั้น

ฉันค่อนข้างไว้ใจอดีตผู้ช่วยคนนี้อยู่พอสมควร
เพราะทำงานกันแบบไม่ต้องสั่งอะไร
ก็ได้ดังใจมาตลอด
เรียกว่ามีสติ มีสมอง และก็ยอดสุด ๆ

และคนที่ฉันการันตีว่า
เป็นหญิงที่วิเคราะห์อะไรได้ดี มีเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์
นางก็เล่าถึงมนุษย์สีดำในสายตาคนอื่น
ว่า
เขาผู้นี้เป็น "นักบุญขาวผ่อง" ในสายตานางเลยเชียว

นางถามฉันว่า รู้จักมั้ย
ตอบไปว่า ก็แลเห็นลายเซ็นต์กันบ่อยอยู่นะ
แต่ว่าเขาอยู่ทางฝ่ายแอพพีลมากกว่าฝั่งฉัน

เลยได้นั่งฟังและนั่งฟัง

ไม่ได้ค้านในสิ่งที่นางพูด
และก็เชื่อด้วยนะว่า
มันเกิดเรื่องดี ๆ ขึ้นระหว่างนางกับนายคนนั้น
จริง
ขณะที่ความชั่วช้าของนายคนนั้นในสายตาฉัน
ก็จริง

บทสรุปเรื่องนี้ในใจฉันเงียบ ๆ คือ

คนเรามีหลายแง่มุม
เขาเลว เขาชั่ว ในสายตาเรา
เขาก็ดี เขาก็เลิศประเสริฐชาติในสายตาคนอื่นได้

ฉันเชื่อว่า
มันย่อมมีบริบทมากมายที่ทำให้บทบาทของคน
แตกต่างกันไปตามแต่ละวิถี

เนอะ

คงงั้นแหละเนอะ

แต่ก็ยังยืนยันว่า
ในสายตาฉัน
นายคนนี้เลวขึ้นหิ้งเลยล่ะ
หากก็นะ
มันไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะต้องบอกเล่าอดีตผู้ช่วย
ถึงความเลวของมนุษย์สีดำตนนั้น
ตามที่เห็นจะ ๆ แบบรายสัปดาห์

คนเลวในสังคมเรา
เป็นคนดีในอีกสังคมได้ละน่า

และที่สุดฉันก็รู้ว่า
โลกนี้มันไม่ได้กลมอะไรหรอก
มันออกจะมีเหลี่ยมมุมซับซ้อนจะตายไป
และเกิดจนตาย
เราก็คงไม่มีวันได้มองเห็นทุกซอกมุมเหล่านั้น

.

.

บันทึกไว้ในวันที่เจอ JZ และฟังเรื่องของ
หัวหน้าหน่วย WTTLA ในอีกแง่มุม
ที่อะเม้ซิ่งมากจน 'ลม' ติดคอ

 




 

Create Date : 24 มกราคม 2556    
Last Update : 24 มกราคม 2556 13:28:28 น.
Counter : 755 Pageviews.  

keep my opinions to myself

แม้ว่าโชคชะตาจะสำคัญ
แต่ผมก็เชื่อว่า ลักษณะนิสัย ความเคยชินของเรา
จะสามารถกำหนดความเป็นไปของชีวิต
หรือตัดสินพรหมลิขิตได้มากกว่า

-- ถ้อยสัมภาษณ์ jimmy liao
-- ในหนังสือเรื่องรักเบอร์ 5

.

.

 


เมื่อวานเป็นวัน MLK, Jr. ที่ปิดทำการทำงาน
เลยนั่งดูซีรี่ย์เกาหลีแบบคร่าว ๆ ไปเรื่อย ๆ
จบแล้วก็ปวดหลังไหล่
จนนึกอยากไปนวดที่ไชน่าทาวน์

แต่เดี๋ยวนี้ ขี้เกียจขับรถเป็นบ้าเป็นหลัง
สงสัยอายุมากขึ้น
เลยรู้สึกเหมือนว่างก็อยากอยู่นิ่ง
สิ่งที่ทำจึงแค่เดินไปชงกาแฟ
ถือแก้วสวย ๆ มานั่งคุยกับหอยทากที่หน้าบ้าน
ขณะรู้สึกว่า
เจ้าแบร์สีน้ำตาลกำลังโหนบาร์แอบมอง

เดินเข้าบ้านหลังกาแฟแก้วที่สองหมดหยด
แล้วก็ได้เป็นแก้วที่สาม

แปลกมาก
ช่วงหลังชอบกาแฟ 3 in 1 ของ 'เขาช่อง' ที่สุด
มีหลายรส และ ไม่หวานจัดดี
บอกให้ช้างไปหาซื้อมาไว้ชงที่ที่ทำงานด้วย
ไม่รู้จะฟังกันหรือเปล่า

แต่ยังไงซะแก้วแรกของวันของฉัน
ยังคงต้องเป็นอเมริกาโน่เพียว ๆ ที่ต้องต้มเอง
เช่นเดิม เช่นเคย
เท่านั้น
ยังไม่สามารถกิน 3 in 1 ในรอบเช้าเหมือนช้างได้

.
.

เมื่อวานพอนั่งเคลียร์งานเพื่อเตรียมสำหรับวันนี้
ก็พอดีช้างน้อยโทรมาขณะฉันลุกไปห้องน้ำ
เลยไม่ได้คุยอะไรกันมาก
เพราะเจออาการท้องเสียเนื่องด้วยทอดมัน
คืนวันจันทร์เลยเข้านอนเร็วกว่าปกติเพราะเพลีย

เช้าวันอังคารตื่นมาเจอ line ช้างเข้า
ขำอิแบร์แอบมองข้างประตู
เลยลุกมากดตอบคืน
แล้วก็ไปล้างหน้าแปรงฟัน

สังเกตเห็นว่า ไม่ได้สวมถุงเท้านอน
แสดงว่าอากาศเริ่มอุ่นสำหรับฉันแล้ว
แต่ยังอาจจะเย็น ๆ สำหรับคนอื่น

.
.

สาย ๆ นั่งลงที่โต๊ะทำงาน
แต่ความที่ช่วงนี้จัดระบบระเบียบดี
งานเสร็จไวขึ้น

วันนี้เลยได้โอกาสไปรับ thermal tumbler
ที่สั่งไว้ให้ช้างใช้

จริง ๆ ต้องไปรับเมื่อวาน
แต่นั่นละ .. ขี้เกียจออกจากบ้านไง

.
.

