Group Blog
 
All blogs
 
เที่ยวบินยกเลิก...และคุณป้านางฟ้าผมทอง

กำลังจะเดินทางวันศุกร์ วันจันทร์เพิ่งจะตัดสินใจแวะไปเยี่ยมน้า
พอเห็นตารางเที่ยวบินก็ถอนใจ ต้องไปแวะสนามบินโอแฮร์ ที่ชิคาโก อีกแล้ว
ความที่สนามบินใหญ่ เที่ยวบินเยอะ คนพลุกพล่าน
และเคยวิ่งขึ้นเครื่องปุ๊บ เกตปิดปั๊บมาแล้ว
ก็ให้สังหรณ์ใจเป็นกำลังว่า มีสิทธิ์ตกเครื่องได้ถ้าเที่ยวบินต้นทางล่าช้า เพราะเวลาต่อเครื่องแค่ชั่วโมงสิบนาทีเท่านั้น
แต่ถ้าเที่ยวบินแรกตรงเวลาก็ไม่มีปัญหา

ประชุมเสร็จแบบเช้าจรดค่ำตลอด 5 วัน มีวันสุดท้ายที่ได้เดินแบบสบายๆ
วันรุ่งขึ้น สี่สหายก็แยกตัวกันไปคนละทาง
สองคนขับรถไปเที่ยวต่อ
คนหนึ่งแวะพักกับเพื่อนสองวันก่อนกลับ
เราแวะไปหาน้า ต้องบินจากสุดฝั่งตะวันตก ไปสุดฝั่งตะวันออก

เช้าวันเดินทาง ตื่นมาตอนตีห้า ฝันว่าพ่อกำลังเดินทางไปไหนไม่รู้ โดยรถไฟ
และกำลังจะวางกระเป๋าบนชั้น แต่วางไม่ถึง
เราก็เลยอาสาวางให้
แต่พอเดินไปบนสะพาน แผ่นไม้ก็แยกจากกัน เราหล่นลงมาห้อยต่องแต่ง เกาะปลายไม้ไว้ได้

ตื่นมาก็ เฮ้อ! ท่าทางจะไม่ราบรื่นซะแล้ว
แต่ก็น่ะ ไหนๆก็ไหนๆ

ไปถึงสนามบินที่ซานฟรานซิสโก เช็คกระเป๋าเสร็จ
ผ่านจุดตรวจเรียบร้อยก็มานั่งรอที่เกต
เค้าลางของความไม่เรียบร้อยเริ่มต้นขึ้น
เมื่อเครื่องบินล่าช้า ยี่สิบนาที ครึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมง ผ่านไป
เราเริ่มกระสับกระส่าย จะวิ่งทันมั้ยเนี่ย

กัปตันช่างรู้ใจทำเวลาได้ดีมาก จากที่ช้าหนึ่งชั่วโมงก็ช้าไปแค่ยี่สิบนาทีจากเวลาเดิม
แต่ครึ่งชั่วโมงหลัง ก่อนถึงสนามบินโอแฮร์ เรารู้สึกเหมือนนั่งรถบรรทุก
เพราะสะเทือนแบบตกหลุมอากาศ และฝ่าพายุตลอด

พอถึงสนามบิน มีเวลาอีกสี่สิบนาที สบายมาก ไปอีก Terminal หนึ่ง ทันแน่
แต่เดี๋ยวดูประกาศบนบอร์ดก่อน ให้แน่ว่าเกตไหน


แล้วหัวใจเราก็ตกลงมาอยู่ตาตุ่ม
พอเห็นเที่ยวบินชัดๆ

เที่ยวบินยกเลิก

อ้าวววว!!!! จะทำไงล่ะ








ถามเจ้าหน้าที่ที่เกตใกล้สุด ก็ได้รับคำตอบว่ายูเดินไปเกต C18 เลย
เคาน์เตอร์ customer service อยู่นั่น

