Iceicy Blog Dhamma หน้าแรก หลักธรรม ปรัชญา ท่องเที่ยวธรรม เก็บตกธรรม บทสวดมนต์ บทเพลงธรรม เว็บบอร์ด iceicy ไอที ไดอารี่
Link to us:
Group Blog
 
All blogs
 

วิธีแก้เครื่องอืด ประการที่ 3 ทำความสะอาด Registry กันเถอะ

วิธีแก้เครื่องอืด ประการที่ 3 ทำความสะอาด Registry กันเถอะ


Registry คืออะไร? หลายคนยังไม่ทราบ ผมจะอธิบายคร่าวๆ แล้วกัน Registry คือฐานข้อมูลของระบบ
ปฏิบัติการวินโดวส์ที่รวบรวมข้อมูลการตั้งค่าของตัวระบบปฏิบัติการ และโปรแกรมต่างๆ ในการทำงานร่วมกันกับตัวระบบปฏิบัติการหรือโปรแกรมใดๆ ลงบนคอมพ์ ตัวระบบปฏิบัติการก็จะทำการเขียน Registry ขึ้นมา เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการกำหนดการทำงานโปรแกรมนั้นๆ แต่หลายครั้งที่การเขียน Registry ขึ้นมาของระบบปฏิบัติการนั้นกลับสร้างปัญหาให้ระบบปฏิบัติการเสียเอง รวมถึงเมื่อเราทำการถอนการติดตั้งโปรแกรมใดๆ ออกไป ข้อมูล Registry ที่เกี่ยวข้องนั้นกลับไม่ได้ถูกลบออกไปจากระบบด้วย ทำให้หลายเครื่องมีข้อมูล Registry ที่ไม่มีประโยชน์คั่งค้างอยู่ในเครื่องเป็นจำนวนมาก

ผมขอแนะนำโปรแกรมเล็กๆ ที่จะสามารถช่วยคุณจัดการปัญหาเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย โดยคุณไม่ต้องแปลงร่างเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านโปรแกรมเมอร์แต่อย่างไร โปรแกรมเล็กและฟรีตัวเก่งตัวนี้คือ CCleaner (//www.ccleaner.com) โดยความสามารถของโปรแกรมเล็กๆ ตัวนี้ไม่ใช่เพียงแค่การตรวจสอบสถานการณ์ทำงานของ Registry และลบทิ้งเท่านั้นมันยังสามารถตรวจสอบหาไฟล์ขยะหรือไฟล์ที่ไม่จำเป็นในเครื่องของคุณและทำการลบออกได้อีกด้วย รวมถึง Internet Temporary Files, History และ Cookies ที่ได้จากการท่องเข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตของคุณอีกด้วย ปัญหาข้อนี้แก้ไขง่ายๆ เหมือนปลอกกล้วยเข้าปากช้างเลย...ว่างั้นมั้ยครับ?

ข้อมูลจาก : หนังสือ Computer.Today




 

Create Date : 24 เมษายน 2550    
Last Update : 6 เมษายน 2551 19:50:56 น.
Counter : 595 Pageviews.  

วิธีแก้เครื่องอืด ประการที่ 2 ดูแลรักษาและจัดระเบียบฮาร์ดดิสก์กันหรือยัง ?

วิธีแก้เครื่องอืด ประการที่ 2 ดูแลรักษาและจัดระเบียบฮาร์ดดิสก์กันหรือยัง ?



