Group Blog
 
All blogs
 

ทางออก



สำหรับคนบางคน ชีวิตเป็นเรื่องสวยงาม เหมือนผีเสื้อและดอกไม้
มีฝนตก มีพายุแรงบ้างเป็นบางเวลา
แต่พรุ่งนี้ก็อาจจะมีฟ้าใส แดดส่อง
สิ่งนั้นคือความหวัง

แต่สำหรับคนบางคน ชีวิตเป็นอุโมงค์ดำมืด มีแสงสว่างริบหรี่ปลายทาง
ในบางวัน สายตาก็อ่อนล้าจนมองไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์

จะมีเลนส์ชนิดใดที่จะทำให้คนบางคนมีความหวังถึงวันพรุ่งนี้อีกครั้ง
มองเห็นสิ่งสวยงามรอบตัวได้อีก
แม้ว่าสิ่งที่เป็นอยู่จะหนักหนาสาหัสเพียงใด

Every cloud has a silver lining.
ขอเพียงเชื่อมั่นว่าในความมืดมนจะยังมีแสงงดงามในบางด้านซุกซ่อนอยู่เสมอ

สำหรับคนบางคนที่ผ่านพ้นวันนี้และคืนนี้ไปได้
หวั่นใจเหลือเกินว่ามือของเราอาจจะไม่ได้แข็งแรงพอ สำหรับวันข้างหน้า
แต่เราทำได้มากที่สุดเท่าที่เพื่อนมนุษย์จะอาทรต่อกันแล้ว




 

Create Date : 19 สิงหาคม 2550    
Last Update : 19 สิงหาคม 2550 1:59:58 น.
Counter : 900 Pageviews.  

เต่าต้วมเตี้ยม... และวีรกรรมของเรา




ก่อนอื่นขอบอกว่าเด็ก สตรีมีครรภ์ และคนใจอ่อนไม่ควรอ่าน

เนื่องจากอยู่ดีๆก็นึกถึงเต่าสมัยเรียนหนังสือขึ้นมา
หลายๆอย่างทำให้เราล้มเลิกความคิดที่จะเรียนอะไรที่ต้องใช้สัตว์ทดลอง

ขอละไว้ไม่พูดถึงหนูทดลอง
ที่หลังจากเรานั่งคิดสิบตลบว่าจะโดดเรียนดีไหมในแล็บแรก
แล้วก็ได้คิดว่าก็คงต้องโดดทั้งเทอมนั่นแหละ ถ้าจะหนีเจ้าสัตว์ตัวเล็กๆที่เราขยะแขยงนั่น (แต่เดี๋ยวนี้เฉยๆ)

ไม่พูดถึงกบ กระต่าย ...

แต่ขอพูดถึงเต่าที่จำฝังใจ



มีการทดลองอยู่สองครั้งที่ต้องใช้หัวใจเต่า เพื่อทดสอบยากับหัวใจที่ยังติดอยู่กับตัวสัตว์ทดลอง
พาร์ทเนอร์แล็บมีอยู่ด้วยกันกลุ่มละ 4 คน เป็นผู้ชาย 1 คน ที่แน่นอนว่าต้องเป็นคนฆ่าเต่า

เริ่มจากการยื่นไขควงให้เต่ากัด เพื่อดึงหัวเต่าออกมาจากกระดอง
ผูกขา ผูกหัวไว้บนกระดานที่เรียกว่า turtle board
แล้วก็ pith ทำลายเส้นประสาทที่คอเต่าโดยใช้ไขควงตอกลงไป

จากนั้น (เชื่อว่า) เต่าจะไม่เจ็บ แต่ไม่ตาย

เลื่อยกระดองเต่าออกโดยใช้ปังตอที่เป็นฟันเลื่อย เลื่อยด้านข้าง
บางกลุ่มใช้สว่านไฟฟ้าเจาะกระดองตรงอกให้หลุดออกมาเป็นวงกลม เพื่อให้เห็นหัวใจ
แต่เราและเพื่อนมองหน้ากันแล้วตกลงกันว่า ก้มหน้าก้มตาเลื่อยไปเถอะ
สว่านไฟฟ้าดูโหดเกินไป
และกลิ่นกระดองที่โดนความร้อนจากสว่านนั่นน่ากลัวเกินไป


หลังจากเพื่อนผู้ชายเลื่อยจนเหงื่อหยด ก็พลาดเลื่อยเอานิ้วตัวเองเลือดไหล
เราก็เลยบอกเสียงอ่อยว่า เราช่วย...
ไม่ทันถึง 5 นาที เวรกรรมก็ตามสนองเลื่อยเอานิ้วตัวเองเข้าบ้าง