จ้ำพรวดๆไปที่นั่นก็ อะฮ้า! มีผู้ประสบชะตากรรมเดียวกันมากมาย
แถวยาวเฟื้อย เพราะที่เห็นบนกระดาน ก็มีเที่ยวบินยกเลิกอยู่หลายเที่ยว

เจ้าหน้าที่เดินมาดูในแถว พอรู้ปัญหาเราก็บอกว่า เข้าแถวรอก่อน เพราะยังทำอะไรไม่ได้
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง ก็ยังต้องเข้าแถวรอตามเดิม



เรากับพ่อหนุ่มน้อยที่ต่อแถวข้างหลังหน้าตาเอเชีย เขาเป็นคนอินโดนีเชีย
ก็ผลัดกันฝากแบ็คแพ็คกับโน้ตบุ๊ค แล้วมุดแถวไปดูบอร์ดเป็นระยะ
ด้วยความหวังว่าจะหาเที่ยวบินที่ใกล้เคียงไปต่อได้

ระหว่างนั้น แถวก็เริ่มยาวมากขึ้น ตามจำนวนคนตกเที่ยวบินที่สะสม
เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย ฝนตกหนัก พายุ หมอก และลมแรง

ชั่วโมงครึ่งผ่านไป เจ้าหน้าที่ถึงประกาศว่าผู้โดยสารภายในประเทศให้ไปติดต่อที่เกต
ส่วนผู้โดยสารต่างประเทศให้รอที่นี่ เพราะไม่อย่างนั้นจะเสียเวลาในการติดต่อมาก


เราถอนหายใจ บอกลาพ่อหนุ่มน้อยผู้ร่วมชะตากรรม
ออกไปกดทำรายการจองเที่ยวบินใหม่ ก็ไม่มีเที่ยวบินใดๆ
ยกหูโทรศัพท์ถามเจ้าหน้าที่ ก็ได้รับคำตอบว่าเที่ยวบินต่อไปคือวันรุ่งขึ้น


ทั้งที่พอเดาได้อยู่แล้ว แต่ก็อยากร้องว่า อะไรนะ!!!

ทั้งเหนื่อย ทั้งเพลีย และง่วงจากยาแก้เมาเครื่องบินได้ที่
หลังจากบอกน้าผู้ขับรถออกจากบ้านไปรับเราแล้ว
ก็โทรบอกที่บ้านที่เมืองไทยให้รู้และไม่ต้องห่วง

จะไปนอนโรงแรมก็รู้สึกสมองทำงานแค่ครึ่งเดียว ตกลงอยู่สนามบินนี่แหละ

โทรหาเพื่อนที่เมืองไทย "ป๋อง...มีอะไรอร่อยๆกินที่โอแฮร์มั่ง"
จากเสียงสดชื่นของเพื่อนที่ถามมาว่า "ว่าไงจ๊ะ" เปลี่ยนเป็นเสียง "ไปทำอะไรนั่น ตกเครื่องบินเหรอ"
เราก็ตอบเนือยๆ... อืมม์ เที่ยวบินยกเลิกจ้ะ
แล้วจะเข้าเมืองไหมเนี่ย ...เพื่อนถาม
เราส่ายหน้ากับโทรศัพท์ คงไม่มั้ง ยังมึนอยู่เลย กินยาเข้าไป กว่าจะสร่างก็สี่ห้าชั่วโมงแหละ ไม่อยากออกไปสภาพนี้

ไปร้านหนังสือเลย หาหนังสืออ่าน ...เพื่อนบอก
พอฉุกใจคิดได้ก็ถามเราว่า เอาโน้ตบุ๊คไปหรือเปล่า ถ้าเอาไปก็นั่งใช้เน็ตไป
เราพยักหน้าเนือยๆกับโทรศัพท์อีก ก็คงต้องงั้นแหละ

