ห้องแฟนตาซีของmoony
|
|||
บทที่ 4 ผู้ต้องสงสัย
บทที่ 4
ผู้ต้องสงสัย อะไรทำให้นายคิดว่าผู้ชายคนนั้นเป็นพวกอิลูมิเนติค วูล์ฟถามระหว่างเดินตามวลาร์ดตรงไปยังห้องพิสูจน์หลักฐาน อีกฝ่ายชำเลืองตามองเขาก่อนจะตอบเสียงห้วน ฉันไม่ได้บอกว่าเขาเป็น ก็เมื่อกี้นายพูดว่าสงสัยคดีนี้จะเกี่ยวข้องกับองค์กรบ้านั่น หนุ่มหมาป่าเถียงเสียงดัง ลูกครึ่งแวมไพร์ถอนใจอย่างเบื่อหน่าย ฉันพูดว่าเขาอาจจะมีอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าหมอนั่นจะเป็นพวกอิลูมิเนติค แต่เจ้านั่นแข็งแรงมากแถมยังว่องไวผิดมนุษย์ ถ้าไม่ใช่มนุษย์ทดลองของเจ้าพวกบ้านั่นแล้วจะเป็นอะไร วูล์ฟถามขณะก้าวตามเพื่อนเข้าไปในห้อง วลาร์ดหยิบเสื้อคลุมสีขาวมาสวมและเดินไปหยิบรายงานที่ถูกเก็บไว้ในลิ้นชักขึ้นมาอ่าน เป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ เด็กหนุ่มพึมพำ หนุ่มหมาป่าเดินไปหยุดยืนทางด้านหลังและชะโงกหน้ามองข้ามไหล่ นายพูดเรื่องอะไร เขาถามหลังจากพยายามอ่านรายงานไปแล้วหนึ่งรอบ ลูกครึ่งแวมไพร์เหลือบตามองเพื่อนและเดินไปยังตู้เก็บและหยิบซองเก็บหลักฐานที่มีเศษผ้าขึ้นมา ตามธรรมดาแล้วเมื่อเราสวมเสื้อ จะต้องมีเหงื่อและเศษผิวหนังติดเข้าไปในเส้นใยของผ้า ถึงจะถอดออกมันก็จะยังติดอยู่แบบนั้นจนกว่าเราจะนำไปซักหรือทำความสะอาดด้วยความร้อน ช่วยพูดให้มันสั้นลงหน่อยได้ไหม วูล์ฟบ่นพร้อมกับเกาศีรษะ วลาร์ดมองเขาอย่างรำคาญก่อนจะวางซองพลาสติกลง เราตรวจเศษผิวหนังกับเหงื่อที่ติดมากับผ้าและพบว่ามันมีดีเอ็นเออยู่สองชนิด เขามองเพื่อนซึ่งกำลังทำหน้างง พูดง่ายๆก็คือ ผู้ชายคนนั้นเป็นอมนุษย์ น่าจะพูดแบบนี้ตั้งแต่แรก หนุ่มหมาป่าบ่น แล้วเขาเป็นตัวอะไร ฉันเองก็ไม่แน่ใจ แต่จากรายงานนี่บอกว่าดีเอ็นเอที่พบเป็นอาซินนอนิกซ์ จูบาตัส ลูกครึ่งแวมไพร์อธิบายพลางนิ่วหน้า เขาถึงเคลื่อนไหวได้เร็วกว่าฉันมาก ตัวอะไรของนาย วูล์ฟถามเสียงขุ่น วลาร์ดมองหน้าเพื่อน เสือชีตาห์ ก็เท่านั้น หนุ่มหมาป่าบ่น ทำไมไม่รู้จักพูดภาษาคนธรรมดาบ้างนะ แม้จะโกรธที่ถูกประชดแต่ลูกครึ่งแวมไพร์กลับทำเป็นไม่สนใจ เขาก้มหน้าลงอ่านรายงานอีกครั้งและพูดเสียงไม่ดังนัก แปลก ดูเขาแทบไม่ต่างไปจากมนุษย์ธรรมดาเท่าไหร่ ก็หมายความว่าเจ้านั่นเป็นพวกอิลูมิเนติค วูล์ฟรีบพูดแต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้า ไม่ใช่ ทำไมนายถึงคิดแบบนั้น เพราะเขาไม่มีสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมที่ต้นคอเหมือนคุณลีโอ คำตอบของวลาร์ดทำให้หนุ่มหมาป่าอึ้งไปชั่วขณะ เขามองสีหน้าที่นิ่งสงบของเพื่อนและถามเสียงไม่ดังนัก นายรู้เรื่องนี้ได้ยังไง รายงานในห้องคุณอันเดอร์ฮิลล์ ลูกครึ่งแวมไพร์ตอบ ฉันจำเป็นต้องรู้รายละเอียดทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับพวกนั้น แล้ว วูล์ฟทำท่าลังเลก่อนจะถาม นายแน่ใจหรือว่าคนร้ายรายนี้ไม่มีรอยสักที่ว่านั่น เพราะตอนนั้นทั้งมืดและพวกนายก็มัวแต่ต่อสู้กันอยู่ไม่ใช่เหรอ ฉันไม่ได้เอาแต่บ้าพลังบุกตะลุยอย่างเดียวเหมือนนาย ลูกครึ่งแวมไพร์พูดเสียงเรียบ หนุ่มหมาป่านิ่วหน้า แต่เรื่องแค่นี้ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าเขาไม่ใช่พวกอิลูมิเนติค ฉันถึงอยากรู้ว่าเขากำลังทำอะไรกันแน่ วลาร์ดพูดพลางเก็บรายงานกลับเข้าที่ และทำไมเขาจึงหมกมุ่นกับโฟริดนัก โฟริด หนุ่มหมาป่าทวนคำ มันคืออะไร ตอนนี้ฉันยังไม่แน่ใจนักแต่ถ้าคิดไม่ผิดมันน่าจะเกี่ยวข้องกับแมลงวันชนิดหนึ่ง ลูกครึ่งแวมไพร์ตอบขณะถอดเสื้อคลุมแขวนไว้ตามเดิม วูล์ฟเบ้หน้า อย่าบอกนะว่าเราต้องไปเดินคุ้ยกองขยะ ทำไมต้องทำแบบนั้น วลาร์ดหันไปถาม หนุ่มหมาป่าเลิกคิ้ว ก็นายบอกว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับแมลงวัน โฟริดเป็นแมลงวันผลไม้ และพวกมันอาศัยอยู่ในเขตร้อนชื้น ลูกครึ่งแวมไพร์พูดเสียงห้วนและระบายลมหายใจอย่างเหลืออด นายน่าจะหาเวลาอ่านหนังสือบ้างนะ หนังสือมีไว้หนุนนอนต่างหาก วูล์ฟพูดกลั้วหัวเราะ วลาร์ดส่ายหน้าก่อนจะเดินออกจากห้อง เพื่อนของเขารีบวิ่งตามพร้อมกับถามเสียงดัง จะไปไหน ห้องเก็บข้อมูล ฉันอยากรู้รายละเอียดของคดีฆาตกรรม */*/*/*/* นี่เป็นแฟ้มคดีฆาตกรรมทั้งสิบคดี ยังไม่นับรวมรายล่าสุด เครน นักสืบร่างใหญ่ประจำสถานีพูดพลางใช้มือตบแฟ้มเอกสารกองโตที่ตำรวจขนมาวางกองไว้บนโต๊ะ ชายในชุดสูทสีเข้มมองด้วยสายตาแปลกใจก่อนจะพูด มีคดีฆาตกรรมในท้องที่นี้ถึงสิบห้าราย แต่พวกคุณกลับไม่พบเบาะแสอะไรเลยหรือ น้ำเสียงเจือการตำหนิทำให้นักสืบนายนั้นนิ่วหน้า เขามองอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่พอใจก่อนจะพูดเสียงห้วน คนร้ายลงมือเร็วมาก ไม่เคยทิ้งร่องรอยอะไรไว้ให้ นอกจากคำบอกเล่าของพยานที่ว่าคนร้ายเป็นชายร่างใหญ่สวมเสื้อผ้ารุงรังและถือมีด มันไม่เคยทิ้งอะไรไว้เลย ชายร่างใหญ่สวมเสื้อผ้ารุงรัง ชายในชุดสูทพูดทวน แต่ตำรวจของคุณบอกว่าเป็นเด็กหนุ่มอายุไม่ถึงยี่สิบแต่งตัวคล้ายนักบวชไม่ใช่หรือ คำให้การของพยานกับคนของคุณมันต่างกันมากเลยว่าไหม สีหน้าของนักสืบบูดบึ้งด้วยความไม่พอใจพลางสอดมือทั้งสองข้างเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะพูดลอดไรฟันออกมาอย่างระงับอารมณ์เต็มที่ บางครั้งคำพูดของพยานก็เชื่อถือไม่ได้ คำให้การของพยานห้ารายตรงกัน เอฟบีไอหนุ่มพูดขณะเปิดแฟ้มรายงาน แต่ตำรวจของคุณพบคนร้ายเพียงแค่ครั้งเดียว คุณคิดว่าในทางสืบสวนคุณจะให้น้ำหนักไปในทิศทางใด พยานห้าปากหรือตำรวจ คุณพูดเหมือนคนของผมไม่น่าเชื่อถือ นักสืบพูดเสียงห้วน อีกฝ่ายยิ้มอย่างใจเย็นพลางวางแฟ้มลงที่เดิม ขอโทษที่ทำให้คุณเข้าใจผิด ผมเพียงแต่อยากจะบอกว่าก่อนจะปล่อยข่าวอะไรออกไปควรตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัดก่อน เพราะผลเสียที่ตามมามันร้ายแรงกว่าที่คุณคิด ผมไม่ได้ปล่อยข่าวอะไร แล้วพวกสื่อมวลชนได้ข้อมูลคนร้ายมาจากไหน อย่าบอกนะว่าเขาเจาะระบบเครือข่ายเข้ามา คำพูดของเอฟบีไอหนุ่มทำให้นักสืบยืนอึ้ง เขามองหน้าอีกฝ่ายนิ่งก่อนจะหันกลับไปเรียกสายตรวจนายหนึ่งซึ่งกำลังเตรียมตัวออกตรวจพื้นที่ สายตรวจคอลลิน ครับผม