แต่แปะพลาสเตอร์ยาแล้วก็ต้องทำต่อไป

วันนั้นพวกเราทดลองยาโรคหัวใจอย่างระมัดระวัง เพราะไม่อยากฆ่าเต่าเป็นตัวที่สอง
ไม่รู้หรอกว่าหัวใจเต่าทนทานแค่ไหน

จนหกโมงเย็น แล็บเสร็จแล้ว หัวใจเต่าก็ยังเต้นตุ๊บๆอยู่
ทุกคนมองหน้ากัน
จะทิ้งลงในถุงพลาสติกทั้งที่หัวใจยังเต้นแบบนี้เหรอ
ในที่สุดเราก็ตกลงกันหยดยาลงไปแบบเกินขนาด (overdose) เพื่อยุติการทำงานของหัวใจ


หัวใจเต่าหยุดเต้นลงก่อนที่เราจะเอาใส่ถุงไปทิ้ง
ทุกคนเดินกลับบ้านแบบกร่อยๆ
ไม่มีใครพูดอะไร นอกจาก "ไปละนะ"
เราน้ำตาซึม
ขออโหสิกรรมเถอะนะ เจ้าเต่า



เพราะหลังจากเต่าตัวสุดท้ายที่บาดเจ็บเพราะเรา
เราก็เลิกตกปลาเด็ดขาด
ทั้งที่ตอนเด็กๆ ที่บ้านห้ามยิงนก ตกปลา ฆ่าสัตว์
แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งตอนเรียนปีหนึ่งที่เราคะนอง หย่อนเบ็ดลงไปในคู
แล้วดึงขึ้นมาไม่ได้ ทำไมมันหนักจัง สงสัยรองเท้า
แต่เปล่า เต่าตัวเบ้อเริ่ม เบ็ดขาดติดปากเต่าไป
กร่อยสุดๆ นอนไม่หลับ และเลิกจับเบ็ดเด็ดขาด

ไม่นึกว่าต้องมาเจอฆ่าเต่าในแล็บอีก

เราคิดว่าตอนนี้คงไม่มีแล็บแบบนั้นแล้วมั้ง
คงเป็นแค่ดูวิดีโอสาธิต


หลังจากนั้น ถ้าเจอเต่าต้วมเตี้ยมอยู่บนถนนหรือทางเดิน
เราต้องพยายามเอามันกลับไปไว้ใกล้ๆคูน้ำ
เป็นการไถ่บาป
กลัวใครจับมันไปกิน


บางทีก็เจอตัวเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง
ก็ต้องเสียเวลาจับไปปล่อยใกล้ๆแหล่งน้ำทั้งนั้น

หนที่เด็ดสุดก็คือ เจอตัวเท่าฝ่ามือบนถนนคอนกรีต
วันนั้นรีบ ก็เลยกะว่าจะแวะ 7-11s ใกล้บ้าน ซื้ออะไรสักอย่าง เพื่อจะเอาถุงใส่เต่าไปปล่อยที่อ่างน้ำใกล้ที่ทำงาน
ดันเจอคนรู้จักที่ที่ทำงาน แต่อยู่คนละชั้น
ปกติเราจะสวัสดี แต่วันนั้นเราไขว้มือไปข้างหลังโดยอัตโนมัติ แล้วยิ้มทักเขาแบบกร่อยๆ
ขี้เกียจอธิบาย เดี๋ยวคนทั้งเซเว่นจะหันมาดู

อีกครั้งก็ตอนที่น้าขับรถอยู่ แล้วก็เบรค เพราะเจ้าเต่าต้วมเตี้ยมคลานข้ามถนนพอดี
แล้วทั้งน้า ทั้งแม่ก็กลัวรถคันหลังทับมัน เพราะมันคงคลานอีกนานน่ะแหละ
ดีที่เป็นถนนนอกเมือง นานๆมีรถมาที

เป็นเราละสิที่ต้องวิ่งไปอุ้มมันขึ้นมา
"เอามันไปไว้ที่ลำธารทีสิลูก"


แต่แถวนั้นจอดรถตรงไหล่ทางไม่ได้ เดี๋ยวคุณโปลิศมาจับ ไม่ใช่เมืองไทย
น้าก็เลยต้องขับเลยไปอีกราวๆสองร้อยเมตร
แล้วให้หลานอุ้มเต่าไปปล่อยที่ลำธาร ก่อนหน้าจะเจอเจ้าเต่า

เราวิ่งไปก็ขำไป ดูไม่จืดเลย อุ้มเต่า วิ่งไปปล่อยเนี่ยนะ

สักพักความขำก็แทนที่ด้วยความเหนื่อย
พอปล่อยเต่าลงลำธารเสร็จ ก็วิ่งกลับมาแบบซี่โครงรวน พูดไม่ออก

น้ากับแม่เห็นก็หัวเราะ น้าบอกว่า "โถลูก เหนื่อยเหรอ"
เราเกือบจะค้อน คุณนายสองคนนั่งรอเฉยๆนี่คะ
คนวิ่งน่ะดิฉันค่ะ
"ไม่เดินมาล่ะลูก"
อ้าว! ก็กลัวตำรวจผ่านมาเรียก เพราะไม่รู้ว่าทางเบี่ยงๆที่น้าจอดน่ะจอดได้นานแค่ไหน

แต่ก็เอาเถอะ เรามีเวรกรรมต่อกันมา
อะไรที่ทำเพื่อเต่าได้ ก็ต้องทำเพื่อความสบายใจ
เพราะเรารู้ว่า ทั้งสามคน แม่ น้า หลาน คงไม่สบายใจถ้าปล่อยเจ้าเต่าตัวนั้นคลานอยู่บนถนน
มันอาจไม่โชคดีแบบครั้งนี้ ถ้ารถคันหลังหลบไม่ทัน
เหนื่อยหน่อย แต่นอนหลับสบายใจ ช่างเถอะ




 

Create Date : 14 สิงหาคม 2550    
Last Update : 14 สิงหาคม 2550 0:03:09 น.
Counter : 1258 Pageviews.  

ตกลงคุณเป็นใคร








เคยไหมคะที่เจอเหตุการณ์ดีๆ แต่เราไม่มีโอกาสได้รู้จักคนคนนั้น
และยังนึกถึงอยู่ทุกวันนี้ว่าเขาเป็นใคร


พอดีวันนี้เปิดมาเจอเพลงสาวน้อยของฟรีเบิร์ดส์ เก่าแสนเก่า
ก็เลยนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นขึ้นมา

เรื่องของเรื่องเกิดขึ้นนานมาแล้ว น่าจะเป็นตอนที่เราเรียนปีสุดท้าย
เพิ่งย้ายบ้านใหม่ และทุกวันที่กลับบ้านค่ำ พ่อต้องออกมารับ
วันหนึ่งเราไม่เห็นพ่อออกมารับก็เลยตัดสินใจเดินกลับบ้าน
ฟ้าเริ่มมืด ไม่มีใครสักคนเดินผ่านไปมา
ในใจเริ่มกลัว...

สักพักก็มีจักรยานคันหนึ่งขี่ตามหลังมา
ผู้ชายน่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเรา หรือแก่กว่าก็ไม่น่าเกิน 3-4 ปี
เราไม่เห็นหน้าเพราะวันนั้นมืดมาก
บรรยากาศก็น่ากลัว


ผู้ชายคนนั้นบอกเราว่า "ขึ้นมาสิครับ ผมจะไปส่งให้"
น้ำเสียงสุภาพ ท่าทางสุภาพเกินกว่าจะคิดว่าเป็นจิ๊กโก๋ในซอย
เราพยายามเพ่งมอง แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร
แต่ก็ตอบอย่างนุ่มนวลว่า "ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ"

"บ้านหลังนั้นใช่ไหมครับ" เขาชี้มือไปทางบ้านเรา
"ทำไมวันนี้คุณพ่อไม่มารับล่ะครับ"
อ้าว... รู้อีกว่าพ่อเรามารับทุกวันถ้ามืด

"ถ้างั้น ผมขี่ไปเป็นเพื่อนแล้วกัน มันมืดแล้ว"
เขาพูด แล้วก็เดินจูงจักรยานตามมา เมื่อเห็นว่าเราไม่กล้าซ้อนท้ายจักรยานเขา
เรากลัวก็กลัว แต่ก็คิดว่ายังไงเขาก็ดูเป็นมิตรและสุภาพ

"ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ให้ผมเดินไปเป็นเพื่อนเถอะ"
เราเงียบ ไม่ตอบอะไร ได้แต่เดินก้าวยาวๆตามนิสัย

สักพักเขาก็มองไปข้างหน้า "คุณพ่อมาแล้วละครับ
ถ้าอย่างนั้นผมส่งแค่นี้แล้วกันนะ"
เขายืนรออยู่จนแน่ใจว่าเป็นพ่อเรา แล้วจึงเลี้ยวรถกลับไปทางเดิม
เราได้แต่พึมพำขอบคุณ


พ่อบอกว่า รถสตาร์ทไม่ติดก็เลยเดินมาช้า
เราโล่งใจที่พ่อมา "เมื่อกี้ใครที่ไหนน่ะลูก"
เราบอกพ่อว่าเราไม่รู้จัก แต่เขาเดินมาเป็นเพื่อน
เขารู้จักพ่อด้วย
พ่อบอกว่าคงหลานๆของเพื่อนพ่อมั้ง
เพราะละแวกนั้นมีญาติของเพื่อนพ่ออยู่หลายบ้าน
แต่เราบอกว่าไม่ใช่ เพราะไม่ใช่บรรดาหนุ่มๆเหล่านั้นสักคน
ท่าทางเขานิ่งกว่าบรรดาหลานๆของคุณอาที่เรารู้จัก

เราไม่เคยเจอผู้ชายคนนั้นอีกเลย
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร
และเราก็กลัวเกินกว่าจะถามไถ่ชื่อเสียงเรียงนาม

เคยเล่าให้เพื่อนฟัง
เพื่อนตัวดีบอกว่า เป็นไปได้ไหมว่าเขาไม่ใช่คน
เพราะไม่งั้นเราต้องเจอเขาอีกสิ ถ้าเขาอยู่แถวนั้น


แหม ไอเดียบรรเจิดเหลือเกิน





 

Create Date : 05 สิงหาคม 2550    
Last Update : 2 มีนาคม 2551 22:00:12 น.
Counter : 908 Pageviews.  

หุ่นกระป๋อง






ถ้าหากคนเรารักใครแล้วต้องแปรสภาพเป็นหุ่นกระป๋อง ซ้ายหัน ขวาหัน เราจะยังยินดีเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า

หลายๆครั้งที่เราไม่รู้ตัวว่า ถ้าหากเราไม่เป็นตัวของตัวเอง
ไม่รัก นับถือตัวเอง ไม่เห็นคุณค่าตัวเอง
คนที่อยู่กับเราก็ยากที่จะรักและเห็นคุณค่าของตัวเราได้

หลายๆคนยอมเปลี่ยนตัวเองทุกอย่าง
ยอมเพื่อที่จะได้ความรักตอบแทนมาบ้าง
แต่ความจริงก็คือ มันอาจช่วยได้เพียงเล็กน้อย หรือชั่วครู่ยาม
และเมื่อเหนื่อยล้าเกินกว่าจะพยายามเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เป็น
ความเนือย และขาดชีวิตชีวานั้นก็ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกได้
ในที่สุดก็จบลงด้วยความรู้สึกว่าพยายามแล้ว ทำไมอีกฝ่ายไม่เห็น

ไม่อยากเห็นความรัก ความหลง กลืนกินชีวิตใครจนกลายเป็นหุ่นกระป๋อง








 

Create Date : 21 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 2 มีนาคม 2551 21:58:00 น.
Counter : 957 Pageviews.  

คุณครู...สิ่งดีในชีวิต





แด่... คุณครูทุกคนในชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่... ครูคนแรก
คุณครูทุกคนในโรงเรียน... ในมหาวิทยาลัย
ใครๆที่สอนเราโดยตรงและโดยอ้อมจากการกระทำ... ทั้งดีและไม่ดี
ทำให้เราเลือกปฏิบัติได้
คุณครูที่เป็น wind beneath my wings
คุณครูที่คิดว่าตัวเองเป็น stepping stones

ในความคิดของเรา ครูไม่ใช่เรือจ้าง ไม่ใช่กระดาษทราย ไม่ใช่ขั้นบันไดสู่ความสำเร็จ
แต่ครูคือครู...


คงไม่มีอะไรที่ตอบแทนและรำลึกถึงท่านเหล่านั้นได้มากกว่า
ทำในสิ่งที่ดี อย่างที่ครูที่ดีของเราทำมาแล้ว






 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 13 กรกฎาคม 2550 1:37:58 น.
Counter : 1162 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  

HoneyLemonSoda
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




เพราะทุกวันที่ตื่นขึ้นมา
คือของขวัญที่กาลเวลามอบให้
Friends' blogs
[Add HoneyLemonSoda's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.