|
ระวัง!!! ไอพอดวิดีโอบางเครื่องติดไวรัสวินโดวส์
ระวัง!!! ไอพอดวิดีโอบางเครื่องติดไวรัสวินโดวส์
รายงานข่าวแจ้งว่า บริษัท แอปเปิ้ล ประกาศขอโทษลูกค้าเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เนื่องจากโรงผลิตแห่งหนึ่งของทางบริษัทได้ออกเครื่องเล่นไอพอดวิดีโอไปพร้อมกับไวรัสบนวินโดวส์ชื่อว่า RavMonE.exe ทั้งนี้ไอพอดวิดีโอที่ติดไวรัสคิดเป็น 1% ของเครื่องทั้งหมดที่ออกวางตลาดตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2006
RavMonE.exe เป็นไวรัสที่แพร่กระจายผ่านอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (storage device) และติดเฉพาะในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Windows ข้อมูลจากผู้ค้าซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสที่ตั้งชื่อไวรัสตัวนี้ว่า Win32.Rjump.a และ Troj/Bdoor ระบุ ไวรัสดังกล่าวเป็นโทรจันที่สามารถเปิดการเชื่อมโยงระหว่างคอมพิวเตอร์กับเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อแจ้งให้ผู้ไม่หวังดีทราบว่า สามารถเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตกเป็นเหยื่อได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ไวรัสตัวนี้ได้รับการจัดอันดับความเสี่ยงโดยบริษัทโซฟอสไว้ที่ระดับ “ต่ำ”
ข้อความในหน้าเว็บซัพพอร์ตของแอปเปิ้ลระบุว่า “จนถึงตอนนี้ ทางบริษัทได้รับแจ้งปัญหาการติดไวรัส (จากไอพอดวิดีโอ) ไม่ถึง 25 ราย สำหรับผู้ใช้ iPod nano, iPod Shuffle และระบบปฏิบัติการ Mac OS X จะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด และสำหรับเครื่องเล่น Video iPod ทุกเครื่องที่วางจำหน่ายตอนนี้ไม่มีไวรัส” ทางแอปเปิ้ลยังได้ใช้จังหวะนี้กล่าวตำหนิระบบปฎิบัติการ Windows ที่ไม่ได้ปกป้องลูกค้าจากมัลแวร์ให้มากกว่านี้ “ทางบริษัทรู้สึกแย่ที่ระบบปฏิบัติการ Windows ไม่แข็งแรงพอที่จะต่อสู้กับภัยคุกคามอย่างไวรัส และยิ่งรู้สึกแย่ไปกว่านั้นอีกที่เราไม่สามารถจัดการพวกมันได้ทัน(ก่อนหลุดออกไป)”
เจ้าของเครื่องเล่นไอพอดวิดีโอที่เสี่ยงต่อการโดนโจมตีจากโทรจันที่ติดไปกับเครื่อง ควรรันซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส เพื่อลบมันออกไปจากคอมพิวเตอร์เป็นการด่วน โดยลูกค้าสามารถใช้บริการฟรี Windows Live OneCare safety scanner is a free ของไมโครซอฟท์ที่สามารถทำงานจากในบราวเซอร์ เพื่อตรวจสอบเครื่องได้ “เนื่องจากการแพร่กระจายของไวรัสบนวินโดวส์ตัวนี้จะกระทำผ่านอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ดังนั้น เราแนะนำว่า คุณควรสแกนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลทั้งหมดที่คุณได้ต่อเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ที่รันวินโดวส์ ซึ่งอุปกรณ์ที่มีโอกาสติดไวรัสพวกนี้ได้ก็เช่น ฮาร์ดดิสก์ภายนอก, การ์ดหน่วยความจำที่ใช้กับกล้องดิจิตอล ตลอดจนแฟลชไดรฟ์” แอปเปิ้ลกล่าวเพิ่มเติม
แม้ว่า ระบบปฏิบัติการ Mac OS X จะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ไวรัสจะยังคงอยู่ในอุปกรณ์เหล่านี้ ทางแอปเปิ้ลแนะนำว่า ลูกค้าสามารถใช้คุณสมบัติ Restore ของซอฟต์แวร์ iTunes 7 เพื่อล้างข้อมูลให้ iPod หมดจด เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อมันกับคอมพิวเตอร์ที่รันวินโดวส์ได้โดยไม่ต้องกังวลต่อปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
ข่าวจาก : ARiP วันที่ : 18 ตุลาคม 2549 เวลา 12:01 น.
Create Date : 18 ตุลาคม 2549 |
Last Update : 6 เมษายน 2551 20:24:26 น. |
|
0 comments
|
Counter : 398 Pageviews. |
 |
|
|
| |
|
|