All Blog
ค่า RSI หรือ Relative Strength Index
ค่า RSI หรือ Relative Strength Index
 
กราฟเครื่องมือของนักเก็งกำไรที่เลือกดู RSI
RSI หรือ Relative Strength Index เป็น Indicator ยอดฮิต แต่อาจตีความต่างกัน
ค่ามาตรฐานของ RSI จะอยู่ที่ 50
  1. ค่า RSI บอกปริมาณการซื้อขายถ้า RSI มากกว่า 70 แสดงว่า Overbought ราคาหุ้นร้อนแรงเกินไป อาจปรับฐานระยะสั้น บางคนชอบซื้อช่วงหุ้นอยู่ในขาขึ้น
ถ้า RSI น้อยกว่า 30 แสดงว่า ราคาหุ้นลงมาเยอะมาก เกิดสภาวะ Oversold อาจเด้งขึ้นระยะสั้น บางคนชอบช้อนซื้อหุ้นที่ราคาลงต่ำมาก
บอกแล้วต่างคนต่างใจ คนชอบเสี่ยง หุ้นขึ้นมีโอกาสได้กำไร คนชอบความต่างของราคาจะซื้อตอนราคาต่ำเผื่อขายได้ตอนราคาขึ้น
ข้อสังเกต จุดเปลี่ยนแสดงถึงจุดพลิกผัน เช่น
Oversold เป็น Overbought ðจากหุ้นขาลงเป็นหุ้นขาขึ้น
Overbought เป็น Oversold ðจากหุ้นขาลงเป็นหุ้นขาขึ้น
 
2. ค่า RSI บอก momentum
            ถ้าค่า RSI มากกว่า 50 และมีแนวโน้มขึ้นไปเรื่อย ๆ แสดงว่าหุ้นนี้แข็งแกร่ง น่าซื้อ
            ถ้าค่า RSI ต่ำกว่า 50 และลงต่อไปเรื่อย ๆ แสดงว่ามี Momentum เชิงลบ น่าขาย
 
3. ค่า RSI บอก Divergence สัญญาณขัดแย้งระหว่างราคาหุ้นและIndicator
มี 2 แบบ คือ Bullish Divergence และ Bearish Divergence
ราคาหุ้นขึ้นต่อทำ New High แต่ RSI ไม่ขึ้นตาม หรือไม่ได้มี High ใหม่ตามราคาหุ้นเป็นสัญญาณ Divergence ที่อาจจะทำให้หุ้นลงหรือเกิดการปรับฐานระยะสั้นได้
  
ราคาหุ้นทำ New low แต่ RSI ไม่ได้ Low ตาม กลับเริ่มยก High ได้ อาจจะเป็นสัญญาณที่หุ้นอาจจะกลับมารีบาวหรือมีการเปลี่ยนแนวโน้มระยะสั้น
 
 การใช้ RSI ควรควบคู่กับเส้นค่าเฉลี่ย หรือ MACD
Cr stock2morrow
 

 



Create Date : 20 มกราคม 2564
Last Update : 20 มกราคม 2564 15:47:19 น.
Counter : 1009 Pageviews.

0 comment
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ช่วยซื้อหรือขาย
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ช่วยซื้อหรือขาย
 
            ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) ที่จะช่วยหาแนวโน้มของราคาหุ้น ทำให้มองเห็นจุดซื้อจุดขายจากจุดตัดของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หาแนวหนุนแนวต้านจากค่าความลาดชันที่จะเอ่ยถึง คือ
SMA (Simple Moving Average)
SMA คำนวนค่าเฉลี่ยทั่วไปโดยไม่ถ่วงน้ำหนัก เหมาะกับหุ้นที่เปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป
EMA (Exponential Moving Average)
            EMA คำนวณโดยถ่วงน้ำหนักมาที่ข้อมูลที่ใกล้เคียงกับปัจจุบัน โดยไม่ทิ้งข้อมูลเดิม ใช้ได้ดีเมื่อราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
            เมื่อใช้ทั้ง 2 เส้นนี้พร้อมกันให้ดูจุดตัด
 
ถ้า EMA ตัดเส้น SMA ขึ้นเป็นสัญญาณซื้อ
            ถ้า EMA ตัดเส้น SMA ลงเป็นสัญญาณขาย
            ตลาดขาขึ้น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของราคาปิดย่อมสูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของราคาเปิด
            ตลาดขาลง เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของราคาปิดย่อมต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของราคาเปิด
 
Cr สนธิ อังสนากุล มหัศจรรย์แห่งเทคนิค

 



Create Date : 18 มกราคม 2564
Last Update : 18 มกราคม 2564 17:39:53 น.
Counter : 412 Pageviews.