มีคนเดินมาถามความคิดเห็น
เรื่องส่วนตัว 1 ราย
เรื่องแฟชั่น 2 ราย
จริง ๆ ก็มีคำตอบในใจแหละ
แต่เมื่อคิดทบทวนแล้วก็รู้สึกว่า
บางความคิดเห็น เก็บเงียบไว้ในใจดีกว่า

เพราะไม่ว่าจะอย่างไร
เราเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขาอื่นหรอก

.
.
.




 

Create Date : 23 มกราคม 2556    
Last Update : 23 มกราคม 2556 5:40:18 น.
Counter : 736 Pageviews.  

มณีนาคสวาท [spoil]

บทประพันธ์: จินตวีร์ วิวัธน์
บทโทรทัศน์: ณัฐวัฒน์ (ประไพรศรี ศรีนาทม)

'ม.ร.ว.ภุชคินทร์ นาเคนทร์' ทายาทแห่งวังนาเคนทร์ ถูกเรียกตัวกลับจากต่างประเทศ เพื่อรับหน้าที่เป็นเลขานุการให้ 'ภิงคาร' รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ ผู้เป็นน้าชาย ด้วยรูปลักษณ์ที่เลิศล้ำ ร่ำรวยทรัพย์สมบัติ ทั้งชาติกำเนิดสูงส่ง ทำให้คุณชายภุชคินทร์กลายเป็นที่หมายปองของสาวไฮโซทั้งสังคม รวมถึงไฮโซสาวหน้าใหม่ 'เจ้าอุรคา ณ เชียงตุง'

ในงานเลี้ยง ซึ่งมีเพียงแขกระดับนักการเมือง ทูตานุทูต และชาวสังคมชั้นสูงมาร่วมงานกันคับคั่งนั้น ภุชคินทร์ได้พบเจ้าสูงศักดิ์เลอโฉม 'เจ้าอุรคา' ที่ปรากฎตัวพร้อมเครื่องแต่งกายสีเขียวโดดเด่นเป็นสง่า กับวงหน้างดงามประดับรอยยิ้มลึกลับ และอัญมณีรูปหยดน้ำสีเขียวเข้มแปลกตา 'มณีนาคสวาท'

เจ้าอุรคา ก้าวมาเป็นดาวดวงใหม่ของสังคมไฮโซอย่างลึกลับ ไม่มีใครรู้เบื้องหลังที่แท้จริงของเจ้าคนนี้ นอกจากความงามเจิดจรัส และฐานะร่ำรวย ที่สำคัญเธอยังมีความสามารถในการทำนายพยากรณ์แม่นระดับหาตัวจับยาก

ขณะที่คุณชายภุชคินทร์รู้สึกสะดุดตาในบุคลิกงามสง่า ท่าทีเปี่ยมไปด้วยปริศนา และคำพูดที่ลึกลับของเจ้าอุรคา ความงามของเจ้าอุรคาก็โดนใจรัฐมนตรีทรงอิทธิพลแห่งยุคเข้าอย่างจัง

'สุบรรณ ครุฑไพทูรย์' หรือที่นักข่าวเรียก "รัฐมนตรีที่ถูกปองร้ายมากที่สุด" เขาก้าวมาจากการเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ทั้งในงานถูกและผิดกฎหมาย จึงทำให้มีศัตรูมากมายจนถึงกับโดนลอบปองร้ายอยู่หลายครั้งหลายครา แต่ทุกครั้งก็รอดชีวิตมาได้อย่างปาฎิหาริย์ จนได้สมญานามว่า "แมวเก้าชีวิต" และต้องมีนายตำรวจกับมือปืนติดตามตลอดเวลา

สุบรรณพยายามตีสนิทกับเจ้าอุรคาในทุกวิถีทาง แต่ความที่ดูไม่น่าไว้วางใจของเจ้า ทำให้คนใกล้ชิดของสุบรรณที่ชื่อ ร.ต.อ.ไพศิษฐ์ นายตำรวจติดตาม ซึ่งเป็นเพื่อนรักของภุชคินทร์ กับนายอำนาจ สมุนมือขวาที่คอยดูแลธุรกิจด้านมืดให้กับสุบรรณ เกิดความหวาดระแวง และเฝ้าจับตามองเจ้าอุรคาอยู่เงียบ ๆ

ในงานเลี้ยงคืนหนึ่ง ตำรวจจับคนขับรถของเจ้าอุรคาพร้อมอุปกรณ์วางระเบิดได้ใกล้กับรถของสุบรรณ แต่เจ้าอุรคาให้การปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับชายต่างด้าวผู้นั้น บอกเพียงว่า ชายคนนั้นเป็นญาติห่าง ๆ ของแม่บ้านและเธอไหว้วานให้ช่วยขับรถมางานเลี้ยงเท่านั้นที่น่าประหลาดใจที่สุดคือ ทันทีที่ตำรวจนำชายมือระเบิดเข้าห้องขัง เขาก็กลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เล่นเอาตำรวจทั้งโรงพักงงเป็นไก่ตาแตก

ร.ต.อ.ไพศิษฐ์สงสัยว่า เจ้าอุรคาและพรรคพวกน่าจะอยู่ในขบวนการอะไรสักอย่าง จึงหอบความขุ่นข้องใจไปขอให้คุณชายภุชคินทร์ เพื่อนสนิทที่ทำงานอยู่กระทรวงต่างประเทศ ช่วยหาข่าวเกี่ยวกับเจ้าผู้ลึกลับคนนี้ เนื่องจากลำพังตัวเขาเองไม่สามารถเข้าถึงตัวเจ้าอุรคาได้ เพราะเจ้าอุรคาประกาศชัดเจนว่า เธอไม่สนใจการเมือง และแสดงท่าทีไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจในทุกกรณี

หากภุชคินทร์ก็ไม่ต้องใช้ความพยายามในการเข้าใกล้เจ้าอุรคาเลย เพราะเธอพาตัวเองเข้ามาวนเวียนอยู่ในชีวิตเขา ด้วยการมาร่วมทำงานการกุศลกับ หม่อมภาณี มารดาของภุชคินทร์ และยังเข้ามาเป็นหุ้นส่วนร้านเพชรของเจ้าประกายคำ ซึ่งเป็นร้านเพชรเจ้าประจำของหม่อมภาณี ภุชคินทร์จึงมีโอกาสได้พบเจ้าอุรคาบ่อยครั้ง

วันหนึ่ง หม่อมภาณีได้ซื้อสร้อยพร้อมจี้พลอยล้อมเพชรเก่าแก่มาจากร้านเจ้าอุรคาในราคาถูกอย่างไม่น่าเชื่อ พอภุชคินทร์เห็นเข้าก็สะดุดตาทันที เพราะจำได้ว่าเหมือนสร้อยที่เจ้าอุรคาสวมติดตัวเป็นประจำ

