Group Blog
 
All blogs
 

การใช้ไฮไลต์ เพิ่มเติมความกระจ่างใส




การใช้ไฮไลต์อย่างชาญฉลาดที่จะเน้นโครงหน้าให้ดูสมดุล และทำให้ผิวของคุณยิ่งสวยขึ้น

แสง..เป็นตัวช่วยที่ทำให้ใบหน้าดูผุดผ่องกระจ่างใส แต่ในเมื่อคุณไม่อาจถือดวงไฟเพื่อให้แสงส่องสว่างแก่ใบหน้าได้ตลอดเวลา เมคอัพประเภทไฮไลต์ อิลลูมิเนเตอร์ หรือชิมเมอร์ คือเครื่องมือสำคัญที่จะเป็นเสมือน ‘สปอตไลต์’ คอยส่องให้ใบหน้าของคุณดูกระจ่างใสอยู่เสมอ และมีหลากหลายหลายวิธีในการใช้ไฮไลต์อย่างชาญฉลาด เพื่อให้คุณดูสวยขึ้นโดยไม่ ‘เว่อ’

ผิว
มีหลากหลายวิธีในการเพิ่มแสงให้แก่ใบหน้า วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือ การเติมความผุดผ่องให้แก่ผิวโดยรวม โดยคุณอาจเลือกใช้เมคอัพประเภทอิลลูมิเนเตอร์ ทาให้ทั่วผิวหน้าก่อนการใช้รองพื้น หรือใช้ผสมกับรองพื้นที่คุณใช้อยู่เป็นประจำและใช้ตามปกติ อีกวิธีหนึ่งก็คือการใช้ไฮไลต์ในบางจุดของใบหน้า ที่นอกจากจะช่วยให้ใบหน้าดูผ่องขึ้นแล้ว ยังเป็นการเสริมจุดเด่นหรือพรางจุดด้อยของใบหน้า เช่น ทาไฮไลต์เนื้อครีมหรือโลชั่นเป็นรูปตัว C จากแก้มขึ้นไปหาโหนกคิ้ว มันจะช่วยให้โหนกแก้มดูเด่นขึ้น หรือคุณอาจใช้แป้งผสมชิมเมอร์และทาบริเวณจุดรับแสงของใบหน้า เช่น โหนกแก้ม จมูก เพื่อสร้างความโดดเด่นให้แก่โครงหน้าโดยรวมของคุณก็ได้

ดวงตา
ไฮไลต์จะทำให้ดวงตาโดดเด่นขึ้น วิธีการก็คือการใช้อายแชโดว์สีอ่อนทาบริเวณโหนกคิ้ว มันจะทำให้ดวงตาดูกลมโตและสดใสขึ้น อีกวิธีหนึ่งก็คือการทาชิมเมอร์สีเงินเล็กน้อยที่หัวตา มันจะทำให้ดวงตาของคุณดูเป็นประกาย และเมคอัพโดยรวมดูสดชื่นขึ้น

แก้ม
คุณสามารถใช้ได้ทั้งบลัชสีอ่อนหรือแป้งไฮไลต์ ในการเติมเสน่ห์ให้แก่พวงแก้ม โดยการทาบลัชสีที่คุณเลือกลงบนพวงแก้มตามปกติ จากนั้น ใช้บลัชสีอ่อนกว่าหรือแป้งไฮท์ทาทับลงตามแนวกระดูกโหนกแก้ม มันจะทำให้โหนแก้มของคุรดูเด่นขึ้น และเพิ่มความกระจ่างใสให้แก่ใบหน้าโยรวมอีกด้วย

ริมฝีปาก
เคล็ดลับการใช้แสงเพื่อให้เรียวปากดูอิ่มเต็มขึ้นก็คือ ทาอายแชโดว์สีขาวหรือไฮไลต์ที่บริเวณรอยหยักของเรียวปากเล็กน้อย มันจะสะท้อนแสงและทำให้ริมฝีปากดูอิ่มเต็มขึ้น

