Group Blog
 
All blogs
 

จากศีรษะจดปลายเท้า บอกเล่าสุขภาพร่างกายได้

เล็บเปราะ ผมแห้ง หรือมีรอยยับย่นตรงใบหูส่วนล่าง เหล่านี้เป็นหนึ่งในอาการหลายอย่างที่พอจะบอกได้ว่าร่างกายกำลังส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับสุขภาพของคุณเข้าแล้ว

ดร.ฮอลลี ฟิลลิปส์ กล่าวในรายการ "ดิ เออร์ลี่โชว์ ออนแซทเทอร์เดย์มอร์นิง" ของโทรทัศน์ซีบีเอส นิวส์ เมื่อไม่นานนี้ว่า สัญญาณความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในร่างกายนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องให้ความสนใจกันเพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ "สำคัญอย่างเหลือเชื่อ" จึงควรจะต้องคอยตรวจดูร่างกายของตัวเอง เพื่อเป็นตัวชี้วัดและตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างอ้อมๆที่เกิดขึ้น

ดร.ฟิลลิปส์ได้ยกตัวอย่างและให้คำแนะนำว่า ควรจะต้องดูสัญญาณความเปลี่ยนแปลงในร่างกายจากศีรษะจดปลายเท้ากันอย่างไรบ้าง โดยให้ลองสังเกต

-ขนตา หากพบว่าขนตาตรงส่วนปลายๆ ร่วงหรือสั้นลง แสดงว่าฮอร์โมนไธรอยด์ต่ำ

-หนังตา ถ้ามีรอยบวมเป็นตุ่มจิ๋วๆ อยู่ในมุมข้างในตาก็ชัดแล้วล่ะว่านั่นเป็นไขมันสะสม ทั้งแน่นอนว่าเป็นสัญญาณสำคัญของการมีคอเลสเทอรอลสูง

-ดวงตา ถ้าดูแล้วเหมือนโปนขึ้น นั่นอาจเป็นสัญญาณแสดงว่ามีฮอร์โมนไธรอยด์สูงเกิน และถ้าส่วนตาขาวเริ่มเป็นสีเหลือง คุณอาจจะเป็นโรคตับ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับถุงน้ำดี แต่การกินยาบางตัวก็อาจ ทำให้เกิดปัญหาแบบนี้ได้เช่นกัน

-ผม ผมที่แห้งหรือเปราะก็เป็นตัวบ่งบอกถึงปัญหาไธรอยด์ หรือสัญญาณการขาดธาตุเหล็ก และหากเกิดอาการผมร่วงฉับพลัน บ่อยครั้งก็เป็นสัญญาณว่ากำลังเครียดเกินไป

-ใบหูส่วนล่าง ถ้ามีรอยยับย่นเป็นเส้นทแยงมุม ซึ่งก็อาจจะมองเห็นไม่ค่อยง่ายเท่าไร แต่มันอาจจะเป็นตัวส่งสัญญาณอย่างสำคัญทีเดียว เพราะจากสถิติของสถาบันสุขภาพแห่งชาติในอเมริกาพบว่ารอยยับย่นเป็นเส้นทแยงมุมที่ใบหูส่วนล่างนั้น จะเชื่อมโยงกับปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจวาย เพราะอาจจะเกิดจากการที่เกิดการอุดตันทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวกภายในร่างกาย

อาการผิดปกติของร่างกายตามอวัยวะส่วนต่างๆที่ว่ามา หากสังเกตเห็นแต่เนิ่นๆ แล้วรีบไปพบแพทย์ให้ ตรวจตามหลักวิชา อาจช่วยให้รู้เร็ว รักษาหายเร็วได้.





ที่มา : ไทยรัฐ




 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 13 กรกฎาคม 2553 4:55:54 น.
Counter : 350 Pageviews.  

