All Blog
ทองประกายแสด ตอนที่ 1 (ต่อ)




ทองดีเดินดูตามแผงเสื้อผ้า เข้าร้านนั้นออกร้านนี้ หยิบมาลองบ้าง ทาบกับตัวบ้าง เธอเดินมาหยุดที่แผงหนึ่งที่แขวนเสื้อสายเดี่ยวโป๊ๆ กับกางเกงขาสั้น พอเห็นก็ชะงักมองทันที

“ตัวเท่าไหร่”
“เสื้อสองร้อย กางเกง 199”
ทองดีหน้าเสีย
“โห ลดหน่อยได้ไหม”
“ลดไม่ได้หรอก นี่มาจากกรุงเทพฯเลยนะ เอาเสื้อหรือเอากางเกงไปก่อนสิ”
“ฉันอยากได้ทั้งชุดนี่”
“งั้นคิดไป 350 แล้วกัน นี่ลดให้สุดๆแล้วนะ”
“ฉันก็มีเงินไม่พออยู่ดี”
“พี่กวงซื้อให้ไหม”
ทองดีหันมาเห็นกวงใส่เสื้อกั๊กวินมอเตอร์ไซค์ ใส่แว่นดำ โพสท์ท่าบนมอเตอร์ไซค์ดูเสี่ยวในความรู้สึกของเธอ อยู่ด้านหลัง
“ไม่ต้อง”
ทองดีเดินหนีออกไปนอกร้าน กวงเดินตามมาด้วยแล้วจับมือไว้
“ปล่อยนะพี่กวง อยากโดนด่าหรือไง”
กวงรีบปล่อยมือทันที
“ทองดี เมื่อไหร่จะคุยกับพี่ดีๆสักที พี่ชอบทองดีมานานแล้วทองดีก็รู้”
“แต่ฉันไม่ชอบพี่นี่ รำคาญด้วย”
พิสุทธิ์ลงจากรถสองแถวมาเห็นพอดี รีบเดินเข้ามาหาทั้งคู่
“ทองดี”
ทองดีกับกวงหันไปตามเสียงพอเห็นพิสุทธิ์ ก็ดีใจรีบเดินไปหาทันที
“ทองดี ไอ้หน้าอ่อนนี่เป็นใคร”
“เขาก็เป็นนักศึกษา มาจากในเมือง ไม่ได้เป็นมอเตอร์ไซค์ท้ายตลาดแบบแกแล้วกัน”
“โธ่..เอ๊ย...จะหวังสูง คิดว่าไอ้นี่มันจะเอาเอ็งจริงเหรอ ฟันเล่นละไม่ว่า”
พิสุทธิ์ไม่พอใจ
“เฮ้ยพี่...ทำไมพูดจาแบบนี้ล่ะ”
“กูจะพูด ใครจะทำไม หรือมึงจะเอา”
กวงผลักอกพิสุทธิ์ๆก็จะเดินเข้าใส่ ทองดีรีบมาขวาง
“ไอ้กวง ถ้ามึงทำอะไรคุณพิสุทธิ์กูจะเรียกตำรวจ”
กวงมองหน้าพิสุทธิ์ไม่ชอบใจแล้วเดินหลุดไป พิสุทธิ์กับทองดีมองหน้ากันเครียดๆ

พิสุทธิ์ และทองดีนั่งกินไอศครีมด้วยกัน
“โทษนะที่เป็นตัวทำให้เกิดเรื่อง” ทองดีบอกอย่างไม่สบายใจ
“ไม่เป็นไร ว่าแต่..นายกวงนั่น ไม่ได้เป็นแฟนทองดีนะ”
“โอ๊ย .. ฉันรำคาญมันจะตาย หน้ามันฉันยังไม่อยากจะมองเลย”
พิสุทธิ์ยิ้ม มองทองดีอย่างหลงใหล แล้วเอื้อมมือไปจับมือ ทองดีใจเต้นกับสัมผัสแรกจากคนที่เธอมีใจ
“แล้วหน้าผมล่ะ อยากมองไหม”
ทองดียิ้มเขิน
“ถ้าอยากมอง แล้วจะมาให้มองทุกวันไหมล่ะ”
“ไม่รู้เหรอ ว่าอยากมาที่สุด”
ทองดีก้มหน้า อาย แต่ยิ้มแก้มแทบฉีก พิสุทธิ์จับมือทองดี ทั้งสองมองตากัน ตกหลุมรักกันอย่างแรง

