DR.MOO CAN DO
Group Blog
 
All Blogs
 

10 อาชญากรรมเด่นรอบปี 2555 : เก้าอี้ฟาดหน้าทวงนาฬิกา

สะท้านวงการโลกไซเบอร์ เมื่อมีคลิปหญิงสูงวัยในชุดแม่บ้านของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ถูกนักเรียนชาย วัย 17 ปี ใช้เก้าอี้พลาสติกฟาดเต็มแรงเข้าหน้า จนล้มทั้งยืน ทั้งที่ได้มีการเจรจาและยกมือไหว้ข...อโทษขอโพยแล้ว ภายหลังเกิดเหตุ เด็กหนุ่มเลือดร้อนได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ พร้อมเผยสาเหตุว่า เข้าใจว่าป้าคนดังกล่าวแอบขโมยนาฬิกาข้อมือยี่ห้ออาร์มานี ในราคา 15,000 บาท ไป ขณะฝ่ายหญิงสูงวัยก็ยืนยันว่าไม่ได้ขโมยเพราะเก็บได้จากกลางถนน




 

Create Date : 02 มกราคม 2556    
Last Update : 2 มกราคม 2556 11:48:35 น.
Counter : 1298 Pageviews.  
Share

สาว 16 ข่มขืนคุณปู่อายุ 85 เป็นเวลาถึง 4 ปี

ข่าวนี้ทำเอาช็อก ( อิจฉา ) กันไปเลยทีเดียว สาวจีนอายุ 16 ข่มขืนคุณปู่อายุ 85 ปี เพื่อนบ้าน เป็นเวลานานถึง 4 ปี เหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อเธออายุ 12 ปี จากความต้องการเงินค่าขนม เลยปิ๊งไอเดียว่า "คุณปู่ข้างบ้านรวย ถ้าไปนอนกับเขาคง เขาคงจะให้เงิน " พอตัดสินใจได้ ก็เลยแอบปีนเข้าไปในห้องคุณปู่ เปลือยกายต่อหน้าต่อตา ครั้งแรกคุณปู่ปฏิเสธ และ ไล่เธอกลับบ้านไป แต่เธอไม่ยอมแพ้ พยายามไปยั่วยวนคุณตาอีกหลายครั้ง สุดท้ายคุณปู่ทนไม่ไหว และ ร่วมหลับนอนกับเธอในที่สุด โดยจ่ายให้เธอครั้งละ 20 หยวน หลังจากนั้น ทุกครั้งที่หมวยคนนี้เงินหมด ก็จะมานอนกับคุณปู่ ความสัมพันธ์นี้เกิดขึ้นเรื่อย จนคุณปู่รู้สึกว่า ตัวเองถูกคุกคาม พยายามจะหยุดความสัมพันธ์กับเธอหลายต่อหลายครั้ง แต่ทำไม่สำเร็จซักที เพราะหมวยคนนี้ไม่ยอม ซ้ำยังขู่ว่าจะแจ้งตำรวจ จนสุดท้ายเรื่องมาแดงในที่สุดเมื่อเธออายุปาเข้าไป 16 ปีแล้ว จากเหตุการณ์นี้ ศาลได้สั่งจำคุกคุณปู่เป็นเวลา 5 ปี เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2004 ถ้านับเวลานี้สาวคนนี้ก็ต้องอายุ 24 แล้ว




 

Create Date : 18 มิถุนายน 2555    
Last Update : 18 มิถุนายน 2555 8:53:58 น.
Counter : 9067 Pageviews.  
Share

สลด! คนงานนอนดิ้นตกตึก 5 ชั้นดับ


       คนงานก่อสร้างนอนดิ้นละเมอ ตกตึกพาณิชย์สูง 5 ชั้น ใส่บ่อดินซึ่งขุดไว้สำหรับบำบัดน้ำเสีย ดับอนาถ


