DR.MOO CAN DO
Group Blog
 
All Blogs
 

ใจเหี้ยม! พ่อเลี้ยงใช้น้ำร้อนลวกลูกเลี้ยง

คลิกชมภาพต่อไป


คลิกชมภาพต่อไป


คลิกชมภาพต่อไป


คลิกชมภาพต่อไป


คลิกชมภาพต่อไป


                ร.ต.ท.ไพโรจน์ นนทผ่องศรี ร้อยเวรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากแพทย์โรงพยาบาลกบินทร์บุรี ว่ามีเด็กชายถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายมีบาดแผลไปทั่วทั้งร่างกาย หลังจากรับแจ้งพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์รุดไปตรวจสที่ห้องกุมารเวชกรรม ห้องตรวจโรค 2 โรงพยาบาลกบินทร์บุรี


            พบเด็กชายอดิศักดิ์ เพราะแป้น หรือน้องภูมิ อายุ 3 ขวบ ตามร่างกายมีบาดแผลหลายแห่งจากการถูกทำร้าย โดยเฉพาะที่หลัง และบริเวณมือด้านขวามีแผลจากถูกไฟจี้


            ด้านนายสถิต เพราะแป้น อายุ 29 ปี พ่อแท้ๆของเด็กชายอดิศักดิ์ กล่าวว่าทราบจากเพื่อนบ้านว่าลูกชายถูกพ่อเลี้ยงชื่อ นายสุรชัย แพนลา และ นางวาสนา คำปู่ แม่ของตัวเองทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส และยังถูกกักขังไว้ที่ห้องพักบ้านเช่า จึงขอความช่วยเหลือจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และญาติพี่น้อง ช่วยกันออกค้นหาและติดตามไปที่บ้านของพี่สาวของนายสุรชัย แต่ถูกปฏิเสธจากเพื่อนข้างบ้านว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่ ทั้งที่ภายในบ้านมีนางวาสนาและนายสุรชัยอยู่ เมื่อสองคนรู้ข่าวมีคนมา จึงพยายามจะหลบหนี โดยนายสุรชัยหนีออกทางหลังบ้าน ส่วนนางวาสนาได้พาเด็กชายอดิศักดิ์ขี่ จยย.หลบหนี แต่ชาวบ้านช่วยกันไล่จับจนพาเด็กชายอดิศักดิ์ออกมาได้และ นำส่งไปรักษาตัวที่ รพ.


            พ.ต.ท.ประสาน สินทอง รอง.ผกก.สส.สภ.กบินทร์บุรี ระบุว่าเด็กถูกทำร้ายจนสาหัสและมีการหวาดกลัวเป็นระยะ ร่างกายมีบาดแผลไปทั่วทั้งตัวทั้งทั้งน้ำร้อนลวก และถูกไฟจี้ตามร่างกายทั่วไปหมด แม้แต่ใต้รักแร้ทั้งสองข้าง ตลอดจนอวัยวะเพศยังถูกทำร้ายจนหายไปข้างหนึ่ง ส่วนความผิดทั้งนายสุรชัยและนางวาสนานั้น ต้องให้ผู้เป็นพ่อแท้ๆไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ก่อนที่จะออกหมายจับทั้งคู่ ส่วนเด็กชายอดิศักดิ์แพทย์ได้รับตัวไว้รักษาเพื่อรอดูอาการอีกระยะหนึ่ง ก่อนที่จะประสานไปยังมูลนิธิปวีณาต่อไป




 

Create Date : 07 กันยายน 2553    
Last Update : 7 กันยายน 2553 23:14:23 น.
Counter : 1932 Pageviews.  