ค่ำคืนนั้น...พิสุทธิ์นั่งวาดรูปทองดีอยู่ในห้อง เสียงเคาะประตูดังขึ้น พิสุทธิ์สะดุ้งรีบซ่อนรูป แม่เปิดประตูเข้ามาพอดี
“วันนี้อาจารย์แกโทรมา เขาบอกว่าแกขาดสอบช่วงบ่าย”
พิสุทธิ์อ้ำอึ้ง
“ก็ฉันรู้ว่าฉันทำไม่ได้ เข้าสอบไปก็ตกอยู่ดี ไว้ลงเรียนใหม่ก็แล้วกัน”
“ลงใหม่เหรอ พ่อแกเป็นแค่เสมียนอำเภอนะ จะหาเงิน มาให้แกเรียนทั้งชาติก็ไม่ไหวหรอก ไหนจะน้องแกอีกสองคน ฉันว่าแกออกมาทำงานดีกว่า จะได้ช่วยค่าใช้จ่ายที่บ้านด้วย”
“แล้วทำไมแม่ไม่ให้ฉันเรียนศิลปะ อย่างที่ฉันอยากเรียนล่ะแม่”
“แหม...ไอ้คุณชายกำมะลอ จะเรียนศิลปะ เรียนนู่นเรียนนี่ อยากเป็นศิลปินไส้แห้งรึไง เป็นเทวดาประจำบ้าน ถ้าอยากทำอะไรตามใจตัวเอง ก็ไปอยู่ที่อื่น ไปหาเงินใช้เอง จะได้ไม่ต้องมาเบียดเบียนเงินพ่อแม่”
พิสุทธิ์จ้องหน้าแม่ด้วยความเจ็บใจ
“ได้ ฉันจะออกไปจากที่นี่ ถ้าแม่ไม่อยากให้อยู่ฉันไม่อยู่ก็ได้”
“เออ....ขอให้มันเก่งจริงเถอะ”
แม่พูดจบก็เดินออกไปปิดประตูโครม พิสุทธิ์มองตามด้วยความเจ็บใจ

ทองดีเอาชุดสวยมาทาบกับตัว ส่องกระจกอย่างมีความสุข นึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนบ่ายที่พิสุทธิ์ซื้อชุดให้...
“ทองดีชอบตัวนี้เหรอ”
“จ้ะ”
“ผมซื้อให้นะ”
ทองดียิ้มดีใจ มองพิสุทธิ์อย่างปลื้มใจ...
ทองดีมองตัวเองในกระจกอย่างพึงพอใจในความสวย
“มีแฟนรวยมันดีอย่างนี้เอง อีกหน่อยฉันก็ไม่ต้องอยู่ที่นี่แล้ว”
ทองดีหงายตัวลงนอนบนที่นอน กอดชุดสวย หลับตาพริ้มอย่างสุขใจ

ที่บ้านเบิ้ม...เบิ้มกับแม่คุยกับซุบซิบอยู่มุมหนึ่ง แล้วแม่เบิ้มก็เดินเข้าห้องไป เบิ้มเดินมาหาพิสุทธิ์ที่นั่งอยู่มีกระเป๋าเสื้อผ้าวางอยู่ข้างๆ
“แม่มึงว่าอะไรหรือเปล่าวะ”
“ไม่ว่าหรอก แต่เขาสงสัยว่าถึงกับออกจากบ้านเลยเหรอวะ”
“เออ แม่เขาไม่เคยเข้าใจกู กูอดทนมานานแล้ว”
“แล้วเรื่องเรียนล่ะ”
“กูยังไม่ได้คิด”
เบิ้มถอนใจ
“เอางี้ ช่วงนี้มึงอยู่ที่นี่ไปก่อน กูว่าเดี๋ยวมึงกับแม่ก็เข้าใจกัน ทุกอย่างก็เหมือนเดิม”
“ขอบใจมึงมากนะเบิ้ม”
เบิ้มถือกระเป๋าพิสุทธิ์ เดินขึ้นห้องกันไป

