วันนี้รุ่นน้องที่ที่ทำงาน เดินมากินมัฟฟินที่ห้องพอเพื่อนล้อว่า ไม่แสลงเหรอ เพราะกะจะฮุบมัฟฟินคนเดียวเจ้าตัวก็หัวเราะ แล้วเปิดเสื้อลงต่ำให้เราดูรอยบวมแดงของฝีที่ไหล่ด้านหลังเราเห็นเข้าก็อึ้ง ถามว่าไปหาหมอหรือยังหาแล้วค่ะ... หาหมอผิวหนัง อาทิตย์ที่แล้วแต่หมอกลัวแผลมากกว่าหนูอีก ขนาดหัวเล็กกว่านี้นะคะหัวฝีมีหนองเป็นจุดต่อๆกันสามจุด บวมเท่าหัวแม่มือแถมฐานที่บวมแดงเป่งสุดๆ เกือบเท่าฝ่ามือ มีหนองกระจัดกระจายข้างในแน่ๆน้องบอกว่า หมอนัดวันพุธค่ะ... เราเห็นแล้วก็บอกว่า...พี่ว่าไปวันนี้เถอะ คงต้องผ่าแล้วละเดี๋ยวจะยิ่งติดเชื้อลามไปกันใหญ่เพื่อนอีกสองคนที่เห็นแผลก็พูดเป็นเสียงเดียวกันเรารู้ว่าเจ้าตัวกลัวการถูกผ่า เพราะน้ำตาเริ่มคลอไปเถอะ พี่ไปเป็นเพื่อน... เราบอกแววตาที่วาบด้วยความยินดีแกมอุ่นใจ ทำให้เราใจอ่อนยวบน้องย้อนถามว่าเราว่างหรือคะ งั้นเดี๋ยวหนูไปเก็บของ...แล้วไปเลยนะคะ ในที่สุด ก็มาถึงโรงพยาบาลสองอาทิตย์นี้ เราใช้ชีวิตอยู่โรงพยาบาลมากกว่าบ้านกลับจากโรงพยาบาลหนึ่ง มาอีกโรงพยาบาลหนึ่งเมื่อวันเสาร์ก็เพิ่งมาโรงพยาบาลนี้วันนี้มาอีกแล้ว...หมอผิวหนังคนเดิมที่เคยนัด เห็นเข้าก็อึ้ง บอกว่าเดี๋ยวส่งต่อหมอศัลย์เลยนะคะแต่ก็ยังไม่วายกลัวเกิด keloid เหมือนที่น้องบอกไว้ว่า หมอห่วงกลัวเกิดแผลเป็น ที่สุด ตามประสาหมอผิวหนังนี่ถ้าที่โรงพยาบาลส่งไปหาหมอศัลย์แต่อาทิตย์ก่อน ก็คงได้ตัดสินใจทำอะไรเร็วกว่านี้ลงมาที่ศัลยกรรมเจอคนคุ้นเคยมาตัดไหมที่ผ่ามือพอดี ก็เลยทักทายกันน้องทำหน้าหวาดเสียวพอเขาบอกว่า เพื่อนร่วมงานเขาก็เพิ่งผ่าฝี ต้องคว้านออกพอลากัน เขาก็บอกว่า โชคดีนะครับน้อง หายเร็วๆแต่น้องน่ะ หัวใจลงไปอยู่ตาตุ่มแล้ว พอลงมาถึงหมอศัลย์ พยาบาลเห็นแผลก่อนตอนเปิดเสื้อขึ้น ก็อึ้งไปหมอนั่งอ่านประวัติ ปากก็พูดไปเรื่อยๆว่า ถ้ามีหัวแล้วก็อาจจะคว้านออกพยาบาลที่อยู่ในม่านกับน้องบอกว่า หมอมาดูเองก่อนเถอะเราอดยิ้มไม่ได้ เพราะเดาได้ว่า คำตอบคือผ่าแน่นอนหมอเข้าไปเห็นก็ร้อง โอ้โห... ผ่าเลย ทำอะไรไม่ได้แล้วละ แล้วก็พาไปห้องฉุกเฉิน เราก็นั่งรออยู่หน้าห้อง เหมือนรู้เลย เพิ่งจะใส่เพลงล็อตใหม่ลงในโทรศัพท์ให้ฟังระหว่างนั่งรออยู่ครึ่งชั่วโมงน้องก็เดินออกมา บอกว่าฉีดยาชา แล้วหมอก็ตัดกรึ๊บ กรึ๊บ กรึ๊บตัดไปก็ชี้ชวนชมผลงานที่ออกมา บอกว่านี่แค่หนึ่งส่วนสี่เท่านั้นนะ เจ็บไหม ถ้าเจ็บบอกนะ แล้วบอกว่ามันเยอะมาก คงอีกนานกว่าเนื้อจะเต็มบอกให้มาทำแผลทุกวัน พอรอรับยาเสร็จ เดินเข้าลิฟท์ไปที่จอดรถ หมอก็เดินเสื้อกาวน์ปลิวมาพร้อมเป้สะพายหลังพอเห็นน้องก็อมยิ้ม บอกว่า เจ็บมั้ย... ไม่เจ็บนะน้องก็เป็นคนไข้ที่จริงใจมาก... เจ็บค่ะ ทำเอาบุรุษพยาบาลที่เข็นวีลแชร์เข้ามาในลิฟท์ด้วย กลั้นยิ้มทั้งคู่ ป่านนี้คงหลับปุ๋ยไปแล้วเพราะเราบอกให้กินอะไรซะ แล้วจะได้กินยาแก้ปวด แล้วเช็ดตัว นอนน้องยังบอกว่าเสียดาย น่าเอามือถือไปให้หมอถ่ายคลิปให้เราหัวเราะ ไม่อยากบอกว่า ไม่ใช่ภาพน่าดูนักหรอกเห็นแล้วเดี๋ยวกินข้าวไม่ลง
อิอิ วันนี้มาฟังเภสัชคุยเรื่องพาคนป่วยไปผาฝี ฟังแล้วเสียว เป็นฝีแล้วเป็นหนอง....เจ็บสุดๆ ถ้าไม่ผา ไม่มีทางอื่นเลยเหรอ หมอฮันนี่
ป่าเขาเย็นช่วงนี้ ไม่มีภาพสวยๆมาฝากหมอเลยครับ มีแต่ภาพเม็ดฝนร่วงเป็นทาง ไม่รู้จะพอดูได้รึเปล่า...