ตายปริศนา

ครูสอนดำน้ำฆ่าตัวตายปริศนา


       ฝรั่งชาวสหรัฐฯ ครูสอนดำน้ำ ฆ่าตัวตายปริศนา ขับเก๋งเช่าขึ้นภูเขา ปิดกระจก ดับเครื่องยนต์ จุดไฟเผาถ่านปล่อยอากาศในรถหมด ก่อนสิ้นลม


            เมื่อ เวลา 08.00 น. วันที่ 30 พ.ย. ร.ต.อ.เอกชัย มูลลี ร้อยเวร สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ว่า พบผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีบรอนซ์ ทะเบียน กย 4513 ชลบุรี บริเวณทางขึ้นโรงโม่หินเขาวังปลา หมู่ 11 ต.เสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบรถคันดังกล่าวจอดในสภาพล็อคประตู ที่นั่งคนขับพบศพชาวต่างชาติ สวมเสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงิน สวมหมวกแก๊ปสีแดง นุ่งกางเกงขาสั้น 3 ส่วน เข็มขัดหนังสีน้ำตาล นั่งพิงเบาะคาดเข็มขัดนิรภัย เสียชีวิตเน่าอืด


            จากการตรวจสอบภายนอกรถไม่พบหลักฐานใด ๆ ในการต่อสู้ จึงให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเปิดล็อคประตูออกมา พบศพอยู่บนเบาะคนขับ คาดเข็มขัดนิรภัย ท้ายรถพบกระบะทรงกลมมีเถ้าถ่านที่จุดเผาไหม้แล้วอยู่จำนวนมาก และพบถุงใส่ถ่านก้อนยี่ห้อ KingsFord ซึ่งซื้อมาจากห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูในเมืองพัทยา หลักฐานสำเนาพลาสปอร์ตระบุชื่อ Mr.Kenneth Earl Steube อายุ 49 ปี ชาวรัฐลอสแองเจอลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา มีบัตรนักดำน้ำชั้นสูง จากรัฐแคลิฟอร์เนีย และพบหลักฐานการเช่ารถเก๋งฮอนด้า รุ่นแจ๊ส มาจากชมรมรถจักรยานยนต์พัทยา เมื่อวันที่ 21-24 พ.ย.


            ร.ต.อ.เอกชัย มูลลี ร้อยเวรสอบสวน กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่า น่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย ด้วยวิธีปิดกระจก ล็อคประตูรถ ดับเครื่องยนต์ แล้วจุดถ่านเผาไหม้ภายในรถ ทำให้หมดอากาศหายใจ ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากเรื่องผิดหวังในความรัก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.


ข้อมูลจากเดลินิวส์




 

Create Date : 26 สิงหาคม 2553    
Last Update : 26 สิงหาคม 2553 8:11:15 น.
Counter : 1557 Pageviews.  

เฒ่าเบลเยี่ยม ผูกคอตายพิสดาร! คาบ้านพัก





       พัทยา – วานนี้ (10 ส.ค. 53) เมื่อเวลา 20.00 น. ร.ต.ท.กฤบ อินทร์แก้ว ร้อยเวรสอบสวน สภ.บางละมุง ได้รับแจ้งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถูกฆ่ามัดมือแขวนคอที่หมู่บ้านวิลล่าปาร์ค เลขที่ 166/17 ม.13 ซอยสุขุมวิท 67 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งแล้วจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมนึก จันทร์เกตุ ผกก. แพทย์เวร รพ.บางละมุง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบ


            ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียวบนเนื้อที่กว่า 119 ตารางวา ประตูรั้วบ้านถูกคล้องกุญแจไว้ ทางเจ้าหน้าที่จึงใช้คีมตัดออก ตรวจสอบบริเวณข้างบ้านที่เหล็กกันสาด พบศพชายชาวต่างชาติทราบชื่อต่อมาคือ Mr. De BRABANDERE อายุ 72 ปี สัญชาติเบลเยี่ยม ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เสียชีวิตในสภาพ ใช้เชือกไนล่อนสีเขียวผูกคอห้อยกับเหล็กกันสาดที่ข้อมือทั้งสองข้างถูกมัดด้วยลวดติดกัน และที่บริเวณลำตัวถูกรัดด้วยเข็มขัดรัดจนแน่น คลุมศรีษะด้วยหมวกไหมพรมสีฟ้า ใกล้ศพพบเก้าอี้พลาสติกสีขาววางอยู่ 1 ตัว และบันไดเหล็กสูงประมาณ 2 เมตรตั้งอยู่ ตรวจสอบภายในตัวผู้ตายพบกระเป๋าใส่เอกสารขนาดเล็กภายในมีใบขับขี่ 1 ใบ กับเงินสดจำนวน 1,000 บาท คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 อาทิตย์