0 comment
เมื่อหุ้นจะทำ new high, new low
เมื่อหุ้นจะทำ new high, new low
 
            ใช่ว่าจะเล่นหุ้นให้ได้เงิน มันง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
            เขาว่ารู้มากเท่าไร จะดีต่อการตัดสินใจมากขึ้นเท่านั้น
            ศัพท์แสงทางวิชาการหุ้น พอรู้บ้างน่าจะดีกว่าไม่รู้เลย แต่คงไม่จำเป็นต้องลึกซึ้งขนาดนักวิเคราะห์
ดัชนีบ่งชี้ indicator ต่อแนวโน้มหุ้น
trend following ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แสดงแนวโน้ม
oscillators เมื่อราคาหุ้นไม่เป็นไปตามแนวโน้ม เช่น ออกด้านข้าง
Divergence เป็นค่าที่บอกว่าราคาหลักทรัพย์ขัดแย้งกับดัชนีบ่งชี้
Convergence เมื่อเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
            เมื่อเส้นดัชนีบ่งชี้อยู่ใต้เส้นนัยสำคัญ MACD RSI 30,70 แล้วปรับตัวขึ้น แนะให้ซื้อ
            เมื่อเส้นดัชนีบ่งชี้อยู่เหนือเส้นนัยสำคัญ MACD RSI 30,70 แล้วอ่อนตัวลง แนะให้ขาย
            MACD = EMA12 - EMA26
            RSI เป็นพวก price-following oscillator มีค่า 0 – 100
ถ้า RSI > 70 แล้วกลับตัวลง มีเด้งขึ้นแต่ไม่ถึงจุดเดิม น่าจะเป็นขาลง
ถ้า RSI < 30 ตกลงมาแล้วดีดขึ้นเท่าจุดเดิม น่าจะเป็นขาขึ้น
            ค่า RSI 40-60 มีแรงซื้อพอ ๆ กับแรงขาย
ถ้า RSI < 40 แรงขายมากกว่า
ถ้า RSI > 60 แรงซื้อมากกว่า
ถ้า RSI > 85 น่าซื้อ
            คำที่จะใช้ดูกราฟหุ้นที่สำคัญคือ MACD กับ RSI และตัวเลขที่ให้มา ไม่ต้องจำ แค่เปิดดูก่อนจะตัดสินใจ
 
Cr สนธิ อังสนากุล มหัศจรรย์แห่งเทคนิค

 

 



Create Date : 18 มกราคม 2564
Last Update : 18 มกราคม 2564 17:38:53 น.
Counter : 398 Pageviews.

0 comment
เมื่อหุ้นจะทำ new high, new low
เมื่อหุ้นจะทำ new high, new low
 
            ใช่ว่าจะเล่นหุ้นให้ได้เงิน มันง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
            เขาว่ารู้มากเท่าไร จะดีต่อการตัดสินใจมากขึ้นเท่านั้น
            ศัพท์แสงทางวิชาการหุ้น พอรู้บ้างน่าจะดีกว่าไม่รู้เลย แต่คงไม่จำเป็นต้องลึกซึ้งขนาดนักวิเคราะห์
ดัชนีบ่งชี้ indicator ต่อแนวโน้มหุ้น
trend following ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แสดงแนวโน้ม
oscillators เมื่อราคาหุ้นไม่เป็นไปตามแนวโน้ม เช่น ออกด้านข้าง
Divergence เป็นค่าที่บอกว่าราคาหลักทรัพย์ขัดแย้งกับดัชนีบ่งชี้
Convergence เมื่อเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
            เมื่อเส้นดัชนีบ่งชี้อยู่ใต้เส้นนัยสำคัญ MACD RSI 30,70 แล้วปรับตัวขึ้น แนะให้ซื้อ
            เมื่อเส้นดัชนีบ่งชี้อยู่เหนือเส้นนัยสำคัญ MACD RSI 30,70 แล้วอ่อนตัวลง แนะให้ขาย
            MACD = EMA12 - EMA26
            RSI เป็นพวก price-following oscillator มีค่า 0 – 100
ถ้า RSI > 70 แล้วกลับตัวลง มีเด้งขึ้นแต่ไม่ถึงจุดเดิม น่าจะเป็นขาลง
ถ้า RSI < 30 ตกลงมาแล้วดีดขึ้นเท่าจุดเดิม น่าจะเป็นขาขึ้น
            ค่า RSI 40-60 มีแรงซื้อพอ ๆ กับแรงขาย
ถ้า RSI < 40 แรงขายมากกว่า
ถ้า RSI > 60 แรงซื้อมากกว่า
ถ้า RSI > 85 น่าซื้อ
            คำที่จะใช้ดูกราฟหุ้นที่สำคัญคือ MACD กับ RSI และตัวเลขที่ให้มา ไม่ต้องจำ แค่เปิดดูก่อนจะตัดสินใจ
 
Cr สนธิ อังสนากุล มหัศจรรย์แห่งเทคนิค

 



Create Date : 18 มกราคม 2564
Last Update : 18 มกราคม 2564 17:22:52 น.
Counter : 269 Pageviews.

