DR.MOO CAN DO
Group Blog
 
All Blogs
 
รวบ 2 พระฆ่าสาวแปดริ้ว เผาอำพรางศพ


       วันที่ 3 ต.ค. ที่ จ.ฉะเชิงเทรา พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ภ.2 แถลงผลการจับกุมคนร้าย 2  คน หลังร่วมกันก่อเหตุฆ่า น.ส.ธิติยาพันธ์ หรือแอ้ พุ่มอรุณ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174/2 หมู่ 1 ต.หัวไทร อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา อย่างโหดเหี้ยม แล้วนำศพไปเผาทิ้งพร้อมรถยนต์เพื่ออำพรางคดี ภายในซอยโชคอนันต์ 1 ทางเข้าหมู่บ้านชวดโสน หมู่ที่ 4 ต.หัวไทร อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 30 ก.ย. แล้วมีผู้ไปพบศพตอนรุ่งเช้าของวันที่ 1 ต.ค.


            ตำรวจจับกุมคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุจำนวน 2 คน คือ พระกิตติพงษ์  ยะอนันต์หรือพระพงษ์ อายุ 28 ปี เลขานุการเจ้าอาวาสวัดหัวไทร กับพระศุภกิจ เกตุแก้ว อายุ 25 ปี พระลูกวัด ก่อนนำตัวไปให้เจ้าอาวาสวัดหัวไทร สึกและนำตัวไปเค้นสอบสวนเพิ่มเติมที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งในเขตอ.บางคล้า  โดยผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน คือนายเอก ไม่ทราบนามสกุล อยู่ระหว่างการหลบหนี ส่วนนายสมัครหรือจ้อน คงรัตน์ เพื่อนของนายศุภกิจหรือพระกิจ คนขับรถดูเส้นทางก่อนลงมือให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีถูกกันไว้เป็นพยาน


            จากนั้น ตำรวจนำตัว นายศุภกิจ เกตุแก้ว และนายกิตติพงษ์ ยะอนันต์ ผู้ต้องหาทั้งสองคนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยังจุดที่เผาศพและรถยนต์ของผู้ตายเพื่ออำพรางคดี ทั้งนายศุภกิจ นายกิตติพงษ์และนายเอกเผยว่าร่วมกันวางแผนฆ่านางสาวธิติยาพันธ์ก่อนลงมือในช่วงบ่ายของวันที่ 30 ก.ย. โดยขณะนำตัวสองผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ มีประชาชนเกือบ 1,000 คน แห่กันไปบริเวณที่เกิดเหตุ ต่างร้องตะโกนสาปแช่ง ต่างๆ นานา บางคนตะโกร้องให้นำตัวไปประหารชีวิต บางคนด่าทอด้วยข้อความหยาบคายและทำให้เสื่อมเสียวงการศาสนา โดยตำรวจใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก่อนที่จะนำตัวไปควบคุมไว้ที่สภ.บางคล้า


            นายศุภกิจ เกตุแก้วหรือพระกิจ ผู้ต้องหาให้การว่า รู้จัก น.ส.ธิติยาพันธ์ มานานหลายปีแล้วเพราะผู้ตายมีบ้านพักอยู่หน้าวัดและเคยคบกันมาแบบลึกซึ้ง ภายหลังเริ่มมีปัญหาหลังจากที่ผู้ตายถูกวางยาและเข้าใจว่าตนเองเป็นคนทำ จากนั้นก็ถูกลอบวางเพลิงกุฏิ ถูกโทรศัพท์ข่มขู่จะฆ่าทิ้ง ซึ่งสืบได้ว่า นางสาวธิติยาพันธ์ ผู้ตายเป็นคนว่าจ้างให้มีคนทำ จึงวางแผนลวงไปฆ่าทิ้ง ขณะที่นายกิตติพงษ์ ยะอนันต์หรือพระพงษ์  รับสารภาพว่า ร่วมกันกับพระศุภกิจและนายเอก ทำการฆ่าเผา นางสาวธิติยาพันธ์จริง


            พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ภ.2 กล่าวว่า ขณะนี้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ช่วยเหลือ ซ่อนเร้นอำพรางศพ เพื่อปกปิดความผิด โดยชั้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ส่วนที่หลบหนีไป 1 คน คือนายเอก ไม่ทราบนามสกุล จะได้สืบสวนและรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลจังหวัดฉะเชิงเทราออกหมายจับกุมต่อไป นับเป็นเรื่องที่ทำให้ภาพลักษณ์ของพระพุทธศาสนาด่างพร้อย แต่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคนที่มาอาศัยผ้าเหลืองบังหน้าและจะทำคดีนี้ให้เป็นตัวอย่างให้มีการลงโทษสูงสุดถึงขั้นประการชีวิต


ข้อมูลจากข่าวสด


Create Date : 04 ตุลาคม 2553
Last Update : 4 ตุลาคม 2553 7:52:51 น. 2 comments
Counter : 3232 Pageviews.

 
ขนาดขึ้นชื่อว่าพระ ยังฆ่าคนได้ ถ้าเป็นฆราวาส มันจะขนาดไหนหว่า?


โดย: Alex on the rock วันที่: 4 ตุลาคม 2553 เวลา:16:45:59 น.  

 
น่าจะมีแบบทดสอบจิตวิทยาก่อนเป็นอนุญาตให้บวชเป็นพระ ไม่ใช่ใครนึกจะบวชก็ได้บวช ทั้งที่ในใจถูกบังคับหรือเอาใจพ่อแม่ โดยไม่ได้มีความรักนับถือและปฏิบัติในคำสอนของศาสนาเลย


โดย: มารศาสนา IP: 119.46.108.98 วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:15:26:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

DR.MOO CAN DO
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์
หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว
ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ
ประวัติการศึกษา
1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.ประกาศนียบัตร “Crime Scene Investigation” โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy
4.ประกาศนียบัตร “การบริหารงานโรงพยาบาล” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน
1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว.
2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข
6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ
9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล"
12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9"
13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline"
14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง
15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553
16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
New Comments
Friends' blogs
[Add DR.MOO CAN DO's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.