|
สุขใดเท่าใจหยุดยิ่ง ไม่มีอีกแล้ว[หลวงพ่อจรัญ]
สุขใดเท่าใจหยุดยิ่ง ไม่มีอีกแล้ว[หลวงพ่อจรัญ]
Create Date : 04 พฤษภาคม 2556 | | |
Last Update : 4 พฤษภาคม 2556 12:45:40 น. |
Counter : 3800 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ให้พิจารณาความตาย[หลวงปู่ชอบ ฐานสโม]
ให้พิจารณาความตาย[หลวงปู่ชอบ ฐานสโม] วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย
Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2556 | | |
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2556 14:46:13 น. |
Counter : 1273 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เห็นทุกข์..ไม่มีทุกข์[หลวงพ่อชา]
Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2556 | | |
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2556 13:05:47 น. |
Counter : 1376 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
หมั่นสร้างบารมีไว้ แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง[โต พรหมรังสี]
Create Date : 31 มกราคม 2556 | | |
Last Update : 31 มกราคม 2556 9:25:52 น. |
Counter : 1212 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
อำนาจแห่งพรหมวิหาร 4
อำนาจแห่งพรหมวิหาร 4
มีเมตตาเป็นพละ กำจัดศัตรูภาพได้ดี กรุณาเป็นพละ กำจัดทารุณภาพได้ดี มุทิตาพละ กำจัดความทุกข์โศกของผู้อื่นได้ดี อุเบกขาพละ กำจัดกามราคะในเพศตรงข้ามได้ดี
โดยปกติมักจะได้ยินครูบาอาจารย์ท่านพูดท่านกล่าวถึงพรหมวิหาร 4 ที่ประกอบด้วยคุณธรรม 4 ประการอยู่บ่อยครั้ง หากน้อยคนจะรู้ถึงอำนาจแห่งพรหมวิหาร 4 ว่ามีผลต่อการบำเพ็ญธรรมอย่างไร หรือแม้จะรู้ก็ยากจะปฏิบัติได้โดยง่าย ครับ วันนี้ผู้เขียนขอพูดถึงปัญหาหญ้าปากคอกเหล่านี้พอเป็นกระสายยา สำหรับใครที่รู้แล้วก็ถือว่าเป็นการทบทวนความทรงจำก็แล้วกันนะครับ คำว่า พรหมวิหาร แปลความง่าย ๆ ก็คือที่อยู่แห่งพรหม หรือการอยู่อย่างพรหมนั้น พรหมคือบุคคลจำพวกหนึ่งที่ทำความดีในยามเป็นมนุษย์แล้ว ได้อุบัติในพรหมโลก พรหมนั้นมีใจสะอาด นิ่มนวล อ่อนโยน ควบคุมใจไว้ในอำนาจได้ดี และมีคุณธรรมประจำใจ 4 ประการ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ธรรม 4 ประการนี้เรียกว่า พรหมวิหาร
ดังนั้นการที่เราอบรมใจโดยยึดเอาลักษณะของพรหมเป็นตัวอย่าง ปลูกธรรมทั้ง 4 ประการนั้นขึ้นในใจตน ทำตนให้เหมือนพรหม เรียกว่าการเจริญพรหมวิหาร การเจริญพรหมวิหารพึงเจริญไปตามลำดับดังนี้ครับ 1. เมตตา เป็นความรักที่บริสุทธิ์ มีลักษณะมุ่งดี หวังดี ตรงข้ามกับการขึ้งเคียดเกลียดชัง เป็นความรักที่ปราศจากกามราคะ ความกำหนัด เป็นความรักที่เป็นเหมือนความรักระหว่างบิดามารดากับบุตรธิดา 2. กรุณา ความเอ็นดู มีลักษณะทนดูดายไม่ได้ พอใจช่วยเหลือเกื้อกูลให้เขาได้รับความสุข โดยไม่เห็นแก่เหนื่อยยาก และสิ่งตอบแทน ตรงข้ามกับความพยาบาทมาดร้าย 3. มุทิตา ความชื่นใจ มีลักษณะร่าเริงชื่นบานพลอยมีความยินดี มีส่วนกับความสุข ความเจริญของผู้อื่น ตรงข้ามกับความริษยาซึ่งไม่อยากให้ใครได้ดี มีสุขกว่าตนหรือเท่าตน 