0 comment
เทคนิคการเล่นหุ้นรายวัน
เทคนิคการเล่นหุ้นรายวัน
 
              การหาเงินง่าย ๆ ได้ทุกวัน ใช่ว่าจะทำไม่ได้ ทำได้แน่ แต่ไม่ใช่กับทุกคน แล้วใครล่ะ จะได้เงินจากหุ้นทุกวัน
            Day trader ที่เก่ง ๆ บางคนสามารถหาเงินจากส่วนต่างของราคาหุ้น capital gain ด้วยการช้อนซื้อช่วงที่ราคาลง และขายในราคาที่ได้กำไร
            กลุ่มนี้จะนั่งเฝ้าหน้าจอ มองว่าราคาซื้อราคาขาย มีช่วงต่ำสุดสูงสุดอยู่ที่ใด มากพอจะได้เงินไหม แล้วคูณกับจำนวนหน่วยที่ซื้อ เช่น ถ้าซื้อ 2000 หน่วย ได้หน่วยละ 1 บาท หักค่า vat & broker จะเหลือพันกว่า
            พวกที่มีหลักว่า high risk high return จะซื้อหุ้นจำนวนมากแล้วคูณกับผลต่าง ถ้าพอใจจะเลือกตัวนั้น ยังไม่พอ ต้องดูว่าวันนั้นอยู่ใน Top gainer หรือเปล่า มี volume จำนวนการซื้อขายในวันนั้นมากหรือน้อยนิด
            วันที่คนมะรุมมะตุ้ม เข้าซื้อขายมาก เรียกหุ้นกระทิง จะได้กำไรจากผลต่างนี้ง่าย ถ้าเงียบเหงา ยอดคนซื้อน้อยนิด ซื้อแล้วอาจขายไม่ได้ เรียกหุ้นหมี หมีอุ้ยอ้ายส่วนวัวกระทิงคึกคักปราดเปรียว
            นักเล่นหุ้นรายวันชอบนักที่จะให้เป็นหุ้นกระทิงสนุกเขาล่ะ แต่ใช่ว่าจะโผล่มาให้เห็นบ่อย ๆ เช่นนี้เลยต้องมองหุ้นทุกวัน
            หุ้นราคาถูกมีโอกาสได้เงินมากกว่าในจำนวนเงินที่ลงทุนเท่ากัน เช่น ซื้อหุ้นตัวละ 4 บาท ซื้อ 10,000 หุ้น จ่าย 40,000 ถ้าขึ้นเป็น 4.25 จะได้ 10,000 คูณ .25 เท่ากับ 2,500 ถ้าซื้อตัวละ 100 ในวงเงิน 40,000 จะได้ 400 หุ้น กำไร 50 สตางค์ จะได้เงิน 400 คูณ .50 เท่ากับ 200
            นิด ๆ หน่อย ๆ ก่อนจ่ายเงินนะพวก ดูปริมาณการซื้อขายอันดับต้น ๆ ที่ราคาต่ำสิบ แนวโน้มไม่ใช่ปั่นหุ้นรายวัน ต้องมีพื้นฐานหุ้นดีพอควรด้วย จึงจะพอเป็นนักเล่นหุ้นรายวันกะเขาได้บ้าง
อีกอย่างต้องเข้าใจว่า โอกาสทำเงินของนักเล่นหุ้นรายวันใช่ว่าจะโผล่มาให้เห็นทุกวัน
อย่าหลงเหลิงลำพองว่าข้าแน่ หาเงินได้ง่าย ๆ ทุกวัน มันไม่ใช่เช่นนั้น แต่โอกาสเช่นนี้มีได้ แต่มีเงื่อนไขให้ระวัง ไม่ทุ่มเงินก้อนโตในช่วงที่แนวโน้มหุ้นอยู่ในขาลง ไม่เลือกหุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายเบาบาง และไม่อยู่ในสายตาของนักเล่นหุ้นส่วนใหญ่

 



Create Date : 18 มกราคม 2564
Last Update : 18 มกราคม 2564 16:40:51 น.
Counter : 312 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments