DR.MOO CAN DO
Group Blog
 
All Blogs
 
ผลผ่าศพ "พล.ต.ต." ยันถูกฆ่า เผาบ้านซ้ำอำพราง


            แผลแทงพรุน-ดับก่อนไฟไหม้ เงินหายนับแสน-เค้นลูกน้อง 


            ตะลึงผลผ่าศพ"พล.ต.ต.ชูเกียรติ ภัยลี้" ที่ตายคากองเพลิงจากเหตุการณ์ไฟไหม้บ้านตัวเองย่านบางใหญ่ ที่แท้เป็นฆาตกรรมอำพราง คนร้ายทุบหัว-แทงตามร่างกายอดีตรองผบช.ภาค 7 เกือบ 10 แผล จนสิ้นใจตายไปก่อนแล้ว จากนั้นลงมือเผาศพพร้อมกับบ้านเพื่อเบี่ยงเบนรูปคดีและทำลายหลักฐาน "จงรัก"รุดจี้คดีเอง ตั้งประเด็นฆ่าชิงทรัพย์ เพราะมีเงิน 1 แสนบาทหายไป พร้อมกับสร้อยคอทองคำ และทรัพย์สินอื่นๆ แฉหลังจากตายไปแล้ว บัตรเอทีเอ็มของผู้ตายยังถูกเอาไปกดเงินอีก เรียกตัวลูกน้องและใกล้ชิด 6-7 คนสอบเค้น


            จากเหตุเพลิงไหม้บ้านหรูทรงยุโรป เลขที่ 47/131 หมู่บ้านกฤษดานคร 10 ถ.ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยภายในบ้าน พบร่างพล.ต.ต.ชูเกียรติ ภัยลี้ อดีตรองผบช.ภาค 7 เจ้าของบ้าน และเป็นพี่ชายของพล.ต.อ.ธวัชชัย ภัยลี้ อดีตรองผบ.ตร. ถูกไฟเผานอนเสียชีวิตอยู่นั้น


            เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 ก.ค. ที่สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รองผบช.ภ.1 พ.ต.อ.เพชรัตน์ แสงไชย รองผบก.ศสส.ภาค 1 พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ ผกก.ศสส.ภาค 1 ร่วมกับชุดสืบสวน กก.2 บก.ป. นำโดย พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป เดินทางมาติดตามความคืบหน้า พร้อมทั้งเรียกนายตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าห้องประชุมเพื่อวางแนวทางในการสืบสวนหาตัวคนร้าย เนื่องจากผลการชันสูตรของแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์พบบาดแผลตามร่างกายของพล.ต.ต.ชูเกียรติ นอกจากนี้ยังพบว่าเงินสดจำนวน 1 แสนบาทที่พล.ต.ต.ชูเกียรติเพิ่งเบิกมาในช่วงเช้า หายไปพร้อมกับสร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทอง อาวุธปืน โดยการประชุมครั้งนี้เป็นไปอย่างเคร่งเครียด


            ต่อมาเวลา 16.00 น. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร. เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบ้านของพล.ต.ต.ชูเกียรติ ภัยลี้ เนื่องจากพล.ต.อ.จงรักได้ผลการชันสูตรศพจากแพทย์ของสถาบันนิติเวช พบว่าพล.ต.ต.ชูเกียรติถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงตามลำตัวหลายแห่งจนเสียชีวิต จากนั้นวางเพลิงเพื่อเบี่ยงเบนคดีและทำลายหลักฐาน โดยพล.ต.อ.จงรักเข้าไปเดินตรวจสอบจุดต่างๆ ภายในบ้าน โดยมีพล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 เดินทางมาสมทบ และพล.ต.ต.ทรงวุฒิ ถวัลย์กิจดำรง ผบก.นนทบุรี คอยรายงานข้อมูลเบื้องต้นให้ทราบ


            จากนั้นพล.ต.อ.จงรัก เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบว่ามีทรัพย์สินของคนตายหายไปมีเงินสด 1 แสนบาท สร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองและอาวุธปืนก็หายไปด้วย โดยตามร่างกายมีบาดแผลตามลำตัว 8-9 แห่ง ที่ลำคอก็มีบาดแผล นอกจากนี้ยังพบบาดแผลถูกตีเข้าที่หลัง ซึ่งคนร้ายประสงค์ต่อชีวิตอย่างแน่นอน แต่คนร้ายจะมีกี่คน ก็ต้องขอเวลาในการสืบสวนสอบสวนก่อน เบื้องต้นตั้งประเด็นชิงทรัพย์ เพราะว่าทรัพย์สินหายไป และเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนการจุดไฟเผาบ้าน ก็มีความผิดฐานวางเพลิงอีกกระทงหนึ่ง


            ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือเป็นการท้าทายฝีมือตำรวจหรือไม่ เพราะคนร้ายลงมือกับอดีตนายตำรวจมือปราบ พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า ถือว่าโหดเหี้ยมมาก เพราะว่าพล.ต.ต.ชูเกียรติอายุ 69 ปีแล้ว สันนิษฐานว่าคนร้ายมุ่งต่อทรัพย์ อาจจะเป็นคนรู้จักกัน ก็คงจะต้องสืบสวนต่อไป คดีนี้ รองผบช.ภาค 1 ฝ่ายสืบสวน ได้ตั้งทีมขึ้นมาล่าตัวคนร้ายรายนี้โดยเร็วแล้ว โดยมีตำรวจจากกองปราบฯมาร่วมทำคดี โดยออกหาข่าวร่วมกันในพื้นที่แล้ว


            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตรวจที่เกิดเหตุ พล.ต.อ.จงรักเดินทางไปที่สภ.บางใหญ่ เพื่อร่วมประชุมและเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนออกหาข่าวเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี


            ด้านพล.ต.ท.ฉลอง กล่าวว่า สำหรับคดีนี้จากผลการชันสูตรของนิติเวชพบว่า พล.ต.ต.ชูเกียรติเสียชีวิตก่อนที่จะเกิดเหตุไฟไหม้ บาดแผลที่พบถูกแทงถึง 9 แผล เชื่อว่าคนร้ายได้ลงมือทำร้ายโดยการทุบศีรษะแล้วถึงลงมือแทงจนเสียชีวิตในที่สุด อย่างไรก็ตามคดีนี้ได้กำชับให้ฝ่ายสืบสวนทุกหน่วยระดมทีมงานเข้าคลี่คลาย เพื่อนำตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาให้ได้ โดยแบ่งหน้าที่กันทำงานทั้งสืบสวนกลุ่มผู้ต้องสงสัย และตรวจสอบหาทรัพย์สินว่ามีอะไรหายไปบ้าง ชั้นนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ เชื่อว่าคดีนี้พอจะมีเป้าหมายคาดว่าคนใกล้ชิดผู้ตาย อย่างไรก็ตามจะได้ตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งต่อไป


            รายงานข่าวเปิดเผยว่า หลังได้รับรายงานผลการชันสูตรเบื้องต้นแล้วทางชุดสืบสวนภูธรภาค 1 ร่วมกับชุดสืบสวน กก.2 บก.ป. ได้มีการประชุมหารือกันอย่างเคร่งเครียดเนื่องจากเชื่อว่าคดีนี้เป็นคดีฆาตกรรมอำพราง เพราะมีร่องรอยบาดแผลถูกทำร้าย และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ชี้ว่าผู้ตายเสียชีวิตก่อนที่จะเกิดเพลิงไหม้บ้าน เพราะไม่มีเขม่าควันไฟภายในปอด โดยมีความเป็นไปได้ว่าหลังเกิดเหตุคนร้ายพยายามจะวางเพลิงเผาบ้านเพื่อให้ไหม้ร่างพล.ต.ต.ชูเกียรติไปด้วยเพื่อเป็นการทำลายหลักฐานต่างๆ ซึ่งขณะนี้ทางชุดสืบสวนกำลังเร่งสืบหาพยานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตรวจสอบประเด็นความขัดแย้งของผู้ตายอีกครั้งว่าเคยมีความขัดแย้งในเรื่องใดหรือไม่


            ข่าวแจ้งว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.นนทบุรี ได้นำตัวลูกน้อง และคนสนิทของพล.ต.ต.ชูเกียรติจำนวน 6-7 คนไปสอบปากคำ เนื่องจากช่วงเช้าวันเกิดเหตุ พล.ต.ต.ชูเกียรติใช้ให้ลูกน้องไปเบิกเงินจำนวน 1 แสนบาทมาจากธนาคาร


            เย็นวันเดียวกัน ที่ศาลา 1 วัดลานนาบุญ อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพของพล.ต.ต.ชูเกียรติ ได้มีน้ำหลวงพระราชทานอาบศพ พร้อมทั้งโกศทองตั้งหน้าศพเพื่อเป็นเกียรติ โดยมีญาติพี่น้อง เพื่อนสนิท และบุคคลที่รักใคร่ เข้าร่วมในพิธีรดน้ำหลวงอาบศพพระราชทานเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีพวงหรีดจากบุคคลต่างๆ ส่งมาร่วมไว้อาลัยจนเต็มศาลาวัด โดยจะสวดศพรวมทั้งหมด 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 3-12 ก.ค. และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 13 ก.ค.