หม่อมภาณีบอกว่า พลอยสีเขียวเข้มจัดคือ พลอยนาคสวาท เป็นพลอยในตำนานเก่าแก่ที่เล่าถึงพญานาคกับพญาครุฑ สองเผ่าพันธุ์ กึ่งเทพกึ่งอมนุษย์ ที่เป็นศัตรูกันมาแต่โบราณ

พญานาค อยู่ในนครใต้บาดาลเรียกว่า โภควดี

พญาครุฑ อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์

ครั้งหนึ่งพญานาคกับพญาครุฑเกิดต่อสู้กัน และพญานาคเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ขณะใกล้จะตาย พญานาคกระอักเลือดออกมา 3 ครั้ง เลือดที่ออกมาครั้งแรกกลายเป็นพลอยสีเขียวเข้มจัด นั่นคือ นาคสวาท เลือดที่กระอักออกมาครั้งที่ 2 กลายเป็น มรกต เลือดครั้งสุดท้ายที่ใกล้หมด ปนมากับน้ำลาย จึงกลายเป็นพลอยสีเขียวอ่อนจางมีเส้นสีแดงเจืออยู่ เรียกว่า ครุฑธิการ

ทั้งที่ไม่สนใจเรื่องเพชรพลอย แต่คุณชายภุชคินทร์รู้สึกสนใจพลอยและตำนานพญาครุฑกับนาคเป็นอันมาก หากเมื่อเขาสัมผัสพลอยนาคสวาทก็ถึงกับหน้ามืด ซวนเซเกือบจะล้ม ความรู้สึกปวดแปลบเกิดขึ้นทั่วร่างกายภาพแปลกประหลาด แว่บเข้ามาในหัวสมองอย่างรวดเร็วแต่ไม่ปะติดปะต่อและจับใจความไม่ได้ หากความเป็นคนสมัยใหม่ ทำให้ภุชคินทร์เชื่อว่า คงเกิดจากการแพ้สารบางอย่างในพลอย มากกว่าจะเป็นเรื่องลึกลับที่หาคำตอบไม่ได้

ขณะเดียวกัน สุบรรณซึ่งเป็นม่ายมานานกว่า 3 ปี ที่แม้จะมีหญิงมากหน้าหลายตาเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็ไม่เคยยกย่องใครขึ้นแทนที่ 'คุณหญิงนันทกา' คุณหญิงคนเดิมที่เสียชีวิตไป หากเมื่อเขาได้รู้จักกับเจ้าอุรคา ความรู้สึกของสุบรรณก็เปลี่ยนไป เจ้าสูงศักดิ์คนนี้แหละ เหมาะจะเป็นคู่ของเขาอย่างแท้จริง!

นั่นเป็นแค่ความรู้สึกของสุบรรณ หากคนอื่นที่มองผ่านความงามของเจ้าอุรคาไป กลับสัมผัสได้ถึงความลึกลับ และน่าสะพรึงกลัวที่มีกลิ่นอายแห่งความตายปะปน เพราะมักมีคนเห็นเธอและเพื่อนชายรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตางดงามราวรูปสลักในชุดดำ ชื่อยมนา อยู่ในที่เกิดเหตุโศกนาฎกรรมเป็นประจำ

วันหนึ่ง ภุชคินทร์พาฟีบี้หรือเฟื่องวลี หลานภริยาของ รมต.ภิงคารไปรับประทานอาหารที่ร้านหรูแห่งหนึ่งและได้พบเจ้าอุรคาที่นั่น เจ้าแนะนำให้ภุชคินทร์รู้จักเพื่อนชายที่มาด้วยว่าชื่อ ยมนา ซึ่งภุชคินทร์รู้สึกว่า ชายเงียบขรึมคนนี้ มีลักษณะบางอย่างที่ชวนให้นึกถึงความตาย

ฟีบี้ซึ่งมีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง อาศัยความเป็นญาติห่าง ๆ ยึดภุชคินทร์เป็นคู่ควง เพราะเธอหลงคิดไปว่าความอ่อนโยนของภุชคินทร์ที่มีให้เธอ คือความรัก เธอจึงมั่นใจสุด ๆ ว่าตำแหน่งคุณผู้หญิงของวังนาเคนทร์ จะต้องตกเป็นของเธออย่างแน่นอน แต่พอได้เจอเจ้าอุรคา ความมั่นใจของฟีบี้เริ่มสั่นคลอนลงทันที เพราะเธอสังเกตว่าภุชคินทร์ให้ความสนใจต่อเจ้าอุรคา มากกว่าหญิงสาวทั่วไป เธอจึงแสดงอาการไม่ชอบเจ้าอุรคาออกหน้าออกตา

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ภุชคินทร์และฟีบี้เดินออกจากร้านอาหารไปไม่ทันถึงรถ ก็พลันมีคนบ้าถืออาวุธสงครามเข้าไปบุกยิงเสี่ยปิงและสมุนตายคาที่ เมื่อได้ยินเสียงปืน ภุชคินทร์รู้สึกเป็นห่วงเจ้าอุรคา จึงย้อนกลับเข้าไปดู กลับพบว่าเจ้าอุรคาเดินออกมาจากภัตตาคารอย่างไม่หวาดกลัวหรือตกใจใด ๆ เลย ส่วนยมนาเพื่อนของเจ้าอุรคานั้น กลับหายตัวไป

รุ่งขึ้น ข่าวเสี่ยปิงที่รู้กันว่าประกอบอาชีพไม่สุจริต โดนยิงถล่มตายคาที่ ก็ดังกระหึ่มไปทั่ว ตำรวจสรุปว่า เป็นการลอบฆ่าเนื่องจากขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ เพราะเสี่ยปิงมีเกี่ยวพันโยงใยกับ รมต.สุบรรณ เนื่องจากเสี่ยปิงเป็นหนึ่งในลูกน้องคนสำคัญของนายอำนาจ ซึ่งดูแลธุรกิจทั้งที่ถูกและผิดกฎหมายของ รมต.สุบรรณ นั่นเอง ดังนั้นสุบรรณจึงสงสัยว่า การฆาตกรรมครั้งนี้ จะเป็นฝีมือของเสี่ยทรงยศ อดีตคู่แข่งทางการค้าคนสำคัญของสุบรรณ ที่เคยถูกเขากลั่นแกล้งจนธุรกิจล้มละลาย ขณะที่ ร.ต.อ.ไพศิษฐ์ ตั้งข้อสงสัยว่า เจ้าอุรคาอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเสี่ยปิง เพราะเจ้าอุรคาและเพื่อนชาย นั่งติดโต๊ะที่เกิดเหตุ แต่กลับไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ เลย อีกทั้งยมนาเพื่อนชายที่ไปด้วยกัน ก็หายไปจากที่เกิดเหตุอย่างไร้ร่องรอย

