All Blog
ทองประกายแสด ตอนที่ 15 อวสาน (ต่อ) จบบริบูรณ์




ทองดีลงจากรถมาหยุดยืน นึกถึงตอนที่เธอกับพิสุทธิ์พลอดรักกัน เธอรำพึงเบาๆ

“พิสุทธิ์”
ดารามองหน้างงๆ
“ว่าไงนะคะ”
ทองดีสะดุ้ง
“พี่ว่าอะไรนะคะ”
ดาราหงุดหงิดมาก
“ฉันถามว่า คุณน้องจะไปรึยังคะ ที่ๆพี่จะพามาดู ไม่ใช่ตรงนี้นะคะ”
“แต่ฉันเปลี่ยนใจ อยากจะซื้อที่แถวนี้แทน”
“อ้าว คุณน้อง แบบนี้พี่ก็มาเสียเที่ยวสิคะ”
ทองดีมองหน้า
“อดได้ค่าคอมฯใช่มั๊ยคะ”
ดาราเงียบไป
“พี่ก็เป็นธุระติดต่อคนแถวนี้ให้ฉันสิ ว่าฉันอยากได้ที่บริเวณนี้ใครขาย ฉันซื้อ ราคาถูกกว่าที่พี่จะพาฉันไปดูเยอะด้วยมั๊ง”
ดาราค้อนตาเหลือกตาปลิ้น

เย็นนั้น ทองดีนั่งนิ่งในรถ ดารานั่งกดเครื่องคิดเลข คำนวณราคาที่ดิน
“จากที่สอบถามราคามา ตัวเลขกลมๆ คงไม่เกิน 5 ล้านคุณน้องจะซื้อไปทำไมคะ”
“แล้วพี่ดาราจะซื้อสักกี่ไร่ดีครับ อย่าให้แพ้คุณทองประกายนะครับ”
โฬมยิ้มปรายตาวาววับไปทางทองดีจนดาราแอบค้อนหมั่นไส้
“หึ...ที่สวยก็ไม่สวย เห็นเราสนใจก็โก่งราคา ฉันไม่ใช่เศรษฐีหน้าโง่แบบนั้นหรอก”
ดาราพูดแล้วก็จ้องโฬมตาเขียว โฬมต้องหลบตาขับรถไป ทองดีนิ่งคิดก่อนจะบอก
“แวะดื่มกาแฟหน่อยดีกว่า เอาร้านเดิมนั่นแหละ”
ดาราหน้าเหวอรีบห้าม
“อย่าดีกว่าค่ะ ทนหน่อยไปหาร้านในเมืองทานดีกว่า ร้านนั้นสกปรก อึ๊ย...คิดแล้วยังขยะแขยงไม่หาย”
รถวิ่งผ่านหน้าร้านของแม่ ทองดีเห็นแม่กำลังยืนเท้าเอวด่าตาลวุ่นวายใหญ่โต ทองดีหันไปมองด้านหลังจนลับตาหันกลับมาก็เจอดารามองอยู่
“ดูคุณน้องจะสนใจบ้านนั้นมากนะ มีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ เห็นแล้วคิดถึงบ้านที่ต่างจังหวัดน่ะ บ้านมันคล้ายๆกัน”
ดาราจ๋อยไป
“อุ๊ย...ตายแล้ว...พี่ขอโทษนะคะที่ว่าสกปรก คือ...คือตัวบ้านน่ะน่ารัก แต่ยัยเจ้าของไม่รักษาเลยดูไม่ดี แต่ของน้องทองประกายคงดูดีกว่านี้ใช่ไหม”
ทองดียิ้มรับเจื่อนๆ

โฬมขับรถมาติดที่สี่แยก เขาแอบมองทองดีกระจกหลัง เห็นเธอนั่งนิ่ง โฬมแกล้งเลี้ยวรถผิดทาง สักพักดาราเริ่มสังเกตเห็น
“เอ๊ะนี่มันที่ไหนเนี่ย ทำไม่ไม่คุ้นเลย”
“อ้าว...ผมก็ขับมาทางเก่านี่นา”
โฬมจอดรถข้างทาง หยิบแผนที่ออกมากางดู ทองดีมองๆแล้วพูดขึ้น
“สงสัย จะเลี้ยวผิดนะ ต้องเลี้ยวอีกทางนึง”
“แต่เมื่อกี้เรามา...”
ทองดีสวนทันทีเรียบๆนิ่งๆ
“เรามาอีกทาง เลยไปเป็นตลาด แล้วก็ท่ารถสองแถว”
“คุณทองประกายรู้ได้ยังไงเนี่ย เคยมาหรือครับ” โฬมแกล้งถาม
ทองดีอึ้ง
“เปล่า ฉันจำได้มันสะดุดตา”
ดารากับโฬมมองหน้ากัน โฬมกลับรถขับออกไปสักพักก็เจอทางออกเลี้ยวไป โฬมมองแอบอมยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วขับช้าลง
“แหม...คุณทองประกายนี่เก่งจังนะฮะ...รายละเอียดเป๊ะ ถูกทุกอย่าง ตลาด ท่ารถ”
ดาราเซ็งๆ
“อย่ามัวพูดมากเลย ขับช้าเป็นเต่าแบบนี้เมื่อไหร่จะถึงกรุงเทพกันล่ะ ฉันไม่อยากกินข้าวลิงแถวนี่นะ ดูฟ้าสิ สงสัยฝนจะตกใหญ่”
โฬมแอบทำปากเบ้แกล้งทำรถกระตุกๆ แล้วจู่ๆ ก็เบรกรถกะทันหัน ดาราร้องกรี๊ด
“รถเป็นอะไรเนี่ย”
“ไม่รู้สิ” โฬมลองสตาร์ท แต่ไม่ติด “ผมขอไปดูก่อน”
โฬมรีบลงจากรถไปทันที ดารามองตามอย่างไม่ไว้ใจ ทองประกายยังนิ่งอยู่ โฬมวิ่งลงจากรถมาเปิดกระโปรงหน้ารถแล้วรีบดึงสายไฟต่อกล่องควบคุมด้านหน้ารถออกทันที ดาราวิ่งลงมาดู โฬมทำหน้าเครียด
“ก็ไม่มีอะไรนี่นา เดี๋ยวผมของลองสตาร์ทอีกที”
โฬมวิ่งไปสตาร์ทรถแต่ไม่ติด
“สงสัยแบตจะหมด สตาร์ทไม่ติด...เป็นระบบไฟซะด้วย คงต้องตามช่างแล้วละครับ”
“บ้านนอกคอกนาแบบนี้จะมีช่างที่ซ่อมรถหรูๆแบบนี้เป็นเหรอ พูดคิดซะมั่ง”
โฬมเริ่มฉุน
“รู้ครับ ช่างแถวนี้คงซ่อมเป็นแต่รถอีแต๋น”
ดาราหงุดหงิด
“อ้าว...แล้วจะทำยังไงล่ะ”
“ก็เรียกช่างจากกรุงเทพฯ”
“จะบ้าเหรอ นี่มันจะเย็นแล้ว กว่าช่างจะมามิปาไปสองสามทุ่มเหรอ”
โฬมยิ้ม
“คงต้องหาโรงแรมแถวนี้นอนก่อน ผมจะโทรติดต่อช่างให้เอง”
ดาราหันไปมองหน้าทองดีเป็นเชิงหารือ ท้องฟ้าเริ่มมืดมีเค้าเมฆฝน
“เอาไงดีคะคุณน้องหรือจะโทรให้ท่านส่งคนมารับด่วน ฝนมาแล้วด้วย เฮ้อ...วุ่นวายอะไรขนาดนี้ รู้งี้เอารถพี่มาดีกว่า”
ทองดีครุ่นคิด
“วันนี้มีประชุมที่กระทรวงทั้งวัน อย่าไปกวนท่านเลย เอาเป็นว่าพักโรงแรมก่อนก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน เดี๋ยวฉันจะโทรบอกท่านเอง”
“เอางั้นก็ได้ ตามใจคุณหญิงแล้วกัน”
โฬมแอบยิ้มสมใจ

