ห้องแฟนตาซีของmoony
|
|||
บทที่ 17 การสังหารหมู่ บทที่ 17 การสังหารหมู่ เลือดสีแดงสดที่สาดกระจายไปทั่วบ้านสร้างความสยดสยองต่อเจอร์ราดจนเขาต้องคว้าขอบประตูเอาไว้เพื่อพยุงตัวไม่ให้ล้ม ยิ่งเมื่อได้กลิ่นเลือดที่คาวจัดด้วยแล้ว เด็กหนุ่มถึงกับนิ่วหน้าและทำท่าจะอาเจียนออกมา วูล์ฟชำเลืองตามองเพื่อนด้วยความกังวล อยู่ตรงนี้ เขาก้าวเข้าไปในบ้านและกวาดตามองอย่างระวัง เงาไหววูบที่กำลังหายไปทางด้านหลังบ้านทำให้หนุ่มหมาป่ารีบพุ่งตัวตาม เขาสบถออกมาด้วยความโกรธเมื่อพบแต่ความว่างเปล่า กลิ่นสาบเสือรุนแรงที่สัมผัสได้เมื่อครู่ถูกกระแสลมพัดกระจายหายไปจนจับทิศทางไม่ได้ วูล์ฟหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้งและยืนมองร่างของเหยื่อที่นอนกระจายทั่วบ้าน เจอร์ราดพูดเสียงสั่น ต้องรีบแจ้งตำรวจ เขาหมุนตัวเพื่อจะวิ่งกลับไปที่บ้านแต่ต้องชะงักเมื่อถูกวลาร์ดยืนขวางเอาไว้ เขาจ้องเด็กหนุ่มด้วยดวงตาวาว ไม่ต้อง เจอร์ราดยืนแข็งนิ่ง วูล์ฟรีบร้องห้าม อย่าสะกดเขา แต่เราไม่ต้องการให้พวกตำรวจมาที่นี่ ลูกครึ่งแวมไพร์แย้ง หนุ่มหมาป่าถอนใจ ฉันรู้ แต่เจอร์ราดเป็นเพื่อน ฉันไม่อยากให้นายทำแบบนี้กับเขา วูล์ฟพูดอย่างดื้อดึง วลาร์ดถอนใจ ฉันเตือนนายแล้วว่าอย่าสนิทกับคนพวกนี้ให้มากนัก ลูกครึ่งแวมไพร์พูดพร้อมกับถอนสายตาออก เจอร์ราดไหวตัวเล็กน้อยพร้อมกับสะบัดหัวอย่างมึนงง เกิดอะไรขึ้น เขาจ้องหน้าวลาร์ด นายมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ลูกครึ่งแวมไพร์ไม่ตอบ เขาหันไปทางวอลเตอร์ที่กำลังปิดเครื่องมือสื่อสารและเดินตรงมาหา บอกพวกเขาแล้วใช่ไหม ครับ อีกเดี๋ยวก็คงจะมา เร่งมือหน่อย วลาร์ดพูดเสียงเรียบ เขาหันไปมองหน้าหนุ่มหมาป่า ฉันจะรีบเก็บหลักฐาน นายเฝ้าเขาเอาไว้ให้ดี เจอร์ราดมองลูกครึ่งแวมไพร์ซึ่งกำลังเดินเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุ เขาเบิกตากว้างและรีบขยับตัว ฆาตกรรม ฉันต้องรีบแจ้งตำรวจ ใจเย็นเจอร์ราด วูล์ฟคว้าแขนเพื่อนเอาไว้ อยู่เฉยๆปล่อยให้พวกเราเป็นคนจัดการดีกว่า หมายความว่าไง เด็กหนุ่มถามด้วยความงงงัน เขามองรถตู้สีดำหลายคันที่วิ่งมาจอดอย่างเงียบกริบ คนพวกนั้นกำลังทำอะไร เขามองหนุ่มหมาป่าอย่างตื่นกลัว นายเป็นใครกันแน่แล้วเขา เจอร์ราดเลื่อนสายตาไปที่วลาร์ดซึ่งกำลังส่งซองเก็บหลักฐานให้ชายชุดดำ เพื่อนนายคนนั้น เขามาที่นี่ได้ยังไง เขามารับฉัน