วันหนึ่ง ผู้กองไพศิษฐ์ไปหาเจ้าอุรคาที่บ้าน เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์วันเกิดเหตุ แต่เจ้าอุรคาปฏิเสธ บอกว่าเธอไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น และขณะผู้กองไพศิษฐ์ขับรถกลับจากบ้านเจ้าอุรคามาถึงสี่แยก ก็พบว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้น ด้วยสัญชาตญาณของตำรวจ เขาจึงรีบจอดรถและตรงเข้าไปช่วยเหลือ แต่ข้างจุดเกิดเหตุ ไพศิษฐ์พบเจ้าอุรคากับยมนายืนดูอยู่ เจ้าอุรคาบอกไพศิษฐ์ว่า ชายผู้ตาย เป็นนายแพทย์ใหญ่ที่มีฉากหน้าเป็นคนใจบุญ ชอบบริจาคเงินหลายล้านเพื่อการกุศล แต่เบื้องหลังเป็นคนใจบาปหยาบช้าค้าแม้กระทั่งอวัยวะมนุษย์ ไพศิษฐ์งุนงงว่า เจ้าอุรคารู้ได้อย่างไรว่าผู้ตายเป็นคนอย่างนั้น แต่ก่อนจะซักถาม เจ้าอุรคาและยมนาก็หายไปเสียแล้ว

หลังจากคืนนั้น ผู้กองไพศิษฐ์เก็บข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับเจ้าอุรคาและยมนามาขบคิด แต่เขาไม่สามารถนำเรื่องที่พบเจอไปเล่าให้ใครฟังได้เลยนอกจากภุชคินทร์ เพราะข้อสงสัยของเขายืนยันไม่ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ หากแต่เป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่ว่า ที่ไหนมีคนตาย จะต้องเจอ 'ยมนา' ที่นั่นทุกครั้งไป!

เจ้าอุรคาเคยพูดล้อเล่น บอกภุชคินทร์และผู้กองไพศิษฐ์ว่า เธอสามารถเป็นได้หลายอย่าง ทั้งหมอดู ทั้งนักเล่นกล ทั้งนักสะกดจิต แต่ความลับของเจ้าอุรคาที่ไม่มีใครรู้เลยคือ เธอเป็นร่างเนรมิตของ อุรคาเทวี นางพญานาคี ผู้เป็นธิดาครองโภควดี นครใต้บาดาล เธอจึงมีอิทธิฤทธิ์เหนือมนุษย์ทั่วไปนั่นเอง ส่วนยมนาที่เจ้าอุรคาบอกว่าเป็นเพื่อนสนิทของเธอนั้น ก็คือ ยมทูต หรือทูตแห่งความตาย ที่มารอรับวิญญาณ เพื่อนำไปยังปรโลก เพื่อฟังคำพิพากษาว่าได้เคยประกอบกรรมดีกรรมชั่วอะไรบ้างยามมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์!

เจ้าอุรคาขึ้นมาเยือนโลกมนุษย์เพราะภารกิจความรักและความแค้นในอดีตที่ยังคงฝังลึกอยู่ในหัวใจ อย่างรอคอยการสะสาง เพราะครั้งหนึ่ง พญาครุฑที่ชื่อพญาสุบรรณ ได้บุกลงมาถึงเมืองโภควดี ซึ่งเป็นนครใต้บาดาล และจับตัว ภุชเคนทร์ เจ้าชายพญานาคที่สนิทเสน่หาของอุรคาเทวีไปเป็นอาหารต่อหน้าต่อตา เธอตามไปช่วยภุชเคนทร์จนเกิดการต่อสู้กับพญาสุบรรณ เป็นเหตุให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสและกระอักเลือดออกมาเป็นมณีนาคสวาท ส่วนภุชเคนทร์ ถึงแก่ความตายอย่างทรมาน หากก่อนจะตาย เขาได้ตั้งสัจจะอธิษฐานไว้ว่า เกิดชาติหน้าชาติใด จะไม่ขอกลับมาเกิดเป็นพญานาคอีก

เจ้าอุรคาโกรธแค้นพญาสุบรรณมาก นางจึงปฏิญาณกับตนเองว่า จะตามจองเวรพญาสุบรรณ เจ้าอุรคาเฝ้ารอคอยจนพญาครุฑเวียนว่ายตายเกิดในวัฎสงสารกระทั่งมาเกิดบนโลกมนุษย์ในภพนี้ เกิดเป็นบุรุษผู้มีบุญวาสนา มีอำนาจใหญ่โตด้วยบุญบารมีจากชาติในอดีต ซึ่งก็คือ รมต.สุบรรณ!

ด้วยความที่เป็นกัลยาณมิตร ยมนารู้ว่าเจ้าอุรคาเต็มไปด้วยความแค้น ต้องการจองเวร รมต.สุบรรณ ยมนาจึงมาคอยขัดขวางไม่ให้เจ้าอุรคาทำการสิ่งใดที่ขัดต่อกฎแห่งกรรม เพราะเวลาของ รมต.สุบรรณบนโลกมนุษย์ยังไม่หมด และบุญเก่าที่สั่งสมมาแต่ชาติปางก่อน ทำให้เจ้าอุรคาไม่สามารถทำอันตรายต่อสุบรรณได้เลยด้วย ส่วนพญานาคภุชเคนทร์ ที่ถูกพญาสุบรรณทำร้ายจนตายก็มาเกิดเป็นมนุษย์ที่มีชาติกำเนิดสูงส่ง ซึ่งก็คือ ม.ร.ว.ภุชคินทร์ นาเคนทร์ นั่นเอง!