ค่ำนั้น ทั้งสามติดต่อห้องพักของโรงแรม โฬมเดินผิวปากเข้ามาในห้องดาราเดินตามเข้ามาหน้าตาไม่ไว้ใจ
“นี่เป็นแผนของเธอหรือเปล่า”
โฬม ทำหน้าซื่อ
“แผนอะไร พี่พูดเรื่องอะไรเนี่ย”
“ก็แผนทำรถเสีย ทำให้ต้องค้างคืนที่นี่ไง”
“โธ่...พี่ดารา พี่ก็รู้อยู่ รถรุ่นนี้ขับยาก ระบบไฟก็ซับซ้อน พี่จะให้ผมซ่อมเองหรือไง เอางี้ ถ้าพี่ไม่ไว้ใจผม พี่ลองขับกลับกรุงเทพฯเองก็ได้”
โฬมทำเป็นไม่พอใจเดินปึงๆไปนั่งอีกทาง ดาราเริ่มไม่แน่ใจ เข้าไปง้อ
“ถ้าไม่ได้ทำก็ไม่ได้ทำสิ จะงอนทำไมล่ะ”
“ก็พี่กล่าวหาผมนี่นา ผมรู้หรอก ว่า อะไรเป็นอะไร ตอนนี้ทองประกายเขาไม่เหมือนเดิมแล้ว”
“อ๋อ...ถ้าเขายังเหมือนเดิม เธอก็สนใจใช่ไหม”
“ไม่เอาน่า พี่ดารา ผมบอกกี่ครั้งแล้ว ยังไงผมก็รักพี่คนเดียวเท่านั้นแหละ ให้ผมพิสูจน์ไหมล่ะ”
โฬมซุกไซร้ ดาราเริ่มอ่อนระทวย ดาราเอาเล็บกรีดซอกคอโฬมเป็นรอยแดง แล้วดึงเข้ามาจูบ โฬมสะดุ้ง
“ได้เลย…ชอบแบบนี้ใช่ไหม”
โฬมผลักดาราลงบนเตียงอย่างแรง แล้วถอดเสื้อเหวี่ยงไปก่อนจะโถมลงไปหา ดาราหัวเราะคิกคัก

ทองดียืนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหงาๆ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เธอเดินกลับไปเปิดอย่างเซ็งๆ โฬมยืนอยู่หน้าประตู ทองดียืนขวางไม่ยอมให้โฬมเข้ามา
“มีธุระอะไร พี่ดาราล่ะ”
โฬมตื่นเต้น
“พี่ดาราไม่สบายมากเลย คุณช่วยมาดูหน่อยได้ไหม”
ทองดีตกใจ
“พี่ดาราเป็นอะไร”
“ผมก็ไม่รู้นั่งอยู่เฉยๆเธอก็เป็นลมไป เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น ช่วยไปดูหน่อยสิ”
ทองดีรีบปิดประตูถอดโซ่ออก โฬมดันประตูสวนเข้ามาทันที
“นี่จะทำอะไร ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่อยากนั้นฉันจะตะโกนให้ลั่นเลย”
โฬมพุ่งเข้าปิดปากทองดีไว้
“จะเล่นตัวไปทำไม ไม่เห็นจะแตกต่างกันตรงไหน ผมก็แมงดา คุณก็กะหรี่ มันก็ไอ้เหมือนกันและวะ”
โฬมเอามือถือที่กำอยู่ในมือวางที่มุมล่างส่องมาทางเตียง ทองดีไม่ทันเห็น ทองดีทั้งดิ้นทั้งถีบ โฬมไม่ฟังเสียงลากเธอไปโยนไว้ที่เตียง ทองดีตะลึง
“ออกไปเดี๋ยวนี้นะ”
โฬมเดินเข้ามาใกล้ โน้มตัวหาแล้วคว้ามือมา ทองดีจะดึงมือแต่โฬมแข็งแรงกว่า
“เป็นยังไง ผมแข็งแรง หนุ่มแน่นกว่า ไอ้ผัวแก่ของคุณใช่ไหม...รับรอง คุณจะติดใจผม ไม่มีวันลืม”
โฬมกอดฟัด ทองดีดิ้นซักพักแล้วหยุดลงเคลิ้มตาม โฬมยิ้ม ยกตัวขึ้นนั่ง ค่อยๆถอดเสื้อออก จ้องหน้าเธอยิ้มเจ้าชู้ ทองดีหายใจแรงมองเขาแล้วลุกผลักเต็มแรง โฬมกระเด็นออก ทองดีวิ่งหนีออกนอกห้องไป โฬมหัวเสีย
“โธ่เว้ย...พลาดอีกแล้วเหรอวะ”
โฬมนึกได้ หยิบโทรศัพท์ที่อัดไว้ขึ้นมาดู แล้วรีบออกจากห้องไป ทองดียืนแอบหน้าห้อง
ถอนใจ เดินกลับเข้าห้องปิดประตู
โฬมค่อยๆย่องเข้ามาในห้อง ปิดประตูอย่างเงียบเชียบ พอหันกลับมาที่เตียงก็อารมณ์เสียทันที เมื่อเห็นดารานอนหลับสบายส่งเสียงกรนอย่างมีความสุข

เช้าวันใหม่...โฬมยืนรออยู่ที่รถ ทองดีกับดารา เดินมาที่รถ
“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณทองประกาย”
ทองดีไม่ทักตอบเดินขึ้นรถไปทันที โฬมหน้าเจื่อน ดารามองอย่างสะใจ
ในรถ...โฬมปรับกระจกมองหลัง แอบมองทองดีอยู่บ่อยๆ จนดาราสังเกตเห็น
“ตั้งใจขับรถหน่อยสิ อย่ามัวแต่ว่อกแวก ฉันไม่อยากนอนห่มผ้าดิบข้างทางหรอกนะ”
โฬมมองดาราอย่างไม่พอใจ แต่ไม่พูดอะไร ทองดีสวมแว่นดำหน้าตาเฉยเมย

ประจักษ์นั่งเซ็นต์เช็คแล้วยื่นส่งให้ทองดี ดารากับโฬมยืนมองอย่างอิจฉา
“ค่าที่ดิน...ฝากดาราเป็นธุระให้ทองทีนะ”
ดาราตาโตชะเง้อมอง
“ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะท่าน ดาราจะจัดการให้เรียบร้อยค่ะ”
ประจักษ์หันไปหาทองดี
“พอไหม ถ้าไม่พอบอกนะ ฉันจะเพิ่มให้อีก”
“เกินพอด้วยซ้ำค่ะ”
“ฉันมีอะไรจะให้เธอดู”
ประจักษ์เดินไปที่รูปที่จัดตั้งไว้อย่าดี มีผ้าคลุมแวววาวปิดอยู่ เขาสบัดผ้าออก เปิดมาภายในเป็นรูปวาดของทองดีบานใหญ่
“ฝีมือจากศิลปินดังเชียวนะ”
ทองดีตาลุกวาว
“สวยจังเลยค่ะท่าน”
เธอมองตัวเองในรูปแล้วยิ้มปลื้ม นึกไปถึงที่พิสุทธิ์เคยให้รูปกับเธอ ซักพักเธอก็หน้าเสียลง ประจักษ์มองอย่างสงสัย
“เป็นอะไรรึเปล่าทองประกาย”
ดาราแอบบ่น
“ท่าจะบ้า”
“เอ่อ...มันมีแค่ทองคนเดียว” ทองดีนึกได้ “คราวหน้าขอเป็นรูปคู่ท่านกับไทได้มั้ยคะ”
ดาราเบ้ปากหมั่นไส้พึพำเบาๆ
“ช่างประจบ มิน่า”
ประจักษ์หัวเราะออกมา
“ได้สิ...นึกว่าเธอเป็นอะไร บางทีการเซอร์ไพรส์ผู้หญิงก็เดายากนะ”
ดาราหมั่นไส้สุดๆ พึมพำเบาๆ
“มันดัดจริต”
ประจักษ์หันมายิ้มให้สองสาว
“เชิญสาวๆตามสบายนะ ขอตัวออกไปทำงานก่อน”
ประจักษ์หันไปกอดทองดี ดาราหันมองค้อนหมั่นไส้