หากพูดถึงการจัดระเบียบฮาร์ดดิสก์เชื่อว่าหลายคนจะนึกถึงการใช้ยูทิลิตี้ที่ชื่อว่า Disk Defragmenter ที่มาพร้อมกับตัวระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งนั้นก็ถือว่าเป็นวิธีที่ใช้จัดระเบียบฮาร์ดดิสก์ที่ดีและควรทำวิธีหนึ่งเช่นกัน และผมแนะนำให้ทำอย่างน้อยเดือนละครั้งครับ แต่ครั้งนี้ผมจะไม่พูดถึงเฉพาะการทำDisk Defragment เท่านั้นนะครับ เพราะการจัดระเบียบให้กับฮาร์ดดิสก์เพื่อเพิ่มความเร็วในการทำงานนั้น ยังมีอะไรนอกเหนือจากนั้นอีก เริ่มต้นตั้งแต่คุณได้ซื้อฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่กันเลยทีเดียว
ในปัจจุบันขนาดความจุของฮาร์ดดิสก์เพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก แถมราคาก็ถูกลง จะเห็นได้ว่าในท้องตลาดตอนนี้ขนาดความจุต่ำสุดจะเริ่มต้นที่ประมาณ 80 กิกะไบต์ หรือ 100 กิกะไบต์กันแล้วโดยเฉพาะผู้ที่ซื้อมาเพื่อทำการอัพเกรดคอมพ์ตัวเก่านั้น หลายคนไม่ได้ทำการถอดเอาฮาร์ดดิสก์ตัวเก่าทิ้งไป หากแต่ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่ลงไปให้ทำงานคู่กันกับตัวเก่าเลย

คำแนะนำในการติดตั้งของผมก็คือ ให้ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่เป็น Master และให้นำตัวเก่ามาทำเป็น Slave โดยให้ทำการฟอร์แมตระบบปฏิบัติการวินโดวส์ในลูกเก่าออกเสียและติดตั้งใหม่ลงบนฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่แทน อีกสิ่งที่ห้ามลืมเด็ดขาด ก็คือการแบ่งพาร์ทิชันให้กับฮาร์ดดิสก์ของคุณ

ส่วนระบบ Files System นั้น ผมแนะนำให้ใช้ NTFS แทน FAT32 เพราะในการทำงานกับฮาร์ดดิสก์ความจุสูง ๆ NTFS นั้นจะทำงานได้รวดเร็วกว่าแบบ NTFS นั้นจะทำงานได้รวดเร็วกว่าแบบ FAT32 ที่เราคุ้นเคยกันอยู่ พร้อมกันยังมีระบบการทำงานที่ดีกว่า อาทิการรองรับขนาดของไฟล์ได้สูงสุดที่16 TB (16,000 กิกะไบต์) ขณะที่ FAT32 นั้นรองรับสูงสุดเพียง 2 กิกะไบต์เท่านั้น (ลองนึกถึงการทำอิมเมจของไฟล์ภาพยนตร์ดีวีดีสักหนึ่งแผ่นที่ปกติจะมีขนาดประมาณ 3-4 กิกะไบต์ ถ้าเป็นบนระบบ FAT32 จะไม่สามารถทำได้เพราะระบบ FAT32 จะไม่รองรับไฟล์ที่มีขนาดสูงกว่า 2 กิกะไบต์ ในขณะที่ NTFS นั้นทำได้สบายๆ ครับ) และ NTFS ยังมีอัตราการสูญเสียเนื้อที่ฮาร์ดดิสก์ไปอย่างเปล่าประโยชน์ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ Cluster Size นั้นน้อยกว่า FAT32 มากทีเดียว เมื่อใช้กับพาร์ทิชันที่มีขนาดสูงกว่า 8 กิกะไบต์

สำหรับผู้ที่ใช้ระบบ Files System แบบ FAT32 อยู่ขณะนี้ แล้วไม่อยากจะฟอร์แมตใหม่เพื่อเปลี่ยนระบบ Files System ให้เป็น NTFS ผมก็มีวิธีนำมาเสนออย่างง่าย ๆ นะครับ โดยให้ทำตามขั้นตอนดังนี้