เจ้าอุรคาบอกกับยมนาว่า เธอยังมีความรักมั่นคงให้ภุชคินทร์ไม่เสื่อมคลาย แต่ชาติภพเป็นอุปสรรคความรักของเธอกับภุชคินทร์ การมาเยือนโลกมนุษย์ของเธอจึงเพียงต้องการให้ภุชคินทร์รำลึกได้ว่า ในภพหนึ่งเขาเคยเป็นพญานาคภุชเคนทร์ ที่ได้ตั้งสัจจะอธิษฐานว่า จะไม่ขอเกิดเป็นพญานาคอีก เจ้าอุรคาต้องการเพียงแค่ ให้ภุชคินทร์ถอนคำสัตย์นั้น เพื่อว่า สักวันหนึ่ง ทั้งสองจะได้ครองคู่กันในภพภูมิเดียวกันอีกครั้ง

เจ้าอุรคาคอยเป็นห่วงเป็นใยในทุกเรื่องของคุณชายภุชคินทร์ มีคนเห็นร่องรอยของพญานาคแถวกำแพงรั้ววังนาเคนทร์ จนกลายเป็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ใหญ่โต หรือมีคนเห็นงูใหญ่ว่ายอยู่ในคลองใกล้วัดแถววังนาเคนทร์ กระทั่งหญิงสาวคนใดที่เข้ามาในชีวิตของภุชคินทร์ ไม่ว่าจะเป็นฟีบี้ หรือ พนอฤดี เพื่อนรุ่นพี่ของนารีวรรณ ซึ่งเป็นน้องสาวบุญธรรมของภุชคินทร์ ต่างก็โดนเจ้าอุรคากลั่นแกล้งให้เห็นภาพหลอนจนแทบเสียสติไปทุกคน

ครั้งหนึ่ง เจ้าอุรคามอบแหวนที่มีหัวเป็นพลอยครุฑธิการให้ภุชคินทร์ใส่ติดตัว ทันทีที่ฟีบี้เห็นแหวนพลอยครุฑธิการ เธออ้อนวอนขอจนภุชคินทร์ยอมใจอ่อนยกให้ ฟีบี้ดีใจมาก รีบนำกลับไปอวด 'เฟื่องฟ้า' ผู้เป็นมารดา สองแม่ลูกดีอกดีใจนึกว่าเป็นแหวนหมั้นจากคุณชายภุชคินทร์ ต่างฝันเฟื่องถึงงานวิวาห์ใหญ่โตแห่งปี หารู้ไม่ว่าความน่าสะพรึงกลัวได้มารออยู่ตรงหน้า

ในคืนนั้น ฟีบี้เข้านอนพร้อมรอยยิ้มแห่งความหวัง เธอฝันว่า ตัวเองไปอยู่ในที่รกร้างว่างเปล่า จู่ ๆ ก็มีร่างพญานาคใหญ่โตน่าหวาดกลัวเลื้อยไล่เธอ พร้อมแยกเขี้ยวยาวเตรียมทำร้าย ฟีบี้วิ่งหนีล้มลุกคลุกคลานไปจนที่สุดพญานาคก็ตามทัน พญานาคก้มลงมาจนใกล้ใบหน้าฟีบี้ น้ำลายของพญานาคหยดออกมาจากเขี้ยวยาว และกลายเป็นพลอยใสสีเขียวอ่อนเหมือนแหวนพลอยที่เธอเพิ่งได้จากภุชคินทร์ไม่มีผิด เมื่อฟีบี้ตื่นจากความฝันอันสยดสยอง เธอกรีดร้องโวยวายอาละวาดราวกับเสียสติ

เฟื่องฟ้า ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับผู้การนรินทร์ บิดาของนาถสุดา แฟนสาวของผู้กองไพศิษฐ์ ผู้การซึ่งสนใจธรรมะและปฎิบัติธรรมจนมีณาณระดับหนึ่ง นั่งสมาธิจนรู้ว่าแหวนนั้นมีอาถรรพ์ติดมา จึงรีบบอกให้เฟื่องฟ้านำแหวนไปคืนให้ภุชคินทร์ทันที หลังจากวันนั้น ฟีบี้กลายเป็นคนเสียสติ เห็นภาพหลอนของคนศีรษะเป็นงูอยู่เรื่อยไป จนต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลนานนับเดือน แต่ถ้าวันไหนภุชคินทร์เดินทางไปเยี่ยม ฟีบี้ที่อาการดีขึ้นแล้วก็จะเกิดเห็นภาพหลอนขึ้นมาจนอาการกลับแย่ลงไปอีก

ในงานราตรีเมตตามหากุศล ซึ่ง 'หม่อมภาณี' เป็นโต้โผใหญ่ เจ้าอุรคารับอาสาจัดการแสดงโชว์บนเวทีทั้งหมด ทุกคนในงานต่างตะลึงกับการแสดงโชว์หุ่นพญานาคที่เคลื่อนไหวได้ราวกับของจริง พร้อมกับการเต้นที่อ่อนพลิ้วราวกับงูจริงของนักแสดง ที่ไม่มีใครเห็นว่าเข้ามาในงานตอนไหน และเมื่อแสดงจบสิ้นลงก็หายตัวไปอย่างลึกลับทั้งหมด จากนั้น เจ้าอุรคาก็ขึ้นไปแสดงมายากลบนเวที โดยเชิญ 'ภุชคินทร์' ขึ้นมาเป็นผู้ช่วย มีภาพมัลติวิชั่นสวยงามบรรยายให้เห็นถึงเมืองหนึ่ง ชื่อ โภควดี จากนั้นก็เห็นพญานาคตัวหนึ่งกำลังเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน ก่อนจะโดนพญาครุฑตรงเข้าทำร้าย ซึ่งเมื่อถึงฉากนั้น ภุชคินทร์เกิดความรู้สึกประหลาด คือเจ็บปวดไปทั้งตัวจนแทบจะทนไม่ได้ ที่สุด ภาพมัลติวิชั่นก็จบลงท่ามกลางความตะลึงพรึงเพริศของทุกคนว่า ช่างเหมือนจริงมากเสียจนเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง คนดูปรบมือสนั่นหวั่นไหว แต่ยังไม่ทันสิ้นเสียงปรบมือ เจ้าอุรคาก็ยิงธนูใส่ 'ชรายุ' สาวใช้คนสนิท และลูกธนูได้กลายเป็นงูยักษ์มีชีวิตพุ่งเข้ารัดร่างของชรายุจนนอนแน่นิ่งไป แต่เมื่อเจ้าอุรคาใช้พัดขนนกโบกเบา ๆ งูยักษ์ก็หายวับไปกับตา ชรายุลุกขึ้นได้ดังเดิม เรียกเสียงปรบมือกึกก้องจากแขกทุกคนในงาน

ขณะยืนดูการแสดงอย่างใกล้ชิดในฐานะผู้ช่วยนักมายากล ภุชคินทร์รู้สึกทึ่งมากที่สุด เพราะมายากลของเจ้าอุรคาแนบเนียนจนจับผิดอะไรไม่ได้เลย โดยเฉพาะโชว์ชุดสุดท้ายที่เจ้าอุรคาเล่นนอกบท ด้วยการเสกเชือกให้กลายเป็นงูแล้วขว้างลงไปที่ รมต.สุบรรณที่นั่งอยู่ด้านล่างทันที! ทุกคนในงานหวีดร้องด้วยความตกใจ แต่ รมต.สุบรรณเป็นคนเดียวที่นิ่ง เยือกเย็น ไม่มีอาการสะทกสะท้าน เขาคว้าหมับเข้าที่กลางตัวงู เมื่อพลิกมาดูก็พบว่าเป็นงูยาง ไม่ใช่งูมีชีวิตอย่างที่เห็นบนเวที บรรดาลิ่วล้อต่างโกรธที่เจ้าอุรคาเล่นแรง แต่ตรงกันข้าม สุบรรณกลับรู้สึกสนุกสนานกับการแสดงของเจ้าอุรคาเป็นอย่างมาก