เช้าวันต่อมา...พิสุทธิ์ในชุดอยู่บ้านนั่งวาดรูปทองดีจนเสร็จ เบิ้มสะพายเป้เดินออกมา
“เฮ้ย นี่ตื่นแต่เช้ามานั่งวาดรูปทองดีเนี่ยนะ กูก็นึกว่ามึงอ่านหนังสือเรียน”
พิสุทธิ์พยักหน้ารับ
“เออ กูคิดถึงเค้า”
“โอ๊ย เพื่อนกู อาการหนักซะแล้ว”
“ช่วงนี้กูต้องรีบทำคะแนน”
“เออๆ แล้วแต่มึงละกัน แต่ตอนนี้กรุณาไปเรียนก่อน”
“เฮ้ย...เบิ้ม กูว่ากูจะไม่ไปเรียนแล้ว”
เบิ้มตกใจ
“ไอ้บ้า มึงอย่าพูดแบบนี้นะเว้ย มึงไม่เรียนแล้วจะไปทำงานอะไร”
“ยังไม่รู้เว้ย ไว้ค่อยคิด”
“กูว่ามึงคิดถึงอนาคตไว้บ้างก็ดีนะเว้ย มึงไปอาบน้ำเถอะจะได้ไปเรียน ไปนั่งเป็นเพื่อนกูก็ยังดี”
พิสุทธิ์เก็บรูป แล้วเดินเข้าบ้านไป

ทองดีชงกาแฟ แล้วเอามาให้ลูกค้าที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในร้าน ตาก็เหลือบมองนาฬิกาที่ฝาผนัง บอกเวลา 8 โมง แม่ผัดข้าวอยู่หน้าเตา มีลูกค้าอีกคนนั่งในร้าน ทองดีเหลือบมองแม่ แล้วมองนาฬิกาอีกอย่างกังวลร้อนใจ เตี่ยเดินไอลงมาจากข้างบน
“อ้าวเตี่ย หายแล้วเหรอ กินกาแฟไหม ชงให้”
“ไม่ต้องๆ”
ทองดีเทชาร้อน แล้วเอาไปให้เตี่ย
“กินอะไรร้อนๆซะหน่อยเถอะน่า”
เตี่ยมองทองดี
“ลื้อจะเอาอะไร ไม่ต้องมาทำประจบ”
“เปล่าซะหน่อย ก็เห็นเตี่ยไม่สบาย เลยมาดู ทำดีก็ด่า”
แม่ตะโกนเรียก
“อีทอง ข้าวผัดได้แล้ว”
ทองดีเดินสะบัดก้นไปหยิบจานข้าวผัดที่หน้าเตา มาเสริ์ฟให้ลูกค้า แล้วเดินมาใกล้ๆเตี่ยที่นับเงิน จดบัญชีอยู่ ครุ่นคิดหาทางออกนอกบ้าน แล้วก็นึกได้
“โอ๊ย ปวดท้อง เตี่ย ขอตังค์ไปหาหมอหน่อยสิ”
“ปวดท้องก็กินยาธาตุสิ ต้องไปหาหมอให้เปลืองตังค์ทำไม”
“ปวดท้องเมนส์ โอ๊ย ปวดไปถึงขาเลย”
เตี่ยหยิบพาราจากใสลิ้นชักให้ทองดี
“เอ้า เอาพาราไปกินแก้ปวด หายเหมือนกัน”
“เตี่ยรู้ได้ไง เคยเป็นเมนส์เหรอ”
“ไม่เคยเป็น...”
ยังด่าไม่เสร็จ ก็ไอโขลกออกมา แล้วจะขากเสลดลงพื้น ทองดีรีบห้าม
“อี๋ เตี่ย จะบ้วนในบ้านได้ไง เดี๋ยวลูกค้าก็ไม่กล้าเข้าร้านหรอก ไปข้างนอกซิ”
เตี่ยอมเสลดลุกไปนอกร้าน ทองดีเห็นเงินในลิ้นชัก ก็มองไปที่แม่กำลังอ่านโพยที่เด็กหญิงคนหนึ่งมาซื้อข้าว
“ข้าวผัดหมู 1 ผัดพริกแกง 1 เดี๋ยวให้ทองดีไปส่งนะ”
เด็กหญิงพยักหน้า แล้ววิ่งกลับไป แม่แล้วลงมือผัดข้าว ไม่ได้หันมาทางทองดี เธอรีบจิ๊กเงินออกมาร้อยนึง ยัดใส่กระเป๋ากางเกง แล้วเดินไปหน้าร้านอย่างสบายใจ
“แม่ เสร็จยัง”
“เอ๊ะอีนี่ กูเพิ่งจะผัด มึงจะเร่งทำไม”
ทองดียิ้มๆ แล้วเดินไปที่มุมขายกาแฟ แอบเอาเงินใส่กางเกง