สายตรวจนายนั้นขานรับและรีบเดินเข้ามาหา มีอะไรหรือครับผู้หมวดเครน ช่วยเล่ารายละเอียดผู้ต้องสงสัยที่คุณพบให้เจ้าหน้าที่พิเศษคาร์เพนเตอร์ฟังอีกครั้งได้ไหม ได้ครับ สายตรวจคอลลินรีบพูดพร้อมกับหันไปทางเอฟบีไอหนุ่มและเริ่มต้นเล่าเรื่องที่เขาพบวลาร์ดตั้งแต่ต้นไปจนกระทั่งถึงตอนที่ลูกครึ่งแวมไพร์หลบหนีไปได้ด้วยความว่องไวอย่างเหลือเชื่อ คาร์เพนเตอร์นั่งฟังอย่างตั้งใจและถามแทรกขึ้นมาในบางครั้ง เมื่อคอลลินเล่าทุกอย่างจบลงเอฟบีไอหนุ่มจึงถามย้ำอีกครั้ง คุณแน่ใจนะว่าผู้ต้องสงสัยเป็นแค่เด็กหนุ่ม ไม่ใช่ชายร่างใหญ่เหมือนที่พยานให้การ แน่ใจครับ ผู้ต้องสงสัยยืนประจันหน้ากับพวกคุณตั้งนาน ไม่เห็นหน้าของเขาบ้างเลยหรือ เจ้าหน้าที่พิเศษคาร์เพนเตอร์ถาม สายตรวจคอลลินส่ายหน้า ถึงจะอยู่ใกล้แต่ผู้ต้องสงสัยก็ยืนอยู่ในเงามืดตลอด เขาชะงักราวกับนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จริงสิผมเห็นเครื่องหมายบางอย่างที่อกเสื้อของเขาด้วย เครื่องหมายอะไร ทำไมนายไม่บอกให้ฉันฟังก่อนหน้านั้น นักสืบเครนพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจแต่เอฟบีไอหนุ่มกลับยกมือห้ามและถามคอลลินด้วยสีหน้าจริงจัง พอจะจำลักษณะของเครื่องหมายที่ว่านั่นได้ไหม คาร์เพนเตอร์ถามพลางส่งกระดาษและปากกาให้ อีกฝ่ายรับมาถือไว้และทำท่านึก ถึงจะมืดแต่ผมสังเกตเห็นมันสะท้อนกับแสงไฟตอนที่ผู้ต้องสงสัยขยับตัว สายตรวจคอลลินพูดและเริ่มต้นวาดสิ่งที่เขาเห็นลงไปในกระดาษ รูปร่างของมันเหมือนโล่นักรบในสมัยก่อน มีกางเขนที่เหมือนดาบอยู่ตรงกลาง ผมเห็นลายแปลกๆอยู่ด้านบน จะว่าไปเหมือนเป็นตัวอักษรโบราณมากกว่า เขาอธิบายพลางลากปากกาวาดรูปอย่างตั้งใจและส่งให้เอฟบีไอหนุ่มทันทีเมื่อวาดเสร็จ เครนรีบชะโงกหน้าดูอย่างสนใจ อย่างกับเครื่องหมายของพวกนักบวช เขาพูดแต่คาร์เพนเตอร์กลับส่ายหน้า เหมือนตราสัญลักษณ์ขององค์กรอะไรสักอย่าง เขาลูบคางอย่างใช้ความคิดหรือคนร้ายรายนี้เป็นพวกคลั่งลัทธิ คุณหมายถึงพวกบูชาซาตานอะไรทำนองนั้นน่ะหรือ นักสืบเครนถาม เอฟบีไอหนุ่มวางภาพวาดลงบนโต๊ะ ลัทธิซาตานไม่ใช้กางเขนเป็นสัญลักษณ์ เขาเคาะนิ้วสองสามครั้ง ผมเคยเห็นเครื่องหมายแบบนี้มาก่อน ที่ไหน เมื่อไหร่ เครนถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นอีกฝ่ายกลับนั่งนิ่งก่อนจะหบิยกระดาษพับเก็บใส่กระเป๋าเสื้อและลุกขึ้น ผมมีเรื่องต้องตรวจสอบคงต้องขอตัวก่อนพรุ่งนี้ค่อยพบกันอีกครั้ง อ้อกรุณาอย่าเผยแพร่ข้อมูลที่พวกเราเพิ่งได้รับทราบ ถ้าผมเห็นตราสัญลักษณ์นี้ไปปรากฏบนสื่อมวลชน พวกคุณโดนย้ายทั้งสถานีแน่ */*/*/*/* สมิธเดินมองผู้ป่วยที่นั่งรอการตรวจรักษาอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ เขาพยายามสังเกตแพทย์และพยาบาลรวมทั้งเจ้าหน้าที่ของโรงพยบาลที่กำลังเดินขวักไขว่ไปมาและหยุดยืนหน้าแผนกระเบียน สวัสดีครับ เขาพูดกับเจ้าหน้าที่สาวสวยคนหนึ่ง ผมสมิธ เจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง มาติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เคราะห์ร้ายในคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ สมิธอธิบายพร้อมกับหยิบบัตรประจำตัวออกมา เจ้าหน้าที่สาวจ้องอย่างพิจารณาก่อนจะพยักหน้าและพูดเสียงหวาน รอสักครู่นะคะ เธอหันไปเปิดตู้เอกสารด้านหลังและดึงแฟ้มอันหนึ่งออกมา จากนั้นจึงหมุนตัวหันหน้ากลับมาที่สมิธอีกครั้งพร้อมกับยื่นแฟ้มส่งให้ รายละเอียดของผู้ป่วยทั้งหมดอยู่ในรายงานนี้ค่ะ เตรียมไว้พร้อมเลยนะครับ สมิธกล่าวด้วยท่าทางสุภาพอีกฝ่ายยิ้ม เพื่อความสะดวกในการสืบสวนคดี ทางเราจึงจัดการเรื่องเอกสารและรายงานการรักษาเอาไว้ให้ คุณจะอ่านที่นี่หรือนำกลับไปคะ เพราะถ้าหากจะนำเอกสารเหล่านี้ออกไปคุณต้องลงชื่อไว้เป็นหลักฐานด้วย อ่านที่นี่จะสะดวกกว่าครับ เพราะผมอาจต้องสอบถามบางเรื่องที่ไม่เข้าใจ คุณมีห้องหรือสถานที่ที่เป็นส่วนตัวกว่านี้หน่อยไหมครับ มีค่ะ หญิงสาวพูดพร้อมกับผายมือ เชิญตามฉันมาทางนี้ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนำสมิธไปยังห้องพักของเจ้าหน้าที่และทิ้งเขาไว้ตามลำพังโดยไม่ลืมที่จะจัดเตรียมกาแฟไว้ให้ ทันทีที่หญิงสาวก้าวออกจากห้อง ชายหนุ่มรีบเปิดแฟ้มอ่านและบันทึกรายละเอียดทั้งหมดจนเมื่อถึงส่วนที่ระบุถึงอาการของผู้ป่วยและรายงานการรักษา สมิธต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ ผู้ป่วยเกิดอาการเจ็บช่วงเอวอย่างรุนแรง และเดินไม่ได้สามวันหลังจากนั้น พบอาการบาดเจ็บของกระดูกสันหลังแต่ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด หลังเข้ารับการรักษาได้ห้าวัน ผู้ป่วยจึงเริ่มเป็นอัมพาต ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น อัมพาตอย่างนั้นหรือ เขารีบเปิดสมุดพกขนาดเล็กและอ่านข้อมูลเบื้องต้นที่บันทึกไว้ เหยื่อที่ถูกฆ่าในโรงพยาบาลทั้งสี่รายมีอาการใกล้เคียงกันแถมยังเป็นอัมพาตช่วงล่างทั้งหมด ชายหนุ่มหันไปสนใจรายงานการรักษาอีกครั้ง มีสองคดีที่ระยะเวลาการเข้ารับการรักษาต่างกัน เหยื่อรายที่แปดเป็นอัมพาตสองชั่วโมงหลังจากเกิดอาการปวดกระเพาะอาหารอย่างรุนแรง เขาเปิดแฟ้มคนไข้อีกราย ส่วนคนที่สามเข้ารับการรักษาอาการปวดท้องถึงแปดวันกว่าจะกลายเป็นอัมพาต แต่ทุกรายถูกฆาตกรสังหารด้วยวิธีแทงเข้าที่ท้องจนถึงกระดูกสันหลังก่อนจะฟันหัวซ้ำอีกครั้ง สมิธเงยหน้าขึ้นและขมวดคิ้ว ฆาตกรฆ่าคนอย่างมีพิธีการ คดีนี้มีอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลแล้ว */*/*/*/* บทที่ 3 สิ่งที่ไม่คาดฝัน
บทที่ 3
