DR.MOO CAN DO
Group Blog
 
All Blogs
 
"ด.ต.เครียดฆ่าเมีย-ฆ่าตัว" กลางปั๊ม


       เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่ศาลาภายในปั๊มน้ำมันปตท. หน้ากองบิน 23 ถ.ทหาร เขตเทศบาลนครอุดรธานี มีคนเจ็บสาหัส 2 ราย ส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีแล้ว ทราบชื่อ ด.ต.เชวง สุพรรณทัศน์ อายุ 58 ปี ผบ.หมู่ป.สภ.กุดจับ จ.อุดรธานี ช่วยราชการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เป็นพลขับรถของ พ.ต.อ.สมเกียรติ เกิดจงรักษ์ รองผบก.ภ.จว.อุดรธานี ถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 ม.ม. ที่ขมับขวาทะลุขมับซ้าย 1 นัด และนางสุขใจ พลาเลิศ อายุ 42 ปี หัวหน้าสำนักงานปลัดเทศบาลตำบลบ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกัน เข้าที่ลำตัว 4 นัด ต่อมาเสียชีวิตทั้งสองคน


            จากการสอบสวนน.ส.จินตนา นาคก้อน อายุ 37 ปี แม่ค้าขายข้าวแกง ในปั๊มน้ำมัน ซึ่งเห็นเหตุการณ์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 ชั่วโมง เห็นด.ต.เชวงและนางสุขใจ ขับรถยนต์มาจอดอยู่ในปั๊มน้ำมัน ก่อนที่ทั้งสองจะเข้ามานั่งคุยกันอยู่ที่ศาลาดังกล่าว จากนั้นเกิดโต้เถียงกันอย่างรุนแรง จากนั้นด.ต.เชวงเดินไปหยิบปืนอยู่ที่รถยนต์ ก่อนจะเดินมาใช้ปืนจ่อยิงเข้าที่หน้าอกของนางสุขใจ 1 นัด จนล้มลงตกจากเก้าอี้ และเดินเข้าไปจ่อยิงซ้ำ ที่กลางหลังอีก 3 นัด จนนอนแน่นิ่ง จากนั้นเห็นด.ต.เชวงเดินรอบโต๊ะ 1 รอบ ก่อนจะใช้ปืนจ่อยิงเข้าที่ขมับตัวเอง จนล้มลงเช่นเดียวกัน ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจดังกล่าว


            เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุน่าจะมาจากเหตุหึงหวง เนื่องจากด.ต.เชวงเคยแต่งงานมาแล้ว ก่อนจะหย่าร้างกับภรรยาคนเก่า และมาแต่งงานอยู่กินกับนางสุขใจเป็นเวลา 15 ปี ก่อนจะหย่าร้างอีกครั้ง แต่ก็ยังกลับมาคืนดีและอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน ต่อมานางสุขใจเข้าศึกษาต่อปริญญาโท ที่สถาบันแห่งหนึ่ง อาจทำให้มีชายหนุ่มมาติดพัน เป็นเหตุทำให้ด.ต.เชวงเกิดความหึงหวง จึงนัดกันมาพูดคุยตกลงปัญหา แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ด.ต.เชวงบันดาลโทสะและระงับอารมณ์โกรธไว้ไม่อยู่ จึงใช้ปืนจ่อยิงนางสุขใจและยิงตัวเองจนเสียชีวิตดังกล่าว


ข้อมูลจากข่าวสด


Create Date : 09 มิถุนายน 2553
Last Update : 9 มิถุนายน 2553 8:19:34 น. 0 comments
Counter : 1157 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

DR.MOO CAN DO
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์
หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว
ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ
ประวัติการศึกษา
1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.ประกาศนียบัตร “Crime Scene Investigation” โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy
4.ประกาศนียบัตร “การบริหารงานโรงพยาบาล” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน
1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว.
2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข
6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ
9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล"
12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9"
13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline"
14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง
15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553
16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
New Comments
Friends' blogs
[Add DR.MOO CAN DO's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.