เมื่อทองดีออกจากบ้านมาได้ เธอแอบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องน้ำในตลาด แล้วตรงไปที่สวนสาธารณะที่มีการถ่ายทำละครทันที
ที่กองถ่าย... พระเอก นางเอกกำลังแต่งหน้าอยู่ ทองดียืนรวมกับกลุ่มไทยมุง ชะเง้อมอง พระเอก นางเอกกำลังเดินไปเข้าฉาก ทองดีพยายามเข้าไปใกล้ๆ สต๊าฟที่คุมไทยมุงรีบบอกทองดี
“เข้าไม่ได้นะคะน้อง”
ชาวบ้านหันมาบกทองดี
“เขาบอกถ้าอยากได้ลายเซ็นต้องรอตอนเย็นว่ะอีทอง”
“ฉันไม่ได้อยากได้ลายเซ็นต์อย่างเดียวซะหน่อย”
ทองดีหาทางเข้าใกล้กองถ่ายอีก แล้วเดินไปมุงอีกทางที่คนน้อยๆ ผู้กำกับพูดใส่วอล์กกี้ทอล์กกี้
“พร้อมนะ..คิว..แอ็คชั่น...”
นางเอกพูดตามบท...
“ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณอีก”
เธอจะเดินไป พระเอกคว้ามือไว้ แล้วรั้งเอวมากอดแน่น
“แต่ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ ทั้งวัน ทั้งคืน”
ทองดีที่มาแอบดูอีกมุมหนึ่ง ก็แกล้งทำเป็นล้ม
“ว้าย”
ทุกคนหันมามอง ทองดีแอบยิ้ม แล้วทำหน้าเจ็บ ผู้กำกับเสียงลั่น
“คัท ...อะไรเนี่ย ปล่อยคนดูเข้ามาได้ยังไง”
ผุ้ช่วยรีบไปไล่ทองดี
“น้อง ตรงนี้เข้ามาดูไม่ได้นะคะ ช่วยออกไปก่อนนะคะ”
ทองดีเดินเซ็งออกไป ชาวบ้านซุบซิบ หัวเราะ องดีค้อนประหลับประเหลือก แล้วเดินออกไปห่าง
ๆแล้วหันกลับมามอง เห็นกองถ่ายทำงานกันวุ่นวาย ไทยมุงก็ดูกันไป
ทองดียืนดูอยู่ไกลๆด้วยสีหน้าผิดหวัง พิสุทธิ์เดินเข้ามาด้านหลังทองดี
“ทองดี”
ทองดีสะดุ้งหันไป
“คุณพิสุทธิ์”
“”เป็นอะไรเหรอ”
ทั้งคู่เดินเล่นออกมาห่างจากกองถ่าย
“ตกลงทองดีไม่ดูเขาถ่ายละครแล้วเหรอ”
“ไม่เอาแล้ว ฉันยืนมาทั้งวันแล้วไม่เห็นจะมีใครสนใจฉันสักคน”
“ไม่เป็นไรนะ ใครไม่สนแต่ผมสน”
ทองดียิ้มรับเจื่อนๆ
“แล้วคุณพิสุทธิ์ไม่เรียนหนังสือเหรอ ทำไมมาเร็วจังล่ะ”
“ผมไม่มีกระจิตกระใจเรียนหรอก”
พิสุทธิ์นึกถึงปัญหาที่บ้าน แต่ทองดีอายคิดว่าเขาคิดถึงเธอ พิสุทธิ์หยิบม้วนกระดาษจากเป้ออกมากางให้ดู พอเห็นเป็นรูปตัวเองก็ตกตะลึ้งอึ้งไปเลย
“ผมตั้งใจวาดให้ทองดี”
ทองดีมองที่ท้ายกระดาษมีลายเซ็น พิสุทธิ์ด้านล่าง
“สวยจัง”
“คุณชอบไหม”
“ชอบที่สุด”
ทองดีลงนั่ง พิสุทธิ์ลงนั่งตาม แล้วก็ค่อยๆโอบทองดีเข้ามา เธอดันตัวออกอายๆ
“คุณจะทำอะไร”
“เราเป็นแฟนกันนะ”
ทองดีเขิน แล้วพยักหน้า พิสุทธิ์ดีใจ กระชับกอดทองดีแน่นเข้ามาอีก ทองดีตกใจ หันมองรอบๆ
“พอแล้ว เดี๋ยวใครเห็น”
ทองดีเบี่ยงตัวออก
“ทำไมล่ะ ก็เราเป็นแฟนกันแล้วนี่”
“ไม่เอา อายเขา”
พิสุทธิ์หอมฟอดใหญ่ ทองดีเขินมาก
“ฉันต้องกลับร้านแล้วล่ะ ออกมานานแล้ว”
“โธ่ อย่าเพิ่งไปเลยนะ”
พิสุทธิ์คว้ามือทองดีไว้
“ไม่ได้ เดี๋ยวแม่ด่า”
พิสุทธิ์จำใจ
“ก็ได้ๆ แต่ว่าคืนนี้ทองดีออกมาเจอผมอีกได้ไหม”
ทองดีพยายามแกะมือออก
“รับปากก่อน”
“ที่ไหนล่ะ”
พิสุทธิ์กระซิบ ทองดีพยักหน้า เขาฉวยมือทองดีมาจูบอีกอย่างดีใจ ทองดีอายรีบดึงมือออกแล้วเดินจ้ำหนีไป พิสุทธิ์มองตามยิ้มมีความสุข