วูล์ฟตอบเสียงเรียบและหันไปมองเจ้าหน้าที่องค์กรที่กำลังลำเลียงถุงเก็บศพขึ้นรถ น่าเสียดายที่มาช้าไป หมายความว่ายังไง เจอร์ราดถามเสียงสั่น ความจริงแล้วพวกนายเป็นใครกันแน่ สีหน้าและน้ำเสียงที่ตื่นกลัวของเพื่อนทำให้หนุ่มหมาป่าเกิดความเสียใจขึ้นมา เขามองเจอร์ราดด้วยสายตาเศร้า สักวันฉันจะบอกให้นายรู้ แต่ตอนนี้ขออะไรสักอย่างจะได้ไหม เขาเว้นระยะและมองอีกฝ่ายที่ยืนนิ่ง ฉันอยากให้นายเชื่อใจและเชื่อมั่นในความเป็นเพื่อนของพวกเรา ถ้าเป็นเพื่อนกันจริงก็ไม่ควรปิดบัง เจอร์ราดพูดเสียงเรียบและก้าวถอยห่างจากวูล์ฟ ฉันไม่มั่นใจในตัวนาย เจอร์ราดมองหนุ่มหมาป่าด้วยสายตาผิดหวังก่อนจะหมุนตัวและเดินกลับเข้าไปในบ้าน วูล์ฟมองด้วยความรู้สึกเศร้า เขาถอนใจและหันกลับไปยังสถานที่เกิดเหตุอีกครั้งพร้อมกับก้าวไปยืนข้างวลาร์ดที่กำลังเก็บหลักฐานทุกอย่างเท่าที่เขาจะทำได้ นายน่าจะมาให้เร็วกว่านี้ หนุ่มหมาป่าพูดขึ้น ลูกครึ่งแวมไพร์เหลือบตามองเขาก่อนจะตอบเสียงเรียบ ฉันต้องไปสถานเก็บศพเทศบาลและไปตรวจที่บ้านของเด็กที่ชื่อดาร์เรล มาทันเก็บศพพวกนี้ก่อนตำรวจได้ก็นับว่าโชคดีแล้ว แต่จะดีกว่านี้ถ้าพวกเขาไม่ถูกเจ้าคนครึ่งเสือนั่นฆ่าตาย วูล์ฟพูดเสียงห้วน วลาร์ดหันไปมองเขาทันที นายพูดเหมือนฉันเป็นฝ่ายผิด หรือไม่จริง ทั้งที่เป็นตุลาการแท้ๆแต่กลับปกป้องคนพวกนี้ไม่ได้ นายทำตัวไม่สมกับหน้าที่เลยสักนิด ฉันเป็นนักล่า ลูกครึ่งแวมไพร์พูดเสียงเรียบก่อนจะหันไปสนใจงานตรงหน้าอีกครั้ง หนุ่มหมาป่ากำมือแน่นด้วยความโกรธ เขาตบชั้นวางของอย่างแรง อย่าทำท่าเย็นชาแบบนั้นได้ไหมวลาร์ด คนพวกนั้นถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมนายน่าจะให้เกียรติพวกเขามากกว่านี้ ฉันว่านายควรควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ดี วลาร์ดตอบพร้อมกับมองโต๊ะที่เพื่อนตบเมื่อครู่ ทำแบบนั้นมันทิ้งหลักฐานของนายไว้นะ พอที! นายมีหัวใจบ้างหรือเปล่าเจ้าผีดิบ วูล์ฟพูดเสียงดังลั่น ลูกครึ่งแวมไพร์มองเขาอย่างใจเย็น นายออกไปรอที่รถดีกว่า ทำไม กลัวฉัน... หนุ่มหมาป่าชะงักคำพูดค้างและนิ่วหน้า เขาสูดลมหายใจและกวาดตามองรอบตัว วลาร์ดมองตามอย่างระวัง มีอะไร มีใครบางคนอยู่แถวนี้ วูล์ฟตอบพร้อมกับก้มตัวลงมองตู้เก็บของที่อยู่ด้านล่าง เขาส่งสัญญาณมือให้วลาร์ดรู้ว่ามีคนอยู่ในนี้ อีกฝ่ายพยักหน้าและทำท่าเตรียมพร้อม หนุ่มหมาป่าจึงดึงฝาตู้อย่างแรง ทั้งคู่เบิกตากว้างเมื่อเห็นผู้ที่ซ่อนอยู่ด้านใน เด็ก! ทั้งคู่มองหน้ากันนิ่งอยู่ครู่หนึ่งวลาร์ดจึงพูดขึ้น ดูเหมือนเด็กคนนี้จะเป็นลูกของเหยื่อที่ถูกฆาตกรรม เขาเงยหน้าและมองไปยังผนังที่มีรูปครอบครัวเบลล์แขวนไว้ ภาพเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังยืนยิ้มระหว่างพ่อแม่และเด็กวัยรุ่นอีกคนทำให้เขาหันกลับมามองหนูน้อยที่นั่งตัวสั่นอยู่ในตู้อีกครั้ง เธอเป็นผู้รอดชีวิต วูล์ฟย่อตัวนั่งลงและมองเด็กสาวที่พยายามถอยเข้าไปจนติดผนังด้านในของตู้ เขาส่งยิ้มให้และยื่นมือไปข้างหน้า ไม่เป็นไรแล้ว ออกมาเถอะ เขาขยับเข้าไปใกล้และชะงักเมื่อเห็นอีกฝ่ายน้ำตาไหลพราก คนใจร้ายมันหนีไปแล้ว หนูปลอดภัย ออกมาหาฉันเถอะนะ เด็กน้อยสั่นหน้าและกอดตุ๊กตาที่อุ้มไว้แน่น หนุ่มหมาป่าถอนใจด้วยความกลัดกลุ้ม เขาหันไปมองวอลเตอร์ที่กำลังเดินเข้ามา เราต้องรีบไปกันแล้ว เขาชะงักเมื่อเห็นท่าทางของเด็กหนุ่มทั้งสอง มีอะไร เราพบผู้รอดชีวิต วลาร์ดตอบพลางบุ้ยใบ้ไปยังตู้ แต่พาออกมาจากที่นั่นไม่ได้ วอลเตอร์ก้มตัวลงไปมอง สีหน้าของเขาฉายแววหนักใจออกมาทันที เด็ก เขาหันไปทางหนุ่มหมาป่า เราต้องพาเธอไปด้วย ผมพยายามเรียกเธออยู่แต่ดูเหมือนเด็กคนนี้จะตกใจกลัวมาก เขาหันไปมองเพื่อน เอาไงดี ขนาดนายยังไม่รู้แล้วอย่างฉันจะทำอะไรได้ ลูกครึ่งแวมไพร์ตอบเสียงกระด้างและขมวดคิ้วเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อน อะไร ทำไมนายไม่ลองดูบ้าง เขาทำเป็นส่ายหน้า แต่คงไม่มีทางเพราะแค่พูดภาษาคนธรรมดายังไม่รู้เรื่อง คำพูดเชิงดูแคลนทำให้วลาร์ดขมวดคิ้วด้วยความโกรธ เขาผลักเพื่อนให้พ้นทางพร้อมกับพูดเสียงห้วน หลีกไป เขายังเด็ก ช่วยพูดแบบที่ฟังแล้วเข้าใจหน่อยนะ วูล์ฟแหย่พลางถอยหลังออกห่างปล่อยให้วลาร์ดขยับเข้าไปใกล้ตู้และนั่งลง เด็กหนุ่มนิ่วหน้าพร้อมกับพูดเสียงไม่ดังนัก คนที่ทำกับพ่อแม่ของเธอไม่อยู่แล้ว เขาเว้นระยะพร้อมกับยื่นมือไปข้างหน้า พวกเรามาช่วยเธอ ออกมาเถอะเราต้องรีบออกไปจากที่นี่ก่อนที่มันจะย้อนกลับมาอีกครั้ง เป็นคำปลอบเด็กที่ไม่เข้าท่าสักนิด หนุ่มหมาป่าพึมพำและอ้าปากค้างเมื่อเด็กหญิงตัวน้อยคลานออกจากตู้และโผเข้ากอดลูกครึ่งแวมไพร์แน่น เขาเกาหัวพร้อมกับบ่น สงสัยจะชอบผีดิบ พูดมากน่า วลาร์ดพูดขณะอุ้มเด็ก วอลเตอร์พยายามสะกดรอยยิ้มเมื่อเห็นท่าทางเก้กังของเด็กหนุ่ม ป่านนี้คงมีคนแจ้งตำรวจแล้ว พวกเรารีบไปกันเถอะ เขาเดินนำไปที่รถทันทีโดยมีวลาร์ดอุ้มเด็กตามไป