            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สน.ลุมพินี รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตในบ่อบำบัดน้ำเสียของไซต์งานก่อสร้าง อาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น จำนวน 5 คูหา บริเวณบ่อดินซึ่งขุดไว้สำหรับบำบัดน้ำเสีย พบศพนายสมชาย ยาวรัมย์ อายุ 32 ปี จมอยู่ก้นบ่อในสภาพขาซ้ายหัก ศีรษะแตกเป็นแผลลึก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง เมื่อแหงนมองที่เพดานเหนือบ่อน้ำดังกล่าวพบช่องโหว่ขนาดเท่าตัวคน ถูกเจาะทะลุเป็นแนวตรงขึ้นไปถึงชั้น 5 เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐานเพื่อสืบสวนต่อไป


            จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นคนงานก่อสร้างซึ่งอาศัยนอนอยู่ในห้องพักชั้นบนสุดของอาคาร โดยมุมห้องของทุกชั้นจะมีรูขนาดใหญ่ที่เจาะตรงลงมาถึงชั้นล่าง เพื่อลำเลียงวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้าง ผู้ตายเป็นคนที่ชอบนอนดิ้นและละเมออยู่เป็นประจำ และบางครั้งชอบละเมอมานั่งอยู่ใกล้ช่องว่างดังกล่าวแทบทุกวัน


ข้อมูลจาก S! NEWS




 

Create Date : 19 ตุลาคม 2553    
Last Update : 19 ตุลาคม 2553 1:12:33 น.
Counter : 2292 Pageviews.  
Share

ตะลึง-จะเผาศพ เจออีกศพซุกเมรุ


       ตะลึงจะเผาศพ เจออีกศพ อยู่ในเตาเผา สัปเหร่อวัดที่ราชบุรีทำความสะอาดเตาเผาเตรียมเผาศพพบมีอะไรซุกอยู่ในเตา เอาออกมาถึงกับตะลึง เป็นศพในสภาพสุดสยอง ถูกไฟเผาไหม้จนตัวงอ กะโหลกเปิด ขาซ้ายและแขนทั้งสองข้างไม่มี แต่ดูไม่ออกว่าเป็นหญิงหรือชาย ตร.คาดถูกฆ่ามาจากที่อื่น แล้วกลุ่มฆาตกรแอบเอาศพมาเผา แต่เผาไม่หมดก็หนีไปก่อน


            เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 14 ต.ค. ร.ต.อ.สิทธิพันธ์ พันธ์ศิริ ร้อยเวร สภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี รับแจ้งว่าพบศพอยู่ในเตาเผา ที่เมรุวัดราษฎร์สมานฉันท์ หมู่ 4 ต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยมูลนิธิประชานุกูล


            เมื่อไปถึงพบว่ากำลังมีพิธีฌาปนกิจศพนางใหม่ เอี่ยมสะอาด โดยสัปเหร่อกำลังนำเข้าเตาเผา ส่วนอีกศพถูกนำไปวางไว้ด้านหลังเมรุ มีชาวบ้านมุงดูจำนวนมาก เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบว่าศพถูกไฟเผาไหม้ตัวงอ กะโหลกเปิดมีมันสมองติดอยู่ด้านในไหม้ไม่หมด ด้านท้าย ทอยยังมีผมติดอยู่ ขาขวาพับ ขาซ้ายไม่มี แขนทั้งสองข้างไม่มี แต่ไม่ทราบว่าเป็นหญิงหรือชาย จึงได้ให้มูลนิธินำส่งไปชันสูตรที่ร.พ.ปากท่อ