ทองดีเดินยิ้มมาในชุดปกติเดินเข้ามาในร้าน ถือถุงเสื้อมาด้วย แม่ที่เช็ดโต๊ะอยู่เปิดฉากด่า
“อีดอกกระทือ มึงไปไหนมา”
ทองดีไม่พอใจ
“คำก็ดอกกระทือ สองคำก็ดอกกระทือ ดอกกระทือถึงมันไม่สวยแต่มันก็มีดีนะแม่”
“เถียงคำไม่ตกฟาก เดี๋ยวกูตบปาก กูให้ไปส่งข้าวแค่นี้ มึงหายหัวไปไหนเป็นชั่วโมง”
“ก็แค่แวะไปดูกองถ่ายมานิดเดียวเอง”
“นั่นไง กูว่าแล้ว เห็นมึงลุกลี้ลุกลนแต่เช้า บ้าดารานักนะ เผลอเป็นแว่บ เรื่องออกไปแรดนี่ขอให้บอก”
“โธ่แม่...เอ่ะอ่ะก็ด่า ฉันแค่ไปดูกองถ่ายละครนะ ไม่ได้ไปฆ่าคนตาย”
“อีนี่ เถียงอีกแล้ว”
“ก็แม่มาด่าฉันก่อนทำไมล่ะ”
“ไป...มึงรีบไปทำงานก่อนกูจะทนไม่ไหว จานชามกองรอมึงอยู่ มึงรีบไปล้างเลยนะอีดารา”
ทองดีเดินกระแทกเข้าเข้าหลังบ้านไป ผ่านเตี่ยนั่งคิดเงินอยู่เงยหน้ามามองนิดหนึ่ง แล้วส่ายหน้า ไม่สนใจ จดบัญชีต่อ
“เฮ้อ กูละเหนื่อย เอาลูกคืนอื่นมาเลี้ยงนี่มันไม่ได้อย่างใจจริงๆเล้ย”
แม่เช็ดโต๊ะไปบ่นไป โดยไม่รู้ว่าทองดีหันมองจ้องสีหน้าเจ็บใจสุดๆ แล้วเดินกลับไปที่ห้องนอน คลี่ม้วนรูปวาดของตนดูอีก ยิ้มปลื้ม
“นี่ใช่ไหม รักแท้..คุณพิสุทธิ์”
ทองดีเอาสก็อตเทปจากในลิ้นชักมาติดที่มุมรูปภาพ แล้วแปะผนังไว้ มองอย่างมีความสุข
“ชีวิตฉันกำลังจะดีขึ้น ฉันจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนที่รักฉัน”
ทองดียิ้มแล้วเดินออกไปจากห้อง

ค่ำคืนนั้น...เก้าอี้ในร้ายถูยกขึ้นวางบนโต๊ะหมดแล้ว ประตูร้านก็ปิดเช่นกัน ทองดีถูพื้นอย่างเหนื่อยๆ คอยเหลือบมองนาฬิกา เห็นว่า 3 ทุ่มแล้ว เตี่ยยังคิดเงิน ลงบัญชีอยู่ แม่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ออกมาจากห้องน้ำ
“เฮีย ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยทำต่อ”
“เดี๋ยวก่อน..ทำให้เสร็จก่อน” เตี่ยไอออกมา แรงขึ้นๆ
แม่ห่วง เข้าไปประคอง
“เห็นไหม บอกให้พักก็ไม่พัก เดี๋ยวก็เป็นหนักหรอก”
ยังไม่ทันขาดคำ เตี่ยก็ไอพรวดออกมาเป็นเลือด ทั้งแม่และทองดีตกใจ ทองดีทิ้งไม้ถูพื้น รีบเข้ามาประคองเตี่ย
“พาไปโรงบาลเหอะแม่”
“ไม่ต้องๆ อั๊วจะไปนอน” เตี่ยโบกมือห้าม
“เฮียนี่ดื้อจริงๆ เป็นอะไรก็ไม่รู้เนี่ย ยังไม่ไปหาหมออีก”
“เออน่า พูดมาก รำคาญ”
แม่ถอนใจ
“เออๆ ตามใจ...เดี๋ยวเอายาเตี่ยตามขึ้นไป แล้วคืนนี้อยู่เฝ้าเตี่ยด้วยกัน”
แม่ประคองเตี่ยขึ้นไปนอน ทองดีกระวนกระวายใจ ทำอะไรไม่ถูก มองนาฬิกาอีก