- กดคลิ้กที่ Start เลือกไปที่ Run แล้วพิมพ์คำว่า cmd และกด Enter จากนั้นจะมีหน้าต่าง Dos ขึ้นมา
- ให้พิมพ์ cd\ และกด Enter ก่อน เพื่อเคลียร์ Directory ไป จากนั้นพิมพ์คำว่า CONVERT ไดรฟ์ที่ต้องการแปลง /FS:NTFS ครับ สมมติผมต้องการจะแปลงไดรฟ์ C: ให้เป็น NTFS ผมก็จะพิมพ์ว่า CONVERT C:/FS:NTFS และกด Enter ครับ
- ลำดับต่อไปก็จะให้ใส่ Volume Lable ของไดรฟ์นั้นๆ ที่เราต้องการจะ Convert ซึ่งเราสามารถดูได้จากการพิมพ์ dir/w ครับ
- เมื่อใส่ Volume Label ลงไปก็ให้กด Enter หลังจากนั้นก็จะมีคำถามขึ้นมาเพื่อยืนยันการแปลงระบบ ให้เราตอบ Y ไป เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อยครับ

* อย่าลืมที่จะเก็บข้อมูลสำคัญๆ ก่อนทำการเปลี่ยนแปลงระบบ Files System ไม่สมบูรณ์ จะพาลให้ข้อมูลเสียหาย จนอาจจะถึงขั้นต้องฟอร์แมตฮาร์ดดิสก์เลยนะครับ

ข้อมูลจาก : หนังสือ Computer.Today




 

Create Date : 24 เมษายน 2550    
Last Update : 6 เมษายน 2551 19:51:12 น.
Counter : 632 Pageviews.  

วิธีแก้เครื่องอืด ประการที่ 1 ลงโปรแกรมไว้มากล้น

วิธีแก้เครื่องอืด ประการที่ 1 ลงโปรแกรมไว้มากล้น



ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไร มีแต่คนใกล้ตัวมาบ่นเรื่องอุปกรณ์ไอทีกันได้ทุกวี่วัน เดี๋ยวมือถือโทร.ไม่ติด พีดีเอดับเอง กล้องดิจิตอลถ่ายแล้วภาพไม่ชัด นานาสารพัดปัญหาจริงๆ แต่ปัญหาหนึ่งที่เรียกว่าเป็นปัญหายอดนิยม ที่คงไม่มีใครคนไหนอยากพบเจอ ก็คือปัญหาคอมพิวเตอร์ตัวเก่ง ไม่ว่าจะเป็นแบบตั้งโต๊ะ หรือโน้ตบุ๊กออกอาการชราภาพก่อนวัยอันควร ทั้งๆ ที่เพิ่งจะซื้อมา หรือเพิ่งจะอัพเกรดมาไม่นาน
จริงๆ แล้วการที่เราพิถีพิถันเลือกดูสเปก หรือโน้ตบุ๊กนั้น เราๆ ท่านๆ ก็มักจะดูสเปกเผื่อเอาไว้สำหรับอนาคตกันอยู่แล้ว ส่วนใครจะเผื่อมากเผื่อน้อยก็อยู่ที่งบประมาณเท่านั้นเอง แต่การที่คอมพิวเตอร์ของเรานั้นกลับทำงานได้ช้าลง ช้าลง และช้าลงทุกวัน นับตั้งแต่เราซื้อมันมาใช้งานนั้น สาเหตุอานไม่ได้มาจากความเก่าของตัวฮาร์ดแวร์ภายในเพียงอย่างเดียว การดูแลรักษาและการจัดการข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของเราเอง ก็มีส่วนสำคัญอย่างมาก ที่จะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์สุดที่รักของเรา อยู่คู่กับเราไปนานๆ เท่าที่เราหวังไว้

มาลองดูดีกว่าครับว่า ปัญหาหลักๆ ของการที่คอมพิวเตอร์ตัวเก่งเริ่มออกอาการงอแง หรือออกอาการชราภาพก่อนวัยอันควรนั้น มีสาเหตุหลักๆ อะไรบ้าง และจะมีหนทางแก้ไขอย่างไร