เย็นนั้น ดารากับโฬมเดินเข้ามาในบ้าน ดาราหัวเสียไม่สบอารมณ์มาก
“แหม...อีนี่มันร้ายใช่ย่อย ท่านก็รักก็หลงมันซะเหลือเกิน ประเคนให้มัน ทีละไม่รู้กี่ล้าน จะทิปให้ฉันบ้างก็ไม่มี ค่านายหน้าก็ได้มานิดเดียว ไม่คุ้มค่าเหนื่อยเอาซะเลย”
“อ้าว...ก็เขาช่วยพี่เรื่องบูธแฟชั่นโชว์ที่ยุโรปตั้งหลายประเทศแล้วไม่ใช่หรือครับ”
“โอ๊ย...แค่นั้นมันเรื่องจิ๊บจ๊อยทำงานแทบตายได้ไม่ถึงสิบล้าน แต่ดูนังทองประกายสิ ได้ไปวันนี้ก็เท่ากับพี่ไปสามประเทศแล้ว น่าหมั่นไส้จริงๆ”
“ไม่เอาน่าพี่ดารา เรื่องของเขา ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเราเลย”
“โฬม พี่ว่าพี่จะให้ศิลปินมาวาดรูปพี่ติดบ้านมั่งดีมั้ย”
“ตามใจพี่สิครับ”
ดารายิ้มปลื้มแล้วนึกได้
“เธอไปทำอะไรให้นังทองประกายมันไม่พอใจ”
โฬมตกใจ
“เอ่อ...มีอะไรเหรอครับพี่”
“วันนี้ก่อนไปคฤหาสน์ท่านรัฐมนตรี มันโทรมาบอกพี่ว่าไม่ต้องพาเธอไป”
โฬมถอนใจโล่งอก
“โธ่พี่...อย่างกับผมอยากไปนักนี่”
“ถึงมันไม่ห้าม ฉันก็ไม่อยากให้เธอไปเหมือนกัน อย่าได้คิดอะไรกับมันเชียวนะ เพราะถ้าคิดจะไปจากฉันละก็ ต้องตายจากกันสถานเดียว จำไว้”
โฬมอึ้งๆกับสีหน้าดุๆนั้น

ค่ำนั้น ประจักษ์เดินเข้ามาในบ้านท่าทางเหนื่อยอ่อน ก่อนจะเดินไปที่ห้องไท มองเด็กน้อยที่นอนหลับอยู่บนเตียงแล้วเขี่ยแก้มอย่างเอ็นดู
“หลับปุ๋ยเชียวนะลูก ไม่เคยเจอหนูตอนตื่นเลย”
ทองดียืนมองภาพตรงหน้าอย่างตื้นตันใจ ประจักษ์หันกลับมาเห็น
“ยังไม่นอนอีกเหรอทองประกาย”
“ดิฉันรอท่านอยู่”
ทองดีเดินมาซบลงข้างๆท่าน
“มีอะไรหรือ”
“ไม่ค่ะ ทองแค่อยากอยู่ใกล้ๆท่านกับไท แค่นี้ก็มีความสุขแล้วค่ะ”
ประจักษ์ยิ้ม ประคองทองดีมานั่งเคียงข้างโอบเธอไว้ ทั้งคู่นั่งมองไทที่นอนหลับอย่างมีความสุข

วันใหม่ ประจักษ์อุ้มไทชูขึ้น ไทหัวเราะคิกคัก ทองดีเดินลงมาจากข้างบน
“วันนี้ท่านว่างหรือคะ”
ประจักษ์ส่งไทให้พี่เลี้ยง
“ความจริงก็ไม่ว่างหรอก แต่ไม่อยากไป อยากอยู่กับเธอกับลูกมากกว่า”
ขณะเดียวกันนั้น เลขาหอบเอกสารเข้ามา
“นั่นไง ขอเวลาเซ็นต์เอกสารแป๊บนึงนะ”
ทองดียิ้ม
“ดิฉันจะเตรียมอาหารให้ท่านนะคะ”
ประจักษ์ยิ้มรับก่อนจะเดินออกไป เลขาเดินตาม

หลายวันต่อมา...ไทนอนหนุนตัก ประจักษ์อ่านเอกสารไปด้วยเอาเอกสารให้ไทดู ชวนคุย...ประจักษ์อุ้มไทแบกขึ้นบ่าวิ่งไปรอบๆห้อง ทองดีคอยเดินตาม เสียงหัวเราะของครอบครัวดังตลอดเวลา ขณะเดียวกันนั้นโทรศัพท์เจียมสั่นขึ้น เธอรีบเลี่ยงออกไปแอบคุยโทรศัพท์ข้างนอก
ทองดีได้รู้จากเจียมว่านิคจะมารับไทไป เธอจึงของให้ประจักษ์ช่วย ประจักษ์โทรคุยกับทนาย ทองดีถามทันทีที่วางสาย...
“ทนายว่าไงคะ ไปทำเรื่องวันนี้เลยได้ไหมคะ”
ประจักษ์ส่ายหน้าเครียด
“มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะต้องติดขั้นตอนกระบวนการพิสูจน์อีกหลายอย่าง”
“หมายความว่ายังไงคะ”
“ทนายแนะนำว่า ให้ตามตัวพ่อของไทให้พบ แล้วให้เจรจากันจะดีกว่า เธอรู้หรือเปล่าว่าพ่อของไทอยู่ที่ไหน”
ทองดีอึ้งไป
“ไม่ทราบหรอกค่ะ”
ทองดีนั่งมองไทที่นอนหลับอยู่บนเตียง
“แม่ต้องทำยังไง หนูถึงจะเป็นลูกของแม่คนเดียวโดยไม่ต้องมีใครมาแย่งหนูไปได้นะ ไท”
ทองดีขยับผ้าห่มคลุมให้ไทอย่างเบามือ
“ถึงยังไง พ่อของหนูต้องช่วยแม่แน่นอน ตราบใดที่ท่านยังอยู่ หนูก็จะปลอดภัยนะจ๊ะ ไทลูกแม่”
ทองประกายก้มลงจูบแก้มไทอย่างทะนุถนอม