4. อุเบกขา ความเที่ยงธรรม มีลักษณะเป็นผู้ใหญ่ใจหนักแน่น รู้จักสิ่งเป็นไปได้-เป็นไปไม่ได้ มองเห็นความเป็นไปของสัตว์โลกได้ด้วยหลักแห่งกรรมอย่างชัดแจ้ง ควรช่วยก็ช่วย ช่วยไม่ได้ก็ไม่ทุกข์ใจตน เป็นผู้รู้จักประมาณ ทำให้ คุณธรรมในสามข้อแรกมีความสมดุล คนที่เข้าถึงอุเบกขาธรรมข้อนี้ใจจะสงบเย็นด้วยคุณธรรมข้อนี้อย่างมาก จึงสามารถข่มกามราคะได้อย่างดี วิธีปฏิบัติเพื่อการปลูกฝังคุณธรรมทั้ง 4 ประการนี้ ต้องเริ่มทีละข้อก่อน อย่างเช่นข้อเมตตา ต้องทำใจให้เป็นไปตามคุณธรรมนั้น โดยเริ่มที่คนใกล้ชิดก่อน แล้วค่อยขยายน้ำใจไปยังบุคคลอื่น ๆ ที่ห่างออกไปจากคนรัก ชอบ คนที่รู้สึกแบบกลาง ๆ คนทั่วไป คนที่เกลียดชัง สัตว์ทั่วไป ท้ายสุดคือตลอดสากลโลก ทุกทิศทาง
จากข้อเมตตา สู่ข้อกรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นลำดับ ด้วยวิธีการดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น จนกลายเป็นอารมณ์กำกับใจได้อยู่เสมอ เมื่อปฏิบัติได้ถึงขั้นนี้ ได้ชื่อว่า สำเร็จอัปปมัญญาเจโตวิมุตติ คือความสำเร็จที่เยี่ยมยอดของใจที่มีอิทธิพลเกินคาดหมาย คือมีเมตตาเป็นพละ กำจัดศัตรูภาพได้ดี กรุณาเป็นพละ กำจัดทารุณภาพได้ดี มุทิตาพละ กำจัดความทุกข์โศกของผู้อื่นได้ดี อุเบกขาพละ กำจัดกามราคะในเพศตรงข้ามได้ดี
สตรีกับบุรุษผู้มีอุเบกขาพละ จะเป็นมิตรสนิทสนมกันได้โดยไม่ละเมิดอธิปไตยของกันและกัน ประโยชน์อีกประการของการเจริญพรหมวิหารที่เห็นชัดก็คือ เป็นผู้อยู่เป็นสุข ปราศจากศัตรู มีแต่หมู่มิตร อีกทั้งยังมีร่างกายจิตใจเข็งแรง ผิวพรรณผ่องใส มองดูเยาว์วัย ไม่แก่ง่าย อีกด้วยครับ มาถึงตรงนี้อยากแนะนำนักปฏิบัติภาวนาทั้งหลายว่า การหมั่นเจริญพรหมวิหาร ที่กล่าวมาข้างต้นจะทำให้จิตชุ่มเย็น เวลาทำสมาธิจะทำให้จิตเข้าสู่ความสงบได้เร็วขึ้นด้วย ไม่มีนิวรณ์ 5 ที่เป็นเครื่องกั้นทางความสงบของจิต คือกามฉันทะ กำหนัดในกามคุณทั้งหลาย พยาปาทะ ความเจ็บแค้นเจ็บใจในผู้อื่น หรือทำความฉิบหายให้แก่ผู้ที่ตนเกลียด ถีนมิทธะ ความท้อใจและความซึมเซาของจิต อุทธัจจกุกุจจะ ความฟุ้งซ่านรำคาญใจ และท้ายสุด คือ วิจิกิจฉา ความสองจิตสองใจ ความลังเลสงสัยไม่ปลงใจลงไปในการหนึ่งการใดโดยเฉพาะ
นิวรณ์ 5 ประการเป็นกิเลส เป็นศัตรูร้ายสำหรับนักปฏิบัติสมาธิ เพราะจะทำให้เสียกำลังเสียปัญญาไป การเจริญพรหมวิหารจึงเป็นการขจัดนิวรณ์ห้า อันเป็นศัตรูภัยของสมาธิเสียแต่เนิ่น ๆ เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
ทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า พรหมวิหาร 4 ประการดังกล่าว เป็นคุณธรรมอันประเสริฐอย่างยิ่ง เป็นคุณธรรมที่ก่อประโยชน์ทั้งต่อตนเองและบุคคลอื่นโดยพร้อมกัน เป็นความสุขสันติในสังคมและในกายใจของบุคคลที่ได้มีความเพียร ในการเจริญคุณธรรมนี้อย่างแท้จริง
ที่มา : //www.dhamma5minutes.com/webboard.php?id=14&wpid=0019
|
Create Date : 12 พฤศจิกายน 2554 | | |
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2555 22:39:17 น. |
Counter : 1796 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|