            ห่างจากศพประมาณ 5 เมตร ที่บริเวณหน้าบ้านพบเอกสารเขียนเป็นข้อความภาษาอังกฤษ ระบุถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 แผ่น และถึง นางพรพรรณ สาแก้ว หรือป้อม อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55ม.20 ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ผู้เป็นภรรยา และกรมทัณฑ์ประกันชีวิตบริษัท แอกซ่า ประกันชีวิต จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนภายในตัวบ้านผู้ตายถูกล็อคปิดอย่างแน่นหนา


            จากการสอบถามนางสาวเมลดา วชิระเชาวภาส อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166/17 ม.13 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ให้การว่า ตนเองเป็นคนดูแลทำความสะอาดบ้านหลังติดกันกับผู้ตาย ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 17.00 น. ขณะกำลังตัดหญ้าอยู่ที่รั้วข้างบ้านได้เหลือบไปเห็นผู้ตายแขวนคอห้อยอยู่กับกันสาดข้างบ้านแต่ไม่เอะใจอะไรคิดว่าเป็นตุ๊กตา เพื่อเอาไปตบตาโจร จึงกลับไปเล่าให้นางกนกพร ศรีดา อายุ 57 ปี ผู้เป็นแม่ฟัง จึงเกิดความสงสัยได้ย้อนกลับมาดูพร้อมเอาไฟส่องดูเห็นว่าเป็นศพคนตาย จึงวิ่งโร่แจ้งตำรวจทราบ


ข้อมูลจาก pattayadailynews




 

Create Date : 22 สิงหาคม 2553    
Last Update : 22 สิงหาคม 2553 13:44:23 น.
Counter : 2441 Pageviews.  

แค้นสามีซ้อมอ่วมสะใภ้โหดเผาบ้าน-พ่อผัวดับ


       สะใภ้โหดวางเพลิงเผาบ้าน ย่างสดพ่อผัวตายคากองไฟ ตำรวจตามรวบตัวได้ทันควัน อ้างทนทรมานระบบซ้อมของผัวขี้ยา และถูกพ่อผัวขี้เหล้าด่าทอไม่ไหว ก่อนเกิดเหตุขอเงินผัว 20 บาท แต่กลับได้แข้งเตะเข้าชายโครงจนจุกเสียด เมื่อสู้ไม่ได้จึงวางเพลิงเผาบ้านพังราบ ไหม้ร่างพ่อผัวที่กำลังเมาหลับไปพร้อมกัน


            เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 26 ก.ค. ร.ต.ท.ณัฐพงศ์ จิรพฤฒิศิริ ร้อยเวร สภ.เมืองนครนายก ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพัก เลขที่ 14 หมู่ 3 ต.สาริกา อ.เมืองนครนายก และมีผู้เสียชีวิตอยู่ในกองเพลิง จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมด้วย พญ.สินีนาต ฑีฆวาณิช แพทย์เวร รพ.นครนายก ในที่เกิดเหตุพบว่าเพลิงได้เผาผลาญบ้านพักจนเหลือแต่ซาก นอกจากนี้ยังมีร่างนายนิล เมธา อายุ 75 ปี เจ้าของบ้าน ถูกไฟเผาสภาพศพเหลือแต่เศษกระดูกไหม้ดำเป็นตอตะโก