เติมความสดชื่นให้ความสวย ด้วย 10 เคล็ดลับง้าย-

ร้อนกันไม่เลิกรา ถ้ากลัวว่าความสวยจะละลายไปกับความร้อน ก็อย่าลืมเติมความสดชื่นและความมีชีวิตชีวาให้กับความสวย ด้วย 10 เคล็ดลับง้าย-ง่ายต่อไปนี้


1.จิบชายามเช้า
ปลุกร่างกายคุณทุกเช้าด้วยการดื่มของดี ๆ ที่ไม่ใช่ชาหรือกาแฟแบบดั้งเดิม นั่นก็คือชาสมุนไพรที่หาซื้อได้ตามร้านจำหน่ายสินค้า เพื่อสุขภาพทั่วไป มันจะทำให้คุณสดชื่นและตื่นตัวโดยปราศจากกาเฟอีน และช่วยลดการสะสมของสารพิษในร่างกายด้วย


2.ให้ดวงตาจิบกาเฟอีน
อย่าเพียงแต่จิบกาแฟคนเดียวในยามเช้า ให้ดวงตาของคุณได้รับกาเฟอีนด้วย โดยชงกาแฟแก่ ๆ มาสักถ้วย (ไม่ต้องเติมครีมหรือน้ำตาลหรอกนะ) ทิ้งให้เย็นลงแล้วให้สำลีแผ่นชุบกาแฟวางแปะลงที่ใต้ดวงตา มันจะช่วยกำจัดรอยคล้ำและรอยบวมให้หายไปได้ เพราะกาเฟอีนมีฤทธิ์ในการทำให้หลอดเลือดหดตัว มันจึงทำให้เส้นเลือดที่ใต้ดวงตาหดตัวลงรอยคล้ำใต้ตาจึงจางลง นอกจากนี้ กาแฟยังมีฤทธิ์ในการขับน้ำออกจากร่างกาย ที่ส่งผลในการทำให้รอยบวมใต้ตาลดลงได้ด้วย


3.ใช้บริการก้อนน้ำแข็ง
การใช้ก้อนน้ำแข็งถูทั่วใบหน้าให้ความสดชื่นและช่วยลดอาการบวม นี่เป็นเคล็ดลับที่รู้กันมานานแล้ว แต่ลองเพิ่มน้ำมะนาว และน้ำมันมะกอกสักสองสามหยดลงไปในน้ำแข็งของคุณสักหน่อย กรดซิตริกจากน้ำมะนาวจะช่วยกระชับรูขุมขน ขณะที่น้ำมันมะกอกช่วยให้ความชุมชื้นแก่ผิว


4.ใช้ประโยชน์จากแรงโน้มถ่วง
ลองขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวกันสักหน่อยนะ ถ้าคุณทำเป็น ก็ลองทำท่าสะพานโค้ง ที่จะทำให้เลือดสูบฉีดมายังศีรษะและใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูสดใสมีสีเลือดขึ้น แต่ถ้าไม่ใช่นักยิมนาสติก ก็ลองนอนเอาหัวห้อยลงมาด้านข้างเตียง สักสองสามนาทีแทน


5.ผ่อนคลายผิวหน้า
อย่าปล่อยให้กาลเวลาขโมยความชุ่มชื้นจากผิวคุณ เริ่มบำรุงบำเรอผิวกันด้วยสูตรนี้ นมผง 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำร้อนคนให้ข้นเหนียว นำมามาส์กหน้าทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก จากนั้น นวดใบหน้าเบา ๆ ด้วยครีมทาผิวที่มีส่วนผสมของอะโรมาเพื่อผ่อนคลายผิว และคุณก็ได้สูดดมกลิ่นเพื่อผ่อนคลายจิตใจไปด้วย


6.สดชื่นด้วยช้อน
เทคนิคง่าย ๆ ที่ไม่ควรลืมก็คือการใช้ช้อนสเตนเลสแช่ในช่องแข็งให้เย็นเจี๊ยบ แล้วก็เอามาประคบดวงตาในตอนเช้า มันจะช่วยลดรอยบวม และรอยแดงในดวงตา และคุณก็จะดูสดใสเหมือนนอนมาอย่างเต็มอิ่ม