สิ่งที่ไม่คาดฝัน เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้นายอันเดอร์ฮิลล์เงยหน้าจากรายงานและเอื้อมมือไปรับ เขารีบวางเอกสารทั้งหมดลงเมื่อได้ยินเสียงของผู้ติดต่อมา สีหน้าของชายชราเคร่งเครียดขึ้นหลังจากฟังรายละเอียดไปได้สักพัก จนเมื่ออีกฝ่ายพูดจบลง อันเดอร์ฮิลล์จึงรับคำด้วยน้ำเสียงไม่ดังนัก ผมจะรีบดำเนินการตามที่ท่านสั่งทันทีครับ ชายชราวางโทรศัพท์และเอนตัวพิงเก้าอี้พร้อมกับนิ่วหน้า สมิธซึ่งกำลังหยิบแฟ้มข้อมูลออกมาจากชั้นหันหน้ามามองและถามด้วยความสงสัย มีเรื่องด่วนหรือครับ ใช่ นายอันเดอร์ฮิลล์ตอบพลางหยิบรายงานการปฏิบัติภารกิจครั้งล่าสุดของวลาร์ดกับวูล์ฟขึ้นมาอ่านอีกครั้งด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหนักใจ ตอนนี้สองคนนั่นทำอะไรอยู่ หัวหน้าหน่วยนักล่าถาม สมิธทำท่านึกก่อนจะตอบ วูล์ฟไปพักที่ห้อง ส่วนวลาร์ดอยู่ในห้องเก็บข้อมูลครับ ห้องเก็บข้อมูล นายอันเดอร์ฮิลล์พูดทวนและวางเอกสารในมือลง เขาไปที่นั่นทำไม ผมไม่ทราบ เขาชำเลืองตามองรายงานบนโต๊ะของชายชรา ผมคิดว่าวลาร์ดคงอยากจะหาข้อมูลเพิ่มเติม ในรายงานไม่ได้บอกอะไรไว้หรือครับ มันบอกแค่ว่าทั้งสองคนถูกชายลึกลับจู่โจมระหว่างการเดินทางกลับ อันเดอร์ฮิลล์พูดพลางเคาะนิ้วลงบนกองเอกสาร กับเรื่องที่ปะทะกับตำรวจ บางทีวลาร์ดอาจกำลังสงสัยชายลึกลับคนนั้น ดูเหมือนเขาจะเก็บหลักฐานบางอย่างกลับมาด้วย เป็นเศษผ้า นายอันเดอร์ฮิลล์พูดเสียงเรียบ ผมกำลังรอฟังผลอยู่เหมือนกัน คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับอิลูมิเนติคไหมครับ สมิธถาม ชายชรานั่งนิ่งก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม อาจจะ เขามองข้อมูลที่เขียนบนรายงานก่อนจะลุกขึ้น จะไปไหนครับ สมิธถาม อันเดอร์ฮิลล์เดินไปที่ประตูและหันหน้ากลับมาตอบ ห้องชันสูตร และจะไปค้นอะไรเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยที่ห้องข้อมูล เขามองอีกฝ่ายที่กำลังทำท่าจะก้าวตามมา คุณนั่งศึกษางานไปคนเดียวก่อน อีกสักพักผมจะกลับ ครับ สมิธรับคำอย่างสุภาพ นายอันเดอร์ฮิลล์มองเขานิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงเดินออกจากห้อง สิมธหันหน้ากลับไปยังชั้นเก็บเอกสารอีกครั้งและเริ่มต้นหยิบแฟ้มออกมาเปิดอ่านอีกครั้งอย่างตั้งใจ วลาร์ดนั่งจ้องข้อมูลที่ปรากฏอยู่บนจอคอมพิวเตอร์และใช้ความคิดอย่างหนักโดยไม่สนใจสิ่งรอบตัว จนเมื่อนายอันเดอร์ฮิลล์ก้าวไปหยุดยืนด้านหลังและเอ่ยถามเสียงเรียบ พบอะไรบ้าง ผมยังไม่แน่ใจ ลูกครึ่งแวมไพร์ตอบพลางเลื่อนข้อมูลอีกชุดขึ้นมาบนหน้าจอ ชายชรามองอย่างสนใจ แมลงวันโฟริด เขาพูดและหันไปทางเด็กหนุ่ม ทำไมถึงสนใจเรื่องนี้ ผมติดใจกับคำพูดของฆาตกร เขาพร่ำพูดแต่คำว่าโฟริด วลาร์ดตอบทั้งที่สายตายังคงจ้องรูปแมลงที่ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ อันเดอร์ฮิลล์ขมวดคิ้ว เขาอาจจะหมายถึงอย่างอื่นอย่างเช่นสารจำพวกกรด ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้นแต่ประโยคที่หมอนั่นพูดว่า โชคดีที่พวกมันไม่ชอบผีดิบ ทำให้ผมเอะใจและคิดว่าน่าจะหมายถึงสิ่งมีชีวิตมากกว่า วลาร์ดนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองอันเดอร์ฮิลล์ พอมีทางที่จะนำร่างผู้เสียชีวิตมาทำการชันสูตรที่นี่ได้ไหมครับ ทำไม ชายชราถาม ลูกครึ่งแวมไพร์นิ่วหน้า ผมตรวจคดีย้อนหลังไปสามเดือน พบว่ามีการฆาตกรรมแบบเดียวกันมาแล้วถึงสิบคดี มีเหยื่อทั้งหมดสิบห้าราย ทุกรายถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่บริเวณหน้าท้องจนทะลุไปถึงกระดูกสันหลังเหมือนกันทั้งหมด ได้ยินมาว่ามันเป็นคดีของฆาตกรต่อเนื่อง พฤติกรรมซ้ำซากแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร นายอันเดอร์ฮิลล์แย้งแต่วลาร์ดกลับสั่นหน้า แต่เจ้าหมอนี่เร็วมาก สีหน้าของลูกครึ่งแวมไพร์เคร่งเครียดขึ้นที่สำคัญไม่มีมนุษย์คนไหนสู้กับแวมไพร์ได้ เธอเลยคิดว่าเขาอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกอิลูมิเนติค อันเดอร์ฮิลล์ถามด้วยเสียงขรึม วลาร์ดนิ่งไปเล็กน้อยก่อนตอบ ผมยังไม่อยากสรุปอะไรลงไป เขาเลื่อนสายตากลับไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง จนกว่าจะได้ตรวจร่างเหยื่ออย่างละเอียด ชายชรายืนนิ่งและถอนใจ เขามองหน้าบุตรบุญธรรมนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดเสียงไม่ดังนัก ถึงองค์กรของเราจะมีอำนาจมากแค่ไหน แต่การนำศพของเหยื่อที่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องมาทำการผ่าพิสูจน์เองแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ เราขอให้ส่วนกลางดำเนินการให้ก็ได้นี่ครับ ลูกครึ่งแวมไพร์แย้ง นายอันเดอร์ฮิลล์มองเขาและกล่าวเสียงดุ วลาร์ด สีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจังของชายชราทำให้วลาร์ดต้องนิ่ง เขาหันหน้ากลับไปทางหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้งและถอนใจออกมา ผมไม่อยากรอจนเกิดผู้เคราะห์ร้ายรายต่อไป ฉันเข้าใจ นายอันเดอร์ฮิลล์พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง แต่ทุกอย่างต้องมีระบบและขั้นตอน ถึงเธออยากจะเร่งสืบหาความจริงมากแค่ไหน จะทำอะไรก็ต้องเป็นไปตามกฎ จำเอาไว้ให้ดีว่ามนุษย์ไม่ชอบการกระทำที่เรียกว่า ข้ามหน้าข้ามตา อยากจะให้เธอขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วย ผมจะพยายาม ลูกครึ่งแวมไพร์ตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก ชายชรายืนมองเขาครู่หนึ่งจึงถาม นอกจากเรื่องนี้แล้วผู้ชายคนนั้นยังมีอะไรพอเป็นที่น่าสังเกตอีกบ้าง อาวุธ วลาร์ดตอบเสียงเรียบ เขาชำเลืองตาไปยังประตูและขมวดคิ้วเมื่อเห็นวูล์ฟกำลังเดินหน้ายุ่งเข้ามาหา ตื่นแล้วหรือวูล์ฟ บิดาบุญธรรมหันไปทัก หนุ่มหมาป่าอ้าปากหาวและยิ้มแก้เก้อ ครับ เขามองลูกครึ่งแวมไพร์ที่กำลังคีย์ข้อมูล กำลังทำอะไรกันอยู่เหรอครับ ทำงาน วลาร์ดตอบอย่างเคร่งขรึม วูล์ฟเลิกคิ้วและมองภาพมีดขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้นบนจอ นี่มัน ดาบไม่ใช่หรือ มีดต่างหาก ลูกครึ่งแวมไพร์พูดเสียงกระด้าง หนุ่มหมาป่าชะโงกเข้าไปมองจนหน้าแทบจะติดจอคอมพิวเตอร์ มีด เขาทวนคำและจ้องภาพบนหน้าจอเขม็ง ทำไมมันใหญ่นักล่ะ แถมใบมีดยังมีลายแปลกๆด้วย ใช่มีดของจริงแน่หรือวลาร์ด มันเป็นมีดจริงและคมชนิดสามารถผ่ากะโหลกนายให้แยกเป็นสองซีกได้ในครั้งเดียว วลาร์ดพูดอย่างเหลืออด นายอันเดอร์ฮิลล์โบกมือห้ามพร้อมกับถามเสียงขรึม มันเป็นมีดของคนร้ายอย่างนั้นหรือ ครับ ลูกครึ่งแวมไพร์ตอบ วูล์ฟยืนกอดอก นายแน่ใจได้ยังไงในเมื่อตอนนั้นมันมืดแถมทุกอย่างก็วุ่นวายไปหมด ลืมไปแล้วหรือว่าฉันเป็นอะไร วลาร์ดพูดเสียงห้วน