            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานศพ มีการจับกุมพูดคุยและวิพากษ์วิจารณ์กันระหว่างญาติๆ และผู้สนิทคุ้นเคย เช่น พล.ต.อ.ธวัชชัย ภัยลี้ อดีตรองผบ.ตร. และพล.ต.ต.สกล ภัยลี้ อดีตรองผบช.ภาค 7 อ้างถึงผลการตรวจสอบนิติเวช พบว่ามีบาดแผลถูกของมีคมที่ด้านหลัง นอกจากนี้ยังพบว่ามีทรัพย์สินสูญหายไปหลายรายการ ประกอบด้วยสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท และ 5 บาท อย่างละ 1 เส้น พร้อมพระเลี่ยมทอง แหวนทองคำอีก 2 วง และนาฬิกาโรเล็กซ์ 1 เรือน อาวุธปืน 1 กระบอก เบื้องต้นตรวจสอบไม่พบ น่าจะโดนโจรกรรมไปด้วย


          นอกจากนี้จากการตรวจสอบเอทีเอ็ม พบว่าผู้ตายมักจะให้คนอื่นหรือคนรู้จักไปกดเอทีเอ็มให้ แต่ปรากฏว่าจากการตรวจสอบหลังเวลา 18.00 น.พบว่าบัตรเอทีเอ็มของพล.ต.ต.ชูเกียรติ ยังมีคนนำไปถอนยังตู้เอทีเอ็มแห่งหนึ่ง ตำรวจกำลังแกะรอยอยู่ว่าเป็นฝีมือใคร ซึ่งเกี่ยวข้องกับการก่อคดีครั้งนี้อย่างแน่นอน


            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติๆ สนิทและคนใกล้ชิดพล.ต.ต.ชูเกียรติต่างมั่นใจว่าเป็นการฆาตกรรม เนื่องจากทรัพย์สินหลายรายการหายไป และท่าตายน่าจะเป็นการจัดฉากหรืออำพรางคดี ซึ่งปกติแล้วพล.ต.ต.ชูเกียรติ จะเป็นคนนอนดึก แต่วันเสียชีวิต กลับนอนแต่หัวค่ำ


            พล.ต.อ.ธวัชชัย ภัยลี้ อดีตรองผบ.ตร.เปิดเผยว่า ญาติทุกคนไม่เชื่อว่าจะเป็นไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟไหม้ เนื่องจากพล.ต.ต.ชูเกียรติ ไม่สูบบุหรี่ และไม่เคยเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ นอกจากนี้ยังมีร่องรอยบาดแผลโดนแทงที่คอและที่หลัง รวม 2 แผล มีเลือดออก สันนิษฐานว่าเป็นการฆาตกรรมอำพราง เพราะเหตุเกิดตั้งแต่เวลา 16.00 น. มีร่องรอยการเผาหรือจุดเอกสารในห้องนอน ญาติจึงต้องนำส่งสถาบันนิติเวชผ่าชันสูตรศพ


            อดีตรองผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้ศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์เป็นเวลา 3 คืน กำหนดสวดพระอภิธรรมศพ 10 คืน ตั้งแต่วันที่ 3-12 ก.ค. และขอพระราชทานเพลิงศพในเวลา 16.00 น.วันที่ 13 ก.ค.


            "พล.ต.ต.ชูเกียรติ เป็นพี่ชายคนโตของครอบครัว คนรองคือพล.ต.ต.อัมพร ภัยลี้ แล้วก็มาผมเป็นคนที่ 3 ส่วนคนที่ 4 คือพล.ต.ต.สกล ภัยลี้ และคนที่ 5 คือพล.ต.ต.ชวลิต ภัยลี้ ทุกคนป็นตำรวจหมด" พล.ต.อ.ธวัชชัย กล่าว


ที่มา : ข่าวสด




Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2553 11:31:04 น. 0 comments
Counter : 1940 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

DR.MOO CAN DO
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์
หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว
ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ
ประวัติการศึกษา
1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.ประกาศนียบัตร “Crime Scene Investigation” โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy
4.ประกาศนียบัตร “การบริหารงานโรงพยาบาล” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน
1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว.
2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข
6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ
9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล"
12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9"
13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline"
14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง
15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553
16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
New Comments
Friends' blogs
[Add DR.MOO CAN DO's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.