       จากการสอบสวนทราบว่านายนิลผู้ตายชอบดื่มสุรา เมื่อเมาได้ที่จะกลับมานอนพักที่บ้าน ก่อนเกิดเหตุขณะผู้ตายนอนอยู่ในบ้าน ปรากฏว่านายสนั่น เมธา ลูกชายอายุ 24 ปี ได้ทะเลาะมีปากเสียงกับน.ส.สดศรี (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ผู้เป็นภรรยาอย่างรุนแรง ถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน จากนั้นก็เงียบเสียงไป แต่ไม่นานเกิดมีเปลวไฟพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วที่บ้านของนายนิล ซึ่งเป็นบ้านไม้ทั้งหลัง แล้วไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็วทำให้บ้านพังเสียหายหมดทั้งหลัง หลังจากเกิดเหตุ น.ส.สดศรีได้หายตัวไป เชื่อว่าอาจเกี่ยวข้องกับเพลิงไหม้ครั้งนี้


       ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงติดตามตัวน.ส.สดศรี ได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ในต.สาริกา อ.เมืองนครนายก จากนั้นจึงควบคุม ตัวมาสอบสวน ทั้งนี้น.ส.สดศรีให้การอย่างไม่สะทกสะท้าน ว่าตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และอยู่กินกับนายสนั่นมากว่า 2 ปี แต่ทนทุกข์กับระบบซ้อมของสามี และถูกพ่อสามีด่าทอไม่ไหว เนื่องจากสามีติดยาบ้างอมแงม ส่วนพ่อสามีชอบดื่มสุรา


       ก่อนเกิดเหตุตนทะเลาะกับสามีอย่างรุนแรง เรื่องที่ขอเงินเพียง 20 บาท แต่สามีไม่ยอมให้ แถมยังตรงเข้าเตะชายโครงขวาจนจุกและล้มลง ตนพยายามประคองตัวลุกขึ้นยืนแล้วตะโกนบอกว่าถ้าสู้ไม่ได้ ก็จะเผาบ้าน หลัง จากนั้นจึงนำยางในรถยนต์ตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ และจุดไฟวางทิ้งไว้บนที่นอนแล้วเดินหนีไป มาทราบอีกครั้งว่าไฟไหม้บ้านหมดแล้ว ส่วนนายนิลพ่อของสามีถูกเผาเสียชีวิตในกองเพลิง.


ข้อมูลจากเดลินิวส์




 

Create Date : 01 สิงหาคม 2553    
Last Update : 1 สิงหาคม 2553 10:18:03 น.
Counter : 1802 Pageviews.  

ฆ่า3ศพสยองลับแล


รวบหนุ่มโรงฆ่าสัตว์ มือมีด-อ้างแค้นถูกด่า


          ฆ่าปาดคอสยอง 3 ศพ หนุ่มรับจ้างเมืองอุตรดิตถ์ ทิ้งศพในบ้านที่ลับแล ตร.พลิกล่า ฆาตกรก่อนรวบตัวทันควันที่แท้เป็นคนรับจ้างฆ่าหมู-วัว คนรู้จักที่ตั้งวงกินเหล้ากัน สารภาพแค้นที่ถูกกล่าวหาเป็นคนขี้ขโมยและคบไม่ได้ แถมยังชี้หน้าด่าอย่างหยาบคายเลยสุดทน


            เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 27 ก.ค. ร.ต.ท. สามารถ พึ่งไพศาล ร้อยเวรสภ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ รับแจ้งเหตุฆ่ากันตาย 3 ศพ ในหมู่บ้านนาปอย หมู่ 1 ต.แม่พูล จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.พิเชษฐ วัฒนลักษณ์ ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ พ.ต.อ.อนุสรณ์ บุญญะธรรม ผกก.สภ.ลับแล พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.อุตรดิตถ์ พ.ต.ต.โสภณ ช้างลอย สว.กลุ่มงานสืบสวน พ.ต.ท.สมเกียรติ เสวกมหารี นักวิทยาศาสตร์ สบ3 วิทยาการจังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ต.ท.บุญณะชวน แก้วรอด รองผกก.สส.สภ. ลับแล พ.ต.ท.นิยม จอมประเสริฐ สวป. พ.ต.ท.เวช เทียบน้ำอ่าง พงส.สบ3 สภ.ลับแล


            ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวหลังคาสังกะสี ยกพื้นสูงประมาณ 2 เมตร เลขที่ 119 หมู่ 1 บ้านนาปอย ต.แม่พูล ติดกับถนนสายนาปอย-หัวดง ด้านหน้าใต้ถุนบ้านที่ติดกับถนนดัดแปลงต่อเติมเป็นห้องนอนและห้องนั่งเล่น มีขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 4 เมตร พบศพนายศรีวัน โท่นจ้อน อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 137/1 หมู่ 1 บ้านนาปอย นอนเสียชีวิตอยู่ติดริมหน้าต่างข้างถนน มีเลือดไหลนองท่วมพื้น ส่วนศพที่สองคือ นายสวัสดิ์ ใจใส อายุ 46 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตอยู่ พบเลือดไหลเปรอะเปื้อนผ้าห่มจำนวนมาก


            นอกจากนี้ในห้องนอนพบแก้วเหล้า พร้อมกับแกล้มและกระติกน้ำสีน้ำเงินวางอยู่กลางห้อง เศษเส้นผมและพบรองเท้าฟองน้ำ 2 คู่ ข้างประตูทางเข้า และรองเท้าฟองน้ำสีขาวลายดอก 1 คู่ อยู่ที่ด้านนอกหน้าต่างห้อง จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน ส่วนที่นอกห้องใต้ถุนบ้านพบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเมท สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ง 6031 อุตรดิตถ์ และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 100 สีเทา กมว 722 อุตรดิตถ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดอยู่ จากการชันสูตรพลิกศพทราบว่า ทั้ง 2 ศพ มีรอยแผลคล้ายของมีคมบาดเข้าลึกที่ลำคอด้านหน้า คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง


            ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งว่า พบศพชายนอนตายอยู่กลางทุ่งนา ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุ 200 เมตร จึงไปตรวจสอบพบศพนายศุภชัย หมื่นยา มีบาดแผลที่ลำคอด้านหน้าถูกของมีคมบาดเข้าเป็นแผลลึก ที่ข้อมือซ้ายและที่ลำตัวพบบาดแผลยาว 2-4 ซ.ม. คาดว่าเกิดจากอาวุธของมีคมชนิดเดียวกัน คาดว่าเสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกับ ศพที่อยู่ในบ้าน


            จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายทั้งหมดมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ก่อนเกิดเหตุมานั่งวงกินเหล้าร่วมกันตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 26 ก.ค. โดยมีเพื่อนร่วมวงอีกหนึ่งคน ซึ่งคาดว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มานั่งร่วมกินเหล้าอยู่ด้วย และเคยมีเรื่องบาดหมางกับ 3 คนที่เสียชีวิตทั้งหมด อาจจะไปล่วงรู้หรือรับรู้ความลับที่คน ร้ายทำผิดกฎหมายอยู่ จึงนัดมาเจรจาตกลงกันด้วยการมอมเหล้าให้เมา แล้วจึงลงมือฆ่าทั้งหมด ในช่วงเวลประมาณ 03.00 น.กระทั่งมีผู้มาพบศพในช่วงตอนเช้า เนื่องจากแวะมาหาเพื่อเรียกผู้ตายไปทำงาน