และอีกอย่างตอนสู้กันฉันเห็นมีดของคนร้ายมีลักษณะที่พิเศษ อะไร หนุ่มหมาป่าถาม ลูกครึ่งแวมไพร์ชี้ไปที่ใบมีดซึ่งมีลวดลายแปลกตา เห็นลายพวกนั้นไหม ริ้วในเนื้อโลหะแบบนั้นน่ะเป็นลักษณะเฉพาะตัวของมีดที่เรียกว่าดามัสกัส เบลด นายอันเดอร์ฮิลล์ถึงกับยืนอึ้ง เขามองภาพมีดบนจอและนิ่วหน้า ลักษณะแบบนี้เป็นมีดของหน่วยนาวิกโยธินไม่ใช่หรือวลาร์ด ฉันไม่เคยได้ยินว่าพวกเขาใช้เนื้อโลหะที่เธออธิบายให้ฟังเมื่อครู่ ผมถึงหาข้อมูลจากร้านที่รับสั่งทำมีดแบบพิเศษ ยิ่งลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบนี้ทำให้ช่วยจำกัดการค้นหาให้แคบลง เขาเลื่อนข้อมูลขึ้นมาแทน ทำให้รู้ว่ามีเพียงสองร้านในเมืองเท่านั้นที่ทำมีดชนิดนี้ขึ้นมา เยี่ยม นายรีบส่งข้อมูลนี่ไปให้ตำรวจเลย พวกเขาจะได้จับเจ้าฆาตกรโหดนี่เสียที วูล์ฟรีบพูดแต่วลาร์ดกลับสั่นหน้า ฉันอยากจัดการเจ้านี่เอง หนุ่มหมาป่าทำหน้าแปลกใจและเตรียมจะแย้งเพื่อนแต่เสียงฝีเท้าที่เดินอย่างร้อนรนทำให้เขาชะงัก ทั้งหมดหันไปมองดิกสันซึ่งกำลังยืนอยู่ที่ประตู อันเดอร์ฮิลล์มองสีหน้าแสดงความยุ่งยากใจของเขา มีอะไร ครับ ดิกสันตอบและนิ่วหน้า เชิญพวกคุณมาดูเองดีกว่า ทั้งหมดก้าวออกจากห้องและเดินตามดิกสันไปจนถึงห้องโถงกลางซึ่งมีเครื่องรับโทรทัศน์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เจ้าหนาที่หลายคนกำลังยืนจับกลุ่มสนทนากันและเงียบเสียงลงทันทีเมื่อเห็นอันเดอร์ฮิลล์ ดูนั่นสิครับ ดิกสันชี้ไปที่โทรทัศน์ ชายชราจึงหันไปมองและขมวดคิ้วเมื่อเห็นผู้ประกาศข่าวกำลังรายงานคดีฆาตกรรม เมื่อคืนนี้ฆาตกรต่อเนื่องได้ออกเล่นงานคนบริสุทธิ์อีกแล้ว ครั้งนี้มีผู้เคราะห์ร้ายถึงสามคนซึ่งทั้งหมดถูกฆ่าตายอย่างทารุณเพราะคนร้ายใช้อาวุธซึ่งทางตำรวจคาดว่าเป็นของมีคมขนาดยาวประมาณ 12 นิ้วแทงบริเวณหน้าท้องทะลุถึงกระดูกสันหลัง ทั้งหมดเสียชีวิตทันที ทางตำรวจได้ไล่ตามผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งไปจนถึงนอกเมืองแต่คนร้ายอาศัยความมืดหลบหนีไปได้....ขออภัยนะคะ ผู้ประกาศข่าวสาวหยุดอ่านและหันไปรับกระดาษจากเจ้าหน้าที่ของสถานี สีหน้าของเธอฉายแววตระหนกออกมาครู่หนึ่งก่อนที่เจ้าตัวจะรีบปรับให้เป็นปรกติ มีรายงานด่วนแจ้งเข้ามาว่าคนร้ายได้ทำการฆาตกรรมชายคนหนึ่งถึงในโรงพยาบาล ตอนนี้ตำรวจกำลังออกทำการติดตามฆาตกรรายนี้ไปทั่วเมือง เราได้รูปพรรณของคนร้ายซึ่งสายตรวจคนหนึ่งพบเมื่อคืนนี้ เป็นเด็กหนุ่มอายุราว 16-20 ปี สูงประมาณ 180 ซ.ม. ผมสีดำ แต่งกายคล้ายนักบวชแต่เสื้อผ้าเป็นสีดำสนิททั้งชุด มีดาบเป็นอาวุธ ใครพบเบาะแสผู้ต้องสงสัยกรุณาติดต่อที่หมายเลข..... เป็นเรื่องแล้วไง วูล์ฟพูดแทรกขึ้น เจ้าหน้าที่ทั้งหมดหันไปมองวลาร์ดเป็นตาเดียว เด็กหนุ่มนิ่วหน้าทันที ยังดีที่ไม่ถูกเห็นหน้า ไม่อย่างนั้นคงเป็นเรื่องใหญ่มากกว่านี้ สตีฟรีบพูด หนุ่มหมาป่าหันไปมองเพื่อน ที่แย่ก็คือป่านนี้ตำรวจคงออกตรวจตราอย่างเข้มงวดมากกว่าเดิม ดิกสันพูดอย่างเคร่งเครียด สองคนนี่คงทำงานกันลำบาก ก็ไม่เชิง นายอันเดอร์ฮิลล์พูดขึ้น เขาหันไปทางวลาร์ดและพูดเสียงเครียด เธอสองคนตามฉันไปที่ห้อง ชายชรากวาดตามองเจ้าหน้าที่ซึ่งยืนจับกลุ่มอยู่รายรอบ ทุกคนกลับไปทำงานตามหน้าที่ นายอันเดอร์ฮิลล์เดินออกจากห้องโถงทันทีที่สั่งจบ วูล์ฟหันไปมองวลาร์ดซึ่งยังคงยืนนิ่ง ก็แค่การเข้าใจผิด คงไม่มีอะไรหรอก แต่ฉันไม่คิดแบบนั้น ลูกครึ่งแวมไพร์พูดเสียงเรียบและเดินตามนายอันเดอร์ฮิลล์ หนุ่มหมาป่ามองเพื่อนด้วยความเป็นห่วงก่อนจะรีบก้าวตาม ฉันไม่เข้าใจ ตอนนั้นตำรวจน่าจะเห็นเราทั้งสองคนแต่ทำไมข่าวถึงรายงานว่าเจอนายคนเดียว มันเป็นการปกปิดข้อมูล วลาร์ดอธิบาย อีกอย่างจากคำให้การของพยานที่ยืนยันว่าคนร้ายมีเพียงคนเดียวทำให้พวกตำรวจไม่มั่นใจว่าฉันเป็นฆาตกรตัวจริง แต่พวกเขาก็ปล่อยข่าวออกมาแบบนั้นแถมยังตามหานาย วูล์ฟพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก ลูกครึ่งแวมไพร์เหลือบตามองเขา ไม่แปลก เพราะตอนนี้ฉันคือเบาะแสสำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา บ้าบอสิ้นดี หนุ่มหมาป่าบ่น พร้อมกับฟาดกำปั้นไปที่ผนัง จากนั้นทั้งคู่จึงเดินไปด้วยกันโดยไม่มีการพูดคุยอะไรอีกจนกระทั่งถึงห้องที่มีป้ายเขียนไว้ว่า ห้องทำงานของหัวหน้าหน่วย วูล์ฟเคาะประตูสองสามครั้งก่อนจะเปิดออกเมื่อได้ยินเสียงผู้ที่อยู่ภายในกล่าวอนุญาต ทั้งสองก้าวเข้าไปในห้อง วลาร์ดชำเลืองตามองสมิธซึ่งยืนอยู่หลังเก้าอี้ของนายอันเดอร์ฮิลล์ในขณะที่หนุ่มหมาป่าเอ่ยทัก สวัสดีครับคุณสมิธ สวัสดีวูล์ฟ เขาเลื่อนสายตาไปที่ลูกครึ่งแวมไพร์ ไงวลาร์ด เด็กหนุ่มไม่ได้เอ่ยปากตอบคำทักทาย เขามองชายชราที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้และถามเสียงไม่ดังนัก มีอะไรหรือครับ นั่งลงก่อนสิ เสียงนายอันเดอร์ฮิลล์พูดอย่างเคร่งขรึม สองนักล่าจึงนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามกับเขา ชายชรามองบุตรบุญธรรมทั้งสองนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดขึ้น ทางองค์กรรู้เรื่องทั้งหมดตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว พวกเขารู้ด้วยว่าตำรวจกำลังเพ่งเล็งมาที่วลาร์ด สายตาจ้องลูกครึ่งแวมไพร์เขม็ง วูล์ฟรีบแย้ง แต่เขาไม่ได้เป็นคนทำ ฉันรู้ และทางองค์กรก็ด้วย แต่ตอนนี้หลักฐานของตำรวจชี้ตรงมาที่วลาร์ด ทางเราจึงจำต้องหาทางป้องกัน แค่การเข้าใจผิดเท่านั้น และตำรวจก็ไม่เห็นหน้าเขาด้วยผมว่ามันน่าจะมีการอธิบายกันได้ หนุ่มหมาป่าเถียงอย่างไม่ลดละ สมิธซึ่งยืนอยู่ด้านหลังพูดขึ้น คงลำบากนะวูล์ฟ เพราะตอนนี้เราได้ข่าวมาว่ามีนายตำรวจและเจ้าหน้าที่เอฟบีไอระดับสูงบางคนตั้งหน่วยพิเศษขึ้นเพื่อไล่ล่าผู้ต้องสงสัยตามรูปพรรณโดยเฉพาะ หมายความว่ายังไง หมายความว่าตอนนี้พวกอิลูมิเนติคเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง และเป้าหมายของพวกมันก็คือทำลายวลาร์ด นายอันเดอร์ฮิลล์ตอบด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมากกว่าทุกครั้ง เขาเลื่อนสายตาไปยังลูกครึ่งแวมไพร์ที่ยังคงนั่งนิ่ง เพราะเหตุนี้ส่วนกลางจึงส่งเจ้าหน้าที่พิเศษมาช่วยงานเรา