แก้ปัญหาเสียบสาย USB แล้วมองไม่เห็นกล้อง
หากคุณเชื่อมต่อสาย USB จากกล้องเข้ากับพอร์ต USB ของคอมพ์แล้ว ปรากโฏว่าวินโดวส์ไม่แจ้งว่าพบอุปกรณ์ต่อพ่วงใดๆ เลย ให้คุณถอดสาย USB ออกก่อน จากนั้นปิดสวิตซ์กล้อง เสียบสายเข้าไปยังพอร์ต USB อีกครั้ง แล้วจึงค่อยเปิดสวิตซ์ของกล้องดิจิตอล วิธีนี้แก้ปัญหาได้เฉพาะบางเครื่องทีมีปัญหากับพอร์ต USB
ทิปจาก : หนังสือ COMPUTER.TODAY
|
---|
Create Date : 30 มิถุนายน 2550 | | |
Last Update : 6 เมษายน 2551 19:37:04 น. |
Counter : 660 Pageviews. |
| |
|
|
|
MP3 ที่ใช้แฟลชเมโมรีกับฮาร์ดดิสก์อย่างไหนดีกว่ากัน
MP3 ที่ใช้แฟลชเมโมรีกับฮาร์ดดิสก์อย่างไหนดีกว่ากัน
ถ้าคุณจะซื้อเครื่องเล่น MP3 ที่ใช้แฟลชเมโมรีก็มีข้อดีที่ราคาถูกกว่า ดูแลรักษาได้ง่ายเพราะถ้าหล่นพื้นก็ไม่เสียง่าย แถมยังมีน้ำหนักเบากว่าด้วย ส่วนเครื่องเล่น MP3 ที่ใช้ฮาร์ดดิสก์นั้น มีข้อดีที่ความจุตอนนี้ยังมากกว่า ใช้โอนถ่ายข้อมูลใหญ่ๆ จากพีซีด้วยความเร็วที่สูงกว่าแฟลชเมโมรี และส่วนใหญ่ก็จะมีลูกเล่นในการใช้งานที่มากกว่าเครื่องเล่นที่ใช้แฟลชเมโมรี และส่วนใหญ่ก็จะมีลูกเล่นในการใช้งานที่มากกว่าเครื่องเล่นที่ใช้แฟลชเมโมรีด้วย แต่มีข้อควรระวังคืออย่าทำหลุดมือก็แล้วกัน
ทิปจาก : หนังสือ COMPUTER.TODAY
|
---|
Create Date : 30 มิถุนายน 2550 | | |
Last Update : 6 เมษายน 2551 19:37:49 น. |
Counter : 598 Pageviews. |
| |
|
|
|
การสำรวจพบวัยรุ่นอเมริกัน 1 ใน 3 เคยถูกข่มขู่ออนไลน์ ขอบคุณภาพประกอบจาก allposters.com

การสำรวจพบวัยรุ่นอเมริกัน 1 ใน 3 เคยถูกข่มขู่ออนไลน์ ขอบคุณภาพประกอบจาก allposters.com
ผลการสำรวจการใช้งานอินเทอร์เน็ตของชาวอเมริกันชิ้นล่าสุดพบว่า วัยรุ่นกว่า 1 ใน 3 เคยมีประสบการณ์ถูกข่มขู่บนโลกออนไลน์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง สถิติเหยื่อวัยรุ่นหญิงมีจำนวนมากกว่าวัยรุ่นชาย อย่างไรก็ตามวัยรุ่นส่วนใหญ่ชี้ว่า การถูกข่มขู่บนโลกออนไลน์ยังน้อยกว่าแบบออฟไลน์ หรือการข่มขู่ในชีวิตจริงอยู่
โครงการสำรวจการใช้งานอินเทอร์เน็ตของชาวอเมริกันหรือ Pew Internet & American Life Project นี้รวบรวมข้อมูลจากวัยรุ่นจำนวน 935 ราย อายุระหว่าง 12-17 ปีทั่วสหรัฐอเมริกา
ผลสรุปข้อมูลจากวัยรุ่นที่เคยมีประสบการณ์ถูกข่มขู่ออนไลน์ชี้ว่า รูปแบบการข่มขู่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือการเผยแพร่ข้อความสนทนาส่วนตัวแก่กลุ่มบุคคลอื่น ทั้งอีเมลและข้อความสนทนาหรือ instant message โดยกลุ่มตัวอย่างกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ล้วนระบุว่าเคยมีประสบการณ์กระอักกระอ่วนเพราะถูกมือดีลักลอบนำข้อความส่วนตัวไปเผยแพร่