            พล.ต.ต.พิเชษฐกล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีอุก ฉกรรจ์สะเทือนขวัญ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้อง ช่วยกันสืบสวนคดีพร้อมทั้งขยายผลเร่งจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้เร็ววันที่สุด คนร้ายรายนี้มีความชำนาญในการใช้มีดมาก และเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนที่ผู้ตายทั้งหมดรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งการใช้มีดฆ่าปาดคอถึง 3 ศพ เป็นคดีที่โหดเหี้ยมมากและเป็นการฆ่าคนต้อนรับวันเข้าพรรษา ทั้งนี้วันนี้เป็นวันบุญกุศลสำหรับคนทั่วประเทศ ตอนนี้พอจะทราบเบาะแสแล้วว่าคนร้ายเป็นใคร คาดว่าไม่นานน่าจะจับคนร้ายมาลงโทษได้


                พ.ต.อ.อนุสรณ์กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบพยานบุคคลไปแล้วกว่า 10 ปาก พร้อมเก็บหลักฐานชิ้นสำคัญ คาดว่าเป็นของคนร้ายที่ก่อเหตุคือ เสื้อกล้ามสีดำเปื้อนเลือดและเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายพรางทหารเปื้อนเลือด อย่างละ 1 ตัว ที่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 1 บ้านนาปอย ห่างจากบ้านเกิดเหตุประมาณ 100 เมตรไปทางด้านทิศใต้ซึ่งติดกับสวนผลไม้ทุเรียนและสวนลางสาดของชาวบ้าน เสื้อผ้าที่พบถูกซุกอยู่ภายในถุงพลาสติกสีดำกองรวมกับกระเป๋าเสื้อผ้าบริเวณหน้าห้องนอนของนายสนอง แก้ววัง อายุ 40 ปี อาชีพฆ่าหมูฆ่าวัว


            ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบรอยเลือดมนุษย์ ติดอยู่กับตัวกุญแจประตูห้องนอนของผู้ต้องสงสัย จึงสั่งการให้นักวิทยาศาสตร์ วิทยาการจังหวัดอุตรดิตถ์ เก็บรอยเลือดและหลักฐานทั้งหมดตรวจสอบประกอบสำนวนคดีนี้ เพื่อตรวจหาดีเอ็นเอเลือดที่พบบนเสื้อผ้าและที่กุญแจหน้าประตูห้องว่าเป็นของผู้ตายหรือไม่ โดยนำเลือดที่พบทั้งหมดตรวจสอบที่สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วิทยาการเขต 31 จ.ลำปาง คนร้ายเป็นคนภายในหมู่บ้านหลังก่อเหตุด้วยกลัวความผิดจึงหลบหนีเข้าป่าในสวนผลไม้และคงหนีไปไม่ไกล ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังไล่ล่าคนร้ายต้องสงสัยฆ่าเพื่อนรายนี้มาดำเนินคดีแล้ว ซึ่งทางตำรวจเองก็หวั่นว่าคนร้ายรายนี้จะฆ่าตัวตาย เนื่องจากพกมีดที่ก่อเหตุติดตัวไปด้วย


            ต่อมาเวลา 19.00 น. พล.ต.ต.พิเชษฐ พ.ต.อ.อนุสรณ์ พ.ต.ท.ไกรสิทธิ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ รุดไปยังห้างนาที่ห้วยปู่เจ้า บ้านนารี หมู่ 3 ต.ฝายหลวง อ.ลับแล หลังรับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบคนร้ายฆ่า 3 ศพมาหลบซ่อนตัวอยู่ จึงเข้าโอบล้อมพื้นที่และเข้าจับกุมตัวนายสนอง แก้ววัง อายุ 40 ปี อาชีพฆ่าหมูฆ่าวัว ขณะกำลังนอนหลับพักผ่อน หลังหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตั้งแต่เช้า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าจับกุมนายสนองก็ยอมให้จับแต่โดยดีไม่มีการขัดขืน พร้อมให้การรับสารภาพ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมา สอบปากคำเพิ่มเติมต่อที่สภ.ลับแล พร้อมทั้งควบคุมตัวในห้องขัง ก่อนที่จะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันที่ 28 ก.ค.