ในคืนนั้น รมต.สุบรรณเอ่ยชวนเจ้าอุรคาไปที่บ้าน โดยอ้างว่า เขามีเครื่องเพชรเก่าแก่จะขายให้เจ้าอุรคา ขณะเดินออกจากงานเลี้ยง มีชายลึกลับบุกเข้ามายิง รมต.สุบรรณอย่างอุกอาจ แต่โชคดีที่ นายอากร มือปืนคุ้มกันรีบบังเจ้านายไว้ได้ทัน สุบรรณจึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่นายอากรได้รับบาดเจ็บหนัก เจ้าอุรคาขัดใจมากที่ทำร้ายนายสุบรรณไม่สำเร็จ ยมนาปรากฏตัวขึ้นต่อว่าเจ้าอุรคาที่กระทำการรุนแรง ฝ่าฝืนกฎแห่งกรรม เจ้าอุรคาจึงรู้ว่า ที่สุบรรณไม่เป็นอะไร ก็เพราะยมนาขัดขวางไว้นั่นเอง

ขณะเจ้าอุรคากับยมนายืนเถียงกัน คนอื่น ๆ ไม่มีใครเห็นยมนา แต่นายอากรซึ่งกำลังบาดเจ็บสาหัสใกล้ตาย กลับมองเห็นยมนา เขาจึงร้องขอชีวิตด้วยความกลัว และหลังจากนายอากรรอดชีวิตออกจากโรงพยาบาล เขาก็กลับใจ ละทิ้งอาชีพมือปืน แล้วตัดสินใจบวชตลอดชีวิตเพื่อไถ่บาปกรรมที่ก่อมา เจ้าอุรคาซึ่งมีศรัทธาในพระพุทธศาสนามากดั่งเช่น 'พญานาค' พระญาติในสมัยพุทธกาลที่เคยขอบวชกับพระพุทธเจ้า ซึ่งแม้ไม่ได้รับอนุญาต แต่ก็มีจิตศรัทธา คอยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเรื่อยมา เมื่ออากรมือปืนนายอำนาจมาบวชที่วัดใกล้บ้าน เจ้าอุรคาจึงถือโอกาสตามไปทำบุญกับพระอากรที่วัดเป็นประจำ จึงมีโอกาสได้พบกับ 'ผู้การนรินทร์' และ 'เฟื่องฟ้า' ซึ่งมาทำบุญสะเดาะเคราะห์ให้ฟีบี้ที่ยังป่วยอยู่ในโรงพยาบาล เจ้าอุรคาบอกเฟื่องฟ้าให้เลิกหวังในสิ่งสูงค่าเกินเอื้อม แล้วฟีบี้จะหายจากอาการป่วยและได้พบคู่แท้ครองรักมีความสุขตลอดชีวิต

ผู้การนรินทร์ซึ่งมองเห็นร่างจริงของเจ้าอุรคา รีบแสดงความเคารพสูงสุด เจ้าอุรคากำชับผู้การว่าอย่าบอกความลับนั้นกับใครเด็ดขาด

พ.อ.นรินทร์เป็นทหารเกษียณราชการที่ใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ปฏิบัติธรรม นั่งวิปัสนากรรมฐาน จนสามารถเห็นอะไรที่คนทั่วไปมองไม่เห็น เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของ 'คุณหญิงนันทกา' ภริยาของ รมต.สุบรรณ ซึ่งสุบรรณพยายามเชื้อเชิญผู้การมาเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวหลายครั้ง แต่ได้รับคำปฏิเสธเรื่อยมา ยิ่งหลังจากคุณหญิงของ รมต.สุบรรณเสียชีวิต ผู้การนรินทร์ซึ่งมีนิสัยรักสันโดษและสมถะก็ยิ่งเหินห่างจากน้องเขย แต่ รมต.สุบรรณก็ยังคงตามตื้อผู้การผ่านทางนาถสุดาเสมอ

วันหนึ่ง ผู้การนรินทร์นั่งทางในและเห็นลางบอกเหตุร้ายที่จะมาถึงตัว รมต.สุบรรณ ผู้การจึงรีบมาเตือนให้อดีตน้องเขยระวังตัวและหมั่นทำบุญสร้างกุศล เพื่อให้กรรมหนักผ่อนเป็นเบา แต่ รมต.สุบรรณไม่สนใจ ยังคงก่อกรรมขยายอำนาจของตัวและกอบโกยทรัพย์สมบัติด้วยความโลภไม่มีที่สิ้นสุด

นายอำนาจเชื่อว่าเหตุร้าย ๆ รวมกับที่นายอากรสมุนมือขวาของเขาหนีไปบวช เป็นฝีมือเจ้าอุรคาทั้งสิ้น นายอำนาจจึงส่งลูกสมุนชื่อ ปัญญาและสมศักดิ์ ไปทำร้ายเจ้าอุรคาถึงบ้าน โดยปัญญาใช้วิชาอาคมที่ร่ำเรียนมาจากทางเหนือเข้าต่อกรกับเจ้าอุรคา แต่คนธรรมดา ฤา จะสู้พญานาคีอันมีฤทธิ์แก่กล้าได้ ปัญญาสิ้นชีวิตภายใต้คมเขี้ยวพญานาคของชรายุ ส่วนสมศักดิ์นั้น เจ้าอุรคาส่งกลับไปเตือนนายอำนาจว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร สมศักดิ์ในสภาพไร้สติจัดการเหนี่ยวไกปืนใส่นายอำนาจ ก่อนจะปลิดชีพตัวเอง โชคยังดีที่นายอำนาจไม่ถึงที่ตาย เขาจึงยิ่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความแค้นเจ้าอุรคา พร้อมทั้งประกาศว่า จะต้องเอาชีวิตสตรีผู้นี้ให้จงได้ ครั้นสบโอกาสเหมาะ เจ้าอุรคาเชิญ รมต.สุบรรณไปรับประทานอาหารที่บ้าน นายอำนาจจึงวางแผนร้ายด้วยการจะลอบวางระเบิดบ้านของเจ้าอุรคา โดยให้ระเบิดทำงานทันทีที่ รมต.สุบรรณและนายอำนาจพ้นไปจากบ้านเจ้าอุรคา แต่เขากลับไม่รู้ว่า วันนั้นแหละ คือวันสุดท้ายที่เขาจะมีโอกาสทำชั่วต่อไปบนโลก!!