และสั่งห้ามวลาร์ดออกปฏิบัติหน้าที่จนกว่าเรื่องทุกอย่างจะจบลง อะไรกัน วูล์ฟอุทาน แบบนี้เหมือนการลงโทษมากกว่า คำสั่งที่ว่าจะมีผลเมื่อไหร่หรือครับ วลาร์ดถามเสียงเรียบ นายอันเดอร์ฮิลล์ขมวดคิ้ว ทันทีที่เอกสารและเจ้าหน้าที่พิเศษมาถึง ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ผมก็ยังทำงานได้ ลูกครึ่งแวมไพร์ลุกขึ้น ชายชรามองเขานิ่งในขณะที่ สมิธรีบถาม คุณจะไปไหน หาข้อมูล เด็กหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ผมต้องรู้ให้ได้ว่าเจ้าฆาตกรคนนี้เป็นใคร และเกี่ยวข้องอะไรกับพวกอิลูมิเนติค วลาร์ดเปิดประตูและก้าวออกจากห้องทันทีที่พูดจบ วูล์ฟหันไปกล่าวขอโทษบิดาบุญธรรมก่อนจะรีบเดินตามเพื่อนออกไป นายอันเดอร์ฮิลล์เปิดแฟ้มที่วางอยู่บนโต๊ะและดึงเอกสารแผ่นหนึ่งขึ้นมาอ่าน เขาเอนตัวพิงเก้าอี้พลางถอนใจ เอกสารนั่น สมิธพูดขณะมองตราประทับบนหัวกระดาษ ชายชรากวาดตาอ่านข้อความทั้งหมดอีกครั้งด้วยสีหน้าหนักใจก่อนจะตอบ คำสั่งแจ้งระงับการปฏิบัติงานของวลาร์ด มันถูกส่งมาให้ฉันตั้งแต่เมื่อคืน ตั้งแต่เมื่อคืน แล้วทำไมท่านถึงยัง... ฉันรู้ดีว่าวลาร์ดไม่มีทางทำตามคำสั่ง เขาจะต้องหาทางจับตัวคนร้ายรายนี้ให้ได้ด้วยตัวเอง นายอันเดอร์ฮิลล์วางเอกสารกลับลงไปในแฟ้ม สมิธ ครับ มันอาจจะเสี่ยงต่อหน้าที่ แต่ฉันอยากให้เธอคอยช่วยเหลือวลาร์ด เขามองหน้าอีกฝ่าย ไปสืบประวัติของเหยื่อทุกรายและตรวจดูว่าพวกเขามีความเกี่ยวข้องกันยังไง ครับ สมิธรับคำและก้าวออกจากห้องไปในทันที อันเดอร์ฮิลล์มองบานประตูที่ปิดลง ฉับพลันชายชราก็สะดุ้งขึ้นสุดตัว เขายกมือขึ้นกุมหน้าอกและหอบหายใจอย่างหนักมือข้างหนึ่งควานลงไปในลิ้นชักและดึงขวดยาออกมา หลังจากกินยาเข้าไปสองสามเม็ดสีหน้าของอันเดอร์ฮิลล์คลายความเจ็บปวดลง เขาถอนใจ ต้องรีบคลี่คลายคดีนี้ให้เร็วที่สุด ชายขราพึมพำพลางเอนตัวพิงเก้าอี้และหลับตาลง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป */*/*/*/* บทที่ 2 ฆาตกร
บทที่ 2
ฆาตกร วลาร์ดเบี่ยงตัวหลบคมมีดที่ตวัดลงมาและเหวี่ยงดาบโต้กลับไปอย่างรวดเร็ว แต่อีกฝ่ายกลับพลิกตัวหลบได้ทัน ร่างในชุดผ้าคลุมรุงรังกระโดดถอยหลังและจ้องลูกครึ่งแวมไพร์ด้วยสายตาน่ากลัว โฟริด เสียงแหบต่ำดังออกมา วลาร์ดนิ่วหน้าด้วยความแปลกใจ อะไรนะ โฟริด ร่างนั้นพูดซ้ำคำเดิมพร้อมกับขยับมีดในมือ แกเป็นพวกโฟริดใช่ไหม พูดเรื่องอะไร ลูกครึ่งแวมไพร์ถามเสียงห้วน ดวงตาสีแดงก่ำจ้องคู่ต่อสู้นิ่ง อีกฝ่ายแสยะยิ้มออกมา ตายังมีแวว เขาพึมพำขณะลดมีดในมือลง แกยังไม่เป็นโฟริด ร่างนั้นหมุนตัวและทำท่าจะวิ่งวลาร์ดรีบพุ่งเข้าไปขวางเอาไว้ทันที อีกฝ่ายแยกเขี้ยวคำรามด้วยความโกรธ หลีก ไม่ ลูกครึ่งแวมไพร์ตอบและยกดาบขึ้น ฉันไม่รู้ว่าแกเป็นใครแต่เลือดบนเสื้อบอกว่าแกต้องทำเรื่องไม่ดีมาแน่ แค่ฆ่าพวกโฟริด มันคืออะไร วลาร์ดถามเสียงห้วน อีกฝ่ายมองเขาด้วยดวงตาวาว ความชั่วร้าย น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง มืดที่ถือมีดกำแน่นจนสั่นระริก ลูกครึ่งแวมไพร์ขมวดคิ้ว แกหมายถึงพวกอิลูมิเนติค ฉันพูดถึงโฟริด ร่างนั้นพูดย้ำคำเดิม ดวงตาภายใต้ผ้าคลุมทอประกายกร้าว มันจ้องเด็กหนุ่มเขม็งก่อนจะแสยะยิ้ม โชคดีที่พวกมันไม่ชอบผีดิบ เขาสอดมีดกลับเข้าฝักและหมุนตัวหันหลังให้วลาร์ด ลาก่อน ร่างสูงใหญ่วิ่งหายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว ลูกครึ่งแวมไพร์ร้องห้ามเสียงดัง เดี๋ยว! วลาร์ดขยับตัวจะวิ่งตามแต่ต้องชะงักเมื่อวูล์ฟถลันเข้ามาขวาง หนุ่มหมาป่ากวาดตามองรอบตัว เจ้านั่นล่ะ หนีไปแล้ว ลูกครึ่งแวมไพร์ตอบเสียงห้วน วูล์ฟเลิกคิ้ว ทำไมถึงไม่ตาม เพราะมีหมาบ้าวิ่งมาขวาง อีกฝ่ายตอบเสียงขุ่น หนุ่มหมาป่าเลิกคิ้วและหันไปมองหน้าเพื่อน หมายความว่าไง วลาร์ดไม่ตอบแต่กลับสอดส่ายสายตามองไปบนพื้นถนนคล้ายกำลังหาอะไรบางอย่าง วูล์ฟมองเขานิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงถาม นายกำลังหาอะไร เศษผ้าของเจ้าตัวประหลาดนั่น เด็กหนุ่มตอบพลางหยุดสายตาไว้ที่ขอบถนน หนุ่มหมาป่าเลื่อนสายตามองตาม อย่าบอกนะว่าเจ้านั่นทำผ้าเช็ดหน้าตกไว้ ฉันฟันถูกผ้าคลุมของมันต่างหากเจ้าบ้า ลูกครึ่งแวมไพร์พูดเสียงห้วนขณะใช้ปลายดาบตวัดเศษผ้าชิ้นหนึ่งขึ้นมาวูล์ฟมองด้วยความสนใจ จะเอากลับไปด้วยเหรอ ใช่ วลาร์ดพูดสั้นๆก่อนจะหย่อนผ้าชิ้นนั้นลงไปในซองพลาสติกที่ดึงมาจากกระเป๋าด้านในของเสื้อ หนุ่มหมาป่าผิวปาก ไม่ยักรู้ว่านายพกซองเก็บหลักฐานมาด้วย ฉันไม่เหมือนนาย ลูกครึ่งแวมไพร์ตอบเสียงเรียบ วูล์ฟทำท่าจะต่อปากกับเพื่อนแต่ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงไซเรนดังขึ้น เขามองผ่านร่างเพื่อนไปทางด้านหลังและนิ่วหน้าเมื่อเห็นสัญญาณไฟวับวาบกำลังเคลื่อนใกล้เข้ามา สายตรวจ หนุ่มหมาป่าพึมพำและขมวดคิ้วเมื่อเห็นรถหยุด ตำรวจสองนายก้าวลงมาอย่างรวดเร็วพร้อมอาวุธในมือ รีบไปกันเถอะ จะทำได้ยังไงในเมื่อรถของเราตกถนน วลาร์ดตอบเสียงไม่ดังนักและหยุดทันทีเมื่อได้ยินเสียงตะโกนจากเจ้าหน้าที่ หยุดอยู่ตรงนั้น ทั้งคู่เล็งปืนมายังเด็กหนุ่มทั้งสอง วางอาวุธและคุกเข่านอนคว่ำหน้าลงกับพื้น เอาไงดี วูล์ฟกระซิบ ลูกครึ่งแวมไพร์นิ่วหน้า ฉันจะล่อไว้ให้ นายพาแฮมเมอร์หลบไปก่อน แน่ใจนะว่าไม่เป็นไร หนุ่มหมาป่าถาม วลาร์ดชำเลืองตามองเขา พวกนี้เป็นแค่มนุษย์ น้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ เสียงร้องเตือนย้ำอีกครั้งของตำรวจทำให้ลูกครึ่งแวมไพร์นิ่วหน้าด้วยความรำคาญ ไปเร็ว ระวังตัวด้วยล่ะ หนุ่มหมาป่าเตือนด้วยความเป็นห่วงก่อนจะกระโดดหายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว กิริยาที่ว่องไวผิดนุษย์ของเขาทำให้สายตรวจทั้งสองร้องอุทานด้วยความตกใจ ทั้งคู่จ้องวลาร์ดที่ยังคงยืนหันหลังให้ด้วยความระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม วางอาวุธ เดี๋ยวนี้! ไม่ ว่าอะไรนะ สายตรวจคนหนึ่งพูด เขาเบิกตากว้างด้วยความตระหนกเมื่อร่างของเด็กหนุ่มหายวับไปกับตา ห...หายไปอีกแล้ว ฉันอยู่นี่ เสียงพูดดังขึ้นใกล้ตัว สายตรวจทั้งสองอุทานลั่นก่อนจะหันกระบอกปืนเล็งไปยังลูกครึ่งแวมไพร์ที่กำลังยืนนิ่งอยู่บนหลังคารถ ขึ้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ตำรวจนายหนึ่งหลุดปากถาม วลาร์ดกระตุกยิ้มก่อนจะกระโดดข้ามหัวเขาไปยืนอยู่อีกฟากหนึ่งของถนน สายตรวจทั้งสองรีบเบนกระบอกปืนตาม ฉันบอกให้หยุด และวางอาวุธลง! ทั้งคู่พูดย้ำอีกครั้งขณะเล็งไปที่ลูกครึ่งแวมไพร์ซึ่งยังคงยืนนิ่งและชะงักเมื่อได้ยินเสียงรายงานจากวิทยุ เกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นที่กรีนฮิลล์ มีผู้เสียชีวิตสามราย มีพยานยืนยันว่าเห็นคนถืออาวุธคล้ายมีดขนาดใหญ่วิ่งออกมาจากบ้านและหลบหนีไปทางถนนลองทาวน์ ขอให้สายตรวจที่อยู่ในบริเวณนั้นสังเกตผู้ต้องสงสัยที่สวมเสื้อคลุมสีเข้ม มีอาวุธเป็นของมีคมซึ่งอาจจะเป็นมีด พบเห็นผู้ที่มีลักษณะดังกล่าวให้ทำการจับกุมได้ทันที ดวงตาของวลาร์ดทอประกายวาวดุดันในขณะที่สายตรวจทั้งสองมองเขาด้วยสีหน้าตกใจ ทั้งคู่กระชับปืนแน่นและจ้องเด็กหนุ่มด้วยท่าทางที่จริงจังมากกว่าเดิม ฝีมือนายใช่ไหม หนึ่งในนั้นถาม ลูกครึ่งแวมไพร์มองหน้าแต่ไม่ตอบอะไรออกมา เขาชำเลืองตามองไปด้านข้างพลางขยับตัว หยุด! สายตรวจคนเดิมตวาดเสียงดังลั่น วลาร์ดมองเขาพร้อมกับขมวดคิ้ว ผมไม่ใช่คนที่พวกคุณกำลังตาม ลูกครึ่งแวมไพร์พูดเสียงเรียบ ยังไม่ทันที่สายตรวจทั้งสองจะได้พูดตอบโต้ ร่างในเสื้อคลุมสีดำสนิทก็หายวับไป ทั้งคู่เบิกตาโพลง หายไปไหนแล้ว คนหนึ่งถาม เพื่อนของเขาสบถเสียงดังก่อนจะลดปืนลงและคว้าวิทยุสื่อสารขึ้นมา พบผู้ต้องสงสัยบนถนนลองทาวน์ห่างจากเมืองไปทางใต้สามไมล์ ตอนนี้กำลังติดตามขอกำลังเสริมด่วน รับทราบ เสียงปลายทางตอบกลับมา สายตรวจคนนั้นวางวิทยุกลับเข้าที่และก้าวมายืนนอกรถ จะเอายังไง ลองหาดูก่อนดีไหม คู่หูของเขาถาม อีกฝ่ายนิ่วหน้าพร้อมกับตอบด้วยน้ำเสียงเครียด เจ้านั่นเป็นฆาตกรโหดที่ก่อคดีฆ่าคนตายมาหลายศพ ไม่ดีแน่ถ้าจะออกหากันตามลำพัง เขาเลื่อนสายตามองฝ่าไปในความมืดเราคงต้องรอกำลังเสริม */*/*/* วูล์ฟยืนมองสายตรวจทั้งสองนายที่กำลังเดินวนรอบรถขององค์กรด้วยสายตาไม่ชอบใจ เขาหันไปมองแฮมเมอร์ซึ่งกำลังปิดเครื่องมือสื่อสารและถามเสียงไม่ดังนัก ว่าไง ทางหน่วยกำลังส่งคนมารับ อีกฝ่ายตอบขณะชะเง้อมองรถด้วยสายตากังวล คงไม่ดีแน่ถ้ารถของพวกเราถูกตำรวจยึด ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวคุณสมิธก็หาทางจัดการเอากลับมาได้ หนุ่มหมาป่าพูดพลางชำเลืองตามองไปยังด้านหลังและถามเงาร่างสูดที่กำลังเดินมาใกล้ ทำไมนายไม่อัดตำรวจพวกนั้นให้สลบไปเลยล่ะ ขืนทำแบบนั้นเราจะยิ่งเดือดร้อนหนัก วลาร์ดตอบขณะก้าวเข้ามา ฉันได้ยินมาว่ามีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้น แล้วมันเกี่ยวกับพวกเราตรงไหน วูล์ฟถาม ลูกครึ่งแวมไพร์นิ่วหน้า เพราะลักษณะของฉันไปตรงกับรูปพรรณของคนร้ายน่ะสิ ไม่แปลก หนุ่มหมาป่าพูดเสียงไม่ดังนัก วลาร์ดเหลือบตามองเขาก่อนจะหันไปทางแฮมเมอร์ ติดต่อกลับไปที่หน่วยแล้วใช่ไหม ครับ ช่วยเร่งพวกเขาหน่อย ลูกครึ่งแวมไพร์สั่งเสียงเครียด อีกฝ่ายรับคำทั้งที่ยังทำหน้างงและเปิดเครื่องมือสื่อสารอีกครั้ง วูล์ฟมองเพื่อนด้วยความแปลกใจ ทำไมต้องรีบขนาดนั้น คนร้ายไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา วลาร์ดตอบและยืนจ้องรถตำรวจที่กำลังวิ่งตามกันมาเป็นขบวน เขานิ่วหน้าเมื่อได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ดังใกล้เข้ามา บ้าชะมัด ลูกครึ่งแวมไพร์บ่นพึมพำ หนุ่มหมาป่าเลิกคิ้ว อะไรอีกล่ะ ไม่ได้ยินเสียงนั่นหรือไง วลาร์ดถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด วูล์ฟเงยหน้าขึ้น แค่คอปเตอร์เท่านั้น จะกังวลอะไรนัก แถวนี้เป็นทุ่งโล่ง ลูกครึ่งแวมไพร์พูดพลางกวาดตามองรอบตัว ถ้ามองจากบนนั้นพวกเราเสร็จแน่ แล้วจะทำยังไง หนุ่มหมาป่าถาม วลาร์ดหันไปทางแฮมเมอร์อีกครั้ง พวกเขามากันหรือยัง มาแล้วครับ คงจะถึงในอีกสองหรือสามนาที ลูกครึ่งแวมไพร์พยักหน้าและรีบทำสัญญาณให้ทุกคนย่อตัวลงต่ำเมื่อแสงไฟจากตำรวจส่องมาทางพวกเขา เสียงวูล์ฟบ่นอย่างขัดใจ น่าเบื่อเป็นบ้า นายน่าจะไปทุบไฟพวกนั้นนะ แค่นี้ยังไม่ยุ่งพออีกหรือไง วลาร์ดย้อนและชะงักเมื่อแสงสว่างจ้าจากไฟบนเฮลิคอปเตอร์ของตำรวจทางหลวงกวาดเข้ามาใกล้ หลบเร็ว หนุ่มหมาป่ารีบกระโดดหลบโดยไม่ลืมคว้าคอเสื้อแฮมเมอร์แล้วลากตามไปด้วย เขาหันไปมองลูกครึ่งแวมไพร์ที่กำลังวิ่งลัดเลาะไปตามกอหญ้าและอุทานเมื่อพบว่าเขามุ่งหน้าตรงไปหากลุ่มตำรวจที่ยืนอยู่บนถนน นั่นนายจะทำอะไร วลาร์ดกระโดดขึ้นไปยืนบนหลังคารถตำรวจและกระโจนหายไปอีกด้านแทบจะทันทีเมื่อแน่ใจว่าถูกตำรวจเห็น เสียงตะโกนเอะอะดังขึ้นทันที บางคนรีบยกวิทยุติดต่อขึ้นในขณะที่หลายคนออกวิ่งตาม วูล์ฟขมวดคิ้วก่อนจะเงยหน้าขึ้นจ้องเฮลิคอปเตอร์ซึ่งกำลังบินห่างออกไป เจ้าบ้า เขาสบถเบาๆและหันหน้าไปยังอีกด้านหนึ่งของถนน เขามองรถตู้สีดำที่กำลังวิ่งเข้ามาจอดอย่างเงียบกริบ เจ้าหน้าที่ของหน่วยนักล่าเปิดประตูรถและก้าวออกมา วูล์ฟ เขาเอ่ยทักก่อนจะกวาดตามองไปโดยรอบ วลาร์ดล่ะครับ อยู่นี่ เสียงตอบไม่ดังนัก ลูกครึ่งแวมไพร์เดินตรงเข้ามา เขาหันหน้าไปมองรถขององค์กรอีกสองคันที่กำลังวิ่งเข้าไปจอดในสถานที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบสีเข้มสามคนลงจากรถและเดินตรงไปหานายตำรวจที่ดูเหมือนจะมีตำแหน่งสูงที่สุด วลาร์ดมองทั้งสองเจรจากันอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดเสียงเรียบ กลับกันเถอะ เขาก้าวขึ้นไปนั่งบนรถตามด้วยแฮมเมอ์ซึ่งรีบขยับไปนั่งเบาะหลัง เจ้าหน้าที่ของหน่วยเลื่อนบานประตูปิดทันทีเมื่อวูล์ฟขึ้นไปนั่งเป็นคนสุดท้าย เจ้าหน้าที่อีกคนหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาและรายงาน รับวลาร์ดกับวูล์ฟเรียบร้อยแล้วกำลังเดินทางไปที่จุดนัดพบ รับทราบ ปลายสายตอบรับกลับมา เจ้าหน้าที่คนนั้นวางวิทยุกลับเข้าที่ก่อนจะสตาร์ทรถและขับออกจากที่นั่นทันที วูล์ฟเอนตัวพิงเบาะและหันไปมองเพื่อนที่กำลังนั่งจ้องซองบรรจุเศษผ้าอย่างใช้ความคิด ทำไมหรือ หนุ่มหมาป่าถาม วลาร์ดขมวดคิ้วพลางเก็บซองหลักฐานกลับเข้าไปในเสื้อ ไม่มีอะไร อย่ามาทำเป็นอุบเงียบเอาไว้คนเดียว ฉันรู้ว่านายกำลังสงสัยอะไรบางอย่าง หนุ่มหมาป่าพูดอย่างรู้ทัน ลูกครึ่งแวมไพร์นิ่วหน้าพร้อมกับถอนใจ ใช่ เขาเอนตัวพิงพนัก วูล์ฟนิ่งไปเล็กน้อย เรื่องอะไร เขาถามเสียงเรียบ วลาร์ดมองหน้าเพื่อนและตอบด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมมากกว่าเดิม คดีฆาตกรรม ฉันกำลังสงสัยว่าบางทีเหตุการณ์ในครั้งนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับพวกอิลูมิเนติค */*/*/*/* บทที่ 1 รัตติกาลเลือด