พิสุทธิ์ยือรออย่างกระวนกระวาย ดูนาฬืกาข้อมืออยู่บ่อยๆ
“ทำไมยังไม่มาอีกนะ หรือจะออกมาไม่ได้”
พิสุทธิ์ยืนคอยอย่างร้อนใจ ขณะเดียวกันทองดีวิ่งมาถึง มองหาพิสุทธิ์ แต่ไม่เห็น ทองดีเดินมองชะเง้อหา ไม่เห็นพิสุทธิ์ก็น้อยใจจะเดินกลับ พิสุทธิ์ออกมาจากหลังต้นไม้ รวบกอดทองดีจากด้านหลัง ทองดีสะดุ้งจะร้อง
“ผมเอง”
“ฉันนึกว่าคุณจะไม่คอยฉันซะแล้ว” ทองดีเบี่ยงตัวออก
“ยังไงผมก็ต้องรอ แต่ทำไมมาช้าจังล่ะครับ”
“เตี่ยไม่สบาย ฉันต้องดูเตี่ย”
“ผมว่าเราไปคุยกันตรงนั้นดีกว่า เดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้า”
พิสุทธิ์จูงมือทองดีไป ทั้งสองลงนั่ง...
“คุณใส่ชุดนี้แล้วสวยจังเลย”
“ขอบคุณนะที่ซื้อให้ฉัน”
“เตี่ยกับแม่ ดุเหรอครับ”
ทองดีพยักหน้า...เจี้อยแจ้ว
“คงเป็นเพราะฉันไม่ได้เป็นลูกแท้ๆของเค้ามั๊ง เค้าเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่ฉันเล็กๆแล้วล่ะ”
พิสุทธิ์หาเรื่องคุยต่อ
“คุณรู้ตัวไม๊ ว่าคุณเป็นคนสวยมาก”
“อย่ามาปากหวานเลย”
“ผมพูดจริงๆนะ คุณสะดุดตาตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเห็นเลย”
ทองดีอาย เปลี่ยนเรื่องคุย
“คุณวาดรูปเก่งนะ น่าจะเป็นไปเป็นจิตกร”
“แล้วทองดีล่ะ อยากเป็นอะไร”
“ถ้าฉันบอกแล้วคุณอย่าหัวเราะเยาะฉันนะ”
พิสุทธิ์ อมยิ้ม ทองดียิ้ม เล่าต่อจ้อยๆ ถูกใจที่ถาม
“ฉันอยากเป็นดารา ฉันว่าฉันสวยกว่าแม่พวกนั้นอีก ฉันอยากเป็นนักร้องด้วย ฉันชอบเต้น
ชอบร้องเพลง หรือเป็นนางแบบดี ฉันอยากมีรูปลงหนังสือ ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะได้เป็น
ดารานะ ฉันเบื่อทำงาน ดูสิล้างแก้วจนมือเปื่อยไปหมดแล้ว ถ้าฉันได้เป็นดารา ฉันก็จะมีเงินเยอะๆ ฉันจะได้เอาไปซื้อเสื้อผ้า จะได้แต่งต้วสวยๆ แล้วก็จะปลูกร้านให้เตี่ยกับแม่ใหม่ เอาให้ใหญ่ที่สุดในตำบลนี้เลย”
ทองดีหันมาหา พิสุทธิ์หอมแก้มทันที
“ว๊าย”
ทองดีอายลูบแก้ม พิสุทธิ์หัวเราะ จับมือ
“คุณว่าสวยอย่างฉัน เป็นดาราได้มั้ย”
“ได้สิ”
“จริงๆนะ”
“แต่ถ้าคุณเป็นดารา คุณคงต้องโดนพระเอกจูบ ผมคงยอมไม่ได้”
ทองดีนึกตาม
“เค้าคงไม่จูบกันจริงๆหรอกมั๊ง”
“ใครว่าล่ะ เค้าเล่นจริงกันทั้งนั้นแหล่ะ ว่าแต่ คุณเคยจูบกับใครรึยัง”
ทองดีส่ายหน้า
“งั้นผมจะสอนคุณให้ว่าต้องทำยังไง คุณต้องหลับตาก่อน”
ทองดีหลับตา พิสุทธิ์ก้มลงจูบ ทองดีเคลิ้ม ครู่หนึ่งเขาผละจากมา...
“นี่ยังไงล่ะจูบ เป็นไง ชอบมั้ย”
พิสุทธิ์กอดทองดีไว้ ทองดีอบอุ่น เอาหัวซุกคอ กลัวโดนจูบอีก
“ผมรักทองดีจังเลย เราแต่งงานกันนะ ผมจะให้พ่อแม่มาขอทองดี เอามั้ย”
“แล้วคุณจะพาฉันไปอยู่ที่ไหนล่ะ ฉันเบื่อ ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ไปอยู่บ้านคุณเหรอ”
“ยังไม่รู้เลย ว่าแต่ คุณจะตกลงหรือเปล่า”
ทองดียิ้มพยักหน้า พิสุทธิ์มองทองดีหลงไหล
“ทองประกายของผม”
ทองดีตลึงในชื่อใหม่ เธอชอบมากๆ พิสุทธิ์พาเอนลงนอน
“ผมรักคุณจังเลย”
ทองดีตาเป็นประกาย
“ทองประกาย”

ทองดีปล่อยตัว ปลอยใจให้พิสุทธิ์ด้วยความรัก










Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2555 9:43:08 น.
Counter : 642 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]