7.เติมความสดชื่นให้หนังศีรษะ
คนส่วนมากมักสระผมด้วยความรวดเร็ว แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถสระผมเพื่อความสดชื่นและผ่อนคลายได้ โดยเลือกแชมพูสระผมที่มีกลิ่นหอมสดชื่น ขณะสระผมก็ให้ใช้นิ้วมือนวดหนังศีรษะเบา ๆ ให้ทั่ว เพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปทั่วหนังศีรษะ และช่วยผ่อนคลายไปทั่วร่างกาย เส้นผมก็ได้รับการทำความสะอาดอย่างทั่วถึงและไม่พันกันง่าย จากนั้น ล้างแชมพูออกให้สะอาดแล้วตามด้วยครีมนวดผม เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นเพื่อปิดเกล็ดผม เส้นผมก็จะเปล่งประกายเงางาม ใช้น้ำผสมน้ำมะนาวเล็กน้อยล้างผมเป็นครั้งสุดท้ายก็จะยิ่งขึ้น

คุณควรบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึกเป็นครั้งคราว ด้วยการหาเวลาว่างในวันหยุดเพื่อทำทรีตเมนต์ผม วิธีการง่าย ๆ และดีที่สุดคือการใช้น้ำมัน คุณอาจใช้น้ำมันงา น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันมะกอก และเหยาะน้ำมันหอมระเหยเล็กน้อยเพื่อความผ่อนคลาย ทั้งเส้นผมและจิตใจของคุณ นวดเส้นผมให้ทั่วแล้วใช้ผ้าโพกศีรษะทิ้งไว้ นอนยกเท้าพาดสูง หลับตาและฟังเพลงไพเราะ ปลดปล่อยจิตใจให้เคลิบเคลื้มไปกับเสียงเพลง หรือจะทำตอนกลางคืนแล้วทิ้งไว้ถึงรุ่งเช้าค่อยสระออกก็ได้ เส้นผมจะนุ่มละมุนและมีกลิ่นหอมชื่นใจยามคุณสะบัดผมไปมา จมูกก็ได้สูดดมกลิ่นหอมไปด้วยก็จะทำให้จิตใจชื่นบานต้อนรับวันใหม่


8.ขัดผิว
การนวดร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยสครับอุ่น ๆ เป็นขั้นตอนที่เพิ่มความตื่นตัวได้ยิ่งกว่าการดื่มกระทิงแดง และดีต่อสุขภาพมากกว่าด้วย เลือกสครับแบบเกลือ ซึ่งจะมีประโยชน์ในการช่วยดูดซับของเสีย และสารพิษจากผิวได้ด้วย


9.เพิ่มระดับการเผาผลาญพลังงาน
หาเวลาหนึ่งวันที่คุณจะดื่มแต่ของเหลว จะเป็นน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้ก็ได้ และควรเพิ่มเครื่องดื่มสำหรับดีท็อกซ์เข้าไปเป็นระยะ สูตรเครื่องดื่มสำหรับดีท็อกซ์แบบง่าย ๆ ก็คือ น้ำมะนาวหนึ่งผลน้ำเชื่อมเมเปิลหนึ่งช้อนชา ผสมกับน้ำร้อนและใส่พริกป่นฝรั่งลงไปหนึ่งช้อนชา มันจะช่วยเพิ่มระดับการเผาผลาญพลังงาน และทำความสะอาดระบบร่างกายของคุณ


10.เท้าสวยและสดชื่น
เท้าต้องทำงานหนักทั้งวัน ดังนั้น เมื่อกลับถึงบ้านก็ควรแช่เท้าในน้ำอุ่น ที่เหยาะน้ำมันหอมระเหยกลิ่นโรสแมรี่ เพื่อคืนพลังวังชาหรือกลิ่นมินต์เพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดี จากนั้นก็นวดเท้าด้วยน้ำมันมะกอกอุ่น ๆ กดนวดฝ่าเท้าเบา ๆ เพื่อความผ่อนคลาย จากนั้นใส่ถุงเท้านอนเพื่อให้น้ำมันซึมเข้าผิวเท้าได้ดียิ่งขึ้น

และหลังอาบน้ำทุกวัน ก็ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวเท้าเพื่อขจัดผิวที่ตายด้านให้หลุดลอกออกไป จะช่วยให้เท้านุ่มละมุน หรือขณะอาบน้ำให้ใช้เกลือทะเลหนึ่งกำมือ ผสมกับน้ำมันมะกอกขัดเท้าเพื่อลอกเอาเซลล์ผิว ที่ตายด้านออก หรือใช้ส่วนผสมต่อไปนี้เพื่อดูแลผิวที่แห้งและตายด้าน สิ่งที่คุณต้องการคือน้ำผึ้ง 5 ช้อนโต๊ะ กับน้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ นำน้ำผึ้งใส่ถ้วยแช่ในน้ำอุ่น จากนั้น ใส่น้ำมะนาวลงไปคนให้เข้ากัน แล้วใช้ส่วนผสมนี้ ทาบริเวณที่ผิวตายด้าน เช่น เข่า หลังเท้า นิ้วเท้า และฝ่าเท้า ทิ้งไว้ 30 นาที จากนั้น ล้างออกด้วยน้ำ



ข้อมูลจาก Lisa




 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 13 กรกฎาคม 2553 4:54:58 น.
Counter : 406 Pageviews.  

เลือกเดรสให้สวยเหมาะกับรูปร่าง

สาวคนไหนกำลังมองหาเดรสสวย ๆ มาใส่ วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีเลือกเดรสให้เหมาะกับรูปร่างมาฝาก

- ต้นแขนใหญ่ : ไม่ควรเลือกใส่เดรสสายสปาเกตตี้ แขนกุด เพราะจะยิ่งโชว์จุดอ่อนให้ชัดขึ้นอีก แต่ถ้าเจอแบบที่ถูกใจจริงๆ ควรแก้ด้วยการใส่เสื้อคลุม หรือผ้าคลุมไหล่แทน ถ้าจะให้เหมาะสุดกับสาวต้นแขนใหญ่ลองเลือกชุดเดรสที่มีแขนยาวซักนิด ประมาณ 3 ส่วน ถึง 5 ส่วนจะดูดีกว่า

- สะโพกใหญ่ : ต้องเลือกชุดที่มีการตัดเย็บเข้ารูปบริเวณเอวหรือบริเวณใต้อก เพื่อดึงความสนใจจากสะโพกไซส์บิ๊ก แต่ถ้าซื้อชุดมาแล้วแต่เป็นแบบไม่เข้ารูป ลองแก้ด้วยการเอาเข็มขัดแบบยางยืดมารัดตรงเอว ก็จะช่วยเพิ่มเอวให้ดูหุ่นดีขึ้น และขอบอกว่าเนื้อผ้าที่นิ่มพลิ้ว ลื่นเป็นมันวาวจะเหมาะมากๆ

- ไหล่กว้าง : เหมาะที่จะใส่เดรสเชิ้ต หรือถ้าอยากใส่เดรสที่ดูหวานๆ ลองเลือกแบบที่โชว์คอกว้างๆ จะช่วยพรางให้ดูไหล่แคบลง หรือถ้าจะเลือกเดรสที่มีขลิบที่ขอบแขนเสื้อ ก็จะช่วยให้สาวไหล่กว้างใส่ชุดเดรสได้มั่นใจขึ้น

- หน้าอกใหญ่ : ควรเลือกเดรสคอวี คอเว้าลึก หรือคอสี่เหลี่ยม แต่ห้ามเลือกแบบคอเต่าที่ปิดขึ้นมาถึงคอ ต่อมาคือชุดชั้นในที่เหมาะกับหน้าอก เพราะชุดชั้นในที่เก็บทรงดีๆ ทำให้หน้าอกดูสวยขึ้น และควรหลีกเลี่ยงการใส่สร้อยคอ เพราะจะนำสายตาคนอื่นมองไปที่หน้าอก

- หน้าอกเล็ก : เลือกเดรสที่มีระบายใต้อก และมีระบายหรือจีบตรงอก จะช่วยเพิ่มความมั่นใจขึ้น ถ้าเป็นเดรสแบบทูโทนแบบสองสีจะดีที่สุด ที่สำคัญควรมีสร้อยคอเก๋ๆ เพิ่มความเพอร์เฟ็คให้กับชุดสวยด้วยก็จะดี

เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้ใส่เดรสได้สวยและมั่นใจเพิ่มขึ้นแล้ว.

dailynews.co.th




 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 13 กรกฎาคม 2553 4:52:50 น.
Counter : 459 Pageviews.  