ระหว่างนั่งอยู่ เราก็ได้ยินเสียงผู้โดยสารตะโกนด่าดังลั่น จากแถวที่หน้าเคาน์เตอร์
ก็รู้ว่า คนที่ทั้งเหนื่อย ทั้งเพลีย มาเจอแบบนี้ก็สติขาดได้ง่ายๆ


คุณป้าผมทองหยิกยาวเหมือนนางฟ้าในนิทานฝรั่งที่เกต หน้าตาเฉยๆ
ตอบเราหลังจากที่เราถามว่ามีอะไรจะแนะนำเราบ้างไหม
ว่าถ้าไม่ไปพักโรงแรมก็ต้องรอที่นี่
พอเราบอกว่า เรากินยาเข้าไป สมองเราช้า และเราไม่ได้อยู่ในสภาพสติพร้อม
เธอก็ตอบทันทีว่า งั้นยูควรรอที่นี่ดีกว่า อย่าออกไปเลย



เรานั่งลงเสียบปลั๊กโน้ตบุ๊ก ชาร์ตแบตเตอรี่ และชาร์ตโทรศัพท์
ซื้อชั่วโมงอินเทอร์เน็ต แล้วก็นั่งเช็คสภาพอากาศไป

เพื่อนที่ซีแอตเทิลออนไลน์พอดี ก็เลยรู้ว่าเราตกเครื่องบินอยู่
เมื่อวันจันทร์เขาเพิ่งบินมากินข้าวเย็นด้วย แล้วก็บินกลับไปวันรุ่งขึ้น
พอรู้ก็บอกว่า ถ้าเป็นอีกสนามบินหนึ่งจะให้น้องขับรถมารับไปพักที่บ้าน
แต่ที่นี่ไกลจากบ้านน้องเขามาก
เราก็บอกไม่เป็นไร เรานั่งอยู่นี่ได้

ระหว่างนั้นมีผู้โดยสารผู้ชาย หน้าตาดี แต่งตัวดี แต่ท่าทางแปลกๆ กึ่งมึนกึ่งเหนื่อย มาติดต่อคุณป้า
พอเขาไปแล้ว คุณป้าก็มองตาเราแล้วก็บอกว่าเขาท่าทางแปลก
ตอนนี้ที่เกตนี่มีเราเป็นผู้หญิงอยู่แค่สองคน ไอกับยู
คุณป้าบอกว่าออกเวรตอนเที่ยงคืน

สักพักคุณป้าก็เดินหายไปไหนไม่รู้
แล้วก็เดินกลับมาพร้อมหมอนกับผ้าห่มโบกไหวๆอยู่ในมือ พร้อมรอยยิ้ม
เราขอบคุณ รู้สึกได้ถึงน้ำใจ และความใส่ใจของเธอ


เราไม่ได้นอนหรอก นั่งคุยกับเพื่อนไปเรื่อยๆจนตีสาม
ระหว่างนั้นก็มีเด็กผู้หญิงหอบข้าวของมายิ้มให้เราแบบมึนๆ
แล้วก็ล้มตัวลงนอนที่เก้าอี้ห่างออกไป
คงอุ่นใจว่ามียายคนนี้นั่งเฝ้าชั้นนอนแล้ว

พอตีสี่กว่า เริ่มได้กลิ่นกาแฟ ร้านเปิดแล้ว ไปหาอะไรกินดีกว่า
ก่อนหน้านั้นกินแซนด์วิชกับโค้กไปประทังชีวิต
บอกเด็กผู้หญิงคนนั้น เธอตื่นมาพอดี ว่าเราจะไปหาอะไรกินแล้ว




สักพักเธอก็เดินตามมาที่ร้านเดียวกัน
เราสั่งกาแฟกับแซนด์วิชมากิน
นึกถึงกับข้าวที่น้าบอกว่าทำไว้ให้เรา มีไข่กับหมูพะโล้ มะระผัดไข่ ผัดพริกขิง
แล้วเราหัวเราะบอกว่าไปถึงก็สี่ทุ่มครึ่ง ถึงบ้านเกือบเที่ยงคืนเราคงกินไม่ไหวแล้วละ
แล้วก็ถอนใจ ทีหลังจะไม่พูดอย่างนี้อีกแล้ว










