Bloggang.com : SaRaY - มาทำความรู้จักกับ"พฤกษาคลินิก"พร้อมแชร์ความรู้สึกหลังทำทรีทเมนท์เพื่อผิวขาวใสครั้งแรกกับที่นี่จ้า^^

สวัสดีค่ะโหมดพาทัวร์อีเวนท์วันนี้จะพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับ
คลินิกความงามครบวงจรอีกหนึ่งแห่งที่พูดชื่อมาทุกคนย่อมรู้จัก นั่นคือ...
"พฤกษาคลินิก : Pruksa Clinic"
พฤกษาคลินิกเปิดมาแล้วกว่า 21 ปี !!! นานมากกกกก
ครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่ทางคลินิกได้เชิญพวกเราชาวบิวตี้บล็อคเกอร์
ให้มาเยี่ยมชมเพื่อทำความรู้จักกันมากขึ้นแบบ Exclusive เฉพาะกลุ่มเราเลยค่ะ

รวมพลสาวๆเลยนะนี่ พี่ส้ม น้องออน พี่แจน ป้าพิม พี่แป้ง พี่โบว์ หมอกิ๊บ Smiley

เห็นว่าวันนี้จะทดลองทำทรีทเมนต์เค้าเลยไปแบบหน้าเปลือยมีแต่คิ้วกะไลน์เนอร์ 555 จืดสนิท!!!

บรรยากาศในงานจะเป็นแบบกันเอง เหมือนมาพูดคุยกันมากกว่า
เริ่มด้วยการต้อนรับจากพี่นุช และคุณหมอโอม (นพ.ดิษฐพงศ์ สัตตบงกช)
หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง "พฤกษาคลินิก" กล่าวต้อนรับและเล่าถึงความเป็นมาของคลินิก
คุณหมอโอมจบแพทย์ศิริราช และ ศึกษาต่อด้านผิวหนัง Dermatology โดยตรงที่
Boston Univercity คุณหมอโอมเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและผู้ร่วมก่อตั้งคลินิกแห่งนี้
โดยมีผู้นำคือ นพ.เศรษฐกานต์ อัตถากรพันธ์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ทางด้านผิวหนังและความงามอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่คลินิกควรจะก่อตั้งโดยแพทย์ไม่ใช่นักลงทุนหรือนักธุรกิจ

สำหรับบ้านเราจะไม่เหมือนเมืองนอกที่ไม่ว่าทุกคนจะเป็นอะไรจะเข้าแต่โรงพยาบาล
แต่ถ้าคนไทยเรามีปัญหาผิวจะเลือกเข้า "คลินิก" แต่เดิมคลินิกเลยเป็นในลักษณะ
"คลินิกรักษาสิว-ฝ้า" และพ่วงมาด้วยการลดความอ้วน เป็นสเต็ปเลย อิอิ
แต่เมื่อสิบปีที่ผ่านมา-ปัจจุบัน "พฤกษาคลินิก" ได้ทำการปรับรูปแบบให้กลายเป็น
"คลินิกความงามแบบครบวงจร" โดยการนำเทคโนโลยีเลเซอร์เข้ามาใช้เป็นแห่งแรกๆของไทย
โดยที่นี่จะเน้นมากๆเรื่องการอัพเดทความรู้หรือเทคโนโลยีใหม่ๆให้กับแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกคน
จึงทำให้คลินิกเป็นที่น่าเชื่อถือ และมีลูกค้าบอกต่อกันปากต่อปากจนมีสาขาทั้งหมด 44 สาขาทั่วไทย

จุดเด่นของพฤกษาคลินิก คือ

"แนวทางการรักษาเลเซอร์ผสมผสาน"
(Mix & Match Packgage)

ไม่เน้นการขายแพ็คเกจเลเซอร์เป็นคอร์สซ้ำๆ
แต่จะเป็นการพบและปรึกษากับคุณหมอโดยตรง
เพื่อให้คุณหมอเลือกใช้เลเซอร์หรือเทคโนโลยีที่เหมาะสม
ตรงกับปัญหาผิวที่ต้องการการแก้ไขมากที่สุด เพื่อให้เห็นผลได้ดีที่สุด !!

***ที่นี่สามารถเข้ามาปรึกษาปัญหาผิวกับคุณหมอได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่า

คุณหมอโอมเล่าประวัติคลินิกให้ฟังเพลินๆคุณหมอเศรษฐกานต์ ผู้นำก่อตั้งคลินิกก็แวะเข้ามาพอดี
นอกจากประวัติของคลินิกแล้วยังยังได้พูดคุยกับคุณหมอทั้งสองอย่างเป็นกันเอง
งานนี้มีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญอยู่ตรงหน้าจึงขอถามปัญหาผิวที่เจอประจำมาฝากเพื่อนๆกันค่า
ทรายสรุปสั้นๆมาอ่านกันเป็นหัวข้อสั้นๆนะคะ Smiley

"สิว".........เกิดจากต่อมไขมันเราผลิตน้ำมันแล้วเกิดการอุดตัน ถ้าติดเชื้อก็จะกลายเป็นหนอง
การรักษาจึงต้องรักษาที่ต้นเหตุนั่นคือตั้งแต่ต่อมไขมัน สำหรับคนที่เป็นสิวเรื้อรังจำนวนมาก
การมาพบคุณหมอแล้วทำการรักษาจะพบกว่าสิวจะหายไปได้รวดเร็ว แต่การกลับมาเป็นต่อนั้น
ถือเป็นเรื่องปกติตราบใดที่ต่อมไขมันยังผลิตน้ำมันก็สามารถเกิดการอุดตันได้ ดังนั้น
หลังการรักษาโดยคุณหมอแล้ว เราจะต้องทำการดูแลต่อเนื่อง สิวทำให้หายได้แต่ไม่หายขาด
จนกว่าจะถึงช่วงวัยหนึ่งที่ต่อมไขมันทำงานน้อยลงสิวจึงจะหายแบบถาวรได้ค่ะ

--------------------------------------------

"กระและฝ้า"........จุดด่างดำ หรือปื้นดำๆแดงๆบนใบหน้าเรามักจะเรียกว่า กระ หรือ ฝ้า
แต่แท้จริงแล้วยังมีความผิดปกติของเม็ดสีผิวอีกหลายอย่างมากที่ไม่ใช่ทั้งกระและฝ้า
สำหรับกระสามารถจี้ออกได้แต่ถ้าเป็นจากกรรมพันธุ์นั้นอย่างไรก็ต้องกลับมาเป็นอีก
แต่จะเป็นมากน้อยอยู่ที่การดูแลตัวเอง ต้องทำการเลี่ยงแดดให้มากที่สุด

สำหรับฝ้า "ฝ้า" คือ ความผิดปกติของการสร้างเม็ดสีเมลานิน
ปกติร่างกายเราจะสร้างเม็ดสีขึ้นมาเพื่อป้องกันแสงแดดแล้วจะค่อยๆจางลงไปเอง
แต่ฝ้าคือเม็ดสีที่สร้างขึ้นมาแล้วไม่ยอมจางลงไปเองทำให้และดูเป็นปื้นๆดำๆหรือแดงๆ
ฝ้าให้ดูที่สาเหตุ ถ้าเป็นฝ้าที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
เช่น การทานยาคุม หรือการตั้งครรภ์ เมื่อหยุดทานยา หรือหลังคลอดฝ้าจะจางลงได้
แต่จะจางหมดเกลี้ยงหรือไม่อาจต้องใช้การรักษาของคุณหมอร่วมด้วย
ส่วนฝ้าที่เกิดจากการแพ้ครีมหรือ เครื่องสำอางสามารถรักษาให้หายได้โดยคุณหมอ
แต่อย่างไรแล้วหลังการรักษาทั้งกระและฝ้าก็ต้องทำการเลี่ยงแดด !!!!
เพราะรังษี UV คือสาเหตุหลักของทั้งการเกิดกระและฝ้าจ้า

--------------------------------------------

การทำเลเซอร์จำเป็นไหม?............สำหรับคนที่ไม่ได้มีปัญหาผิวใดๆ
เลเซอร์คือการ Maintainance หรือการรักษาสภาพผิวที่ดีๆให้อยู่กับเราได้นานๆ
ผิวของเราย่อมต้องเสื่อมไปตามไวเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่การทำเลเซอร์
คือทำอย่างไรให้ผิวเสื่อมลงช้าที่สุด เหมือนเป็นทางเลือกหนึ่งของการดูแลผิว
นอกเหนือจากการดูแลด้วยการทาครีม ทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือออกกำลังกาย

นั่งคุยได้ความรู้กันจนหนำใจไปเลย เสร็จช่วงพูดคุยพลาดไม่ได้กับการถ่ายภาพหมู่ Smiley

หลังทำความรู้จักประวัติของคลินิกแล้วก็ถึงช่วงเดินชมสถานที่
ห้องสำหรับการทำทรีทเมนต์จะแบ่งเป็นสัดส่วนสวยงาม
ส่วนของของการทำเลเซอร์จะกั้นเป็นสัดส่วนแยกเป็นห้องๆไปเลย
ในภาพนี้ของห้อง Treatment Room ค่ะ กั้นแต่ละเตียงด้วยกระจกฝ้า

อุปกรณ์เครื่องทำเลเซอร์ทั้งหลายของที่นี่จะมีการอัพเดทเทคโนโลยีใหม่ๆเสมอ เน้นความทันสมัย
เรียกได้ว่าถ้ามีเครื่องอะไรใหม่ๆทางคลินิกจะนำเข้ามาเป็นอันดับต้นๆของประเทศเลยทีเดียวค่ะ

ถึงเวลาทดลองทำทรีทเมนต์ ขึ้นเตียงให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดจัดการคลีนหน้า
วันนี้เค้าเตรียมพร้อมมากไม่ทาอะไรมาเลยแต่ขอมีคิ้วกะเขียนขอบตามานิดนึง 555
ทรีทเมนต์ที่ทรายได้ทดลองมีชื่อว่า "Growth Factor White"
นวัตกรรมเพื่อผิวหน้าที่ขาวกระจ่างใสยิ่งขึ้น แลดูอ่อนวัยกว่าเดิม
รักษาฝ้าได้ตั้งแต่ระดับเซลล์ โดยการนำวิตามินแร่ธาตุเข้าสู่ผิวหนังโดยตรง

(ราคาในการทำทรีทเมนต์ Growth Factor White ครั้งละ 3,000 บาท)

------------------------------------------------------------------------

รายละเอียดเพิ่มเติมตามลิงค์ด้านล่างค่ะ
//www.pruksaclinic.com/growth_factor_white.php

อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำทรีทเทนต์ขั้นตอนแรก
หลอดฉีดยาบรรจุสารประกอบสำคัญของ Growth Factor White ได้แก่

TGP2 สารต่อต้านและยับยั้งการสร้างเม็ดสี (จุดด่างดำ)
ทำให้ฝ้าจางลง ป้องกันการเกิดฝ้า ไม่ให้ฝ้าเข้มขึ้น
ASP เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว ป้องกันการเกิดฝ้าและรอยดำ
ลดการสร้างเม็ดสีผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มแรก
Licorice ปรับสีผิวให้ขาวขึ้น ยับยั้งการเกิดรอยดำบนผิว
Ascorbic Acid ปกป้องผิวจากแสงแดด ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ,รอยดำและผิวคล้ำเสีย
Arbutin ผิวใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ลดอนุมูลอิสระ
EGF เพิ่มการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่อ่อนเยาว์กว่า
Hyaluronic Acid คืนความชุ่มชื่นให้ผิวและลดเลือนริ้วรอย

(มีส่วนผสมของ Ascorbic Acid หรือวิตามินซีนะคะ คนที่แพ้วิตามินซีไม่ควรทำจ้า!!!)

หลักการในการทำจะใช้ปลายเข็มฉีดยาสะกิดไปบนผิวให้เกิดรอยแผลเล็กๆ (ไม่ได้ทำการฉีดนะคะ!!)
แล้วทำการปล่อยน้ำยาวิตามินเข้าไป ผิวหน้าจะทำการซ่อมแซมรอยแผลเล็กๆเอง
เป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนวิธีหนึ่ง ในภาพเค้าเปล่าหลับน้ำลายย้อยนะ 555