รูปแบบการข่มขู่ที่ได้รับความนิยมรองลงมาคือการปล่อยข่าวลือ และการโพสต์ภาพแอบถ่ายหรือภาพตัดต่อบนเว็บไซต์ รวมถึงการถูกขู่กรรโชกรุนแรงทางอีเมล ข้อความสนทนา และเอสเอ็มเอสบนโทรศัพท์มือถือ
การสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ภัยข่มขู่ออนไลน์นั้นมีระดับความร้ายแรงมากกว่าภัยคุกคามทางเพศออนไลน์ เนื่องจากจำนวนเหยื่อที่ถูกข่มขู่นั้นเพิ่มขึ้นมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ล่าสุดการสำรวจปี 2006 ชี้ว่าสถิติวัยรุ่นที่ถูกข่มขู่ออนไลน์นั้นมีจำนวนเฉลี่ยราว 13 ล้านรายต่อปี มากกว่าสถิติของศูนย์ติดตามเยาวชนพลัดหลงแห่งชาติสหรัฐฯหรือ National Center for Missing and Exploited Children ที่ระบุว่าวัยรุ่นที่ถูกคุกคามทางเพศออนไลน์นั้นมีสัดส่วนราว 1 ใน 7 ของกลุ่มตัวอย่าง
อแมนดา เลนฮาร์ท (Amanda Lenhart) นักวิจัยอาวุโสของ Pew ผู้เรียบเรียงรายงานฉบับนี้ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้การข่มขู่ออนไลน์ขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่องนั้นมีหลายจุด หนึ่งในนั้นคือความสะดวกและง่ายดายในการส่งต่อข้อมูลลับทางอินเทอร์เน็ต ทั้งข้อมูลที่อยู่ในรูปข้อความ รูปภาพ และการกระจายข่าวลือบนเว็บไซต์ที่ผู้ปล่อยข่าวไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัว ประกอบกับคอมพิวเตอร์ไม่ถูกปิดกั้นจากเด็กและวัยรุ่น ส่งให้การข่มขู่ทำได้ง่ายดายเพียงการคลิกเมาส์ไม่กี่คลิก
Pew ระบุว่า สถิติวัยรุ่นหญิงที่ถูกข่มขู่ออนไลน์อยู่ที่ 28 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าวัยรุ่นชายที่มีสถิติราว 26 เปอร์เซ็นต์ ความเสี่ยงส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยรุ่นที่นิยมเล่นเว็บไซต์ชมชุนออนไลน์อย่าง Facebook หรือ MySpace.com ซึ่งกลุ่มตัวอย่างกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ระบุว่าเคยถูกข่มขู่ออนไลน์มาแล้ว
แม้จะขยายตัวรวดเร็วจนน่าเป็นห่วง แต่กลุ่มตัวอย่างกว่า 67 เปอร์เซ็นต์ชี้ว่า การข่มขู่ออนไลน์ยังมีจำนวนน้อยกว่าการข่มขู่แบบออฟไลน์ในชีวิตจริง เท่ากับว่าปัญหาการข่มขู่ในโรงเรียนหยั่งรากลึกกว่าการข่มขู่ออนไลน์มากมายนัก Company Related Links : PewInternet
ข่าวจาก : ผู้จัดการออนไลน์ ฟรีแวร์โซน
|
---|
Create Date : 30 มิถุนายน 2550 | | |
Last Update : 6 เมษายน 2551 19:38:42 น. |
Counter : 627 Pageviews. |
| |
|
|
|
| |
|
|