นั่งลงเขียนโน้ตให้คุณป้าผมทอง
ตั้งใจจะฝากพนักงานไว้ให้
เราบอกว่า เราเบลอจนเราจำชื่อเธอไม่ได้ แต่เราจำน้ำใจที่เธอมีให้เราได้
ขอบคุณสำหรับหมอนและผ้าห่ม







พอไปห้องน้ำกลับมา โอ! เดินสวนกับคุณป้าผมทอง เหมือนเธอกลับมาเข้าเวรใหม่
เราปราดเข้าไปหา แล้วบอกว่าเราตั้งใจจะฝากโน้ตไว้ให้

พอเราส่งโน้ตให้ คุณป้าก็นิ่งไปชั่วอึดใจ
แล้วก็บอกว่า ไม่เป็นไรหรอก ฮันนี่ ไฟลท์ยูอยู่เกตไหนเหรอ
พอเราบอก ก็บอกว่าเดี๋ยวจะดูให้ว่าชัตเติลบัสเปิดกี่โมง
ยูกินอะไรหรือยัง เอาน้ำส้มไหม
เราบอกขอบคุณ เรากินอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว


คุณป้าเดินหายไปในห้องพนักงานแป๊บหนึ่ง
แล้วออกมาบอกว่าไปรอที่เกต C9 เลยนะ แล้วไปชัตเติลบัสเถอะ อย่าเดินเลย ไกล
แล้วก็อย่าลืมคอยเช็คเกตเป็นระยะๆ เพราะที่นี่เกตเปลี่ยนบ่อยมาก



คำเตือนของคุณป้าเป็นจริง
ขนาดเราเช็คจนแน่ใจแล้วว่า เป็นเกตที่ต้องลงไปชั้นล่าง และไม่มีบอร์ดแจ้งที่นั่น
ก็เลยรออยู่ข้างบนจนอีกสี่สิบนาทีจะถึงเวลาเรียกขึ้นเครื่อง ถึงลงไปที่นั่น

พอใส่หูฟัง ฟังเพลงดังลั่น กลบเสียงคุณป้าแหม่มข้างๆที่โทรศัพท์หาใครนักไม่รู้ คงทั้งตำบล ธุรกิจเยอะจริงๆ
ก็ได้ยินเสียงประกาศ
ดึงหูฟังออก รู้แต่ว่าเปลี่ยนเป็นเกตที่อยู่ข้างบนแทน
แต่ไม่แน่ใจว่าเที่ยวบินไหน ฟังไม่ทัน

รออีกห้านาที ประกาศซ้ำ
เที่ยวบินใหม่ของเราแหละ ที่เปลี่ยนเกตไปข้างบน
เรากวาดข้าวของขึ้นบันไดไป ดีนะคุณป้าผมทองเตือนไว้
ชะล่าใจละก็ มีสิทธิ์ตกเครื่องบินอีกแหง



ในวันเวลาที่ยุ่งยาก อย่างน้อย เราก็เจอสิ่งที่ดี น้ำใจ
และมิตรภาพจากคนแปลกหน้า ที่ทำให้วันเวลางดงามขึ้น



เพื่อนที่ซีแอตเทิลบอกเราว่า
glad that you had an angel to look out for you...

ขอบคุณคุณป้าผมทองเป็นเกลียว นางฟ้าในคืนที่มีแต่คนแปลกหน้าต่อกัน





Create Date : 23 พฤษภาคม 2552
Last Update : 23 พฤษภาคม 2552 2:35:38 น. 24 comments
Counter : 869 Pageviews.