ไทกำลังนั่งอ่านหนังสือนิทานเด็ก ออกเสียงอยู่ในห้องนอน ทองดีเดินเข้ามาหา น้อมที่นั่งอยู่กับเจียมหันไปบอก
“วันนี้คุณหนูตัวอุ่นๆค่ะคุณ”
ทองดีรีบลงไปจับหน้าผากลูก
”อ้าว แล้วจะออกไปทานกลางวันกับท่านได้มั้ยเนี่ย”
เจียมรีบบอก
“เจียมว่าอย่าพาคุณไทไปเลยค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวฉันจะโทรไปยกเลิกท่าน”
“คุณไปเถอะค่ะ เดี๋ยวน้อมกับเจียมดูคุณหนูเอง ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ” นอมบอก
เจียมรีบพยักหน้าเห็นด้วย
“คุณไทไม่น่าจะเป็นอะไรมากหรอกค่ะ”
“คุณแม่ไปเถอะครับ ผมอยู่ได้ ไม่ต้องห่วงผม”
ไทเห็นทองดีลังเลจึงช่วยพูด
“เก่งจังเลย ลูกแม่ งั้นแม่จะรีบไปรีบกลับนะ”
ทองดีหอมแก้มลูก ยิ้มให้ แล้วลุกออก

นิคซึ่งพักอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ฟังเจียมรายงานแล้วบอก
“ขอบใจมากนะเจียม”
นิคแล้วกดวางโทรศัพท์มือถือ เขาหยิบกระเป๋าเดินทางขึ้นมาวาง แล้วหยิบเสื้อผ้าที่พับรอไว้แล้ว รวมทั้งข้าวของทั้งหมดใส่กระเป๋า แล้วหยิบพาสปอร์ต ตั๋วเครื่องบิน เอกสารอีก 3-4 แผ่น ซึ่งเป็นใบเกิดของไท ใบรับรองจากสถานทูต ใส่ลงในกระเป๋าเดินทาง แล้วออกจากโรงแรมไป

ที่ร้านอาหารในโรงแรมหรู ประจักษ์กับทองดี ทานอาหารกลางวันด้วยกัน ทองดีนั่งกังวล
“เป็นห่วงไทใช่ไหม”
“ค่ะ ไม่รู้เป็นไง คิดถึงแต่ไทค่ะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอก มีคนดูแลตั้งมากมาย”
ทองดียิ้ม
“แต่ก็อดห่วงไม่ได้ค่ะ”
“ฉันคงตกกระป๋องแล้วสิ ชักอิจฉาไทซะแล้ว”
“ท่านก็...มันไม่เหมือนกันค่ะ”
ประจักษ์ ดึงทองดีหันกลับมามองหน้า
“ไม่เหมือนกันยังไง”
“ก็...รักลูกก็แบบนึง รักท่านก็แบบนึง”
“แล้วความรักที่เธอมีต่อฉัน มันมากขนาดไหนกันนะ”
ทองดียิ้มอายๆ ประจักษ์ยิ้มชอบใจ

เจียมพาไทมายืนนอกรั้วบ้าน ไทหันไปถาม
“เราจะไปไหนกันครับ ป้าเจียม”
“รอคุณพ่อคุณหนูค่ะ แล้วเจียมจะเล่าให้คุณหนูฟังนะคะ”
“ครับ” ไทพยักหน้ารับ
ครู่หนึ่งรถแล่นเข้ามาจอด นิคก้าวลงจากรถ ลงไปนั่งมองลูกนิ่งอยู่นาน นิคน้ำตาคลอ ดึงลูกมากอด เจียมซักน้ำตาตัวเอง เจียมหันมองในบ้าน
“รีบขึ้นรถกันเถอะค่ะ”
ทั้งสามคนขึ้นรถ แท็กซี่แล่นออกไป

ประจักษ์ กับทองดีทานอาหารเสร็จก็พากันลุกขึ้น
“อยากรีบกลับบ้านแล้วสิ” ประจักษ์ถามยิ้มๆ
ทองดีขำ
“ท่านอำดิฉันอีกแล้ว”
ทองดียิ้มอย่างมีความสุข เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอกดรับ...
“...อะไรนะน้อม...ไม่จริง ไม่จริ๊ง!”
ทองดีร้องอย่างตกใจ
“เกิดอะไรขึ้นทองประกาย”
ทองดีช็อก หันมองหน้าประจักษ์
“ไท...ไทไม่อยู่แล้ว...ไปแล้ว”
ประจักษ์งง
“อะไร มันเกิดอะไรขึ้น ใจเย็นๆก่อนทองประกาย”
ทองดีแทบพูดไม่ออก
“พ่อไทมาเอาตัวไทไปแล้ว...ท่านต้องช่วยฉันนะคะ...พาไทกลับมา”
ทองดีร้องไห้อย่างหนัก ประจักษ์อึ้งไป

ประจักษ์ประคองทองดีที่ร้องไห้เข้ามาในบ้าน เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น
“ทางสถานทูตโทรกลับมาแล้ว”
ประจักษ์เดินเลี่ยงไปมุมนึง ทองดีหันไปถามน้อม
“น้อม ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมปล่อยให้คนเข้ามาเอาไทไป”
“พี่เจียม เป็นคนพาคุณหนูออกไปขึ้นรถข้างนอกค่ะ”
“นี่เธอรู้เรื่องทุกอย่างเลยเหรอ”
“เอ่อ... พี่เจียมบอกว่า จะพาคุณหนูไปเจอกับคุณพ่อเค้า ไม่นานค่ะ แต่...”
“นังโง่...แกรู้ทุกอย่าง แต่แกไม่บอกฉัน แล้วแกก็ปล่อยให้ไปเหรอ...”
ทองดีฟิวส์ขาด เข้าตบตีน้อมจนน่าสงสาร เด็กรับใช้กลัวหัวหด ไม่กล้าห้าม ประจักษ์วิ่งกลับเข้ามาลากทองดีไปกอดไว้
“หยุด ทองประกาย อย่าทำแบบนี้ ใจเย็นๆ ฟังนะ ฉันเช็คกับทางสถานทูตแล้ว พ่อเค้ากลับมา และทำเรื่องรับตัวลูกไปจริง ที่สำคัญเค้าติดตามหาตัวไทมานานแล้ว เธอรู้เรื่องนี้รึเปล่า”
ทองดีมองหน้าประจักษ์ แล้วได้แต่ส่ายหน้าสะอึกสะอื้นไม่ยอมบอกความจริง

ประจักษ์พาทองดีไปที่ห้องทำงาน ทองดีนั่งรอฟังเขาคุยโทรศัพท์อยู่ด้วยคราบน้ำตา แล้วถามทันทีที่วางสาย
“เป็นยังไงบ้างคะ ท่านต้องตามตัวไทกลับมาให้ได้นะคะ ป่านนี้ไทจะเป็นยังไงก็ไม่รู้”
“ทาง ตม. แจ้งว่าเค้าพาไทขึ้นเครื่องไป ตั้งแต่ 2 ชั่วโมงก่อนแล้ว”
“ไม่จริง ไทลูกแม่”
ประจักษ์ได้แต่โอบกอดทองประกายไว้ด้วยความสงสาร”

วันต่อมา...ประจักษ์ยืนคุยโทรศัพท์หน้าเครียดก่อนจะวางหู น้อมเดินเข้ามา
“คุณทองประกาย เป็นยังไงบ้าง”
“ดิฉันยังเข้าหน้าไม่ติดเลยค่ะ แต่เด็กบอกว่า ทานยา แล้วหลับไปแล้วค่ะ เอ่อ พอจะมีทางตามตัวคุณไทกลับมามั้ยคะ ท่าน”
“คงจะยาก แล้วเธอล่ะ เป็นยังไงบ้าง”
“ดิฉันไม่เป็นไรค่ะ สงสารแต่คุณผู้หญิง ดิฉันเข้าใจค่ะท่าน”
ประจักษ์พยักหน้าให้
“ขอบใจนะ”
ประจักษ์ถอนใจ รู้สึกสงสารทองดีจับใจ

วันใหม่...ทองดีนอนลืมตานิ่งซึมอยู่บนเตียง ประจักษ์เดินเข้ามาในห้อง
“เป็นยังไงบ้าง ทองประกาย”
“ค่ะ ดีขึ้นแล้ว” ทองดีลุกขึ้นนั่งคุย “ท่านยังไม่ออกไปทำงานเหรอคะ”
“ฉันยกเลิกหมดแล้ว อยากอยู่ดูแลเธอมากกว่า”
“ฉันทำให้ท่านเสียงาน ท่านไม่ต้องห่วงฉันหรอกค่ะ ฉันไม่เป็นอะไร”
“ไม่ต้องคิดมาก ฉันยังไม่อยากทิ้งเธอไว้คนเดียว ฉันเป็นห่วงเธอมากรู้มั้ย”
ทองดีน้ำตาไหลอีกครั้ง ซบลงที่อกประจักษ์ที่กอดตอบจนทองดีรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาบ้าง

ดารา กับพี่แมวคุยอยู่ด้วยกันที่ห้องเสื้อ
“รู้ข่าวแล้วตกใจนะคะ กำลังจะดีอยู่แท้ๆ” พี่แมวบอก
ดาราเบ้ปาก
“สมน้ำหน้า ดีแล้วล่ะ พักหลังๆมันทำเชิดใช่ฉันนัก มันลืมตัวไปว่ามันมีวันนี้ได้ก็เพราะฉัน โดนซะบ้างก็ดี”
พี่แมวมองไม่พอใจ
“อ้าว ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะคะ คุณดารา แหม คนกำลังทุกข์กำลังโศก”
ดาราค้อน
“ทำไม คิดจะเปลี่ยนสีเข้าข้างมันเลยนะหล่อน ไม่ต้องห่วงหรอกย่ะ เดี๋ยวฉันจะโทรไปซอรี่กับนางหน่อย”
“ตกลงคุณดาราอารมณ์ไหนกันแน่คะเนี่ย”
“ในสังคมก็แบบนี้แหละ แม่ทองประกายน่ะ เปรียบไปก็เหมือนกับเสื้อผ้า ตราบใดที่คนยังนิยม ก็ขายได้ มันก็เป็นของดีมีราคา ถ้ามัน out เมื่อไหร่ก็ต้องถอดออกจากหุ่นลงมาเป็นผ้าขี้ริ้วนั่นแหล่ะ วันนี้มันยังอยู่ในหุ่น ก็ต้องถนอมเอาใจกันไป”
“ตอนแรกนึกว่าคุณดาราเป็นดีไซน์เนอร์ที่ทำธุรกิจเป็น แต่วันนี้รู้แล้วค่ะว่าคุณน่ะเป็นนักธุรกิจ ที่ออกแบบเสื้อผ้าได้ คิดถึงแต่ผลประโยชน์ดีจังนะคะ”
“นี่ชมหรือด่าเนี่ย”
ดาราโมโหจะหาอะไรเขวี้ยงใส่ พี่แมวเลยแหยลง โฬมแอบฟังอยู่มุมหนึ่ง...
“ลูกหาย ผัวงานยุ่ง จังหวะเหมาะแล้วสิ ได้ทั้งตัว ได้ทั้งเงินก็คราวนี้”
โฬมหยิบรูปปึกหนึ่งขึ้นมาดู เป็นภาพนิ่งที่โฬมกำลังกอดฟัดทองดี และเขาถ่ายไว้ด้วยกล้องจากโทรศัพท์มือถือ
ประจักษ์กำลังจะออกไปทำงาน มีเลขา และการ์ดยืนรอ ทองดีเดินมาส่ง

“อยู่คนเดียวได้แน่นะ”
ทองดียิ้ม
“ได้ค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉันนะคะ ท่านไปทำงานเถอะค่ะ สายมากแล้ว”
“เดี๋ยวกลางวันนี้เจอกันนะ”
“ค่ะท่าน”
ประจักษ์ขึ้นรถไปพร้อมกับทีมงาน ทองดีถอนหายใจกลับหลังหัน เดินกลับเข้าในบ้าน โทรศัพท์ดัง ทองดีเห็นเบอร์โฬมรีบรับสาย
“โฬม จะโทรหาฉันทำไม อยากให้ท่านรู้เรื่องใช่มั้ย”
“อย่าเพื่งโกรธสิครับ ผมแค่จะโทรมาแสดงความเสียใจ”
ทองดีอ่อนลง
“ไม่เป็นไร ฉันสบายดี ทีหลังอย่าโทรมาอีก”
“เดี๋ยวก่อนสิครับ อย่าพึ่งว่า ผมอยากจะเลี้ยงข้าวขอโทษคุณ เรื่องคราวนั้น”
“ยังจะกล้าอีกเหรอ”
“อย่างน้อยก็เพื่อมิตรภาพของเรา ในอนาคต และผมอยากจะให้คุณดูรูปอะไรบางอย่าง”
ทองดีไม่พอใจ
“จะต้องให้ฉันโทรไปรายงานท่านเดี๋ยวนี้เลยมั้ย ถ้านายไม่หยุดก่อนกวน”
ทองดีกระแทกหูวางใส่
“โทรไปรายงานท่าน แสดงว่าท่านไม่อยู่ คงต้องไปรับถึงที่”
โฬมยิ้ม แล้วส่งรูปจากมือถือไป แล้วคว้ารูปใส่ซองเดินออกจากบ้านไป ทางด้านทองดีกดรับแมสเสจ ดูรูปแล้วอึ้งไป เธอนั่งเครียด
“ถ้าท่านรู้ ท่านจะฟังเรามั้ยนะ”
ทองดีตัดสินใจโทรศัพท์หาประจักษ์ทันที

ดาราเดินลงมาจากชั้นบน มองหา ไม่เจอโฬม หันไปถามเด็กรับใช้
“คุณโฬมอยู่ไหน”
“ออกไปข้างนอกค่ะ หนูถามแล้วค่ะ แกด่าหนู...เสือก”
ดารากดโทรเข้ามือถือ มือถือดังจากในห้อง
“สงสัยแกลืมไว้ค่ะ”
“มันแกล้งลืมไม่ให้ฉันติดต่อมันน่ะสิ ไปหยิบมาซิ”
ดารารอรับโทรศัพท์มือถือจากเด็กแล้วดู แล้วอึ้งเมื่อเห็นเบอร์ทองดี
“รีบจนลืมลบเบอร์เลยนะแก...นังทองประกาย”
ดาราโมโหมาก ตะโกนใส่เด็ก
“ไปหยิบรองเท้ามาสิ”
เด็กรีบไปหยิบมาให้ ดารารีบใส่แล้วรีบวิ่งออกจากบ้านไป

ที่คฤหาสน์ประจักษ์ น้อมต้อนรับโฬมอย่างงงๆว่ามาทำไม
“คุณทองประกายกับท่านไม่อยู่ค่ะ”
“เขาไม่ได้ไปด้วยกันไม่ใช่เหรอ”
“ก็คงงั้นค่ะ ท่านออกไปก่อน แล้วคุณทองประกายก็ออกไปทีหลัง คง ไม่ได้ไปด้วยกัน”
โฬมยิ้มดีใจ
“ไม่เป็นไร คุณทองประกายนัดผมไว้ บอกให้ผมนั่งรอในบ้าน”
น้อมลังเล
“...แต่คุณหญิงไม่ได้สั่งอะไรไว้”
“โธ่ ทำยังกะไม่เคยเห็นหน้าผม ผมมาที่นี่สองครั้งแล้วนะ กับพี่ดาราไง”
น้อมเลี่ยงออกไปอย่างจำใจต้องต้อนรับ