            จากการสอบถามนายวิเชียร เพ็ญพาณิชย์ อายุ 68 ปี สัปเหร่อของวัด กล่าวว่า ในวันนี้ตนเตรียมจะทำพิธีเผาศพนางใหม่ จึงเปิดเตาเผา ดูบนตะแกรงก็ไม่มีอะไร แต่เมื่อมองดูด้านข้าง ก็พบว่ามีสิ่งผิดปกติ เข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่าเป็นศพ จึงเข้าไปนำออกมา แล้วเอาไปวางไว้หลังเมรุ ตั้งแต่เป็นสัปเหร่ออยู่วัดนี้มากว่า 10 ปีไม่เคยเจอแบบนี้เลย ก่อนหน้าที่จะเผาศพนางใหม่ ได้เผาศพนายธวัฒน์ ฟ้าฟื้น เมื่อเดือนเศษที่ผ่านมา ซึ่งศพนายธวัฒน์ญาติก็เก็บกระดูกไปหมด และทุกครั้งเมื่อเผาเสร็จตนจะเก็บกวาดไม่ให้มีเศษขี้เถ้าเหลือเลย มั่นใจว่าไม่ใช่ศพที่เอามาทำพิธีเผาในวัดนี้และค้างอยู่ คาดว่าน่าจะมาจากที่อื่น แต่ที่ศาลาแห่งนี้ประตูด้านหน้าจะปิดไม่ได้ เป็นทางเข้าออกได้สะดวก


            สำหรับศพดังกล่าวเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า อาจจะถูกฆาตกรรมจากที่อื่นแล้วคนร้ายแอบนำศพมาเผาในเมรุดังกล่าว แต่เผาไม่หมด โดยจะตรวจสอบว่ามีใครหายตัวไปและแจ้งความไว้บ้างหรือไม่ อย่างไรก็ตามต้องรอผลตรวจพิสูจน์ว่าผู้ตายเป็นชายหรือหญิง จากทางร.พ.ก่อน


ข้อมูลจากข่าวสด




 

Create Date : 17 ตุลาคม 2553    
Last Update : 17 ตุลาคม 2553 8:37:02 น.
Counter : 2318 Pageviews.  
Share

ขนลุก-วิญญาณเฮี้ยน โดนผัวฆ่า-เข้าฝันแม่ บอกจุดขุดศพฝังดิน




       ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความอาถรรพณ์หรือเป็นเพราะพยานหลักฐานที่ประจักษ์ก็ไม่อาจทราบได้


       รู้แต่ว่าบัดนี้ นายเสนี ทองดี หนุ่มวัย 27 ปี กลายเป็นฆาตกรฆ่าเมียตัวเองไปแล้ว โดนจับติดคุกดำเนินคดีรับโทษทัณฑ์ที่ทำลงไป


            เป็นคนร้ายก่อคดีฆ่าฝังเมียตัวเอง!?!


            ว่ากันว่าคดีนี้คลี่คลายลงด้วยเรื่องลึกลับเหลือเชื่อ เมื่อเหยื่อสาวซึ่งถูกฆ่าฝังดิน ไปเข้าฝันแม่ของตัวเอง บอกว่าถูกสามียิงตายแล้วเอาศพฝังไว้ใต้ต้นมะม่วงหลังบ้าน และด้วยความที่ลูกสาวหายสาบสูญไปนาน คนเป็นแม่จึงลองทำตามฝัน ไปขุดดินใต้ต้นมะม่วงต้นนั้น


            ขุดตอนแรกไม่เจออะไร จนกระทั่งลูกสาวไปเข้าฝันซ้ำ บอกให้ไปขุดอีก และขุดลึกลงไป จึงกลับไปขุดใหม่ กระทั่งเจอโครงกระดูกลูกสาวถูกฆ่าฝังตรงนั้นจริงๆ หลังทุกอย่างแดงออกมาตำรวจจึงรวบรวมหลักฐานจัดการกับนายเสนีซึ่งเป็นคนร้าย


            เวรกรรมตามสนอง


            ย้อนไปดูที่มาของเรื่อง เกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา เมื่อนางราตรี ทองดี อายุ 21 ปี เกิดหายตัวไปจากบ้านสามีในอ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก โดยไม่มีใครรู้ว่าเธอหายไปไหน สร้างความกระวนกระวายใจให้กับนางสมจิตร จิตรประจักษ์ อายุ 55 ปี ผู้เป็นแม่ จนถึงขั้นกินนอนไม่ได้ เครียดกับการหายไปของลูกสาว


            เกือบครึ่งปีไม่มีใครพบ 'ราตรี' เลย!!?