เมื่อองค์กรร้ายหวนคืนมาพร้อมความแค้น มันได้วางแผนอันแยบยลเพื่อทำลายล้างเหล่านักล่า พวกเขาจะรับมือกับคนชั่วอย่างไร */*/*/*/* นักล่าแห่งรัตติกาล II โรงงานมรณะ */*/*/*/* บทที่ 1 รัตติกาลเลือด เสียงหัวร่อต่อกระซิกของชายหนุ่มหญิงสาวดังมาจากทางเดินเลียบแม่น้ำ หากเป็นเวลากลางวัน เส้นทางนี้จะคึกคักไปด้วยผู้คนแต่ในยามกลางคืนมันกลับเงียบเหงาไร้คนสัญจร แม้จะมีแสงจากเสาไฟซึ่งตั้งเป็นระยะแต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้บริเวณนั้นสว่างขึ้นมามากนัก แม้ถนนจะว่างเปล่าแต่ใช่ว่าจะไม่มีใคร นานครั้งจะมีรถยนต์สักคันแล่นผ่านมา แสงไฟคู่หน้าสาดส่องไปกระทบกับร่างวัยรุ่นสองคนซึ่งกำลังเดินเคียงคู่กันอย่างมีความสุข งานเลี้ยงกำลังสนุก ทำไมถึงรีบกลับ เสียงชายหนุ่มถาม หญิงสาวส่งยิ้มให้กับเขา เพราะฉันไม่อยากเห็นเธอเมาจนเดินไม่ไหว แค่เบียร์สองสามแก้วเท่านั้น ฝ่ายชายแย้งและกุมมือคนรักเอาไว้ ถ้าเมาเราก็นอนค้างกันที่งาน พ่อฉันจะได้ตามไปยิงเธอน่ะสิ หญิงสาวพูดพลางหยิกแขนเขาไม่แรงนัก แค่นี้กลับไปก็โดนบ่นจะแย่อยู่แล้ว ฉันไม่อยากถูกกักบริเวณอีกเป็นอาทิตย์นะ งั้นก็อย่าเพิ่งกลับ ชายหนุ่มรั้งเธอเอาไว้และดึงเข้าไปกอด อยู่คุยกับฉันอีกหน่อยก่อน แค่คุยเฉยๆเท่านั้นนะ หญิงสาวพูดเสียงแผ่ว อีกฝ่ายยิ้มและโน้มใบหน้าลง ตกลง เขากระซิบพลางใช้จมูกแตะแก้มของคนรัก ฉันไม่ทำอะไรเกินเลยแน่ ขอสัญญา ชายหนุ่มพูดและกอดเธอแน่นขึ้น เขาก้มหน้าลงเพื่อจุมพิตหญิงสาวแต่ต้องชะงักเมื่อมีเสียงเหมือนของหนักตกกระทบพื้นดังใกล้ตัว ชายหนุ่มเงยหน้าและหันไปมอง เสียงอะไร เงาร่างสูงใหญ่ไหววูบเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ฝ่ายชายเบิกตากว้างแต่กรงเล็บคมกริบที่ตวัดผ่านลำคอทำให้เขาร่วงลงไปกองกับพื้น หญิงสาวมองคนรักซึ่งนอนจมกองเลือดตายด้วยความตกใจ เธอจ้องร่างทะมึนซึ่งกำลังย่างสามขุมเข้าไปหาและส่งเสียงกรีดร้องดังลั่น มันจางหายไปเมื่ออมนุษย์ตนนั้นคว้าไหล่ของผู้หญิงคนนั้นเอาไว้และฝังเขี้ยวลงไปในลำคอ ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้! เสียงตวาดดังมาจากทางด้านหลัง ผีร้ายถอนเขี้ยวของมันออกและหันไปร้องขู่ เสียงคำรามด้วยความโกรธดังมาจากเด็กหนุ่มร่างใหญ่ เขากระโจนเข้าใส่อมนุษย์อย่างรวดเร็ว ไอ้ผีดิบ ผีดูดเลือดแสยะยิ้มก่อนจะโยนร่างหญิงเคราะห์ไปขวาง หนุ่มหมาป่ารีบคว้าตัวเธอเอาไว้และมองอย่างเป็นห่วง หล่อนโดนกัดไปแล้ว เสียงเรียบเย็นพูดขึ้น วูล์ฟเงยหน้ามองวลาร์ดซึ่งกำลังชักดาบออกจากฝัก เธออาจรอด นายก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ลูกครึ่งแวมไพร์ตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึม หนุ่มหมาป่ามองปลายดาบที่ตวัดลงดิน จะกำจัดตอนนี้เลยหรือ เขาถาม อีกฝ่ายก้มหน้าลงมองก่อนตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่ใช่หน้าที่ฉัน วลาร์ดเลื่อนสายตามองไปยังผีดิบซึ่งกำลังยืนยิ้มแยกเขี้ยว นายดูหล่อนไปส่วนเจ้านั่น เขาขยับดาบ ฉันจะเป็นคนตัดคอมันเอง ร่างในเครื่องแบบสีดำพุ่งปราดออกไปทันที ผีดูดเลือดหมุนตัวหลบคมดาบที่ฟาดฟันเข้าใส่อย่างว่องไว วลาร์ดขมวดคิ้วด้วยความโกรธและเพิ่มความเร็วในการจูโจม สีหน้าเยาะเย้ยของผีดิบเมื่อครู่แปรเปลี่ยนไป มันกระโดดถอยหลังและเสียหลักเซถลา ลูกครึ่งแวมไพร์ฉวยโอกาสนั้นตวัดดาบหมายตัดหัวศัตรู ตายเสียเถอะเจ้าผีดูดเลือด คมดาบชะงักค้างนิ่งเมื่อผีร้ายยกมือขึ้นรับ วลาร์ดเบิกตากว้างด้วยความตระหนกในขณะที่อีกฝ่ายเหยียดยิ้ม แกมันก็เป็นเหมือนกับฉัน มันปล่อยดาบและใช้มือข้างนั้นฟาดลงไปบนใบหน้าของลูกครึ่งแวมไพร์อย่างแรง ร่างของเด็กหนุ่มถึงกับกระเด็นไปกระแทกกับต้นไม้และทรุดลงไปกอง ไอ้เด็กเมื่อวานซืน เจ้าผีร้ายคำรามก่อนร่างจะหายวับไปปรากฏตรงหน้าวลาร์ด มันคว้าคอเขาและยกขึ้น พวกเลือดผสม น้ำเสียงเต็มไปด้วยการดูถูกขณะกระแทกร่างของเด็กหนุ่มไปที่ต้นไม้ ผีดูดเลือดกางกรงเล็บ อย่างแกไม่มีค่าพอจะแตะชายเสื้อฉันด้วยซ้ำ เล็บคมกริบฝังลงไปบนอกของลูกครึ่งแวมไพร์ เขาผวาขึ้นสุดตัวและจ้องอีกฝ่ายด้วยดวงตาวาว แกพูดถูก วลาร์ดคำรามพลางจ้องผีร้ายด้วยสายตาแดงก่ำ เขาแยกเขี้ยวขณะกางมือออก ฉันไม่ควรแตะต้องพวกผีดิบ เจ้าผีดิบเบิกตาโพลงเมื่อเล็บคมดุจใบมีดของลูกครึ่งแวมไพร์จิกลงไปในลำคอฉีกกระชากเนื้อของมันจนขาดเป็นริ้ว มือที่ฝังบนอกของวลาร์ดคลายออกทันที ก...แก มันร้องขณะสำลักไอออกมาเป็นเลือด ดวงตาจ้องลูกครึ่งแวมไพร์เขม็ง กล้าทำแบบนี้ได้ยังไง นี่มันแค่การเริ่มต้นเท่านั้น วลาร์ดตอบเสียงเย็นพลางหมุนดาบในมือ ของจริงมันหลังจากนี้ต่างหาก เด็กหนุ่มยิ้ม ลาก่อนท่านเคาท์ เงาสีเงินวิ่งผ่านลำคอของผีดูดเลือดไปอย่างรวดเร็ว ผู้ที่ถูกเรียกว่าท่านเคาท์เบิกตากว้างและยังคงอ้าปากค้างขณะที่หัวหลุดร่วงออกจากตัว วลาร์ดมองร่างซึ่งกำลังยืนโอนเอนไปมาด้วยสายตาชิงชังก่อนจะหันหน้ากลับไปยังวูล์ฟซึ่งยืนรออยู่ทางด้านหลัง ผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไง ตายแล้ว หนุ่มหมาป่าตอบเสียงเรียบ ลูกครึ่งแวมไพร์มองหญิงสาวด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะปักดาบลงไปบนอกผ่าหัวใจสาวเคราะห์ร้ายออกเป็นสองส่วน เขาถามเสียงเรียบขณะเก็บดาบกลับเข้าฝัก เรียกพวกเขาหรือยัง เรียบร้อยแล้ว อีกสักพักคงมาถึง วูล์ฟตอบพลางเลื่อนไปมองร่างไร้หัวของผีดิบ เขาชำเลืองมองเพื่อนอย่างเป็นห่วงแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ทัน ฉันเป็นนักล่า วลาร์ดพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หนุ่มหมาป่าเลิกคิ้ว ก็ดี เขาหันไปมองรถตู้สีดำสองคันซึ่งกำลังวิ่งเข้ามาจอด