ไมต้องกลัวว่าการใช้ไฮไลต์จะทำให้ใบหน้าของคุณดูเว่อจนเกินไป คุณสามารถใช้ไฮไลต์ได้ทุกส่วนของใบหน้าในเวลาเดียวกัน หากใช้อย่างพอดี เคล็ดลับสำคัญก็คือควรแต่งหน้าในบริเวณที่มีแสงเพียงพอ เพื่อที่จะได้เห็นอย่างชัดเจนว่าไฮไลต์ที่ทาลงบนใบหน้านั้นมากจนเกินพอดีหรือเปล่า ไฮไลต์ที่มากไปจะทำให้ใบหน้าดูแบนและไร้มิติ ในขณะที่การใช้ไฮไลต์อย่างชาญฉลาดจะทำให้ใบหน้าดูมีมิติและในขณะเดียวกันก็กระจ่างใสยิ่งขึ้น คุณจึงสามารถใช้ไฮไลต์ดั้งกลางวันและกลางคืน





ที่มา ลิซ่า







 

Create Date : 14 ตุลาคม 2553    
Last Update : 14 ตุลาคม 2553 7:57:20 น.
Counter : 417 Pageviews.  

บทความ ความรักเริ่มจากความคิด




* ความรักเริ่มจากความคิด เพราะ ความคิดเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก บางที.. ความรักอาจทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงความคิดไปจากเดิม อาจทำให้คนเราต้องปรับปรุงในสิ่งที่เคยทำ เพียงเพื่อให้เข้ากับใครอีกคน


ความรักทำให้เกิดความเคารพ ศรัทธา คุณจะไม่สามารถรักใครได้ ถ้าไม่รู้สึกเชื่อมั่นเสียก่อน และคนแรกที่คุณต้องศรัทธาเชื่อมั่น ก็คือตัวเอง

ความรักคือการให้ ถ้าคุณต้องการที่จะได้ความรัก สิ่ง ที่คุณต้องทำก็คือการให้ ยิ่งให้.. คุณก็จะยิ่งได้รับสูตรลับของความสุขและทำให้มิตรภาพยืนยาวที่คุณควรจะจำเอา ไว้เสมอก็คือ อย่าถามว่าคนอื่นให้อะไรคุณบ้าง แต่ให้ถามว่าคุณทำอะไรให้คนอื่นบ้างจะดีกว่า

ในความรักมีมิตรภาพซ่อนอยู่ อยาก ได้รักแท้ ก็ต้องหาเพื่อนแท้ให้ได้เสียก่อน การจะรักกันได้ไม่ใช่แค่มองตา แต่อยู่ที่ว่า.. ต่างคนต่างมีอะไรที่ตรงกันหรือเปล่าหากจะรักใครอย่างจริงใจ คุณควรจะรักในสิ่งที่เขาเป็น ไม่ใช่แค่ภาพที่คุณเห็น มิตรภาพก็เหมือนกับปุ๋ยที่ช่วยทำให้ความรักเบ่งบานเติบโตทุก ๆ วันนั่นเอง

การสัมผัส ช่วยสานต่อความรักให้ดีขึ้น เคย รู้สึกดีใช่มั้ยเวลาที่มีใครโอบไหล่หรือกอดคุณ? การสัมผัส จึงเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งที่มีพลัง และช่วยทลายกำแพงแห่งความชิงชังไม่เข้าใจได้อีกด้วย น่าแปลกที่การสัมผัสสามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์ และท่าทีที่แข็งกร้าวให้เบาบางลงได้

อยากรักต้องรู้จักปลดปล่อย ถ้า คุณรักใครจงปล่อยให้เขาเป็นอิสระบ้างเพราะคุณเองคงรู้สึกอึดอัด ถ้ามีใครมาล่ามโซ่คุณ ดังนั้น.. จงเรียนรู้ที่จะให้อภัยและลืมอดีตที่ไม่ดี เรียนรู้ที่จะปลดปล่อยความกลัวภายในใจเรียนรู้ที่จะยุติธรรมและลดทิฐิ รวมถึงเงื่อนไขต่าง ๆ ลงบ้าง ลองบอกตัวเองว่า.. นับแต่นี้ คุณจะทิ้งความกลัวทั้งหมด แล้วอดีตจะไม่มีผลอะไรต่อตัวคุณได้.. นับจากวันนี้ไป คุณก็จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่เสียที

ชีวิตจะเปลี่ยนไป เมื่อ เราเรียนรู้ที่จะเปิดใจให้กว้างและซื่อสัตย์ต่อกัน รวมถึง คุยกับคนรักอย่างเปิดเผย และกล้าที่จะพูดถ้อยคำวิเศษว่า “ฉันรักเธอ” โดยไม่ปล่อยให้โอกาสดี ๆ หลุดลอยไป คุณควรจะบอกรักก่อนจากกันทุกครั้งเสมอ เพราะบางที นั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณจะพบกัน!

แก่นแท้ของความรัก คือการไว้ใจกัน ถ้า คุณไม่เชื่อใจกัน ใครคนหนึ่งจะรู้สึกระแวง กังวล และหวาดหวั่น ขณะที่อีกคนรู้สึกอึดอัดใจ ที่สำคัญ.. คุณไม่อาจรักใครจริง ๆ ได้ ถ้าคุณไม่ไว้ใจเขาคนนั้นอย่างแท้จริง




 

Create Date : 14 ตุลาคม 2553    
Last Update : 14 ตุลาคม 2553 7:57:06 น.
Counter : 483 Pageviews.  

ข้อควรระวัง ระหว่างกินเจ

เทศกาล ‘กินเจ’ ได้เริ่มขึ้นแล้ว วันนี้มีคำแนะนำสำหรับการกินเจให้ถูกวิธีมาเล่าสู่กันฟัง

- อย่าเลือกรับประทานแต่ผัก เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบ ควรเสริมด้วยธัญพืชหรือพืชตระกูลถั่ว เช่น เต้าหู้ เผือก มัน กลอย เมล็ดงา ลูกเดือย และลูกบัว ร่วมด้วย

- ไม่ควรบริโภคแป้งในรูปแบบต่าง ๆ มากเกินไป รวมถึงอาหารที่ผัดและทอด ทางที่ดีควรเลือกอาหารที่ผ่านการปรุงด้วยการต้ม ย่าง อบ หรือยำ

- ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มจัด จากการใช้ซีอิ๊วขาว เต้าเจี้ยว หรือเกลือแทนน้ำปลา เพราะอาจส่งผลต่อไตและเป็นความดันโลหิตสูง

- ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด เพราะส่งผลต่ออวัยวะภายใน เช่น รสขมจัดส่งผลต่อหัวใจ เค็มจัดส่งผลต่อไต หวานจัดส่งผลต่อม้าม เปรี้ยวจัดส่งผลต่อตับ และเผ็ดจัดส่งผลต่อปอด

รู้อย่างนี้แล้วปรุงรสชาติอาหารในปริมาณพอเหมาะดีที่สุด





ข้อมูล เดลินิวส์







 

Create Date : 14 ตุลาคม 2553    
Last Update : 14 ตุลาคม 2553 7:56:19 น.
Counter : 351 Pageviews.  

สูตรความสวย 5 วิธีจากของใกล้ตัว

ความงามกับผู้หญิงเป็นของคู่กัน วันนี้ วันนี้เลยหยิบสูตรความสวยใสจากวัตถุดิบใกล้ตัวมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อไว้เป็นทางเลือกสำหรับผู้หญิงที่ไม่อยากหยุดสวย

สูตรที่ 1 ว่าด้วยเรื่องของมะขามเปียก ใช้สำหรับผู้ที่มีผิวกายหยาบกระด้างหรือหม่นหมอง สวยได้ง่าย ๆ เพียงฉีกเอาเฉพาะเนื้อมะขามเปียกมาประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นชโลมผิวกายด้วยน้ำให้ทั่วแล้วใช้เนื้อมะขามเปียกขัดถูให้ทั่วตัว ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วล้างออก ผิวก็จะใสเด้งน่ามอง

หากใครผิวแห้งลองสูตร 2 กล้วยสุกบดละเอียดผสมเบบี้ออยล์เติมงาขาวเล็กน้อย สูตรนี้ใช้พอกตัวทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที จากนั้นค่อย ๆ ใช้มือถูวนตรงบริเวณที่พอก แล้วล้างออก ผิวจะชุ่มชื้นขึ้น

สูตรที่ 3 เป็นคิวของ แตงกวาและมันฝรั่ง ใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาขอบตาคล้ำ วิธีการคือฝานแตงกวาหรือมันฝรั่งบาง ๆ แล้ววางบนเปลือกตาทั้งสองข้าง ทิ้งไว้ 10-15 นาที จะช่วยให้รอบดวงตาชุ่มชื้นขึ้น

สูตรที่ 4 ดินสอพอง ช่วยกระชับรูขุมขนทำให้ใบหน้าเรียบเนียน วิธีการคือ นำดินสอพองมาผสมกับนมสดเย็น ๆ เติมน้ำผึ้งเล็กน้อย แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วจึงล้างออก

สูตรที่ 5 สำหรับสาวหน้าใส เพียงฝานมะเขือเทศเป็นแว่นบาง ๆ แล้วแปะลงทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จึงล้างออก เท่านี้ก็ใบหน้าก็จะใสอมชมพูเปล่งปลั่ง





ที่มา เดลินิวส์




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2553    
Last Update : 13 ตุลาคม 2553 10:59:37 น.
Counter : 438 Pageviews.  

เคล็ดลับขจัดรังแค

รังแคเกิดจากเซลล์ชั้นบนสุดของหนังศีรษะลอกตัวหลุดออกมา ลักษณะเป็นขุยขาวเล็ก ๆ ติดตามเส้นผม ส่วนบริเวณหนังศีรษะจะมีอาการคัน แลดูไม่สะอาดตา หนำซ้ำยังบั่นทอนบุคลิกภาพอีกด้วย วันนี้มีวิธีขจัดรังแค มาเล่าสู่กันฟัง

- สระผมให้บ่อยขึ้น จาก 2-3 วันครั้ง เป็นวันละครั้ง โดยใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของยา เช่น เซเลเนี่ยม ซัลไฟด์, ซิงค์ ไพรีตั้น หรือ คีโตโคนาโซล เป็นต้น ตัวยาเหล่านั้นจะช่วยบรรเทาอาการคันหนังศีรษะและการหลุดลอกของเซลล์ผิวหนังได้ แต่ไม่ควรใช้บ่อยเกินไป เนื่องจากมีส่วนผสมของตัวยาที่อาจทำให้ผมแห้งเสียได้

- แชมพูที่มีส่วนผสมของ เซเลเนี่ยม ซัลไฟด์ และ ซิงค์ ไพรีตั้น จะมีสารช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์หนังศีรษะ มีอยู่ในแชมพูสูตรอ่อนโยน ส่วนแชมพูที่ผสมของทาร์จะมีตัวยับยั้งการเติบโตของเซลล์

- ถ้าใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนแล้วไม่ดีขึ้น ให้ใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของคีโตโคนาโซล เป็นยาฆ่าเชื้อรา มีฤทธิ์ฆ่ายีสต์ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเกิดรังแค

- ถ้าใช้แชมพูขจัดรังแคไปสักพักแล้วเริ่มกลับมามีรังแคอีก แนะนำให้เปลี่ยนแชมพูที่มีส่วนผสมของยาขจัดรังแคชนิดอื่น หากไม่ดีขึ้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์

การขจัดรังแคให้ได้ผลต้องหมั่นดูแลความสะอาดของหนังศีรษะ และหลีกเลี่ยงการรบกวนหนังศีรษะจากการเกา





ข้อมูล เดลินิวส์




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2553    
Last Update : 13 ตุลาคม 2553 10:58:59 น.
Counter : 507 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  

Kanphicha
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ที่มาของคำว่า Kefir By รัญรักษ์
ไม่ใช่ชื่อยี่ห้อ ไม่ใช่เครื่องหมายการค้า
แต่เป็นชื่อพ่อและแม่ของกานต์เองค่ะ
เมื่อกานต์ทำบุญครั้งใด ก็จะยกกุศลทั้งหมดให้พ่อและแม่
การแจกจ่ายบัวหิมะให้คนอื่นๆ
ถือเป็นการทำบุญอีกคร้งหนึ่ง
กานต์ขอยกกุศลผลบุญทั้งหมดให้บุพการีที่เป็นที่รักของกานต์ทั้งสองท่าน โดยการตั้งชื่อท่านทั้งสองในการแจกจ่าย Kefir นะคะ
free counters
Friends' blogs
[Add Kanphicha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.