บ่ายสี่โมงครึ่ง หมอประจำตัวบอกมาทางโทรศัพท์ว่าหนูมาถึงโรงพยาบาลสักหกโมงเย็น ทันไหมครับเรารับคำ เพราะหมอบอกก่อนหน้านั้นหนึ่งเดือนแล้วว่าจะตรวจเนื้อเยื่อหนูคงต้องหาใครมารับหนูกลับบ้านด้วย เพราะหมอคงต้องให้ยานอนหลับ ไม่งั้นหนูจะเกร็งและเจ็บมากเราเริ่มอึ้ง เจ็บเหรอ ทำไมหมอเพิ่งมาบอกล่ะ...ในที่สุดก็ตกลงกันว่าเราจะต้องนอนโรงพยาบาลหนึ่งคืนหลังจากตื่นจากยานอนหลับเพราะหมอไม่อยากให้เรากลับเองแบบสลึมสลือตอนดึกหลังจากการแอดมิทแบบเร่งด่วน สารพัดการเซ็นเอกสารผ่านไปไม่มีห้องเดี่ยว มีแต่ห้องสวีท คืนละเกือบเจ็ดพันบาทขอเก็บตังค์ไว้ไปเที่ยวดีกว่า นอนห้องรวมก็ได้ แค่คืนเดียวเองพี่ที่ทำงานบอกว่า จะอยู่รอเป็นเพื่อน แต่เราปฏิเสธว่าไม่เป็นไร เพราะเดี๋ยวพยาบาลคงให้ยานอนหลับแล้วน้องสาวออกมาจากที่ทำงานมาถึงไล่หลังเราเพียง 15 นาที มาเก็บสมบัติ แหวน สร้อย นาฬิกา ทิ้งกระเป๋าสตางค์กับมือถือไว้ให้ แต่ก็ต้องฝากโรงพยาบาล เพราะเราบอกน้องว่าอย่าเฝ้าเลย ไม่สะดวก เพราะเป็นห้องรวมแถมวันรุ่งขึ้นเธอยังมีงานแต่เช้า ปล่อยกลับไปนอนบ้านแบบสบายๆดีกว่าพี่พยาบาลน่ารักมาก เธอรับฝากมือถือไว้ เพราะเราบอกว่าต้องโทรกลับบ้านและคอยดูแลทุกอย่าง ระหว่างให้ยาก่อนหมอจะมาในช่วงเวลาสลึมสลือของการให้ยานอนหลับเรากำหนดสติอยู่ตลอดและรู้ว่าคงหายใจเบาลงได้ยินเสียงพี่พยาบาลพูดเป็นระยะๆ ว่า "หายใจยาวๆให้พี่ดูหน่อยสิคะ"เราทำตามทุกครั้ง เพราะรู้ว่าเธอกลัวเราหยุดหายใจจากยาที่ให้ทั้งยาแก้ปวด ยานอนหลับ ยาแก้อาเจียนแต่เราก็รู้สึกว่า เราผงกหัวขึ้นมาอาเจียนครั้งหนึ่ง ได้ยินเสียงเธอพูดแว่วๆกับเพื่อนร่วมงานว่า คุณเขาน่ารักมากเลย ให้ความร่วมมือทุกอย่างและแล้วก็เป็นช่วงเวลาที่เรารับรู้ว่า ความเจ็บที่แทรกเข้ามาในฝันเป็นอย่างไรความรู้สึกคือ พยายามขยับตัวให้รู้ว่าเจ็บ และคิดว่าเมื่อไหร่จะเสร็จเสียทีรู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนพยาบาลบอกว่า เดี๋ยวพี่ย้ายไปห้องพักนะคะ มือถืออยู่นี่นะคะรู้ว่ามีการวัดความดัน วัดอุณหภูมิร่างกายอยู่ตลอดแล้วเราก็ถูกเข็นไปห้องพัก มีสายน้ำเกลือติดแขนมาไม่เคยอยู่ห้องรวมมาก่อนแต่ห้องนี้กว้างมาก ประมาณ 5 ห้องรวมกัน เพียงแต่ใช้ม่านกั้นส่วนแทนผนังและห้องน้ำรวมตอนนั้นยังไม่ดึกนัก สักสองทุ่มกว่าญาติคนไข้คนอื่นยังอยู่ และมีคนมาเยี่ยมประปรายรู้ว่ามีสายตามองมาด้วยความสนใจหลายคู่ ว่ายายคนมาใหม่เป็นอะไรเนื่องจากพยาบาลไม่ได้ปิดม่านหมดทุกด้านทำให้เราลืมตามาจ้องเป๋งกลับไปที่ประตูไกลลิบ ด้วยความรู้สึกว่ามีคนมองอยู่ทำเอาคนมองต้องล่าถอยหลบไปแต่ที่ขำสุดคือ ได้ยินเสียงคนพูดว่านั่งโซฟาตัวนี้ก่อนก็ได้...ไม่เป็นไร อันนั้นของเตียงโน้นเค้า..."ไม่เป็นไรหรอก เตียงโน้นเค้าไม่มีญาติ ไม่มีคนมาเฝ้า"แง... เรากลายเป็นคนไข้อนาถาไปแล้ว
นี่แค่ภาค 1 เองนะ เลยยังไม่รู้ว่าคุณฮันนี่ป่วยเป็นอะไร
เอาเป็นว่า ตอนนี้ปลอดภัย กลับมาบ้านแล้ว ไงละก็หมั่นรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอนะครับ
สุขสันต์วันแม่ครับ