สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)
 สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร
"หมั่นสร้างบารมีไว้..แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง"
"ลูกเอ๋ย..ก่อนจะเที่ยวไปขอบารมีหลวงพ่อองค์ใด เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเองคือบารมีของตนลงทุนไปก่อน เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอจึงค่อยขอยืมบารมีคนอื่นมาช่วย..หากไม่เช่นนั้นแล้ว เจ้าจะเอาตัวไม่รอดเพราะหนี้สินในบุญบารมีที่เที่ยวไปขอยืมมาจนพ้นตัว..เมื่อทำบุญทำกุศลได้บารมีมาก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมด ไม่มีอะไรเหลือติดตัวแล้ว เจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้า..หมั่นสร้างบารมีไว้แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง
จงจำไว้น่ะ...เมื่อยังไม่ถึงเวลาเทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้..ครั้นถึงเวลา..ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยุ่..จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลยจะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า.."
|
---|
Create Date : 17 มิถุนายน 2549 | | |
Last Update : 17 พฤษภาคม 2551 23:06:29 น. |
Counter : 1348 Pageviews. |
| |
|
|
|
สมเด็จพระสังฆราช
 โอวาทพระสุปฏิปันโน สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร อำนาจของกรรมใหญ่ยิ่งที่สุดในโลก ไม่มีอำนาจใดอาจทำลายได้ แม้อำนาจของกรรมดีก็ไม่อาจทำลายอำนาจของกรรมชั่ว และอำนาจของกรรมชั่วก็ไม่อาจทำลายอำนาจของกรรมดี อย่างมากที่สุดที่มีอยู่คืออำนาจของกรรมดี แม้ทำให้มากให้สม่ำเสมอในภพภูมินี้ก็อาจจะทำให้อำนาจของกรรมชั่วที่ได้ทำมาแล้ว ตามมาถึงได้ยาก.. ธรรมสำคัญประการหนึ่งที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญคือเมตตาธรรม ใครทั้งหลายก็สรรเสริญบรรดาผู้มีเมตตาธรรม ในขณะเดียวกันก็มีผู้ต้องเป็นทุกข์เพราะมีเมตตา ด้วยหลงเข้าใจว่า เมื่อมีเมตตา มีความสงสารก็ต้องมีใจไม่เป็นสุข ซึ่งที่จริงหาถูกต้องไม่... มีเมตตาต่อเขาผู้เป็นทุกข์นั้นดีนัก แต่ อย่าลืมเมตตาตน ตนเองปล่อยให้ใจตัวเองเป็นทุกข์เพราะเมตตาเขา ไม่มีอำนาจใดจะไปสู้กับอำนาจธรรมของใครได้ เมื่อเชื่อในเรื่องอำนาจกรรมเช่นนี้ ใจที่มีเมตตาก็จะเป็นการมีเมตตาอย่างถูกต้อง อย่างมีปัญญา ไม่พาใจตนเองไปสู่ความเร่าร้อนด้วยความเมตตาที่ไม่ถูกต้อง
|
---|
Create Date : 17 มิถุนายน 2549 | | |
Last Update : 17 พฤษภาคม 2551 23:06:47 น. |
Counter : 1177 Pageviews. |
| |
|
|
|
หลวงปู่มั่น ภูริทัตตะเถระ
 วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร "ผู้ปฏิบัติพึงใช้อุบายปัญญาฟังธรรมเทศนาทุกเมื่อ ถึงจะอยู่คนเดียวก็ตาม..คืออาศัยสำเหนียก กำหนดพิจารณาธรรมอยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน.. ตา หู จมูก ลิ้น กาย ก็เป็นรูปธรรมที่มีอยู่ปรากฎอยู่..รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ(สัมผัส) ก็มีอยู่ปรากฎอยู่..ได้เห็นอยู่ ได้ยินอยู่ ได้สูดดม ลิ้มเลีย และสัมผัสอยู่..จิตใจเล่า ก็มีอยู่ ความคิดนึกรู้สึกในอารมณ์ต่างๆ ทั้งดีและร้ายก็มีอยู่..ความเสื่อม ความเจริญ ทั้งภายนอกภายในก็มีอยู่..ธรรมชาติอันมีอยู่โดยธรรมดาเขาแสดงความจริง คือ ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ให้ปรากฎอยู่ทุกเมื่อ..เช่น ใบไม้มันเหลืองหล่นร่วงลงจากต้น ก็แสดงความไม่เที่ยงให้เห็นดังนี้เป็นต้น เมื่อผู้ปฏิบัติมาพินิจพิจารณาด้วยสติปัญญา โดยอุบายนี้อยู่เสมอแล้วชื่อว่าได้ฟังธรรมอยู่ทุกเมื่อ ทั้งกลางวันและกลางคืนแลฯ"
|
---|
Create Date : 17 มิถุนายน 2549 | | |
Last Update : 17 พฤษภาคม 2551 23:07:19 น. |
Counter : 1016 Pageviews. |
| |
|
|
|
| |
|
|