 
เคยต้องนอนเฝ้าสนามบินทั้งคืนเหมือนกันค่ะ ไม่สนุกเลย ทรมานมาก เพราะบินจากไทยไปติดอยู่ที่ดีทรอยท์ เรียกว่าซวยจริงๆเพราะตอนนั้นที่เจอคือสถานการณ์ไฟดับทั้ง ของอเมริกา สักราวๆหกเจ็ดปีแล้วค่ะ จะออกไปพักโรงแรมที่ไหนก็ไม่ได้ เพราะไฟดับหมด เฮ้อ ดีใจแทนคุณค่ะที่ได้เจอคุณป้าใจดีช่วยเหลือ


โดย: offita วันที่: 23 พฤษภาคม 2552 เวลา:2:42:31 น.  

 
อ้าว พิมพ์ตกค่ะ จะบอกว่าไฟดับทั้งภาค North East ของอเมริกา


โดย: offita วันที่: 23 พฤษภาคม 2552 เวลา:2:43:48 น.  

 

คุณ offita
ปีนั้น 2003 อยู่ที่นั่นเหมือนกันค่ะ แต่กลับมาก่อน โชคดีไป

ถ้าเจอไฟดับแบบคุณคงแย่กว่านี้เยอะเลยค่ะ



โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 23 พฤษภาคม 2552 เวลา:2:57:58 น.  

 
อ่านแล้วสุขใจแทนคุณเจ้าของกระทู้
รู้สึกถึงความอบอุ่นของทั้งผู้ให้และผู้รับ
ความเอื้ออาทรของผู้คนที่มีต่อกัน จะทำให้โลกเราน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ
เราเชื่อว่าคุณต้องเป็นคนที่น่ารักคนนึงแน่ๆ


โดย: ปลาทอง9 วันที่: 23 พฤษภาคม 2552 เวลา:3:21:26 น.  

 
คุณฮันนี่เก่งจริงๆ ทั้งเหนื่อยทั้งเพลียทั้งง่วงแต่ก็ยังผ่านมาได้ แถมถ้าเดาไม่ผิดคืนนั้นยังอุตส่าห์มาเม้นท์บล็อกด้วยความอารมณ์ดีได้ด้วยนะเนี่ยะ คุณป้าก็ดีจังคอยช่วยเหลือ คงเหมือนที่เค้าบอกว่าในเรื่องร้ายๆเราก็มักพบเจอเรื่องดีๆอยู่เสมอสินะครับ


โดย: อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า วันที่: 23 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:03:05 น.  

 

คุณ ปลาทอง9
ขอบคุณค่ะ
มีความเชื่อเช่นเดียวกันค่ะ ว่าความเอื้ออาทรต่อกันจะทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น



คุณตี๋
สถานการณ์บังคับค่ะ

คิดๆไปก็สนุกดีไปอีกแบบ
และโชคดีที่เจอคนดีอย่างคุณป้า
ทำให้รู้สึกว่า เอาน่า ยังไงก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียว เรายังเจอสิ่งดีๆในเรื่องร้าย อย่างที่คุณตี๋ว่าน่ะค่ะ


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 23 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:49:03 น.  

 
เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้เหมือนกันค่ะ เมื่อ 5-6 ปีก่อนขนาดเครื่องบินออกไปแล้ว 2 ชั่วโมง กัปตันต้องนำเครื่องกลับเพราะเครื่องมีปัญหา ไปถึงสนามบินดีทรอยส์ 5 ทุ่มกว่าแล้วต้องพักโรงแรม ปัญหาคือดิฉันเดินทางคนเดียวครั้งแรก ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่รู้จริงๆว่าต้องทำอะไรยังไง ภาษาก็งูๆปลาๆ เจอน้องผู้ชายคนไทย 2 คนมาประชุมหรือสัมมนาอะไรนี่แหล่ะ เรากะว่าหาที่พึ่ง แต่เค้าทำเหมือนไม่ใช่คนไทยด้วยกันเลยค่ะกลัวว่าเราจะไปหลอกเค้าอะไรอย่างนั้น เราผู้หญิงตัวคนเดียวแท้ๆ ถามอะไรไม่ค่อยอยากตอบ เช้ามาเจอกันที่สนามบินอีก เดินผ่านเหมือนไม่ใช่คนไทยด้วยกันเลยค่ะ ความรู้สึกเราแย่มากๆ เลยตอนนั้น อยากจะกลับถึงบ้านให้เร็วที่สุด


โดย: ตั๊กแตนตัวติ๊ด วันที่: 24 พฤษภาคม 2552 เวลา:0:27:32 น.  