ผลไม้กับคนท้อง

การกินผลไม้ทุกวันขณะตั้งท้อง เป็นสิ่งประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกน้อย วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์เรื่องนี้มาฝาก

- กินผลไม้...แก้ท้องผูก
ในช่วงตั้งท้อง คุณแม่มักมีอาการท้องผูก การกินผักผลไม้และดื่มน้ำมากๆ จะช่วยลดอาการท้องผูกได้ ซึ่งผลไม้แต่ละชนิดล้วนมีกากใยช่วยในการขับถ่าย เช่น มะละกอ มะขาม ส้ม แอปเปิ้ล ฝรั่ง กล้วยน้ำว้า ลูกพรุน องุ่น เป็นต้น

แต่หากคุณแม่ที่ถ่ายง่ายและถ่ายออกเร็ว ก็ไม่ควรกินผลไม้ที่ช่วยให้ขับถ่ายง่าย อย่างลูกพรุน มะขาม หรือมะละกอ มากเกินไป เพราะจะทำให้คุณแม่ถ่ายเยอะและส่งผลให้มดลูกบีบตัว กระตุ้นให้ลูกน้อยคลอดเร็วกว่ากำหนดได้หากเบื่อการกินผลไม้สด อาจหันมาดื่มน้ำผลไม้ หรือกินโยเกิร์ตแทน ก็จะช่วยให้ถ่ายได้ง่ายเช่นกัน แต่คุณแม่ต้องเลือกชนิดที่มีน้ำตาลน้อย เพราะจะทำให้อ้วนได้ง่าย

- กินผลไม้...ได้อะไร
วิตามินซี มีอยู่ในผลไม้แทบทุกชนิด ซึ่งวิตามินซี จะช่วยในการสร้างกระดูกและฟันของลูกน้อย ช่วยในการเผาผลาญอาหารและซ่อมแซมเนื้อเยื่อให้คุณแม่ ทั้งยังทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งด้วยกรดโฟลิก เป็นวิตามินบีที่ละลายน้ำได้ พบในผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม ซึ่งกรดโฟลิกเป็นสารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต การเจริญพันธุ์ และป้องกันความผิดปกติของเลือด

วิตามินเอ เช่น สารเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารจำเป็นที่ใช้ในการเจริญเติบโตของเซลล์ร่างกาย ความสมบูรณ์ของเซลล์ผิวหนังกระดูกและตา พบได้ในผักและผลไม้สีเหลือง เช่น แคนตาลูป มะม่วง มะละกอ ฟักทอง เป็นต้น

นอกจากนี้ ในผลไม้ยังมีสารอาหารประเภทอื่นๆ เช่น แคลเซียมที่พบได้ในฝรั่ง ธาตุเหล็ก แคลเซียมสูง และฟอสฟอรัสที่พบใน มะละกอ เป็นต้น

- ผลไม้ที่คนท้องไม่ควรกิน
การเลือกกินผลไม้จะต้องเลือกผลไม้ที่สด ล้างให้สะอาดและปอกเปลือกทุกครั้ง ไม่ควรกินผลไม้ดองหรือตากแห้ง เพราะคุณค่าทางอาหารจะลดลงไปมาโดยเฉพาะวิตามินเอ บีและซี อีกทั้งในผลไม้ดองยังมีการใส่สารบอแรกซ์ มีรสชาติเปรี้ยวหรือเผ็ดมาก หากคุณแม่กินเข้าไปจะทำให้ระคายเคืองทางเดินอาหาร อาเจียน หรือท้องเดิน ดังนั้น คุณแม่จึงควรหลีกเลี่ยงการกินผลไม้เหล่านี้

นอกจากนี้ ผลไม้ที่มีรสหวานจัด อย่างทุเรียน ลำไย น้อยหน่า มะม่วงสุก เป็นต้น คุณแม่ก็ควรกินในปริมาณน้อย เพราะน้ำตาลในผลไม้เหล่านี้จะทำให้อ้วนได้ง่ายและเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน

รู้อย่างนี้แล้ว คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรเลือกกินผลไม้ให้ถูกชนิดจะดีกว่าเพื่อประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกในครรภ์.

dailynews.co.th




 

Create Date : 12 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 12 กรกฎาคม 2553 7:54:22 น.
Counter : 2399 Pageviews.  

เตรียมรองเท้าสำหรับหน้าฝน

ช่วงนี้ก็เข้าหน้าฝนแล้ว วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีเคล็ดลับการเตรียมรองเท้าสำหรับหน้าฝนมาบอก

- คัดแยกรองเท้าเข้าตู้เก็บ บางคู่ที่แพงและไม่ทนน้ำ อย่างพวกหนังกลับ หรือหนังแพงๆ ควรอดใจเก็บเข้าตู้ไปก่อนหลังหน้าฝนค่อยนำออกมาใส่

- ควรมีรองเท้าที่ใส่ประจำสลับมากกว่า 1 คู่ เพราะรองเท้าที่เปียกชื้นต้องรอให้แห้งสนิทซะก่อนถึงจะนำมาใส่อีกครั้ง ถ้าใส่คู่เดิมๆที่เปียกไปตลอด จะทำให้มีกลิ่นเท้า และอาจจะเป็นโรคเชื้อราที่เท้า

- ซ่อมแซมให้ใช้การได้ดี รองเท้าคู่เก่งที่เริ่มไม่สมประกอบ ควรรีบเอาไปซ่อม

- รองเท้าแฟชั่นควรเอาไปเย็บ เพราะปกติรองเท้าแฟชั่นจะใช้กาวยาง ซึ่งจะเสื่อมสภาพเร็ว เพราะฉะนั้นควรนำรองเท้าไปเย็บให้เรียบร้อย เพื่อให้สามารถทนต่อการลุยน้ำได้ดีมากขึ้น

- ลุยน้ำมาให้ใช้กระดาษซับ ม้วนกระดาษเหลือใช้ อย่างพวกหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสาร ปั้นเป็นก้อนกลมๆ ใส่เข้าไปในรองเท้าเพื่อช่วยซับน้ำให้ออกจากรองเท้าได้เร็วขึ้น แต่ไม่ควรใช้กระดาษทิชชู่เพราะจะทำให้ทิ้งรอยขาวๆของกระดาษเอาไว้ แต่ถ้าเป็นผ้าใบสีขาวเป็นทิชชูขาวจะดีกว่า

- ดูแลรองเท้าหนังเปียก อย่างแรกให้ซับน้ำออกก่อน จากนั้นผึ่งรองเท้าในที่แห้ง และมีอากาศถ่ายเท ไม่ควรให้รองเท้าเจอแดดตรงๆเพราะจะทำให้หนังกรอบ ใส่ไม่นิ่มสบายเหมือนเดิม

- ลดกลิ่นอับชื้น ใช้ถ่านหุงข้าวที่เป็นก้อน หรือ เม็ดที่มีถุงเก็บความชื้นจะช่วยได้ ที่สำคัญอย่าเอารองเท้าที่ยังไม่แห้งสนิทใส่ในตู้เด็ดขาด

รู้อย่างนี้แล้ว ลองนำวิธีที่แนะนำไปเตรียมรองเท้าไว้ใส่สำหรับหน้าฝนกันดูได้.


dailynews.co.th




 

Create Date : 12 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 12 กรกฎาคม 2553 7:54:17 น.
Counter : 451 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  

Kanphicha
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ที่มาของคำว่า Kefir By รัญรักษ์
ไม่ใช่ชื่อยี่ห้อ ไม่ใช่เครื่องหมายการค้า
แต่เป็นชื่อพ่อและแม่ของกานต์เองค่ะ
เมื่อกานต์ทำบุญครั้งใด ก็จะยกกุศลทั้งหมดให้พ่อและแม่
การแจกจ่ายบัวหิมะให้คนอื่นๆ
ถือเป็นการทำบุญอีกคร้งหนึ่ง
กานต์ขอยกกุศลผลบุญทั้งหมดให้บุพการีที่เป็นที่รักของกานต์ทั้งสองท่าน โดยการตั้งชื่อท่านทั้งสองในการแจกจ่าย Kefir นะคะ
free counters
Friends' blogs
[Add Kanphicha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.