            ก่อนหน้านี้นางราตรี แต่งงานอยู่กินกับนายเสนี ผู้เป็นสามี อยู่กันมาพักใหญ่ แต่ชีวิตคู่ของเธอก็ไม่ได้แฮปปี้นัก เพราะทั้งคู่มีปากเสียงกันบ่อยครั้งเรื่องความหึงหวง ถึงแม้จะมีพยานรักด้วยกัน 1 คน แต่ก็ไม่ทำให้ทุกอย่างดี ด้วยเพราะนายเสนีเป็นคนขี้หึงจึงหาเรื่องทะเลาะร่ำไป


       ด้วยความเป็นห่วงลูกสาว ในช่วงแรกๆ นางสมจิตร เทียวไปมาหาสู่ลูกเป็นประจำ จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 เดือนไปหาลูกอีกครั้ง แต่ไม่เจอ เจอแต่ลูกเขยพูดตะคอกใส่ ว่าลูกสาวหนีตามผู้ชายไปแล้ว ทำให้นางสมจิตรต้องวิ่งโร่ไปแจ้งความที่สภ.พรหมพิราม เพื่อเป็นหลักฐานเอาไว้


            ไม่มีใครรู้ว่า 'ราตรี' หายไปไหน


            ห้วงเวลาดำเนินต่อไป แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบลูกแต่อย่างใด มีแต่ข่าวร้ายที่นางสมจิตร ได้ยินมาว่าลูกเขยถูกตำรวจจับในคดีลักทรัพย์ ติดคุกอยู่ที่เรือนจำกลางพิษณุโลก แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะเห็นว่าตัดขาดกันไปแล้ว


            ระหว่างที่กำลังตามหาลูก จู่ๆ ความหวังอันเหลือเชื่อ ก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อคืนหนึ่งนางสมจิตร เกิดฝันไปว่าลูกสาวมาบอกว่าถูกสามีฆ่าตาย ศพฝังอยู่ใต้ต้นมะม่วงหลังบ้านฝ่ายชาย


            นางสมจิตรจึงบุกพิสูจน์ความจริงในทันใด


            ผู้เป็นแม่ชักชวนญาติๆ ไปช่วยกันขุดดินใต้ต้นมะม่วง บ้านเลขที่ 4 หมู่ 12 ต.พรหมพิราม ซึ่งเป็นบ้านลูกเขยทันที ครั้งแรกขุดไม่ลึก จึงไม่เจออะไร พอกลับมาบ้านลูกสาวก็มาเข้าฝันอีก บอกว่าขุดถูกที่แล้ว แต่ขอให้ขุดลึกลงไปอีก เพราะผัวฝังไว้ลึกมาก


       บ่ายวันที่ 22 ก.ย. นางสมจิตรกับพรรคพวก จึงหวนกลับไปขุดดินใต้ต้นมะม่วงต้นเดิมอีกครั้ง คราวนี้เกณฑ์ชาวบ้านไป 50 คน ช่วยกันขุดลึกลงไปเกือบ 2 เมตร กว้าง 1 เมตร จนกระทั่งพบโครงกระดูกลูกสาวถูกฝังไว้จริงๆ


            ทุกคนตะลึงตาค้าง!!?


       นางสมจิตร ละล่ำละลักแจ้งความกับพ.ต.ท.พิสิฐ อุ่นใจ สารวัตรเวร สภ.พรหมพิราม ให้รีบเดินทางมาร่วมตรวจสอบโดยด่วน อึดใจเดียวพ.ต.ท.พิสิฐ พ.ต.ท.เชาวลิตร วงศ์พิทักษ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.จิตพงษ์ วิชญาปกรณ์ สวป. พร้อมแพทย์เวรประจำโรงพยาบาลพรหมพิราม ก็เดินทางมาถึง ตรงเข้าตรวจสอบโครงกระดูกที่พบ ในสภาพนอนหงาย กะโหลกศีรษะด้านหน้าแตกเป็นรูโบ๋ เนื้อตัวเปื่อยยุ่ย จนเหลือแต่โครงกระดูก ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 เดือน จึงทำบันทึกไว้ พร้อมส่งมอบให้สถาบันนิติเวชพิสูจน์ความจริง