 
เก๊าะยังดีกว่าสนามบินปิดเป็นสิบๆวัน (แฮ่...นินึง..)

................

เป็นประสบการณ์แย่ๆแต่มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นเหมือนกัน

น้ำจิตน้ำใจของคนต่างแดนก็หาได้เสมอ

ตัวเองเคยทำกระเป๋าตังค์หายในป่า ที่ออสเตรเลีย ..ข้ามวัน ข้ามคืน ข้ามเมือง ก็ยังได้คืนเลยค่ะ


แล้วทำไมคุณฮันนี่ไม่ถ่ายรูปคุณป้าผมทองเกลียวมาให้ดูหน่อยล่ะคะ..

อยากเห็นน่ะ...


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 24 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:24:36 น.  

 

คุณตั๊กแตนตัวติ๊ด
เสียใจด้วยค่ะ ที่เจอสถานการณ์แบบนั้น ในเวลาที่คนที่พูดภาษาเดียวกันน่าจะให้ความช่วยเหลือได้ดีที่สุด

เวลาเดินทาง แล้วเห็นคนที่เดินทางคนเดียวครั้งแรก มีพี่น้อง หรือเพื่อนมาแนะนำ ก่อนเข้าไปตรวจหนังสือเดินทางว่าต้องทำอะไรบ้าง จะรู้สึกเป็นห่วงแทน
เพราะถ้าทุกอย่างเป็นไปตามตารางเวลา ก็ไม่มีอะไร

แต่ถ้าเมื่อไหร่เที่ยวบินล่าช้า ยกเลิก ตกเครื่องบิน ปัญหาจะตามมาทันที
ตราบใดที่ภาษาดีก็แล้วไป ถามไปเรื่อยๆก็ได้ข้อมูลเองว่าต้องทำอะไร
แต่ถ้าภาษาไม่ดี ตอนนี้จะน่าห่วง


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 24 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:35:01 น.  

 

คุณอัยย์
ไม่ได้ถ่ายรูปคุณป้าค่ะ ได้แต่จดเธอไว้ในใจ

ตอนเจอเธอตอนเช้าก็ไม่ได้ขอถ่ายรูปเธอเอาไว้


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 24 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:43:38 น.  

 
เคยโดนเหมือนกันครับ ที่ เมกา นี่มีปัณหาบ่อยเพราะสภาพอากาศอ่ะครับ เคยโดนแบบ ตัวผมไปอยู่ เวกัส กะเป๋าไปอยู่ แอลเอ 5555 ต้องรอกะเป๋าอีก 6 ชม ต่อไปเซ็งเลย


โดย: everything on วันที่: 24 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:58:06 น.  

 
กลับมาเมืองไทยแล้วงานสุมเยอะรึเปล่าคะคุณฮันนี่

มาทักทายวันจันทร์ค่ะ

ขอให้สุขสบายแจ่มใส สมองโปร่งไปทั้งสัปดาห์นะคะ

ว่างเมื่อไหร่ก็แวะไปอาบน้ำตกด้วยเน้อ...



โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 25 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:24:50 น.  

 

คุณแมท
แบบกระเป๋าไม่มา แต่ตัวถึงบ้านแล้วไม่เป็นไรค่ะ
สายการบินเอามาส่ง

แต่ถ้ากระเป๋าไปตกค้างที่อื่น ยังพอมีอีกชุดใน backpack แก้ขัดค่ะ



คุณอัยย์
ไปทำงานวันศุกร์ มีซองงานฝากไว้เต็ม
แต่ตอนนี้อยู่เชียงใหม่ค่ะ


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 25 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:56:24 น.  