ซูมๆให้ชมกัน ใครกลัวเข็มเลื่อนผ่านไปได้เลยจ้า
ในการทำเจ้าหน้าที่จะทดสอบระดับความเจ็บในระดับที่เราทนได้
สำหรับทรายสบายมากไม่ค่อยรู้สึกอะไร แค่คันๆเบาๆ พี่เค้าบอกว่าทำค่อนข้างแรงเลย
สงสัยหน้าเราจะทนทาน 555 ระหว่างสะกิดผิวไปก็จะปล่อยน้ำวิตามินออกมาเรื่อยๆ
เมื่อทำจนครบทั่วหน้า พี่เค้าจะทำการเน้นในบริเวณที่เป็นกระหรือรอยจุดด่างดำให้เป็นพิเศษค่ะ
สำหรับบางคนอาจจะรู้สึกแสบๆนิดๆแต่สำหรับทรายไม่รู้สึกแสบอะไรเลย หน้าทนจริงๆ Smiley

ขั้นตอนต่อมาจะทำการลงเซรั่ม Stemcell จากแอปเปิ้ลเขียวสูตรเฉพาะของพฤกษา
ให้ทั่วใบหน้า ที่จะช่วยเรื่องความนุ่ม และเติมความชุ่มชื่นให้ผิวหน้า

เมื่อลง Stemcell จนชุ่มแล้วจะทำการนวดด้วยเครื่องเฉพาะ
ที่จะช่วยผลักครีมบำรุงให้ซึมได้ดียิ่งขึ้นเครื่องนวดเป็นคลื่นวิทยุจะไม่ได้ให้ความร้อนแต่อย่างใด
คนที่ทำฟิลเลอร์มาแล้วอย่างน้อย 1 เดือนสามารถทำได้ แต่ก็ควรเว้นในจุดที่ทำมาจะดีที่สุดค่ะ

เมื่อนวดด้วยเครื่องเสร็จจะทำการห่อแรปให้เพื่อให้ครีมซึม
โดยเจ้าหน้าที่จะนวดกดจุดให้การไหลเวียนของน้ำเหลืองดีขึ้นค่ะ
นวดตั้งแต่หน้าลงมาถึงต้นคอ บ่า และไหล่เลย

เสร็จเรียบร้อยทุกขั้นตอนใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 30 นาทีจ้า
ซูมๆๆผิวให้ดูกันแบบชัดๆไปเลย จะเห็นว่าผิวดูชุ่มชื่น อิ่ม และฟูมากกกก
ไม่มีรอยเข็ม ไม่มีรอยแผลแต่อย่างใด หลังทำสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติค่ะ

เปรียบเทียบก่อนและหลังทำทรีทเมนต์ "Growth Factor White"
ผิวดูฟูและเต่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในเรื่องความขาวใสของทรายไม่ชัดมาก
อยู่ในลักษณะของผิวที่ดูสดใสขึ้นมากกว่า ใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้น
ทรายผิวแห้งชอบตรงความชุ่มชื่นของผิวหลังทำมากกกก ถือว่าเป็นทรีทเมนต์ที่ดีตัวนึงค่ะ
น่าทำมากในช่วงที่ผิวอ่อนล้า ช่วงที่มาทำคือช่วงเที่ยวเยอะผิวเจออากาศเปลี่ยนบ่อยพอดีเลย
ทรีทเมนต์ช่วยฟื้นสภาพผิวให้ดูสดชื่นขึ้นได้หลังทำทันทีค่ะ Smiley

ทรีทเมนต์ตัวนี้สามารถทำได้เป็นประจำทุกสัปดาห์ค่ะ ถ้าทำเป็นประจำ
จะช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ (เพราะร่างกายสร้างคอลลาเจนมาซ่อมแซม) จุดด่างดำจะจางลงได้ค่ะ

(ราคาในการทำทรีทเมนต์ Growth Factor White ครั้งละ 3,000 บาท)

----------------------------------------------------

ขอบคุณพฤกษาคลินิกสำหรับประสบการณ์ในการเยี่ยมชมคลินิก
พร้อมเข้ารับบริการทรีทเมนต์ดีๆในครั้งนี้
รายละเอียดของพฤกษาคลินิกเพิ่มเติมติดตามได้ที่ลิงค์ด้านล่างเลยค่ะ

//www.pruksaclinic.com

หรือ

https://www.facebook.com/pruksaclinic

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้าด้วยนะค๊า

ขอบคุณค่ะ

----------------------------------------------------