DR.MOO CAN DO
Group Blog
 
All Blogs
 
"เณรแอ"สิ้นฤทธิ์ ยืนจำคุก 100 ปี!


       ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนสั่งจำคุกอดีต "เณรแอ" จอมขมังเวทลวงโลก 100 ปี ฐานฉ้อโกงประชาชนจำเลยให้การพอเป็นประโยชน์อยู่บ้างลดโทษ 1 ใน 4 เหลือจำคุก 75 ปี แต่สั่งจำคุกจริงๆ ได้เพียง 20 ปี ตามกำหนดโทษสูงสุด พร้อมกับให้ชดใช้ค่าเสียหาย ชี้พฤติกรรมไม่มีอิทธิฤทธิ์ทำเสน่ห์จริงตามที่อวดอ้าง เพราะเคยโดนเมียเอาปืนไล่ยิงต้องเผ่นหนีออกทางหน้าต่างจนขาหัก อีกทั้งฉวยโอกาสล่วงละเมิดทางเพศเหยื่อบางราย หลังสิ้นคำพิพากษา อดีตเณรมารศาสนายังยิ้มระรื่นยกนิ้วโป้งโชว์ก่อนส่งตัวขังคุกคลองเปรม


            เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 มิ.ย. ที่ห้องพิจารณาคดี 910 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กทม. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นลงโทษ ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ ฟ้องนายหาญ รักษาจิตร์ หรืออดีตเณรแอ อายุ 50 ปี จำเลยในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เป็นเวลา 20 ปี


            คดีนี้พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้องสรุปว่า ระหว่างเดือนเมษายน 2542 - 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 จำเลยอวดอ้างว่าเป็นจอมขมังเวท มีความสามารถทางไสยศาสตร์ ทำเสน่ห์ เรียกสามีหรือภรรยาให้กลับมาคืนดีกันได้ จนมีผู้เสียหายหลงเชื่อรวม 25 คน สูญเสียเงินให้แก่จำเลยรวม 910,000 บาท ต่อมาวันที่ 10 กรกฎาคม 2548 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามจับกุมจำเลยได้ที่บ้านพัก อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี จำเลยให้การปฏิเสธ


            เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2549 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 วรรคแรก กระทงละ 4 ปี รวม 25 กระทง รวมจำคุกเป็นเวลา 100 ปี คำให้การจำเลยเป็นประโยชน์อยู่บ้าง ลดโทษให้หนึ่งในสี่ คงจำคุก 75 ปี แต่โทษตามความผิดดังกล่าว กำหนดโทษสูงสุดไว้ที่ 20 ปี ศาลจึงสั่งลงโทษจำคุกจำเลยไว้ทั้งสิ้นเป็นเวลา 20 ปี และให้ชดใช้ค่าเสียหายคืนแก่ผู้เสียหายทั้ง 25 ราย จำเลยยื่นอุทธรณ์


            ศาลอุทธรณ์ประชุมปรึกษาหารือแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่าโจทก์มีผู้เสียหาย 25 คน เบิกความเป็นประจักษ์พยานต่างกรรมต่างวาระกัน มีเหตุผลสอดคล้องโดยตลอด ผู้เสียหายยืนยันว่าจำเลยไม่สามารถเรียกให้สามีคนรักกลับมาได้จริงตามที่กล่าวอ้าง บางรายยังถูกจำเลยกระทำล่วงละเมิดทางเพศ จำเลยยังรับในอุทธรณ์ว่า เงินที่ได้มาเป็นค่ายกครู และอุปกรณ์ในการทำพิธี


            นอกจากนี้ ฝ่ายโจทก์ยังมีนางชไมพร รักษาจิตร์ ภรรยาของจำเลย เบิกความถึงพฤติกรรมของจำเลยที่ล่วงละเมิดทางเพศกับผู้เสียหายจนต้องทะเลาะกัน ถึงขั้นนางชไมพรเคยยิงปืนขู่ขึ้นฝ้าเพดาน จำเลยต้องวิ่งหนีกระโดดออกหน้าต่างทำให้ขาหัก ก่อนที่นางชไมพรจะยื่นฟ้องหย่ากับจำเลยที่ศาลจังหวัดสระบุรี จึงเป็นเหตุสนับสนุนได้ว่าจำเลยไม่มีอิทธิฤทธิ์ตามที่อวดอ้างในคำโฆษณาตามสื่อต่างๆ จริง เพราะจำเลยเองยังไม่สามารถทำให้นางชไมพรรักกับจำเลยได้ แต่กลับต้องวิ่งหนีจนขาหัก การกระทำของจำเลยมีเจตนาหลอกลวงคนทั่วไปผ่านคำโฆษณาเพื่อเป็นประโยชน์แก่จำเลยเองโดยตรง รับฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาหลอกลวงเอาทรัพย์สินจากผู้เสียหาย ข้อต่อสู้ของจำเลยไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ ที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน


            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฟังคำพิพากษาเสร็จสิ้น อดีตเณรแอยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้มไม่สะทกสะท้านและยกมือชูนิ้วโป้งให้สื่อบันทึกภาพ ขณะเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำคลองเปรมต่อไป


            สำหรับแฟ้มคดีของนายหาญ รักษาจิตร์ หรืออดีตเณรแอ หนังสือพิมพ์ข่าวสดเป็นสื่อสารมวลชนแห่งแรกที่เปิดโปงพฤติกรรมลวงโลกของเณรแอเมื่อเดือนก.ค. 2538 โดยขณะนั้นพบว่าเณรแอกับลูกศิษย์ 3 คน ร่วมกันทำพิธีไสยศาสตร์ย่างศพเด็กทารกแรกเกิดเพื่อปลุกเสกกุมารทองในวัดหนองระกำ อ.หนองโดน จ.สระบุรี เป็นเหตุให้เณรแอถูกดำเนินคดีฐานซ่อนเร้นและทำลายซากศพ ต่อมาวันที่ 11 ก.ย. ปีเดียวกัน ศาลจังหวัดสระบุรีพิพากษาจำคุกเณรแอกับพวกอีก 3 คน คนละ 1 ปี และสั่งห้ามจำเลยทั้งหมดดำเนินการหรือมีส่วนร่วมในกิจกรรมใดๆ เกี่ยวกับไสยศาสตร์และเวทมนตร์คาถาต่างๆ มีกำหนด 5 ปี นับแต่วันพ้นโทษ


            อย่างไรก็ตาม อดีตเณรแอกลับไม่เข็ดหลาบ จัดตั้งสำนัก "เณรแอจอมขมังเวท" ที่บ้านพักเลขที่ 18 หมู่ 6 ต.หนองโดน จ.สระบุรี ใช้วิธีโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ อวดอ้างว่ามีอาคมทำเสน่ห์ให้ผัวรักผัวหลง กระทั่งวันที่ 5 ก.ค. 2548 นางชไมพร รักษาจิตร์ ภรรยาเณรแอ เข้าร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณา หงสกุล และแจ้งความกับพล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบก. ปดส. (ตำแหน่งขณะนั้น) เพื่อดำเนินคดีอดีตเณรแอฐานหลอกลวงทรัพย์สินของผู้หญิงที่มีปัญหาครอบครัว นอกจากนั้น ยังมีเหยื่อหลายรายถูกอดีตเณรแอล่วงละเมิดทางเพศและแอบตั้งกล้องบันทึกภาพวิดีโอเอาไว้แบล็กเมล์ข่มขู่ ผลการบุกค้นสำนักเณรแอเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2548 ปรากฏว่ากำลังทำเสน่ห์ให้กับสาวบาร์ญี่ปุ่นย่านสีลม กทม. อายุ 19 ปี รวมทั้งพบอาวุธปืนลูกซอง มีดดาบ วิดีโอเทปแอบถ่าย ยาไวอากร้า สื่อลามก และถุงยางอนามัย


ข้อมูลจากข่าวสด


Create Date : 26 มิถุนายน 2553
Last Update : 26 มิถุนายน 2553 8:06:58 น. 1 comments
Counter : 3022 Pageviews.

 
มีจริงหรือ เรื่อง เสน่ห์ คงกระพัน แม้แต่สวรรค์ วิมาน ขุมนรก เชื่อแต่ว่า ทำบุญก็สุขใจ ทำบาปก็ร้อนรนใจ ขยัน ประหยัด อดทนก็ร่ำรวย ขี้เกียจ สุรุ่ยสุร่าย ใจเสาะก็ยากจน


โดย: จ่อย IP: 117.47.78.63 วันที่: 7 กันยายน 2553 เวลา:5:43:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

DR.MOO CAN DO
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์
หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว
ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ
ประวัติการศึกษา
1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.ประกาศนียบัตร “Crime Scene Investigation” โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy
4.ประกาศนียบัตร “การบริหารงานโรงพยาบาล” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน
1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว.
2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข
6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ
9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล"
12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9"
13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline"
14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง
15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553
16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
New Comments
Friends' blogs
[Add DR.MOO CAN DO's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.