            ซึ่งไม่นานความจริงก็ปรากฏ เมื่อผลพิสูจน์ระบุว่าโครงกระดูกที่พบเป็นศพของ 'ราตรี' จริงๆ ตำรวจจึงขออนุมัติจับกุมนายเสนีทั้งๆ ที่เจ้าตัวยังติดคุกอีกคดี เพราะงานนี้มีพยานหลักฐานครบถ้วน


            ตำรวจพรหมพิรามรุดไปสอบปากคำนายเสนีถึงที่ เมื่อรู้ว่าเรื่องแดงออกมา หมอนี่ก็ถึงกับอ้าปากค้าง ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่าเมียด้วยน้ำมือตนเอง ทำไปเพราะความหึงหวง และกลัวความผิด จึงฝังศพอำพรางคดี


            ผ่านมาแล้วหลายเดือนไม่คิดว่าจะจนมุมแบบนี้


            "เมียผมหน้าตาดี จึงมีหนุ่มๆ มาติดพันเยอะ เลยทะเลาะกันบ่อย วันเกิดเหตุผมออกไปทำงานนอกบ้าน พอกลับมาไม่เจอเมียจึงอาบน้ำเข้านอน แต่ได้ยินเสียงเมียคุยกับผู้ชายอยู่หลังบ้าน จึงย่องไปดูพบภาพบาดตา เมียกำลังคุยอยู่กับผู้ชายจริงๆ ด้วยความโมโห จึงวิ่งไปหยิบปืน .38 แบบไทยประดิษฐ์ ที่เก็บไว้หลังตู้ ออกมาหาทั้งคู่ เมียตกใจผลักผู้ชายคนนั้นให้วิ่งหนีไป ผมเลยยิงปืนใส่ 1 นัด กระสุนถูกหัวเธอล้มฟุบลงกับพื้น ด้วยความกลัวความผิด จึงนำจอบมาขุดหลุมบริเวณใต้ต้นมะม่วงฝังร่างของเธอไว้"


            คือคำกล่าวอ้างของนายเสนีหลังก่อเหตุฆ่าคนตาย


            ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาในทันใด


            สายวันที่ 11 ต.ค. พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ พูลเผ่าดำรงค์ ผกก. นำกำลังเจ้าหน้าที่ 50 นาย ควบคุมตัวนายเสนี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพฆ่านางราตรี โดยนายเสนี แสดงท่าตอนลั่นไก และตอนขุดดินฝังศพเมียตัวเองอย่างโหดร้าย ท่ามกลางสายตาชาวบ้านกว่า 500 คน ที่มามุงดูเหตุการณ์ ซึ่งต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันไป


            ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า เป็นเพราะแรงอาฆาตวิญญาณเฮี้ยนของนางราตรีที่ไปเข้าฝันแม่ จนทำให้รู้ว่าตนเองถูกฆ่าหมกศพอยู่ใต้ต้นไม้ เล่นเอาหลายคนขนลุกขนพองไปตามๆ กัน


            งานนี้เกิดจากอาถรรพณ์หรือไม่คงพิสูจน์ไม่ได้


            รู้แต่ว่าคนร้ายเข้าตะรางไปแล้วเรียบร้อย!?!


ข้อมูลจากข่าวสด




 

Create Date : 17 ตุลาคม 2553    
Last Update : 17 ตุลาคม 2553 8:33:16 น.
Counter : 5175 Pageviews.  
Share

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  

DR.MOO CAN DO
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]

ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์
หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว
ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ
ประวัติการศึกษา
1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.ประกาศนียบัตร “Crime Scene Investigation” โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy
4.ประกาศนียบัตร “การบริหารงานโรงพยาบาล” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน
1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว.
2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข
6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ
9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล"
12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9"
13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline"
14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง
15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553
16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
New Comments
Friends' blogs
[Add DR.MOO CAN DO's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.