วูล์ฟเดินไปที่ประตูและชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังบ้านมาร์ติน หนุ่มหมาป่าถอนใจเมื่อเห็นเจอร์ราดกำลังมองเขาผ่านม่านหน้าต่างเช่นเดียวกัน แล้วเจอกัน เพื่อน วูล์ฟพึมพำและเข้าไปนั่งในรถ วอลเตอร์จึงรีบขับออกไปจากบริเวณนั้นและพาทุกคนมุ่งหน้าไปยังจุดนัดพบซึ่งอยู่แถวลานกีฬาร้างด้านนอกของเมือง */*/*/*/* สีหน้าของคาร์เพนเตอร์เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดขณะจ้องเลือดสีแดงเข้มที่สาดกระจายไปทั่วบ้าน เขาหันไปทางสายตรวจคอลลินที่กำลังสอบปากคำเพื่อนบ้านคนหนึ่งอยู่ เอฟบีไอหนุ่มเดินเข้าไปหาพร้อมกับถาม พวกคุณไม่ได้ยินอะไรผิดปรกติเลยหรือ ไม่เลย ชายผู้นั้นตอบ คาร์เพนเตอร์ขมวดคิ้ว คนถูกฆ่าถึงสามคนในบ้านของตัวเอง แต่คุณกลับบอกว่าไม่ได้ยินอะไร ไม่คิดว่ามันน่าแปลกเกินไปหน่อยหรือไง ผมไม่ได้ยินจริงๆ อีกฝ่ายโต้เสียงดัง พวกเราได้ยินเสียงคนทะเลาะกันพอชะโงกหน้าออกไปดูก็เห็นแค่เด็กวัยรุ่นสองคนกำลังโต้เถียงกันอยู่กลางถนนเท่านั้น ใครจะไปคิดว่าพวกเบลล์จะถูกฆ่าตาย จำเด็กที่ว่านั่นได้ไหม คาร์เพนเตอร์ถาม อีกฝ่ายพยักหน้า ได้ เขาชี้ข้ามไปอีกฝั่ง คนหนึ่งผมไม่รู้จักแต่อีกคนเป็นลูกชายของบ้านมาร์ติน คาร์เพนเตอร์หมุนตัวเดินตรงไปยังบ้านมาร์ตินทันที เขามองนักสืบเครนที่กำลังสอบปากคำเมอร์ซี่อย่างเคร่งเครียดก่อนจะเลื่อนสายตาไปที่เจอร์ราด เอฟบีไอหนุ่มก้าวไปหาเขาทันที ไง เขาเอ่ยทัก เจอร์ราดมองเขาอย่างไม่ไว้ใจ คาร์เพนเตอร์แสร้งยิ้ม แย่หน่อยนะ เขาทำเป็นเหลือบตามองไปยังบ้านที่เกิดเหตุ อีกฝ่ายผงกศีรษะแต่ยังคงไม่พูดอะไรออกมา รู้จักพวกเขาไหม คาร์เพนเตอร์ถาม เจอร์ราดพยักหน้ารับ สนิทกันแค่ไหน ก็แค่เพื่อนบ้าน เจอร์ราดตอบเสียงกระด้าง เอฟบีไอหนุ่มเลิกคิ้ว แล้วเมื่อคืนนี้เธอสังเกตเห็นอะไรผิดปรกติบ้างไหมอย่างเช่นมีคนแปลกหน้ามาเดินแถวนี้หรืออะไรทำนองนั้น ไม่มี เจอร์ราดตอบเสียงห้วน คาร์เพนเตอร์หรี่ตาลง แน่ใจนะ ผมแน่ใจ เด็กหนุ่มตอบและขยับตัวถอยออกห่าง เจ้าหน้าที่พิเศษจับตามองท่าทางที่มีพิรุธของเขาแล้วยิ้ม ได้ยินมาว่าเธอเก่งบาสเก็ตบอล คงลำบากใช่ไหมที่เมื่อวานมันถูกปิด ก็งั้นๆ เจอร์ราดตอบ คาร์เพนเตอร์อมยิ้ม แบบนี้ก็แย่เหมือนกันนะเพราะที่นั่นเหมือนเป็นแหล่งชุมนุมของพวกเธอ เขาเว้นระยะและทำท่าราวกับคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ หรือว่าเธอนัดพบเพื่อนที่อื่น