เคยมีการสำรวจแล้วพบว่า กว่า 70% ของปัญหาที่ทำให้คอมพ์เกิดอาการรวน แฮงก์ เดี้ยง หรืออืดนั้น มาจากซอฟต์แวร์ ไม่ใช่ฮาร์ดแวร์อย่างที่หลายคนเข้าใจ และกว่า 50% ของปัญหาที่เกิดจากซอฟต์แวร์นั้นมาจากการที่ผู้ใช้ทำการติดตั้งโปรกแกรมเอาไว้มากเกินไป และมีโปรแกรมที่ทำงานซ้ำซ้อนกันหลายตัว

เริ่มสำรวจด่วนเลยครับ ว่าปัญหาของเราเข้าข่ายนั้นหรือเปล่า? โดยกดคลิ้กเข้าไปที่ Control Panel และไปตรวจสอบที่ Add or Remove Programs ว่าเรานั้นได้ทำการ Install โปรแกรมต่างๆ ไว้เกินความจำเป็นหรือไม่? มีโปรแกรมอะไรบ้างที่ทำงานซ้ำซ้อนกัน มีโปรแกรมประเภท Media Player ทั้งหลายนี้แหละครับ ไม่ว่าจะเป็น RealPlayer, Quicktime, iTunes, WinAmp หรือแม้แต่ WinDVD กับ PowerDVD เองก็ตาม โปรแกรมเหล่านี้มักมีความสามารถเหมือนๆ กัน มีความแตกต่างกันในความสามารถที่จะรองรับไฟล์เฉพาะบางตัว จึงทำให้หลายคนต้องลงโปรแกรมเหล่านี้ลงไปในคอมพิวเตอร์พร้อมกัน

ไฟล์นามสกุล rm, rmvb, mov, avi, divx, wmv และ mpeg ถือเป็นฟอร์แมตมาตรฐานสำหรับไฟล์วีดีโอในปัจจุบัน โดยเฉพาะ avi และ divx ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา อย่างที่กล่าวมาข้างต้นครับ โดยปกติหากต้องการให้เครื่องของเรานั้นสามารถเล่นไฟล์วีดีโอเหล่านี้ให้ได้ครบทุกตัว อาจต้องลงโปรแกรมถึง 4-5 ตัวทีเดียว อันที่จริงหากเราลอง Search ดูจากในอินเทอร์เน็ตจะพบว่าเราไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นก็ได้ เพราะจะมีโปรแกรมบางตัวที่เราอาจไม่คุ้นหูนักสามารถรองรับไฟล์เหล่านี้ได้ครบถ้วนแถมยังฟรีอีกต่างหาก อย่างโปรแกรม K-Lite Codec Pack (www.free-codecs.com) ที่ได้มีการรวบรวม codec สำหรับไฟล์มีเดียต่าง ๆ จากทั่วทุกมุมโลกไว้อย่างครบถ้วน แถมยังมีตัว Media Player Classic เอาไว้สำหรับเล่นไฟล์มีเดียเหล่านั้นอีกด้วย เรียกว่าลงโปรแกรมเดียว รองรับไฟล์มีเดียได้ครบทุกฟอร์แมตกันเลย

ย้อนกลับมาที่โปรแกรมพื้นฐานของระบบปฏิบัติการวินโดวส์อย่าง Windows Media Player กันบ้าง ซึ่งหลายคนละเลยที่จะทำความรู้จักกับโปรแกรมตัวนี้ ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพด้อยไปกว่าโปรแกรม Media Player อื่นๆ เลยโดยเฉพาะในเวอร์ชันล่าสุด WindowsMediaPlayer11 (//www.microsoft.com/Windows/windowsmedia/player/11/default.aspx) ที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากไมโครซอฟท์ ได้มีการพัฒนาขึ้นมามาก มีความสามารถในการเล่นภาพยนตร์จาก CD/DVD ได้ไม่น้อยหน้า PowerDVD หรือ WinDVD