ทองดีนั่งรถกลับมากับประจักษ์
“ท่านคะ ความจริงท่านให้ทองกลับคนเดียวก็ได้” ทองดีบอกอย่างเกรงใจ
“ไม่ได้หรอก หน้าซีดขนาดนี้ ไม่ไหวก็ไม่น่าออกมาเลยไหน มีเรื่องอะไรอยากจะพูดกับฉัน”
ทองดีพูดไม่ออก ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี
“ยังไม่ต้องพูดก็ได้ ช่วงนี้อย่าพึ่งไปคิดอะไรมาก พักผ่อนให้เยอะๆนะ”
ประจักษ์ดึงทองเข้ามากอดอย่างรักใคร่ เป็นห่วง

โฬมเดินไปเดินมาในบ้าน สลับกับมองหน้าบ้านอย่างเบื่อหน่าย อีกด้าน เด็กรับใช้นั่งมองโฬมอย่างไม่ละสายตา
“จะจ้องฉันทำไมเนี่ย จะไปไหนก็ไปเลยไป...ไปสิ”
เด็กรับใช้ลุกเดินออกไป
“ไปไหนของเขาเนี่ย”
เสียงรถวิ่งเข้ามาในบ้าน โฬมชะงัก ยิ้มร้ายทันทีรีบจัดเสื้อจัดทรงผม แล้วลุกเดินไปรับที่ประตู ดาราเดินหน้าตึงเข้ามา พอเห็นดาราเดินเข้ามาในบ้าน โฬมชะงัก
“พี่ดารา”
ดาราโวยเสียงดัง
“ฉันว่าแล้ว หน้าอย่างแกนี่มันเลี้ยงไม่เชื่องจริงๆ แอบมาหานังทองประกาย คิดว่าฉันโง่นักเหรอ”
ดาราตรงเข้าไปทั้งทุบทั้งหยิกตีโฬมพัลวัน โฬมผลักดารากระเด็นไปกองที่พื้น น้อมกับเด็กรับใช้ตกใจรีบเดินมาดู ดาราหันขวับมาจ้อง ตวาดลั่น
“ใสหัวไป ไม่ใช่เรื่องของพวกแก”
น้อมกับเด็กรับใช้รีบหลบไปทันที ดาราเห็นโฬมจะเดินหนีรีบลุกไปลากแล้วทุบตี จนรูปหล่น โฬมผลักดาราลงไปที่พื้นหน้ากระแทกโต๊ะ คิ้วแตกเลือดออก โฬมยืนมองนิ่ง ดาราจับเลือดมาดูแล้วจ้องด้วยความแค้น
“พอได้แล้ว...เกลียดชะมัด ไอ้พวกชอบความรุนแรง รู้ตัวไว้ด้วย ฉันเบื่อแกแทบกระอัก”
ดาราค่อยๆพยุงร่างตัวเองลุกขึ้นมาจ้องหน้าโฬม
“เนรคุณ ถ้าไม่ได้ฉันชุบเลี้ยงแกมา ป่านนี้แกเป็นผู้ชายขายน้ำให้อีแก่ไฮโซทั้งเมืองแล้ว แกยังกล้าหักหลังฉันเหรอ”
“แล้วแกต่างอะไรกับพวกนั้น ต่อไปนี้ แกกับฉันเลิกกัน ฉันทนผู้หญิงซาดิสม์อย่างแกไม่ไหวแล้ว อีแก่ซาดิสม์”
ดาราชะงักน้ำตาเริ่มไหล หันไปเห็นรูป ช็อก หยิบขึ้นมา
“..นี่น่ะเหรอที่มึงบอกรักกู แล้วมึงไปเอากับมันเหรอ”
“เออ รู้ไว้ด้วย ที่พูดน่ะใจกูขยะแขยงแทบตาย กูรักทองประกายต่างหาก รักตั้งแต่เห็นหน้า รักมากจนอยากเลิกกับมึง”
ดาราอึ้งร้องไห้กำมือด้วยความเจ็บใจพูดแทบไม่ออก
“ไอ้โฬม ไอ้สารเลว”
“เออ...กูเลว งั้นมึงก็เลิกกับกูไปสิ เลิกยุ่งกับกู ปล่อยกูไปซะที”
ดาราชะงัก ค่อยๆล้วงมือหยิบปืนออกมาเล็งใส่โฬม
“มึงอยากเลิกกับกูมากใช่ไหม อยากให้กูปล่อยมึงไปใช่มั้ย”
โฬมหน้าซีดตัวสั่น
“เฮ้ย...จะทำอะไร พี่ดารา เล่นปืนมันอันตรายนะ”
“ก็เคยบอกแล้วใช่ไหม ถ้าคิดจะไปจากกู มึงก็ต้องตายสถานเดียว”
โฬมกระโดดเข้าแย่งปืนกับดารา ทั้งสองชุลมุนกัน

ที่หน้าคฤหาสน์ ทองดีกับประจักษ์กำลังลงจากรถ
“อ๊ะ...นั่นรถดารานี่ เธอนัดเขามาเหรอ”
“เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้นัด หรือว่า...”
เสียงปืนดังขึ้นสองครั้ง ทองดีกับประจักษ์ชะงักหันไปมองหน้ากันด้วยความตกใจ ทั้งคู่รีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันที คนขับรถรีบวิ่งตามเข้าไปด้วย แล้วชะงักค้างเช่นเดียวกับน้อมกับเด็กรับ เมื่อเห็นดารายืนถือปืนตัวสั่น โฬมนอนจมกองเลือดอยู่ใกล้ๆ
“พี่ดารา...โฬม”
ดาราเห็นทองดีแค้นมาก
“...อีทองประกาย มึงเป็นต้นเหตุ มึงแย่งผัวกู มึงทำให้ผัวกูตาย อีกากี กูจะฆ่ามึง”
ประจักษ์ร้องห้าม
“อย่าดารา พูดกันดีๆก็ได้ ...วางปืนลงก่อน ใจเย็นๆนะ”
“ผัวกูมันรักมึงใช่มั้ย กูจะส่งมึงไปอยู่กับมัน อีทองประกาย”
ทองดีตะลึง ดารากรี๊ดอย่างบ้าคลั่ง เหนี่ยวไกยิงทองดีสามนัด ประจักษ์ดึงตัวทองดีเข้ามาในอ้อมแขนแล้วเบี่ยงตัวบังกระสุนไว้ พอสิ้นเสียงปืนประจักษ์ชะงัก เลือดค่อยๆซึมออกจากอกเสื้อ ค่อยๆล้มลงที่พื้น ทองดีร้องไม่ออก น้อมกับเด็กรับใช้ก็ตกใจกรี๊ดลั่น คนขับรถ น้อม เด็กรับใช้ รีบวิ่งมาช่วยดูประจักษ์
ดาราตกใจมาก
“ไม่...ไม่ใช่...ฉันไม่ได้ทำ...”
ดาราวิ่งกรี๊ดประสาทแตกออกจากห้องไป ทองดีประคองประจักษ์ ตกใจทำอะไรไม่ถูก
“ท่าน ท่านคะ ไปโรงพยาบาลนะคะ....โทรแจ้งโรงพยาบาลแล้วไปเตรียมของกันเร็ว” ทองดีตวาดดังบอกคนรถ “เอารถมารับสิ”
เด็กรับใช้ทุกคนได้สติ วิ่งกันชุลมุน ทองดีร้องไห้
“ท่านอย่าเป็นอะไรนะคะ ท่านทำใจดีๆไว้นะคะ”
ประจักษ์มองทองดีแล้วยิ้ม
“ท่านทำใจดีๆนะคะ”
“ฉันทำตามที่สัญญา กับเธอแล้วนะ ทองประกาย”
“ไม่ค่ะ อย่าเพิ่งพูด ...ท่านอย่าเพิ่งพูดอะไรนะคะ”
“ฉัน...จะอยู่กับเธอ...จนลมหายใจสุดท้าย...ทองประกาย”
ทองดีร้องไห้
“ไม่ค่ะ ท่านต้องไม่เป็นอะไร ท่านต้องอยู่กับทองต่อไป ท่านสัญญาว่าจะไม่ทิ้งทองไงคะ... เราจะอยู่ด้วยกัน เราไปหาหมอด้วยกันนะคะ”
ประจักษ์หลับตาสิ้นลมในอ้อมกอด ทองดีเห็นเขาเงียบไปซักพัก แล้วอึ้ง
“ไม่...ไม่ !...ท่านต้องไม่ตาย ท่านต้องไม่ตาย...อย่าทิ้งฉัน...อย่าทิ้งฉันไป”
ทองดีเงยหน้าร้องไห้ ก่อนจะค่อยๆฟุบหน้าลงร้องไห้ฟูมฟายอยู่ข้างศพประจักษ์
คนขับรถ น้อม เด็กรับใช้ ทยอยเดินเข้ามา และต่างทรุดลงห่างออกไป ทองดีร้องไห้ตัวโยนกอดท่าน มีโฬมนอนตายไม่ห่างกัน