ชายที่อยู่ในรถต่างลงมาเก็บร่างผู้เสียชีวิตรวมทั้งผีดิบอย่างรวดเร็ว จะใช้รถขนศพพวกนี้ไปหรือ หนุ่มหมาป่าถามเจ้าหน้าที่คนหนึ่งซึ่งเดินเข้ามาหา เขาตอบด้วยท่าทางเคร่งขรึม พวกเราแค่มารับไปส่งยังจุดนัดพบเท่านั้นครับ จุดนัดพบ วูล์ฟทวน ที่ไหน ลานกีฬาร้างห่างจากนี่ไปสามไมล์ วลาร์ดตอบ อีกฝ่ายหันไปมองหน้า นายรู้ได้ยังไง มันอยู่ในรายงาน ลูกครึ่งแวมไพร์พูดก่อนจะหันไปมองคนของหน่วยซึ่งลำเลียงร่างทั้งสามขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว หนุ่มหมาป่ามองตามอย่างไม่เข้าใจนัก จะขนไปขนมาทำไมให้วุ่นวาย ขับรถวิ่งกลับหน่วยเลยก็หมดเรื่อง เมืองนี้ห่างจากที่ตั้งหน่วยของเรามาก ทางฝ่ายชันสูตรกลัวว่ากว่าจะเดินทางไปถึงสภาพของศพอาจจะเสียหายจนไม่สามารถตรวจอะไรได้ คุณอันเดอร์ฮิลล์จึงสั่งให้เฮลิคอปเตอร์มารับ เจ้าหน้าที่เป็นผู้ตอบ วูล์ฟถึงกับอ้าปากค้าง ส่งศพไปทางอากาศ แต่นักล่าอย่างฉันต้องนั่งขดไปบนรถ เขาเกาศีรษะจนผมยุ่ง ทำไมไม่ให้พวกเราเดินทางแบบนี้ตั้งแต่แรก มันเปลืองค่าใช้จ่าย วลาร์ดตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย หนุ่มหมาป่าแยกเขี้ยวและพูดเสียงดัง องค์กรใหญ่ขนาดมีดาวเทียมเป็นของตัวเองเนี่ยนะ เขาส่ายหน้า ฉันจะกลับพร้อมคนพวกนั้น วูล์ฟพูดและทำท่าจะเดินไปยังรถคันที่บรรทุกศพแต่ลูกครึ่งแวมไพร์กลับคว้าเสื้อของเขาและลากไปที่รถอีกคัน นายต้องไปกับฉัน เขาผลักหนุ่มหมาป่าเข้าไปในรถก่อนจะเดินไปนั่งที่เบาะหน้าโดยไม่สนใจเสียงบ่นของเพื่อน วลาร์ดหันไปมองเจ้าหน้าที่ประจำรถอีกคันและออกคำสั่งเมื่อเห็นว่าทุกคนพร้อม ไปได้แล้ว รถทั้งสองวิ่งออกจากบริเวณนั้นทันที หลังจากวิ่งตามกันไปจนถึงทางแยก รถคันที่บรรทุกศพก็เลี้ยวไปอีกทาง ลูกครึ่งแวมไพร์มองตามด้วยความกังวลก่อนจะชำเลืองตาไปยังเบาะหลังและกระตุกยิ้มเมื่อเห็นวูล์ฟกำลังนั่งสัปหงก เจ้าหมาบ้า เขาพึมพำก่อนจะเลื่อนสายตากลับไปที่ถนนและมองอาคารบ้านเรือนซึ่งกำลังเคลื่อนผ่านไปตามความเร็วของรถ อีกนานกว่าจะถึง ไม่พักสักหน่อยก่อนหรือครับ คนขับพูดขึ้น วลาร์ดเหลือบตามองเขาก่อนจะตอบเสียงเรียบ ผมไม่ง่วง ทั้งสองนั่งนิ่งไม่พูดอะไรต่อจากนั้น หลังจากที่วิ่งมาได้ระยะหนึ่งทั้งหมดจึงพ้นจากเขตชุมชน ลูกครึ่งแวมไพร์มองทุ่งหญ้าโล่งด้วยสายตาครุ่นคิด เราทำลายห้องทดลองของพวกอิลูมิเนติคไปแล้ว ผีดิบที่เจอวันนี้คงไม่ใช่คนของพวกนั้นหรอกครับ คนขับรถพูดขึ้น วลาร์ดหันไปมองเขา คุณเข้ามาทำงานนานหรือยัง หลังพวกคุณถล่มโรงงานร้างจนราบ อีกฝ่ายตอบและทำท่าคิด ประมาณเจ็ดเดือนเห็นจะได้ อ้อผมพีท แฮมเมอร์ ยินดีอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับพวกคุณ เขายื่นมือออกมาแต่ต้องดึงกลับเมื่อลูกครึ่งแวมไพร์ทำเพียงเหลือบมองอย่างไม่สนใจ แค่นั้นเองหรือ วลาร์ดพูดพลางเบนสายตามองไปนอกรถอีกครั้ง ยังไม่รู้จักอิลูมิเนติคเลยสักนิด หมายความว่ายังไงหรือครับ แฮมเมอร์ถามและนิ่วหน้าเมื่ออีกฝ่ายนั่งนิ่ง คำเตือนถึงนิสัยของวลาร์ดที่สมิธบอกไว้ก่อนจะออกเดินทางทำให้เขารู้ได้ในทันทีว่าควรสงบปากลงได้แล้ว แฮมเมอร์จึงตั้งสมาธิกลับไปที่การบังคับรถอีกครั้ง แม้จะเป็นการวิ่งในระยะเวลาอันยาวนาน แต่เพราะผลจากกาแฟรสเข้มที่เตรียมเอาไว้ล่วงหน้าทำให้คนที่กำลังขับรถไม่รู้สึกเหนื่อยหรือง่วงเท่าใดนัก หลายครั้งที่เขาแอบมองวลาร์ดเพราะคิดว่าเด็กหนุ่มคงจะหลับไปแล้วแต่แฮมเมอร์ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าลูกครึ่งแวมไพร์ยังคงมองทุ่งหญ้าข้างทางอยู่เช่นเดิม แต่แล้วอยู่ๆวลาร์ดก็ขยับตัวเมื่อเห็นแสงไฟจากอาคารขนาดใหญ่ซึ่งตั้งโดดเดี่ยวอยู่กลางทุ่ง เขาถามขึ้น นั่นอะไร ไหนครับ แฮมเมอร์หันไปมอง ดูเหมือนจะเป็นโรงงาน ผมดูแผนที่ก่อนออกเดินทาง ไม่เห็นมีโรงงานอะไรแถวนี้ ลูกครึ่งแวมไพร์แย้ง คนขับรีบดึงสมุดบันทึกออกมาและเปิดอ่านอย่างรวดเร็ว เป็นโรงงานสร้างใหม่น่ะครับ ดูเหมือนจะเกี่ยวกับพวกเครื่องสำอางหรือยาอะไรทำนองนั้น ตอนแรกทำไมพวกเราถึงไม่เห็น วลาร์ดหันไปถาม แฮมเมอร์มองแสงไฟที่เปิดอย่างสว่างไสวแล้วยิ้ม เขาอาจจะเพิ่งเปิดก็ได้ครับ เปิดทำงานกลางดึกแบบนี้น่ะหรือ ลูกครึ่งแวมไพร์พึมพำขณะทำท่าคิด แฮมเมอร์ชำเลืองมองเขาก่อนจะหันกลับไปยังถนนอีกครั้ง แสงไฟจากรถที่วิ่งสวนมาสว่างจ้าเสียจนเขาต้องหรี่ตาลง และเมื่อรถฝั่งตรงข้ามวิ่งผ่านไป แฮมเมอร์ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นเงาของอะไรบางอย่างวิ่งตัดหน้าอย่างกระชั้นชิด ไฟที่สาดไปข้างหน้าทำให้ผู้อยู่บนรถเห็นร่างซึ่งกำลังยืนขวางกลางถนน ชายหนุ่มตัดสินใจหักหลบทันที เสียงล้อครูดไปบนถนนดังลั่น รถตู้ไถลลงข้างทางและหยุดนิ่งเมื่อชนกับคันดินสูงอย่างแรง วลาร์ดสะบัดหัวสองสามครั้งและรีบหันไปมองแฮมเมอร์ซึ่งซบหน้าอยู่กับพวงมาลัยรถ เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บนิดหน่อยเท่านั้นครับ คนขับรถตอบพลางไอสองสามครั้ง เสียงสบถที่ดังมาจากหลังรถทำให้ลูกครึ่งแวมไพร์ถอนใจ ขับรถภาษาอะไรกัน วูล์ฟบ่นขณะตะกายเบาะเพื่อลุก เกิดอะไรขึ้น มีใครไม่รู้วิ่งตัดหน้า แฮมเมอร์ตอบแต่วลาร์ดกลับพูดแทรก ไม่ใช่ใคร แต่เป็นตัวอะไรต่างหาก เขาหยิบดาบและเปิดประตู หนุ่มหมาป่ามองด้วยความแปลกใจ จะไปไหน จัดการเจ้าตัวประหลาดที่กล้ามาขวางพวกเรา ลูกครึ่งแวมไพร์พูดและวิ่งออกไปโดยไม่รอเพื่อน หนุ่มหมาป่ารีบเลื่อนมือไปเปิดประตูและบ่นเสียงดังเมื่อพบว่ามันไม่ขยับ เสียงโลหะกระทบกันซึ่งดังมาจากถนนทำให้รู้ว่าวลาร์ดกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่าง วูล์ฟตัดสินใจถีบประตูรถจนพังและรีบวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว |
กิสึเนะ
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] moony ค่ะ เป็นคนชอบสร้างจินตนาการมาตั้งแต่เด็ก เคยวาดการ์ตูนไว้เป็นเล่ม แต่เก็บไว้อ่านเอง นิยายเรื่องแรกที่เขียนเป็นแนวจีนกำลังภายใน ตอนหลังรู้จักเน็ตจึงเริ่มสร้างสรรเรื่องอื่นบ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นแนวแฟนตาซี Group Blog
All Blog
Friends Blog Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |