DR.MOO CAN DO
Group Blog
 
All Blogs
 

ตอนที่ 2 : สามีหม้ายสาวตระกูลดัง ถูกจ่อยิงดับคาเบนซ์ อีก 1 ศพ


พบศพสามีใหม่ สาวตระกูลดัง ณ ลำปาง ถูกยิงตายคารถเบนซ์ ใกล้จุดที่ภรรยาถูกยิงดับคารถ ตร.เชื่อคนร้ายอุ้มมายิงทิ้งทั้งคู่ แต่เพิ่งเจอศพ ตั้งปมชู้สาว ขัดแย้งธุรกิจ


                วันนี้ (1 มิ.ย.) เมื่อเวลา 17.30 น. ร.ต.ท.อายุ เบ็นอับดุลเลาะห์ ร้อยเวร สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตในรถเบนซ์ที่บริเวณริมถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์


                ที่เกิดเหตุริมถนนดังกล่าว พบรถเบนซ์ อี 280 สีขาว ทะเบียน กก 4230 พิษณุโลก จอดอยู่ที่ไหล่ทาง ภายในรถพบศพนายปรีชา เหลาผา อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/8 ม.2 ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นอนตะแคงเสียชีวิต มีสูทสีเทาคลุมศีรษะอยู่ที่เบาะข้างคนขับ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณท้ายทอยด้านขวา 1 นัด กระสุนทะลุออกทางหางตาซ้าย โดยผู้ตายสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงสแล็คขายาวสีเทา เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง


                สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเป็นสามีคนปัจจุบันของนางกุลิสรา ณ ลำปาง หรือ พัชรี จึงทองดี อายุ 32 ปี ที่เพิ่งถูกยิง เสียชีวิตในรถยนต์ ริมถนนนครอินทร์ เมื่อวานที่ผ่านมา


                ต่อมา พ.ต.อ.กิตติ สุขสมภักดิ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เดินทางมาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย เนื่องจากเป็นคดีอุฉกรรจ์เพราะคนร้ายลงมือยิงสองสามีภรรยาในวันและเวลาไล่เลี่ยกัน แต่แตกต่างที่สถานพบศพซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกัน และเตรียมเรียกนายอุกฤษณ์ จึงทองดี อดีตสามีนางกุลิสรามาทำการสอบสวน


                ทั้งนี้แนวทางการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งปมสังหารไว้ 2 ประเด็น คือเรื่องชู้สาวกับขัดแย้งผลประโยชน์ทางธุรกิจ ส่วนคนร้ายที่ลงมือน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และน่าจะรู้จักคุ้นเคยกับผู้ตายโดยโทรศัพท์นัดนางกุลิสรามาพบที่ถนนนครอินทร์และนั่งโดยสารมาด้วย ก่อนจะเกิดการโต้เถียงกันในรถ จนทำให้นางกุลิสราจอดรถกระทันหันเกือบตกไหล่ทาง คนร้ายที่นั่งมาด้วยจึงลงมือลั่นไก


                จากนั้นคนร้ายจึงโทรศัพท์ไปหานายปรีชาสามีคนปัจจุบันให้ออกมาพบที่ริมถนนบางกรวย-ไทรน้อย ก่อนจะให้อาวุธปืนจี้บังคับและขับรถผู้ตายมาตกลงอะไรบางอย่าง แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ คนร้ายที่นั่งมาด้วยที่เบาะด้านหลังจึงใช้อาวุธปืนจ่อยิงเข้าที่ท้ายทอยจนเสียชีวิต จากนั้นจึงนำสูทผู้ตายมาคลุมทับและหลบหนีไป


ข้อมูลจาก Manager online




 

Create Date : 02 มิถุนายน 2553    
Last Update : 2 มิถุนายน 2553 7:59:01 น.
Counter : 2910 Pageviews.  

ตอนที่ 1 "ยิงหม้ายสาวนามสกุลดัง" ดับคารถ!!



พบศพหม้ายสาวนามสกุลดัง “ณ ลำปาง” ถูกยิงเสียชีวิตคารถ ริมถนนย่านสะพานพระราม 5 เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุปมสังหาร


            วันนี้ (31 พ.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. พ.ต.ท.ประสิทธิ์ศักดิ์ แก้วดอนรี สารวัตรเวร สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี รับแจ้งพบศพหญิงสาวถูกยิงเสียชีวิตในรถยนต์ บริเวณสะพานพระราม 5 ริมถนนนครอินทร์ ใกล้กับชุมชนสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ต.เทวินทร์ ชาญกล้า สว.สส สภ.บางกรวย แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง


            ที่เกิดเหตุพบรถยนต์โตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กฉ 1442 สระบุรี จอดติดเครื่องยนต์อยู่ในลักษณะหน้ารถหักชนขอบทาง จากการตรวจสอบพบว่าผู้ตายชื่อ นางกุลิสรา ณ ลำปาง หรือพัชรี จึงทองดี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/8 ม.2 ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลมสีขาวลายชมพู กางเกงขาสั้นสีขาว นั่งอยู่ที่เบาะคนขับแต่ล้มฟุบไปทางเบาะคนนั่ง เลือดสาดกระจายเต็มกระจกรถ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณกกหูซ้ายทะลุกกหูขวา ข้างกายพบหัวกระสุนตกอยู่จำนวน 1 นัด


            ตรวจสอบหลักฐานภายในรถพบเอกสารรับรองเงินเดือนอยู่ในกระเป๋าสะพายของผู้ตาย ระบุว่าเป็นพนักงานของบริษัท ห้าดาวเคมีภัณฑ์ จำกัด เลขที่ 145/1 ม.11 ต.พระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดต่อไปตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ระบุอยู่ในเอกสาร พบนายอุกฤษณ์ จึงทองดี ประธานบริษัท ห้าดาวเคมีภัณฑ์ จำกัด อดีตสามีผู้ตาย ทราบแต่เพียงว่าผู้ตายได้ไปทำงานที่ กทม.แต่ไม่ทราบว่าทำงานอะไร


            เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งปมสังหารไว้หลายประเด็น ทั้งเรื่องชู้สาวเนื่องจากผู้ตายเป็นแม่หม้ายเพิ่งเลิกกับสามีได้เพียง 1 ปี ประกอบกับเป็นคนหน้าตาดีจึงอาจมีชายหนุ่มมาเกี่ยวพัน แต่ยังไม่ทิ้งประเด็นเรื่องหน้าที่การงาน รวมทั้งอาจจะเป็นเหตุซึ่งหน้าเพราะรถของผู้ตายมีรอยขูดเหมือนมีการเฉี่ยวชน ซึ่งจะต้องหาพยานแวดล้อมรวมทั้งเรียกผู้ใกล้ชิดและเพื่อนร่วมงานผู้ตายมาสอบปากคำเพื่อสรุปสาเหตุอีกครั้ง


ข้อมูลจาก Manager online




 

Create Date : 02 มิถุนายน 2553    
Last Update : 2 มิถุนายน 2553 7:52:33 น.
Counter : 967 Pageviews.  

"สาว 18 เสียชีวิต" หลังกินยาลดความอ้วน ?



พ่อร้องสื่อหลังลูกสาว วัย 18 ปี หัวใจวายเสียชีวิตคาห้องนอน หลังกินยาลดความอ้วนที่สั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ต


            วันนี้ ( 1 มิ.ย.) เมื่อเวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งนายพิชัย จินตนาผล อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 / 59 หมู่บ้านเจ้าพระยา 8 ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ว่าบุตรสาวคือ น.ส.โชติมา จินตนาผล หรือ น้องจูน อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนวัดราชาธิวาส ได้เสียชีวิตจากการรับประทานยาลดความอ้วนจากทางอินเตอร์เน็ต เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา


            นายพิชัย เปิดเผยว่า โดยปกติลูกสาวเป็นคนร่าเริงและมีความใฝ่ฝันว่าอยากจะเป็นนางแบบหรือพริตตี้ แต่มีน้ำหนักตัวประมาณ 65 กิโลกรัม ทำให้ในแต่ละวันนั้นน้องจูนจะรับประทานอาหารเพียงวันละหนึ่งมื้อเท่านั้นเพื่อลดความอ้วน โดยจะกลับมาร่วมรับประทานอาหารเย็นกับครอบครัวทุกวัน จึงไม่ได้ห้ามปราบลูกสาวในการลดน้ำหนักตัวด้วยวิธีนี้ หากตนเองรู้ล่วงหน้าว่าลูกสาวแอบไปซื้อยาลดความอ้วนมารรับประทานก็จะว่ากล่าวตักเตือนและห้ามอย่างเด็ดขาดแน่นอนเพราะเคยทราบข่าวมาก่อนหน้านี้ว่ายาลดความอ้วนเป็นอันตราย


            นายพิชัย กล่าวอีกว่า ก่อนหน้าที่ลูกสาวจะเสียชีวิตนั้น ได้ไปสมัครงานที่บริษัทขนมอบกรอบชื่อดังและถูกส่งมาทดลองงานขายสินค้าที่ห้างโลตัส สาขา รัตนธิเบตร์ เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้เพียงวันเดียว ซึ่งระหว่างที่ตนไปรับลูกสาวนกลับบ้าน แต่เจ้าตัวบอกว่า รู้สึกเหนื่อยมาก อยากรีบกลับไปนอน เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ขอตัวขึ้นนอนทันที


            จนกระทั่งเช้าวันที่ 31 พ.ค. ตนเองออกไปทำงาน และมาทราบจากคนในครอบครัวตอนเที่ยงว่า ลูกสาวนอนเสียชีวิตอยู่ในห้องนอน จึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ในเบื้องต้นแพทย์ที่เดินทางมาตรวจสภาพศพ ระบุว่า ลูกสาวเสียชีวิตจากหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการชันสูตรประมาณ 1 เดือนถึงจะทราบสาเหตุการเสียชีวิต


            จากตรวจสอบในห้องนอนของลูกสาว พบยาลดความอ้วน 2 กระปุก ยี่ห้อ PAODY กับ L-LARNITINE ตั้งอยู่บนเครื่องแป้งพร้อมกับซองไปรษณีย์ที่จัดส่งยาลดความอ้วนดังกล่าวจากทางอินเตอร์เน็ต จึงทำให้ตนเองเชื่อว่าลูกสาวน่าจะเสียชีวิตจากการรับประทานยาลดความอ้วนที่สั่งซื้อมา เพราะปกติลูกสาวเป็นคนแข็งแรง ไม่เคยเจ็บป่วยหรือมีโรคประจำใด ๆ มาก่อน ซึ่งหากผลตรวจออกมาว่าลูกสาวเสียชีวิตจากการรับประทานยาลดความอ้วน ตนก็จะแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่ขายยาทางอินเตอร์เน็ตให้กับลูกสาวตนเองต่อไป


            สำหรับศพของ น.ส.โชติกา จินตนาผล หรือ น้องจูน ที่เสียชีวิต ทางครอบครัวได้นำศพมาตั้งสวดพระอภิธรรมศพที่วัดบางเลนเจริญ ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี




 

Create Date : 02 มิถุนายน 2553    
Last Update : 2 มิถุนายน 2553 7:27:19 น.
Counter : 1013 Pageviews.  

ฆ่าพระยัดโอ่ง


รวบ แล้วโจรนรก ฆ่าพระยัดโอ่งแล้วเผาที่นครปฐม ที่แท้เคยเป็นพระร่วมกุฏิ หลังสึกยังคอยอาสาเบิกเงินโอนเงินให้ แฉชนวนฆ่าเหตุจากเอาเงิน 5,500 บาทของพระไปใช้หมด ถูกทวงถามหนักเข้า ฉวยโอกาสไม่มีใครเห็น เลยบีบคอจนตาย ก่อนยัดศพใส่โอ่งเผา แล้วหนีมาอยู่กรุงเทพฯ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 พ.ค. ที่วัดหนองเสือ หมู่ 3 ต.หนองดินแดง อ.เมืองนครปฐม พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รอง ผบช.ภ.7 ฝ่ายปราบปราม พ.ต.อ.สมเกียรติ แสวงสุข ผกก.กก.สส. 1 พ.ต.อ.อนุพันธ์ จันทรพฤกษ์ ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.วัฒนา พิมพ์อัฐ ผกก.สภ.เมืองนคร ปฐม พ.ต.ท.ปรีชา ทิมหอม รองผกก.สส.ภ. จว.นครปฐม พ.ต.ต.พรชัย อริยานนท์ สว. กสส.ภ.จว.นครปฐม และตำรวจชุมชนกว่า 50 นาย ร่วมกันเปิดแถลงข่าวจับกุมคนร้ายในคดีฆ่าพระภิกษุสงฆ์แล้วเผายัดอยู่ในโอ่ง เก็บน้ำขนาดใหญ่ด้านหลังพระอุโบสถของ วัดหนองเสือ ได้ผู้ต้องหา 1 รายนายพูนศักดิ์ หรือแจ๊ค ใจทัน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 หมู่ 6 ต.หนองดินแดง อ.เมืองนคร ปฐม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือสาเหตุแห่งการตายและลัก ทรัพย์ของผู้อื่น
พล.ต.ท.พงษ์สันต์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ทางสภ.เมืองนครปฐมได้รับแจ้งว่า พระแก้ว สุวีโร บุตรงาม อายุ 79 ปี ถูกฆ่ามรณภาพ แล้วนำศพไปเผายัดโอ่งที่ตั้งเรียงรายอยู่ด้านหลังอุโบสถวัดหนองเสือ โดยพระแก้วซึ่งเป็นพระลูกวัดหนองเสือย้ายมาจากวัดในจ.สุรินทร์มาจำวัดอยู่ ที่วัดหนองเสือ ได้ประมาณ 1 ปี และหายตัวไปได้ 2 เดือน จนมาพบสภาพศพเน่าส่งกลิ่นเหม็น โดยถูกเผาทั้งจีวรแต่ยังไหม้ไม่หมดเหลือขา 2 ข้าง
พล.ต.ต.โสภณกล่าวว่า การติดตามเหตุสะเทือนขวัญได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบหาตัวผู้ก่อเหตุมา ดำเนินคดีให้ได้ รวมทั้งให้ชุดสืบสวนของ ตร.ภ.7 ช่วยคลี่คลายคดีร่วมกับสืบสวน ภ.จว.นครปฐม และ สภ.เมืองนคร ปฐม จนทราบว่าคนร้ายเป็นอดีตพระภิกษุในวัดชื่อนายแจ๊ค หรือนายพูนศักดิ์ ทันใจ จึงได้ขออนุมัติศาล จ.นครปฐม ออกหมายจับที่ จ.313/2553 ลงวันที่ 12 พ.ค. 2553 กระทั่งออกติดตามจับกุมตัวได้ที่ถนนภายในหมู่บ้านภูน้ำฟ้า หมู่ 10 ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นคร ราชสีมา
นายพูนศักดิ์รับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุ จริง ซึ่งตนมาบวชอยู่ที่วัดหนองเสือได้เพียง 1 พรรษา และอยู่กุฏิเดียวกันกับพระแก้ว ด้วยความสนิทสนมและอยู่กุฏิเดียวกัน เมื่อสึกไปแล้วก็ยังแวะเวียนมาหาที่กุฏิ เมื่อพระแก้วต้องการใช้เงินก็จะเซ็นใบมอบอำนาจให้ไปเบิกเงินแทน เพราะท่านอายุมากเดินเหินไม่สะดวก ส่วนสาเหตุที่ฆ่าพระแก้ว เนื่อง จากพระแก้วได้วานให้ไปเบิกเงินแทน 5,500 บาท แต่ตนนำไปใช้จนหมดไม่มีเงินคืน พระแก้วได้ทวงถามเรื่อยมา
นายพูนศักดิ์กล่าวอีกว่า กระทั่งวันที่ 23 ก.พ. เวลา 14.00 น. จะเข้าไปบอกพระแก้วว่าขอเลื่อนกำหนดคืนเงินออกไปก่อน เพราะช่วงนี้ตกงานไม่มีเงินคืนให้ แต่กลับพบพระแก้วกำลังนั่งถอนหญ้าอยู่ด้านหลังอุโบสถ พระแก้วก็ได้ทวงถามเรื่องเงินอีก เมื่อมองไปโดยรอบเห็นว่าไม่มีใครในบริเวณนั้นจึงเดินไปอยู่ที่ด้านหลังพระ แก้ว แล้วใช้มือทั้งสองบีบที่คอจนมรณภาพ ด้วยความที่เกรงกลัวความผิด จึงอุ้มศพพระแก้วไปใส่ในโอ่งน้ำเปล่าที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ แล้วหาเศษใบไม้ กิ่งไม้เก่า และผ้าจีวรของพระใส่ลงไปแล้วจุดไฟเผา เมื่อเห็นไฟติดแล้วจึงได้นำฝาโอ่งมาปิดไว้ จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้า แล้วรีบออกเดินทางไปอยู่กรุงเทพฯ ไปทำงานก่อสร้าง เมื่อมีข่าวพระแก้วกระจายออกไป จึงแกล้งโทรศัพท์ไปถามข่าวคราวที่บ้าน แต่ทางบ้านบอกว่ามีตร.มาตามหาจึงรีบหลบหนีไปทำงานที่ อ.ปาก ช่อง จ.นครราชสีมา ได้เพียง 1 สัปดาห์ และมาถูกตำรวจตามมาจับกุม
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการนำตัวนายพูนศักดิ์มาแถลงประกอบคำรับสารภาพ พร้อมกับขอขมาที่รูปขอพระแก้วต่อหน้าหลวงตาสังวาลย์ รักษาการเจ้าอาวาสวัดหนองเสือ ท่ามกลางประชาชนนับร้อยที่มุงดูการทำแผน โดยประชาชนที่มาดูการทำแผนต่างตะโกนด่าสาปแช่งต่างๆ นานา




 

Create Date : 24 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 24 พฤษภาคม 2553 21:33:27 น.
Counter : 3122 Pageviews.  

6 ศพในวัดปทุมฯโดนยิงด้านหลังทั้งหมด


คุณเกตุ พยาบาลที่เสียชีวิตในวัดปทุมฯ



       พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวถึง ศพ 6 ศพที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในวัดปทุมวนารามวรวิหาร ซึ่งเมื่อวันที่ 20 พ.ค. พบว่ามีชายไม่ทราบชื่อ 2 ราย ขณะนี้ ทราบชื่อชาย 1 รายแล้ว คือ


       1. นายอัครเดช ขันแก้ว อายุ 22 ปี


ส่วนศพหญิงที่เสียชีวิตนั้นทราบชื่อจริงคือ


       2. น.ส.กมลฉัตร อัตฮาร์ด


       โดยขณะนี้ศพทั้งหมดได้ชันสูตรเสร็จสิ้นแล้ว โดย น.พ.พรชัย สุธีรคุณ รองผบก.สถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ และในจำนวนนี้ยังไม่ทราบชื่อเพียงศพเดียว สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตของ 6 ศพ ได้ถูกกระสุนปืนความเร็วสูง เข้าบริเวณด้านหลังและด้านข้างทั้งสิ้น ไม่มีจากด้านหน้า


       โดยทั้ง หมดได้ถูกกระสุนทำลายปอด ตับ หัวใจ และ 2 ใน 6 ศพ พบกระสุนบริเวณกะโหลกศีรษะ และทุกศพที่ญาติมารับแล้วนั้นไม่ได้ติดใจกับสาเหตุการตายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแพทย์ไม่พบหัวกระสุนที่อยู่ในศพ จึงต้องแจ้งกับพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้งหนึ่งเพื่อหาพยานอื่นมาประกอบโดยเฉพาะหัวกระสุนที่อาจทะลุศพตกไปที่เกิดเหตุ กองพิสูจน์หลักฐานกลางและพนักงานสอบสวน จะดำเนินการต่อไป




 

Create Date : 24 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 24 พฤษภาคม 2553 0:25:48 น.
Counter : 1132 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  

DR.MOO CAN DO
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์
หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว
ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ
ประวัติการศึกษา
1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.ประกาศนียบัตร “Crime Scene Investigation” โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy
4.ประกาศนียบัตร “การบริหารงานโรงพยาบาล” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน
1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว.
2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข
6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ
9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล"
12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9"
13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline"
14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง
15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553
16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
New Comments
Friends' blogs
[Add DR.MOO CAN DO's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.