ดาราขับรถหน้าตื่นมือไม้สั่น
“ไม่จริง ไม่จริง ฉันไม่ได้ฆ่าใคร นังทองประกายต่างหากที่เป็นคนทำ”
ดาราก้มลงมองมือตัวเองเห็นเลือดเปรอะเต็มไปหมด ดาราพยายามเช็ดเลือดออกและปัดตามตัววุ่นวาย ขณะเดียวกันที่ด้านนอกรถคันหนึ่ง กำลังจะออกจากซอยด้านข้าง ดาราเงยหน้าขึ้นเห็นรถตัดหน้าระยะกระชั้นชิด เธอตกใจสุดขีด
“กรี๊ด!”
รถดาราชนเสาไฟฟ้าข้างทางพังยับเยิน ที่ร่างดารา เอนพิงกระจกข้างเลือดอาบ นอนตายอย่างตาไม่หลับ

หลายวันต่อมา
หลังจากเผาศพประจักษ์ ทองดีใส่แว่นดำ เดินออกมาพร้อมพี่แมว เหล่าบริวารเดินถือรูปและกระถางธูป
การ์ดเดินตามหลังมาหลายคน นักข่าว 2-3 คนยืนรออยู่ที่ลานจอดรถ เข้ามาขอสัมภาษณ์ทองดี
“คุณทองยังไม่พร้อมจะให้สัมภาษณ์ค่ะ ขอโทษนะคะ ขอตัวก่อน”
พี่แมวกันตัวทองดีจากนักข่าวพาไปขึ้นรถ การ์ดเดินเข้ามามากันๆ นักข่าวออกไป

แก้วกับเพื่อนไฮโซที่มาร่วมงาน ยืนชะเง้อมอง นักข่าวจำได้เลยเข้าไปหา
“พี่คะ พอจะมีข่าวให้หนูไปลงบ้างมั้ยคะ ไม่งั้น บ.ก.เล่นงานหนูตายเลย ได้ไปแต่รูป”
แก้วหันซ้ายหันขวา ไม่เห็นคนอื่นรีบบอก
“มาจากแหล่งข่าวนะคะ ห้ามลงชื่อพี่ ตั้งแต่คุณหญิงเสีย ครบสามเดือน ท่านก็แต่งงานใหม่กับทองประกาย จัดงานภายใน ได้ข่าวว่าจดทะเบียนสมรสกันแล้ว แล้วแบบนี้สมบัติมหาศาลของท่านจะไปไหนล่ะคะ ส่วนประวัติคุณทองประกายพวกน้องคงรู้กันอยู่แล้ว เห็นว่าชายชู้ ที่เป็นเด็กของคุณดาราเจ้าของห้องเสื้อดัง ก็นอนตายอยู่ข้างๆ”
เพื่อนอีกคนบอก
“ส่วนประวัติคุณทองประกาย พี่ก็รู้ละเอียด ถ้าน้องไม่รู้ตรงไหน โทรหาพี่ได้ อ้อ...อย่าไปเผลอหลุดกับใครว่ามาจากพี่นะคะ ไม่งั้นพี่อยู่ไม่ได้นะ”
นักข่าวรีบบอก
“คอนเฟิร์มค่ะพี่ จรรยาบรรณไม่เปิดเผยแหล่งข่าวค่ะ ขอบคุณค่ะ”

หลายวันต่อมา...ทองดียืนอ่านหนังสือพิมพ์ ไม่พูดไม่จากับใคร ขยำหนังสือพิมพ์ทิ้ง ระหว่างนั้นเด็กรับใช้อีกคนเดินเข้ามา ยืนเงียบๆ ทองดีเสียงแข็ง
“มีอะไรก็พูดไปสิ”
“ทนายความมาแล้วค่ะ”
ทองเดินออกไป สาวใช้จับกลุ่มนินทากัน
“ตั้งแต่ท่านเสีย คุณผู้หญิงเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคนเลย”
อีกคนพยักหน้าเห็นด้วย
“คงจะเศร้าน่ะ แกอ่านข่าวในหนังสือมั้ยล่ะ เห็นว่าผัวคนก่อนๆก็ตายจาก”
“นักข่าวนี่ก็ช่างขุดคุ้ยเนอะ สงสารคุณผู้หญิง”
“แต่ฉันน่ะ ไม่อยากจะสงสาร คุณผู้หญิงนั่นแหล่ะ เป็นคนทำให้ท่านตาย คุณผู้หญิงน่ะมีชู้ แกเห็นรูปที่ตกเกลื่อนพื้นมั้ยล่ะ”
น้อมเข้ามาได้ยินตวาด
“หยุดกันเดี๋ยวนี้เลยนะ ทั้งสองคน”
เด็กทั้งสองคนแตกฮือกันออกไปอย่างกลัวๆ น้อมมองตาม และหันไปทางทองดีแล้วส่ายหน้า

ทนายความเลื่อนส่งเอกสารให้ทองดี พร้อมกับกุญแจเซฟ ทองดีมองดูของตรงหน้าอย่างนิ่งเฉย
“นี่เป็นพินัยกรรมบางส่วนของท่านที่ใส่ชื่อคุณไว้แล้ว และกุญแจเซฟของธนาคาร ที่เก็บเครื่องเพชรทั้งหมดของคุณหญิง ท่านก็ได้แจ้งเปลี่ยน เป็นชื่อคุณไว้แล้วเช่นกัน ตามกฏหมาย คุณเป็นภรรยาที่ถูกต้อง ผมจะทำเรื่องแต่งตั้งคุณเป็นผู้จัดการมรดก สมบัติทั้งหมด ถ้าไม่มีใครมาแย้ง ทุกอย่างก็จะตกเป็นของคุณ”
“ท่านมีญาติที่ไหนอีกรึเปล่า”
“เท่าที่ผมทราบ ไม่มีครับ คุณจะฟังรายการทรัพย์สินทั้งหมดของท่านมั้ยครับ แต่คงต้องใช้เวลาหน่อย”
“ไม่เป็นไร วันหลังก็ได้”
“งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ เอกสารนี้ผมทิ้งไว้ให้คุณอ่านทำความเข้าใจ มีข้อสงสัยตรงไหน โทรหาผมได้นะครับ”
ทนายความแก่กว่ายกมือไหว้ แล้วค้อมตัวเดินออกไป ทองดีหยิบเอกสารขึ้นมาดูด้วยสีหน้าเรียบเฉย แม่จะรู้ว่าจากนี้ไปชีวิตของเธอไม่ต้องดิ้นรนอะไรอีกแล้ว....