 
คุณฮันนี่อยู่เชียงใหม่เหรอตอนนี้

เป็นไงมั่งคะ...

ท่าทางชีพจรลงเท้าเนอะพักนี้

ไวก็แวะไปเที่ยวน้ำตกกันต่อแระกัง คาดว่า น้ำตกนี้คุณฮันนี่เคยไปมาแล้วค่ะ


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:12:11 น.  

 
คุณอัยย์
อย่างที่บอกน่ะค่ะ ว่าชีพจรลงเท้าไปแล้วตอนเดือนกุมภา-มีนา
พักเดือนเมษาเดือนหนึ่ง
ตอนนี้ชีพจรลงเท้าต่อ

แวะไปดูน้ำตกมาแล้วค่ะ


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:57:53 น.  

 
ผมมาช้าไปหน่อยนะครับ มัวแต่ไปคิดว่าจะอัพบล็อกเรื่องอะไรต่อไป

สนามบินที่ผู้โดยสารต้องนอนค้างอ้างแรมทั้งคืน คงเป็นบรรยากาศที่ต้องจดจำ ถือเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต เห็นภาพแล้ว สถานที่นั้นคงมีเรื่องเล่ามากมาย ในค่ำคืนนั้นคุณป้าผมทองเป็นนางเอกของผมและผู้เข้ามาอ่านบล็อกนี้ครับ

กลับมาแล้วคุณฮันนี่คงสบายดีนะครับ





โดย: Insignia_Museum วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:42:39 น.  

 
คุณ IM
สบายดีค่ะ ยังไม่ไอ จาม เป็นไข้ แต่อย่างใด
นอกจากอาหารเป็นพิษ เพราะวันรุ่งขึ้น เพื่อนๆพี่ๆน้องๆมีนัดทานข้าวกันพอดี
เล่นเอาแย่ไปสองสามวันค่ะ


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:08:56 น.  

 
คุณฮันนี่จ๋า

ชีพจรลงเท้าแบบนี้
สนุกมั้ยคะ

น่าจะดีนะ ไม่จำเจ...หรือว่าคิดถึงบ้านมากกว่า

อ่านะ...ถามเป็นชุดๆเลย

มาชวนไปล่องอ่าวด้วยค่ะ

ป.ล.หมู่นี้อัพทุกวัน ก็ชวนทุกวันค่ะ ตามประสา...


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:15:09 น.  

 
วันนี้ทั้งหิว ทั้งง่วง ทั้งเพลีย กำลังรอเวลากลับบ้าน
แต่พอได้อ่านบลอคพี่ฮันนี่แล้วรู้สึกดีจัง
เป็นเรื่องที่น่ารักมากเลยค่ะ พี่ฮันนี่เขียนดีด้วย
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นใจจัง

อาหารเป็นพิษหายสนิทแล้วรึยังคะ
กินน้ำเงี้ยวแล้วคงไม่มีอาการอะไรนะ เพี้ยงงงง

ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานี่ปุ๊กกะลังหัดตำน้ำพริกให้แม่กิน
ไม่น่าเชื่อว่ากินข้าวนอกบ้านบ่อยๆ จะทำให้ต่อมรับรสเปลี่ยนไปขนาดนี้
เพราะใครกินก็บอกว่าไม่เผ็ดเลยอ่ะค่ะ
พอปุ๊กปรับให้มันเผ็ดจี๊ดกว่าเดิมเคราะห์เลยตกอยู่กับกระเพาะ
แสบท้องไปทั้งคืนต้องไปหานมมากิน ตื่นมายังร้อนคอร้อนท้องอยู่เลยอ่ะค่ะ
รู้สึกว่าเริ่มเข้าใจหัวอกฝาหรั่งขึ้นมาตะหงิดๆ แฮะเรา


โดย: Hobbit วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:59:14 น.  