            นายสนองให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเย็นวันที่ 26 ก.ค. ไปซ่อมไฟฟ้าให้กับสมาชิก อบต.แม่พูล เมื่อทำงานเสร็จเจ้าของบ้านก็เลี้ยงเหล้ากินพอประมาณ จึงขอตัวกลับบ้านเวลาประมาณ 20.00 น.พบเห็นบ้านนายสวัสดิ์ผู้ตายซึ่งเป็นทางผ่านไปยังบ้านของตนเปิดบ้านอยู่ และมีการตั้งวงกินเหล้าด้วยกันหลายคน จึงแวะเข้าไปในบ้านเพื่อร่วมกินเหล้า


            ขณะกำลังนั่งลงอยู่นั้น เหล้ายังไม่ทันได้เข้าปาก ผู้ตายทั้ง 3 คน รุมด่าทออย่างเสียหาย พร้อมกล่าวหาว่าเป็นขโมยคบไม่ได้ และไม่น่าคบค้าสมาคมด้วย โดยเฉพาะนายศรีวันใช้มือชี้หน้าพร้อมคำด่าแบบเสียหาย ทำให้อดใจไม่ไหว จึงลุกขึ้นยืนแล้วใช้มือข้างขวาหยิบมีดปอกสายไฟที่อยู่ในกระเป๋าคาดเอว แล้วก็ปรี่เข้าไปหาโดยใช้มือซ้ายกระชากผม แล้วใช้มีดปาดเข้าที่ลำคออย่างแรงจนเสียชีวิต


            ระหว่างนี้นายสวัสดิ์ลุกขึ้นมาจับแขนข้างขวาที่ตนใช้จับมีดเชือดคอผู้ตายคนแรก ตนจึงตวัดมีดออกไปถูกลำคอทำให้เสียชีวิตตามไปอีกคน และช่วงเดียวกันนายศุภชัยก็ปรี่เพื่อเข้าล็อกตัว แต่พลาดไปเหยียบเอากองเลือดของผู้ตายคนแรกจนลื่นล้ม ตนจึงใช้มีดด้ามเดียวกันปาดเข้าที่ลำคอโดนแบบเฉียดเล็กน้อย นายศุภชัยเห็นท่าไม่ดีรีบลุกหนีออกนอกบ้านไปได้ ด้วยความโมโหจึงวิ่งไล่ตามไปทันที่ทุ่งนา นายศุภชัยเกิดวิ่งสะดุดร่องน้ำ เมื่อตามไปถึงจึงใช้มีดที่ก่อเหตุปาดเข้าที่ลำคอด้านหน้าจากซ้ายไปขวาจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย


            นายสนองกล่าวต่อว่า หลังก่อเหตุฆ่าเพื่อนบ้าน 3 ศพแล้ว รีบกลับไปบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดออกแล้วหาเสื้อใส่ตัวใหม่ และขี่รถจักรยานยนต์จากบ้านไปพักที่ห้างนาร้างห้วยปู่เจ้า บ้านนารี รอเวลาให้พลบค่ำจึงจะกลับเข้ามาที่บ้านเพื่อกินข้าว จากนั้นก็จะหลบหนีต่อไปอีก แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เสียก่อน


ข้อมูลจากข่าวสด




 

Create Date : 01 สิงหาคม 2553    
Last Update : 1 สิงหาคม 2553 10:09:30 น.
Counter : 1912 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  

DR.MOO CAN DO
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์
หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว
ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ
ประวัติการศึกษา
1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.ประกาศนียบัตร “Crime Scene Investigation” โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy
4.ประกาศนียบัตร “การบริหารงานโรงพยาบาล” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน
1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว.
2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข
6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ
9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล"
12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9"
13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline"
14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง
15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553
16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
New Comments
Friends' blogs
[Add DR.MOO CAN DO's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.