ทองดีเดินเข้ามาหยุดในห้องทำงานประจักษ์ เดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะทำงาน และนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นนาน น้อมเดินเข้ามาหา
“คุณผู้หญิงทานข้าวซักหน่อยมั้ยคะ ดิฉันตั้งโต๊ะไว้แล้ว”
ทองดียังโกรธน้อมเรื่องไทอยู่ ตวาดไล่
“อย่ามายุ่งกับฉัน”
ทองดีหยิบหนังสือปาใส่
“ออกไป!”
น้อมตกใจลนลานออกไป

ทองดีแต่งชุดดำสวย เดินลงมาจากบันไดชั้นสอง เด็กรับใช้มาถาม
“คุณผู้หญิงจะออกไปข้างนอกเหรอคะ”
ทองดีมองหน้าไม่ตอบ เด็กเดินเลี่ยงไปหยิบรองเท้าวางให้เงียบๆแล้วออกไป เธอใส่ส้นสูงแล้วเดินออกจากบ้านไป
ทองดีไปที่บาร์แห่งหนึ่ง เธอนั่งดื่มนิ่งๆ รายล้อมไปด้วยนักเที่ยว มีผู้ชายเข้ามาทักทาย ชวนคุย ทองดีไม่ตอบโต้ด้วย ผู้ชายตอแยด้วย เธอจึงเอาเหล้าสาดใส่ ผู้ชายโมโห เพื่อนดึงห้ามไว้ ทองดีมองเฉย แล้วลุกเดินออกไปนิ่งๆ

ค่ำคืนต่อมา...ทองดีนั่งอยู่ในบาร์ที่มีผู้คนมากมาย ทุกคนสนุกสนาน ยกเว้นเธอที่นั่งดื่มเงียบๆอยู่คนเดียว มีผู้ชายหันมองแต่ไม่กล้าเข้ามาคุยด้วย
ทองดีเดินมา คนขับเปิดประตู เธอขึ้นนั่ง
“กลับบ้านเลยนะครับ”
“ขับไปเรื่อยๆ”
“แต่มันใกล้สว่างแล้วนะครับ ไม่มีที่ไหนเปิดแล้ว”
“...ไปจังหวัดชัยนาท”
พูดจบทองดีก็หลับตาลง คนขับอึ้งๆว่าไปทำไม แต่ก็ขับรถออกไป

เช้าวันใหม่...รถคันหรูของทองดีขับเข้ามาจอดที่หน้าร้านแม่ ทองดีลงจากรถ เธอรู้สึกแสบตา หยิบแว่นขึ้นมาสวมใส่ แล้วเดินเข้าไปในร้าน
แม่กำลังเช็ดตู้ไป ด่าเด็กไป
“อีเด็กมือห่างตีนห่าง ขี้เกียจตัวเป็นขน ใช้ไปซื้อของก็อมเงินตลอด แต่เวลาเรียกกินนี่ไวเชียวนะมึง อีเด็กเวรเอ๊ย...”
แม่หันมาเห็นทองดี
“...อ้าว...คุณนาย จะรับอะไรดีคะ เชิญเข้ามาก่อนค่ะ”
ทองดียืนมองแม่ ไม่พูด จนแม่งงๆ
“จะเอาอะไรก็บอกมาสิคะ จะกินกาแฟ หรือว่าข้าวผัด”
ทองดีตัดสินใจพูด
“แม่...”
แม่สะดุดกึก จ้องหน้า ทองดีตัดสินใจถอดแว่นออก
“แม่...นี่ฉันเอง ทองดีไงแม่”
“อีทองดี อุ๊ย...” แม่เอามือปิดปาก “ขอโทษคะ ทองดีไหนคะ คุณ...”
“แม่จำฉันไม่ได้หรือ”
แม่อาการเอ๋อใส่ งงๆ ประสาทอ่อนๆ มองตาม
“จำไม่ได้หรอกค่ะ คุณนาย นี่คุณจะกินอะไรหรือเปล่า ถ้าไม่กินก็ไปให้พ้นๆเหอะ” แม่ผลักทองดีออกไป “อย่ามาวุ่นวาย คนจะทำมาค้าขาย เสียเวลาจริงๆ”
“โธ่แม่...” ทองดีเข้าไปเกาะกอด “ฉันทองดีลูกแม่จริงๆนะ ฉันจะมารับแม่ไปอยู่ด้วย ตอนนี้ฉันรวยแล้วนะแม่ ฉันมีบ้านหลังใหญ่เบ้อเริ่ม รับรองแม่ต้องชอบแน่”
ทองดีพยายามเข้ากอด แม่พยายามแกะออก แล้วผลักออกอย่างแรง
“บ้านใหญ่แล้วยังไง กูไม่สนใจหรอก นี่อย่ามายุ่งกับกูเลย กูไม่เคยมีลูกถึงมีก็ไม่ดอกทองเหมือนมึง”
ทองดีตกใจ ผงะ
“...แม่ อย่าด่าฉันอีกเลย...ไปอยู่ด้วยกันเถอะนะ เอาน้องไปอยู่ด้วยก็ได้ แม่อยากจะพาใครไปก็ได้ พาไปเลย ตอนนี้ฉันรวยแล้วนะแม่”
แม่เหมือนจำได้เป็นพักๆก็โมโห
“ขืนเอาไปอยู่กับมึง คงไม่แคล้วดอกทองเหมือนมึง”
ทองดีอึ้งจ้องหน้ากับแม่ๆหลบตา
“แม่จำฉันได้ใช่ไหม”
“คุณนายกลับไปเถอะ ฉันจะขายของ มายืนทะเลาะกันนาน คนไม่เข้าร้าน ฉันจะซวย ขายของไม่ได้ทั้งวัน”
ทองดีจ้องหน้าแม่ สงสัยว่าแม่จำได้หรือเปล่า
“ฉันไม่มีลูก กูไม่เคยมีลูก” แม่ทำประสาทใส่ทองดี “กูไม่เคยมีลูก โอ๊ย กูไม่เคยมีลูก”
ทองดีเสียใจค่อยๆหันหลังเดินออกจากร้านไป เธอเดินร้องไห้ไปขึ้นรถ พอรถทองดีไป แม่ก็หยุดไม่มองตาม นั่งนิ่งน้ำตาไหลออกมา
ทองดีขึ้นนั่งบนรถ หยุดร้องไห้ และรู้สึกโกรธเคืองแม่ เธอเงยหน้า หยิบแว่นขึ้นมาสวมใส่ ไม่หันกลับไปมองแม่เช่นเดียวกัน
รถวิ่งออกจากร้านมา

เมื่อกลับมาที่คฤหาสน์หรู ทองดีนึกถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต นึกถึงสิ่งที่เธอดิ้นรนมาตลอด กระทั่งถึงวันที่เธอมีทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ไม่มีใครอยู่ข้างตัวเลย...

“แล้วสิ่งที่ฉันไขว่คว้ามาตลอดชีวิต จะมีประโยชน์อะไรล่ะ ถ้าต้องอยู่คนเดียวแบบนี้”
ทองดียืนโดดเดี่ยว ตามลำพังในบ้านหลังใหญ่...
จบบริบูรณ์







Create Date : 11 มีนาคม 2555
Last Update : 11 มีนาคม 2555 23:04:19 น.
Counter : 7639 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]