เจ้าอุรคาต้อนรับ รมต.สุบรรณด้วยอาหารเลิศรส ตกแต่งอย่างสวยสดงดงามจน รมต.สุบรรณลิ้มลองแล้วต้องชมไม่ขาดปาก โดยเฉพาะเมนูพิเศษอย่าง 'งูเห่าผัดเผ็ด' นั้น รมต.สุบรรณกินอย่างเอร็ดอร่อย ขณะที่นายอำนาจกลับเห็นเป็นภาพงูเห่ามีชีวิตเลื้อยอยู่บนจาน นายอำนาจร้องตกใจและรีบขอตัวออกไปข้างนอกเพื่อสงบสติอารมณ์ แต่สายตาของเขากลับยิ่งพบภาพน่ากลัวมากขึ้น เมื่อเห็นภาพอสรุกายอัปลักษณ์ มีศีรษะเป็นงูเข้ามารุมทำร้ายจนนายอำนาจหัวใจวายตายในสวนของบ้านเจ้าอุรคานั่นเอง

เจ้าอุรคาฉายสไลด์ชุดพิเศษที่ รมต.สุบรรณชมแล้วเกิดอาการเคลิ้มกึ่งฝันเห็นดินแดนโภควดี แต่ขณะเจ้าอุรคากำลังจะย้อนให้สุบรรณเห็นเหตุการณ์นองเลือดในอดีต ยมนาซึ่งมารับวิญญาณของนายอำนาจก็เข้ามาขัดขวางเจ้าอุรคาไว้ได้ทันพอดี ทำให้เจ้าอุรคาโกรธยมนามาก แต่ยมนาได้ตักเตือนด้วยสุรเสียงเกรี้ยวกราดของอำนาจแห่งยมทูต ออกคำสั่งมิให้เจ้าอุรคาทำร้าย รมต.สุบรรณอีกต่อไป มิฉะนั้นเขาจะลงโทษเจ้าอุรคา

เจ้าอุรคาหวาดกลัว จึงรับปากว่าจะไม่ทำอันตรายชีวิตนายสุบรรณอีก แต่ขอรอเวลาอยู่เพื่อชมความย่อยยับของนายสุบรรณ แล้วจึงจะยอมกลับนครใต้บาดาลแต่โดยดี

ต่อมา เจ้าอุรคาพยายามรื้อฟื้นความทรงจำของภุชคินทร์ด้วยหลากหลายวิธีการ แต่ภุชคินทร์ซึ่งลืมชาติในอดีตไปจนหมดสิ้นแล้วก็ยังจำอะไรไม่ได้ จนเจ้าอุรคาทดท้อใจ ภุชคินทร์รู้สึกเพียงว่า เจ้าอุรคามักจะพูดจาแปลก ๆ และกำกวม และมีหลายครั้งที่เธอพยายามพูดถึงอดีตที่เขาไม่เข้าใจ และจำไม่ได้

ต่อมา เขาได้เจอ ดร.วิชัยสิงห์ นักเทววิทยาชาวอินเดียแห่งมหาวิทยาลัยพาราณสี ที่เดินทางมาเพราะได้ข่าวคนเห็นพลอยนาคสวาทที่เมืองไทย ดร.วิชัยสิงห์ตามหาพลอยนาคสวาท เพราะเชื่อเรื่องตำนานของพญานาค และเขากำลังเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ ดังนั้นวันหนึ่ง ดร.วิชัยสิงห์จึงมีโอกาสรู้จักกับเจ้าอุรคา

เจ้าอุรคารับรู้เหตุผลการมาของ ดร.วิชัยสิงห์ชัดเจน จึงเตือนให้ ดร.วิชัยสิงห์ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเขียนตำนานพญานาคและพลอยนาคสวาทเสีย ดร.วิชัยสิงห์ออกปากสัญญากับเจ้าอุรคาว่า เขาจะไม่นำไปเรื่องราวไปเขียน ถ้าเขาผิดคำสัญญา ขอให้เขาตายอย่างทุกข์ทรมาน ซึ่งแน่นอนว่า ดร.วิชัยสิงห์ก็แค่รับปากส่ง ๆ ไปอย่างนั้นเอง เพราะเห็นเจ้าอุรคาดูเอาจริงเอาจัง แต่เขายังหวังว่าเมื่อตำราที่เขาค้นคว้าได้ตีพิมพ์ มันจะนำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศให้เขา

หลังจากนั้น ดร.วิชัยสิงห์ได้สะกดจิตช่วยให้ภุชคินทร์รื้อฟื้นความทรงจำในชาติภพที่เป็น 'ภุชเคนท์' พญานาคได้นั่นทำให้ ดร.วิชัยสิงห์ตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ความเชื่อเรื่องพญานาคของเขามีจริง แต่เพราะความโลภมาก ดร.วิชัยสิงห์หมายมั่นว่า จะเอาเทปที่บันทึกการสะกดจิต และเรื่องการระลึกชาติของภุชคินทร์ไปหาผลประโยชน์ โดยลืมคำสัญญาที่ให้กับเจ้าอุรคาเสียสิ้น

เจ้าอุรคาแค้น ดร.วิชัยสิงห์ที่จะเอาเรื่องของภุชคินทร์ไปเขียนหนังสือ จึงส่ง อหิเหร รูปสลักงูบนแผ่นศิลาให้ ดร.วิชัยสิงห์ คืนวันนั้น ดร.วิชัยสิงห์ถูกฆาตกรรมอย่างลึกลับ

เมื่อภุชคินทร์รู้ว่า ตัวเองเป็นพญานาคภุชเคนทร์ คนรักเก่าของเจ้าอุรคาในภพภูมิเดิม และได้รู้อีกว่าแม้กาลเวลาจะผ่านมากี่ภพกี่ชาติ ความรักที่เจ้าอุรคามีต่อเขา ก็มิได้ลดน้อยลงเลย อีกทั้งยังเข้าใจสาเหตุของการตามล้างแค้นของเจ้าอุรคา เขาจึงรีบไปหาเจ้าอุรคาเพื่อบอกว่า 'เขาขอโทษ' ที่ก่อนหน้าเขาลืมเรื่องราวต่าง ๆ จนหมดสิ้น เขาขอให้เจ้าอุรคาอโหสิกรรมให้ รมต.สุบรรณ และกลับไปยังนครใต้บาดาล เพราะเขาไม่ต้องการเห็นคนที่เขารักต้องก่อกรรมทำเข็ญให้หนี้กรรมติดตามต่อไปอีกไม่รู้กี่ชาติกี่ภพ!

รมต.สุบรรณเห็นว่า เจ้าอุรคาสนิทสนมใกล้ชิดกับคุณชายภุชคินทร์มาก จึงเกิดเป็นความหึงหวง เขาสั่งให้สุรินทร์มือปืนคนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ไปกำจัดเสี้ยนหนามหัวใจ สุรินทร์จับตัวภุชคินทร์ไปขังไว้เพื่อเตรียมสังหาร แต่เจ้าอุรคารับรู้ได้ เธอจึงบอกให้ไพศิษฐ์ตามไปช่วยภุชคินทร์ไว้ได้ทันเวลา สุรินทร์ซึ่งหนีรอดกลับมารายงานความล้มเหลวต่อ รมต.สุบรรณ ถูกสุบรรณปลิดชีวิตอย่างเลือดเย็น

ภุชคินทร์และไพศิษฐ์ติดตามสุรินทร์มาถึงบ้าน รมต.สุบรรณ พวกเขาประหลาดใจมากที่ผู้คนหายไปจากบ้าน รมต.สุบรรณจนหมดสิ้น ทั้งสองเดินเข้าไปในบ้านที่เคยมีการอารักขาสูงสุดได้อย่างง่ายดาย เมื่อเข้าไปถึงในบ้าน เขาทั้งสองพบกับหมอกควันสีเขียวลอยละล่องจนแทบมองไม่เห็นทาง ภุชคินทร์ได้ยินเสียงกราดเกรี้ยวของเจ้าอุรคา จึงเดินตามเสียงไปจนถึงห้องหนึ่งที่มีประตูเปิดออกไปเป็นสถานที่ ๆ ทั้งเขาและไพศิษฐ์ไม่คาดคิดว่าจะมาอยู่ในบ้านหลังนี้ได้

เพราะเมื่อเปิดประตูออกไป เขาพบว่า กำลังยืนอยู่ในถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม แสงภายในถ้ำมืดสลัว มีเพียงแสงสว่างอยู่ตรงกลางถ้ำ และตรงกลางนั้น รมต.สุบรรณถูกพันธนาการไว้อย่างแน่นหนา

ไพศิษฐ์แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อเห็นเจ้าอุรคาในร่างของอุรคาเทวี พญานาคี ผู้มีร่างท่อนบนเป็นมนุษย์ และท่อนล่างเป็นหางพญานาค ขดเป็นบัลลังก์สูง กำลังโกรธเกรี้ยวที่ รมต.สุบรรณลงมือทำร้ายชายที่รักของเธอเป็นครั้งที่สอง

เจ้าอุรคาย้อนภาพ ให้ทั้งภุชคินทร์ รมต.สุบรรณ และไพศิษฐ์ได้เห็นเรื่องราวในอดีตชาติที่พญาสุบรรณทำร้ายเจ้าชายภุชเคนทร์จนเสียชีวิต และทำร้ายเจ้าอุรคาบาดเจ็บสาหัสจนถึงกับกระอักเลือดออกมาเป็นมณีนาคสวาท แต่ รมต.สุบรรณที่เห็นอดีตชาติของตัวเองก็ไม่ได้แสดงอาการหวาดหวั่นต่อวิบากกรรมที่กำลังจะได้รับ เขากลับรู้สึกผิด ที่ได้ก่อกรรมทำเข็ญกับภุชเคนทร์และอุรคา และได้เอ่ยขอขมา กับขออโหสิกรรมต่อภุชคินทร์และเจ้าอุรคาเพื่อให้ความแค้นจบลงที่ชาตินี้

ทีแรก เจ้าอุรคาไม่ยอม แต่ยมนาปรากฎตัว เตือนสติเจ้าอุรคาให้หยุดวงล้อของกรรมเสีย เจ้าอุรคาจึงยอมให้อภัย และอโหสิกรรมให้ รมต.สุบรรณในที่สุด รวมทั้งภุชคินทร์ด้วย

เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร

ขณะเดียวกัน บุญเก่าที่สะสมมาของ รมต.สุบรรณก็หมดลง กงกรรมที่ รมต.สุบรรณได้ทำไว้ ย้อนกลับมาหาเขาเหมือนรอยเกวียน เสี่ยทรงยศที่ขณะนี้ไม่ต่างกับหมาจนตรอกได้บุกเข้ามาในบ้านแล้วเอาปืนกระหน่ำยิง รมต.สุบรรณจนบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่หมอทำการช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถแล้วก็ไม่อาจยื้อชีวิต รมต.สุบรรณไว้ได้ ก่อนวิญญาณละจากร่าง รมต.สุบรรณเห็นยมนามายืนรอรับเขาอยู่

หลังจาก รมต.สุบรรณตายลงก็ไม่มีใครได้พบเห็นเจ้าอุรคาอีกเลย ภุชคินทร์อยู่ในอาการเศร้าซึมเมื่อต้องพรากจากหญิงอันเป็นที่รักไปตลอดกาล เหลือเพียง 'มณีนาคสวาท' ที่เป็นตัวแทนแห่งความรักระหว่างเขากับเจ้าอุรคา

วันหนึ่ง เจ้าอุรคาที่ยังคอยติดตามความเป็นอยู่ของภุชคินทร์ด้วยความเป็นห่วง ตัดสินใจหนีขึ้นมาบนโลกมนุษย์อีกครั้งเพื่อพบภุชคินทร์เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อบอกให้เขาหมั่นทำบุญสร้างกุศล และตั้งจิตอธิษฐานให้ได้กลับไปเกิดในชาติภพภูมิเดิมอีกครั้ง และเมื่อนั้น เธอและเขาก็จะได้พบและรักกันอีก

 

 

อ่านมาจากลิ้งค์นี้ค่ะ

ให้เพื่อนรักอ่านตามคำขอ
เพื่อเตรียมรอชมละครเรื่องนี้ในวันที่ 28 มกราคม




 

Create Date : 22 มกราคม 2556    
Last Update : 22 มกราคม 2556 22:28:26 น.
Counter : 2400 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  

พุดดิ้งรสกาแฟ
Location :
United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]




สิ่งต่าง ๆ เคยสำคัญในช่วงเวลาหนึ่ง
อาจเป็นประโยชน์สำหรับใครบางคน
อาจไร้สาระสำหรับใครอีกบางคน


ถ้ามันไร้สาระ
โปรดทิ้งมันไปเฉย ๆ อย่างง่าย ๆ
หากมันมีประโยชน์ ฉันก็ดีใจ


..
..
..
Friends' blogs
[Add พุดดิ้งรสกาแฟ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.