จริงสิถนนที่นี่ไม่ค่อยมีรถแล่นผ่านเธออาจชวนพวกเขามาเล่นที่บ้านก็ได้ เด็กหนุ่มชักสีหน้าขึ้นมาในทันที เขาเบือนหน้าหนีเจ้าหน้าที่พิเศษด้วยท่าทางอึดอัดใจ คาร์เพนเตอร์ทำท่าจะพูดอะไรออกมาอีกแต่ต้องชะงักเมื่อนางมาร์ตินเดินเข้ามา เธอมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ เด็กคนนี้เพิ่งอายุแค่ 15 คุณไม่มีสิทธิ์สอบปากคำเขาโดยไม่มีผู้ปกครอง ผมแค่คุยอะไรด้วยนิดหน่อย ดูเหมือนลูกชายของคุณจะรู้อะไรมากกว่าที่คิด เขาเหลือบตามองเจอร์ราด เด็กหนุ่มขบกรามแน่น ผมปวดหัว ขอตัวขึ้นไปนอนก่อน นางมาร์ตินตบไหล่เขาสองสามครั้งและปิดประตูบ้านทันทีที่เจอร์ราดหายเข้าไป เธอหันหน้าไปจ้องคาร์เพนเตอร์ที่ถือวิสาสาะมองตาม พวกเราไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น เมอร์ซี่และเจอร์ราดก็ยังเด็กเกินกว่าที่จะทำอะไรอย่างที่พวกคุณเข้าใจ นางหันไปทางนักสืบเครน ฉันคิดว่าคุณได้คำตอบมากพอแล้ว กลับเข้าบ้านเดี๋ยวนี้เมอร์ซี่ เด็กสาวรีบเดินหนีเข้าบ้านท่ามกลางสีหน้าไม่พอใจของเจ้าหน้าที่ทั้งสอง นางมาร์ตินจ้องหน้าพวกเขาและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง อย่ามายุ่งกับพวกเราอีก ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกทนาย เธอกลับเข้าไปในบ้านและปิดประตู่ใส่หน้าคาร์เพนเตอร์ นักลืบเครนพับสมุดบันทึกเก็บใส่กระเป๋าและพูดเสียงเรียบ ไม่ได้เรื่องอะไรเลย เขาหันไปมองบ้านของครอบครัวเบลล์ ผมไม่คิดว่าคดีนี้จะเกิดจากฝีมือของคนร้ายเพียงคนเดียว เราพบรอยเท้าในที่เกิดเหตุมากกว่าสามรอยและที่สำคัญศพถูกเคลื่อนย้ายออกไปหมดซึ่งต่างจากคดีที่ผ่านมา แต่ผมไม่คิดอย่างนั้น คาร์เพนเตอร์ตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึม บางทีฆาตกรอาจจะมีแค่หนึ่งแต่คนร้ายตัวจริงมีหลายคน มันอาจเป็นฝีมือของพวกลัทธิหรือองค์กรลับอะไรบางอย่าง ซึ่งผมจะต้องรู้ให้ได้ว่าพวกมันเป็นใคร */*/*/*/* |
กิสึเนะ
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] moony ค่ะ เป็นคนชอบสร้างจินตนาการมาตั้งแต่เด็ก เคยวาดการ์ตูนไว้เป็นเล่ม แต่เก็บไว้อ่านเอง นิยายเรื่องแรกที่เขียนเป็นแนวจีนกำลังภายใน ตอนหลังรู้จักเน็ตจึงเริ่มสร้างสรรเรื่องอื่นบ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นแนวแฟนตาซี Group Blog
All Blog
Friends Blog Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |