วันหนึ่งขณะที่กำลังแต่งตัวเตรียมไปทำงานก็ได้ยินเสียงเพลงที่ทำให้เรายิ้มออกมาทันทีเพลงบ้าของคาราบาว ที่ทำให้เรามองเห็นคนบ้าผู้มีความสุขหลังรั้วโรงพยาบาลนั่งยองๆกินขนมห่อ มองผู้คน รถราไปมาและมองเห็นหญิงสาวกำลังเปลี่ยนยางที่แตก หญิงสาวลนลานเตะน็อตตกลงท่อไป เพราะมีคนบ้ามาจ้องมองยิ้มไปยิ้มมา ความกลัวกลายเป็นความโกรธ ตวาดแว้ด "ยิ้มทำไม ไอ้คนบ้า!!!"ก็น่าให้โมโหอยู่หรอก คนบ้าบอกว่า เขาเป็นคนบ้า เพราะสติไม่ดี แต่เขาไม่ใช่คนไม่ดีบอกให้เธอใจเย็นๆ แล้วถอดน็อตที่ล้ออื่นมาใส่หญิงสาวแปลกใจ ก็ไหนว่าเป็นคนบ้าไงล่ะ"ถึงจะบ้าแต่ว่าไม่โง่" ประโยคนี้ทำให้เราหัวเราะ คิดถึงคนบ้าสองสามคนที่เราเคยพบเจอคนแรกเป็นเด็กที่น่าจะอายุใกล้เคียงเรา สมัยที่ยังเรียนหนังสือเขาเดินไปเดินมา น่ากลัวเวลาเดินมาขอตังค์"พี่... ขอตังค์" กรุณาลากเสียงยาวๆจะได้อารมณ์ประมาณเด็กคนนั้นถ้าได้ เขาก็จะเอาไปซื้อเบียร์ เมา เดินเป๋ไปเป๋มามีคนบอกว่าเขาชอบเที่ยวไล่คว้าสาวๆ เป็นที่ขยาดของผู้คนละแวกนั้นแต่กับเราและน้องสาว เวลาเดินไปโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยแล้วเจออู๊ด ก็จะทำหน้าโหด เสียงเขียว"ไปเลยอู๊ด กลับบ้านเดี๋ยวนี้!!!" (บ้านอู๊ดอยู่ไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน) เจ้าอู๊ดก็จะวิ่งลนลานจากไปไม่มาตอแยด้วยนานจนเราลืมไป ว่าไม่ค่อยเห็นอู๊ดอีกบางครั้งก็ได้ข่าวว่าโดนรถชน แต่ก็ทนทายาด รอดมาได้จนหลังสุดอู๊ดก็คงหมดเวรกรรมไปจริงๆ และเราก็ไม่ได้เห็นเขาอีกเลยคนที่สองเป็นคนบ้าที่ตลาด วันหนึ่งฝนตกหนัก ผู้คนเข้าคิวโทรศัพท์กลับบ้าน เพราะยังไม่มีมือถือแพร่หลายเราเพิ่งกลับจากเรียนหนังสือก็โทรเข้าบ้านให้พ่อมารับมีคนบ้าคนหนึ่งมายืนทำมือฮัลโหลอยู่ข้างๆผู้คนที่มาโทรศัพท์ลอยหน้าลอยตา แล้วทำท่าล้อเลียนเรากลัวก็กลัว เพราะไม่ใช่คนบ้าที่เคยคุ้นหน้าพอถึงตาเราโทรศัพท์ เจ้าคนบ้านั่นก็ตั้งท่าจะทำท่าโทรศัพท์ล้อเลียนอีกเราหันไปจ้องเขา ประกายโหดจากดวงตาเราที่จ้องหน้าเจ้าคนบ้าเขม็งก็ทำให้เขาคอตกก้มหน้างุด หลบไปจากตรงนั้นทันทีเราแทบหัวเราะออกมาขำก็ขำเออ เราน่ากลัวกว่าคนบ้าอีกแฮะ คนที่สามเป็นผู้หญิง เราเจอเธอนอนอ่านหนังสืออยู่ที่ศาลารอรถแต่เธออ่านหนังสือภาษาอังกฤษกลับหัว บางที่เราก็เจอเธอแต่งตัวสวยรัดกุมเหมือนจะเดินทางแต่ยืนเกาะป้ายรถเมล์พูดพึมพำคนเดียวนานที่เราไม่เจอเธออีกมีคนเล่าว่าเธอรอสามีมารับ แต่ก็ไม่มาเสียทีวันหนึ่งเราผ่านหน้าตลาด เห็นเธอนั่งอยู่กับกระจาดดอกไม้เหี่ยวๆวินาทีที่เราผ่านไป เธอก็เงยหน้ามาสบตาแววตาระลึกรู้เหมือนเจอเพื่อนเก่าแล้วก็มองตามรถเราจนลับตาเวลาผ่านแถวนั้น จะเจอเธอประแป้งลายพร้อยนั่งอยู่เป็นประจำ บางทีก็นอนหลับเค้เก้อยู่ข้างกระจาดดอกไม้แต่แต่งตัวสะอาดสะอ้านแบบมีคนคอยดูแลเธอจะมองเราแบบจำได้ทุกครั้งบางวันก็เจอเธอเดินกระเดียดกระจาดขายดอกไม้ไปตามทางแต่ก็ไม่เคยเจอกันจังๆ ตัวต่อตัววันหนึ่งเรากำลังเดินเลี้ยวเข้าปากซอยจะเข้าบ้าน เธอเดินอยู่อีกฟากถนนพอเห็นเธอก็ดีใจเหมือนเจอเพื่อนเก่าวิ่งข้ามถนนมา สีหน้าดีอกดีใจ ปราดเข้ามาประชิดตัวแล้วหยิบมาลัยมะลิหอมกรุ่นขึ้นมายื่นให้ตรงหน้า "สามพวงยี่สิบ" เธอบอก ยิ้มอายๆเหมือนเด็กราวกับรู้ว่าเราชอบมะลิ แต่ไม่ชอบดาวเรืองที่มีอยู่เต็มตะกร้านั้นเราซื้อมาลัยเธอแล้วก็เดินกลับบ้านแม่ถามว่าไปซื้อมาลัยจากไหน ทำไมมันดูช้ำๆคงเห็นว่าต่างจากมาลัยที่เราเคยเลือกมาตามปกติเราบอกแม่ว่าซื้อมาจากผู้หญิงที่ชอบอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ที่ตอนนี้มาขายดอกไม้แม่ก็นิ่งไป แล้วบอกว่าดีแล้วลูก สงสารเขาอยากรู้จัง ว่าคนเหล่านี้เขาคิดอะไรนะสมัยเรียนหนังสือ เรายังอมยิ้มเวลาอาจารย์บอกว่าสำหรับคนบ้า "1+1 = 3"แต่คนที่เป็นโรคประสาท "1+1 = 2 ...แต่ทำไมมันได้ 2 ฟะ??!!" ในโลกของเขาเป็นสีอะไร เขาคิดอะไรอยู่นะ
ดีคับ อิอิ
ชอบเพลงนี้เหมื่อนกันคับ
โดนใจดีคับ.......
บ้าแต่ว่าไม่โง ..อิอิ