ส่วนในการเล่นไฟล์เพลงอย่าง MP3 ยอดนิยมนั้น ก็ทำได้ไม่แพ้ iTunes และอาจเรียกได้ว่าดีกว่า WinAmp แล้วด้วยซ้ำไป ซึ่งถือว่า Windows Media Player 11 เป็นทางเลือกที่ดีมาก ๆ ที่จะเลือกไว้เป็นโปรแกรมสำหรับเล่นภาพยนตร์จากแผ่น CD/DVD และเล่นไฟล์เพลงดิจิตอลบนคอมพ์ของคุณโดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมอื่นให้เสียเวลา

ยังมีโปรแกรมอีกหลายตัวที่หลายคนนิยมติดตั้งไว้ในคอมพ์และทำหน้าที่ซ้ำซ้อนกัน อย่างโปรแกรมประเภทบีบอัดไฟล์ ที่เมื่อพูดถึงทุกคนมักนึกถึง WinZip แต่ปัจจุบันหากใครเป็นเซียนดาวน์โหลดสักหน่อย จะพบว่าอีกฟอร์แมตที่มักได้รับความนิยมคือ .rar ซึ่งก็ไม่ใช่ฟอร์แมตอะไร โปรมแกรมที่สามารถใช้เปิดไฟล์นามสกุลนี้ได้คือ WinRAR และหากมองดูในความสามารถกันจริง ๆ WinZip และ WinRAR ต่างทำหน้าที่เหมือนกันคือ บีบอัด และคลายไฟล์ ต่างกันเพียงความสามารถในการรองรับไฟล์ฟอร์แมตเท่านั้นเอง

คำแนะนำจากผมคือ ให้เลือกติดตั้งเพียงตัวเดียว คุณจะพบว่าหน้าต่างของ context menus เวลาที่คลิ้กขวาจะมีทั้งฟังก์ชันจาก WinZip และ WinRAR (//www.rarlab.com) นั่นเอง สาเหตุเพราะมันรองได้ฟอร์แมตได้ทุกตัวที่ Winzip สามารถรองรับได้แถมยังรองรับได้มากกว่าอีกด้วย

นี่เป็นเพียงตัวหลักๆ เท่านั้นนะครับ อย่าลืมสำรวจดูในคอมพ์ของคุณก็แล้วกันว่า เราได้ติดตั้งโปรแกรมอะไรลงไปแล้วไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือได้ติดตั้งลงไปหลายตัวและมีการทำงานที่คล้ายคลึงหรือซ้ำซ้อนกันหรือไม่? เลือกที่จะลบออกไปบ้าง จะทำให้เนื้อที่ในฮาร์ดดิสก์ของคุณเพิ่มขึ้น รวมถึงเครื่องก็จะมีเสถียรภาพและความเร็วในการทำงานเพิ่มขึ้นด้วยครับ

ข้อมูลจาก : หนังสือ Computer.Today




 

Create Date : 24 เมษายน 2550    
Last Update : 6 เมษายน 2551 19:52:04 น.
Counter : 602 Pageviews.  

ระวัง! พบหนอนร้ายมากับอีเมล์อวย พรปีใหม่ หวังดันราคาหุ้น

ระวัง! พบหนอนร้ายมากับอีเมล์อวย พรปีใหม่ หวังดันราคาหุ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิจัยแพนด้า แล็ป บริษัท แพนด้าซอฟต์แวร์ ประกาศแจ้งเตือนว่า ได้ตรวจพบอีเมล์ที่บรรจุหนอนร้าน หรือ เวิร์ม Nuwar.B โดยเวิร์มนี้จะใช้เทศกาลปีใหม่ เป็นช่องทางในการแพร่ระบาด อย่างไรก็ตาม เวิร์มดังกล่าวไม่ได้ออกแบบมา เพื่อสร้างความเสียหายแก่คอมพิวเตอร์ หรือเพื่อการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง หากแต่ออกแบบมาเพื่อผลักดันราคาหุ้นเท่านั้น โดย Nuwar.B เข้าสู่คอมพิวเตอร์ทางข้อความที่มีหัวข้อว่า “Happy New Year!” โดยมีส่วนเนื้อหาว่างเปล่า และบรรจุไฟล์แนบชื่อว่า “postcard.exe” ที่เป็นสำเนาของเวิร์ม

รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากนี้เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เวิร์มจะปลอมแอดเดรสของผู้ส่ง ให้ดูเหมือนมาจากผู้ใช้จากหลายที่มา เมื่อผู้ใช้เป้าหมายเปิดไฟล์แนบ Nuwar.B จะคัดลอกตัวเองเข้าสู่ระบบ และจะดาวน์โหลดโทรจัน Spammer.EN เข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ จากนั้นโทรจันจะเชื่อมต่อไปยังอีเมล์เซิร์ฟเวอร์ต่างๆ เพื่อส่งสแปมไปยังแอดเดรสที่พบในระบบ สแปมดังกล่าวจะชักชวนให้ผู้ใช้ซื้อหุ้นของบริษัทบางแห่งเพื่อผลักดันราคาหุ้นให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว



นายมิเกล เปเรซ ผู้อำนวยการแผนกตรวจจับมัลแวร์ ศูนย์วิจัยแพนด้า แล็ป กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งในโลกอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต ที่แพนด้าฯ ได้เห็นการใช้งานเวิร์มในการสร้างผลตอบแทนทางการเงิน เป็นไปได้ที่อาจมีผู้ซื้อหุ้นของบริษัทดังกล่าวไว้ในราคาต่ำ และได้มีการพยายามผลักดันราคาหุ้นขึ้นไป เพื่อรับผลตอบแทนมหาศาลทุกสิ่งดูเหมือนจะบ่งชี้ว่า ผู้สร้าง Nuwar.B ได้พยายามที่จะแพร่กระจายผลงานของตัวเองให้ได้เร็วที่สุด

ข่าวจาก : ไทยรัฐ
วันที่ : 5 มกราคม 2550 เวลา 09:00 น.




 

Create Date : 05 มกราคม 2550    
Last Update : 6 เมษายน 2551 19:52:49 น.
Counter : 482 Pageviews.  

เผยตัวเลขนักศึกษาไอทีตกงานสูงที่สุด



จากการสำรวจของมหาวิทยาลัยในอังกฤษระบุว่าบัณฑิตสายเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการตกงานมากที่สุดในจำนวนบัณฑิตทั้งหมดที่จบออกมา แซงหน้านักศึกษาคณะประวัติศาสตร์ ธุรกิจสื่อ และศิลปะอย่างไม่น่าเชื่อ

Higher Education Careers Services Unit หรือ Hecsu ได้เป็นผู้ทำการสำรวจและเผยแพร่ในรายงานเรื่อง Destinations of Leavers from Higher Education ซึ่งมีการสำรวจจากบัณฑิตมากกว่า 200,000 คน และพบว่าผู้สำเร็จการศึกษาจากคณะสารสนเทศมีตัวเลขว่างงานสูงถึง 10.3 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของทุกสาขาวิชาที่มีแค่ 6.2 เปอร์เซ็นต์ไปอย่างขาดลอย

นอกจากนั้นยังพบว่า นักศึกษาคณะประวัติศาสตร์มีตัวเลขการตกงานต่ำกว่า (6.8 เปอร์เซ็นต์) คณะไอที เช่นเดียวกับคณะศิลปศาสตร์ (6.6 เปอร์เซ็นต์)