 

คุณอัยย์
สมัยนี้การสื่อสารรวดเร็วทันใจค่ะ ทั้งมือถือ ทั้งอินเทอร์เน็ต
ติดต่อง่าย เวลาไปไหนเลยรู้สึกเฉยๆ

นึกถึงเมื่อสมัยสิบกว่าปีก่อน ต้องโทรตู้สาธารณะ ใช้บัตรเครดิตได้ก็เก๋แล้ว ไม่ต้องแลกเหรียญ
แถมต้องรอเวลาเหมาะๆที่จะโทรอีก
เดี๋ยวนี้ส่ง sms ก็ได้ ไม่ต้องปลุกคนที่บ้านให้ลุกมาทั้งบ้าน


เอารางวัลขยันอัพเดตบล็อกไปเลยค่ะ อัพเดตได้ทุกวัน




หนูปุ๊ก
ขอบคุณค่ะ
ตั้งใจตั้งแต่นั่งอยู่ที่สนามบินแล้ว ว่าจะเขียนถึงคุณป้า
เพราะความมีน้ำใจของคุณป้าทำให้พี่รู้สึกว่า ความยุ่งยากวุ่นวายที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเล็กน้อย รู้สึกอุ่นใจขึ้นค่ะ

วันนี้พี่ไปกินขนมจีนน้ำเงี้ยวร้านเล็กๆร้านเก่าที่ถูกใจ
ตะกละ กินไปสองจาน
ยอมสละไม่กินอาหารเช้าของโรงแรม
นั่งกินแล้วสบายใจ รู้สึกเหมือนตอนเด็กๆที่ไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านประจำแถวบ้าน
คนมาซื้อก็รู้จักทักทายกันทุกคน มีพี่แปลกหน้าคนเดียว

เรื่องอาหารเผ็ดนี่ บางทีท้องไส้มันไม่ยอมร่วมมือด้วยค่ะ
ทรมานเวลาวิ่งเข้าห้องน้ำ
ไม่เข้าใจหัวอกฝรั่ง เพราะโดนฝรั่ง (บางคน) หยามหยันชอบอกชอบใจที่กินเผ็ดได้มากกว่าพี่ค่ะ



โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:12:04 น.  

 
พักนี้น่าจะชวนคุณฮันนี่มาแข่งว่าใครจะออกจากบ้านไกลน้อยกว่ากันอีกซักทีนะเนี่ยะ


โดย: อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:29:30 น.  

 
คุณฮันนี่คะ

มาทวงรางวัลขยันอัพบล็อก อุอุ...

............

วันนี้ก็ตั้งใจอัพอย่างแรงเช่นกัน

หายเห่อเมื่อไหร่ ก็...เมื่อนั้น...หุหุ

เวลาอินกะอะไรก็งี้แหละ ...แวะไปอีกนะคะ...


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:47:03 น.  

 

คุณตี๋
กะชนะแบบไม่ลงแรงเลยใช่ไหมคะ


คุณอัยย์
กล้าทวง ก็กล้าส่ง
ส่งที่อยู่มาในเมล์เลยค่ะ


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:24:10 น.  

 

เมฆสลัวเหมือนขอบให้เดินผ่าน

เหมือนเป็นลานให้ทักฝากคำหา

จึงเดินอ้อมมาส่งเธอนิทรา

มาดับความเหว่ว้าให้เธอเริง

#############


.............ญามี่///...

@@@@@@@@@


ฝันดีค่ะ




โดย: ญามี่ วันที่: 14 มิถุนายน 2552 เวลา:0:28:10 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

HoneyLemonSoda
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




เพราะทุกวันที่ตื่นขึ้นมา
คือของขวัญที่กาลเวลามอบให้
Friends' blogs
[Add HoneyLemonSoda's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.