Group Blog
 
All blogs
 
จูบ ใครคิดว่าไม่สำคัญ

จูบใครคิดว่าไม่สำคัญ เพราะว่าการจูบ นอกจากจะเป็นการแสดงความสัมพันธ์ของผู้ชายและผู้หญิงแล้ว ใครจะไปรู้ว่าการจูบนั้นส่งผลดีต่อสุขภาพได้ด้วยแถมหากจูบสักประมาณ 3 นาที ยังช่วยเรื่องระบบของการเผาผลาญพลังงานในร่างกายของเรา ได้ ประมาณ 12 แคลอรี่ อีกด้วย

ที่ต่างประเทศให้ความสำคัญกับ การจูบ มากค่ะ ถึงขั้นมีวันจูบนานาชาติ ด้วยซึ่งก็ได้มีการกำหนดให้ทุกวันที่ 6 กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันจูบนานาชาตินั่นเอง แหม! แสดงว่าการจูบนี่ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ ซะด้วย วีซ่าเลยนำข้อดีของการจูบ มาบอกคุณผู้หญิง แฟนๆ Ladyvisa กันค่ะ ว่า จูบ นั้นมีประโยชน์หรือให้ผลดีอย่างไรกับเราบ้าง…
ประโยชน์ของ จูบ

1. จูบแล้วมีความสุข เวลาที่คุณผู้หญิงจูบกับชายหนุ่มหรือคนที่เรารักแล้ว จะช่วยกระตุ้นร่างกายนั้นหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขออกมาด้วยค่ะ ซึ่งมีผลทำให้ความดันในร่างกายเรานั้นเป็นปกติดี

2. ช่ววยกระตุ้นให้เลือดลมในร่างกายและลมหายใจนั้นสูบฉีดแอคทีฟมากขึ้น เพราะขณะที่มีการจูบการนั้นหัวใจเราจะเต้า 60 ครั้ง / นาที

3. การจูบเปรียบเสมือนกับการได้รับวัคซีนป้องกันโรค เนื่องจากขระที่เราจูบกันนั้น เชื้อจุลลินทรีย์ในช่องปากนั้นจะแพร่ไปยังคนที่เราจูบด้วยซึ่ง ร่างกายคนที่เราได้จูบด้วยนั้นก็จะสรางภูมิคุ้มกันขึ้นมาด้วย

4.จูบแล้วช่วยผิวหน้าให้กระชับเต่งตึงขึ้น
เพราะว่า ตอนที่เราจูบนั้น จะช่วยในการบรหารกล้ามเนื้อในส่วนของ ใบหน้า ซึ่งได้แก่ ใบหน้า แก้ม และ คาง นั้น เกิดการกระชับและแต่งตึงขึ้นมากทีเดียว

แต่ถึงอย่างไร การจูบนั้น ไม่ใช่วัฒนธรรมที่สามารถแสดงออกได้อย่างเปิดเผยในที่โล่งแจ้ง หรือ ที่สาธารณะ ในบ้านเราได้ซะทีเดียวนะคะ แต่ถ้าอยู่เมืองนอกนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ทั้งนี้ก็เป็นเรื่องของวัฒนธรรมที่ต่างกันนั่นเองค่ะ ดังนั้นคุณผู้หญิงแฟนๆ เลดี้วีซ่าจะจูบใคร ก็ควรดูความเหมาะสมด้วยแล้วกันนะคะ สุดท้ายนี้วีซ่าฝากถึงการจูบไว้นิดนึงค่ะ ถึงแม้ว่า การจูบจะมีข้อดีมากมาย ก็มีเรื่องที่ต้องระวังสำหรับการจูบด้วยนะคะ นั่นก็คือเรื่องของเรื่องโรคในช่องปากที่สามารถติดต่อกันได้ ซึ่งนั่นก็คือโรคเริมนั่นเองค่ะ ถ้าเป็นโรคเริมก็ไม่ควรไปจูบกะใครนะคะ ไม่อย่างนั้นอาจเชื้อโรคจะติดต่อไปสู่คนที่คุณนั้นจูบด้วยได้





ที่มา : เลดี้วีซ่า







Create Date : 23 มิถุนายน 2553
Last Update : 23 มิถุนายน 2553 4:53:50 น. 1 comments
Counter : 453 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ

อืมมมม เป็นยาชะลอความแก่เลยนะนั่น

ฮาๆๆ

แวะมาทักทายค่ะ


โดย: LoveTurJang วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:8:10:54 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Kanphicha
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ที่มาของคำว่า Kefir By รัญรักษ์
ไม่ใช่ชื่อยี่ห้อ ไม่ใช่เครื่องหมายการค้า
แต่เป็นชื่อพ่อและแม่ของกานต์เองค่ะ
เมื่อกานต์ทำบุญครั้งใด ก็จะยกกุศลทั้งหมดให้พ่อและแม่
การแจกจ่ายบัวหิมะให้คนอื่นๆ
ถือเป็นการทำบุญอีกคร้งหนึ่ง
กานต์ขอยกกุศลผลบุญทั้งหมดให้บุพการีที่เป็นที่รักของกานต์ทั้งสองท่าน โดยการตั้งชื่อท่านทั้งสองในการแจกจ่าย Kefir นะคะ
free counters
Friends' blogs
[Add Kanphicha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.