อย่างไรก็ดี บัณฑิตสองในสามของสาขาไอทีได้เข้าบรรจุเป็นพนักงานทันทีที่เรียนจบ คิดเป็นตัวเลข 71.5 เปอร์เซ็นต์ และรายได้เริ่มต้นของการเป็นมืออาชีพด้านไอทีก็สวยไม่เบา คิดเป็นตัวเลขประมาณ 20,886 ปอนด์ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของเงินเดือนนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาทั่วไปได้รับ (17,690 ปอนด์) ตามหลังเพียงรายได้ของนักศึกษาแพทย์ ที่มีรายได้เฉลี่ย 31,054 ปอนด์ต่อเดือนเท่านั้น

ประมาณ 42.4 เปอร์เซ็นต์ของบัณฑิตสายไอทีต้องการก้าวไปสู่การเป็นมืออาชีพในวงการสารสนเทศ ขณะที่ธุรกิจที่มีการจ้างผู้สำเร็จการศึกษาสายไอทีเข้าทำงานจะเป็นองค์กรเอกชน, ธุรกิจการเงิน ฯลฯ

การสำรวจดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายแสดงความวิตกกังวลกันว่า ผู้เข้าศึกษาต่อในสาขาไอทีจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในขณะนี้ก็พบว่า ตัวเลขผู้เข้าศึกษาต่อด้านไอทีลดลงไปกว่าครึ่งแล้วเมื่อเทียบกับช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากปริมาณความต้องการของตลาดแรงงานที่ลดลงในแต่ละปี

Company Related Links :
Hecsu


ข่าวจาก : ผู้จัดการออนไลน์
วันที่ : 4 มกราคม 2550 เวลา 11:02 น.




 

Create Date : 04 มกราคม 2550    
Last Update : 6 เมษายน 2551 19:53:50 น.
Counter : 564 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  

lcelcy
Location :
ชลบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มิถุนายน เดือนดี๊ดี " จุดกำเนิด iceicy's blog Dhamma"
ครบรอบ ๗ ปี แล้วค่ะ"

คนมาจากไหน?
เริ่มจาก เกิด แก่ เจ็บ และก็ตาย
คนก็หายไป !!...แต่ความดีไม่เคยหายไปด้วย..
ทุกคนจำวันเกิดตัวเองได้ไหม... ก็คงจำได้กันหมดอะน่ะ
เคยคิดจะทำอะไรดีดี....
ให้กับตัวเองและคนอื่น..ในวันครบรอบวันเกิดของตัวเองไหมค่ะ?

ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. ๒๕๔๙ (๗ ปีได้ผ่านมาแล้ว)
ฉันได้ทำสิ่งที่ชอบ และชอบในสิ่งที่ฉันได้ทำ
สิ่งนั้น คือ " บล๊อกเกี่ยวกับหลักธรรมข้อคิดต่างๆ "
เริ่มจากทำไม่เป็น ลองผิดลองถูก ทำจนสำเร็จ
ทั้งนี้ ขอขอบพระคุณ " กำลังใจ " คนรอบข้าง
และทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม iceicy's blog Dhamma น่ะค่ะ
(ซึ้งน่ะซึ้งน่ะเนี่ย!!!!)
<

วัตถุประสงค์ iceicy blog Dhamma
1. เพื่อเผยแพร่และสนับสนุนส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้อยู่คู่กับประเทศไทย
2. เพื่อนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ประโยชน์ในทางพระพุทธศาสนา
3. เพื่อแบ่งปันความรู้ทางพระพุทธศาสนา และแลกเปลี่ยนข่าวสารทั่วไป
4. สรรเสริญบุคคลที่ควรสรรเสริญ ยกย่องบุคคลที่ควรยกย่อง

Google



Link to us:
ท่านสามารถนำ code ของ banner นี้
ไปติดที่เว็บของท่านได้ตามสะดวกน่ะค่ะ
ขอขอบคุณและขออนุโมทนามา ณ ที่นี้ด้วยน่ะค่ะ

Iceicy blog dhamma



New Comments
Friends' blogs
[Add lcelcy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.