Group Blog All Blog
|
อารมณ์ที่ควบคุมการตัดสินใจ
อารมณ์ที่ควบคุมการตัดสินใจ
การเล่นหุ้นนอกจากฉลาดเฉลียวรอบรู้แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่พึงระวังคืออารมณ์ อารมณ์ขณะเล่นหุ้น อยู่หน้าจอตามลำพังคนเดียวมี 2 อย่าง คือ โลภ กับ กลัว ถ้าปล่อยให้อารมณ์ทั้งสองเข้ามามีอิทธิพลหนือการตัดสินใจแล้ว สิ่งตามมาอาจเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี เมื่อเราเล่นหุ้น แล้วเห็นเงินลอยมาตรงหน้าอย่างง่ายดาย สิ่งที่เกิดขึ้น คือ คำถามว่า ทำไมและทำไม ไม่ซื้อมากกว่านี้ (วะ) ฉุนเล็กน้อยถึงมาก แทนที่จะได้เท่านี้ มันควรจะได้มากกว่านี้นี่นา นี่เขาเรียกว่า ความโลภ ผนวกกับความเชื่อในหมอดู คำทำนายรายวันจากสื่อว่า วันนี้ดวงดี และการหลงตัวเองว่า ข้าเก่ง ข้าแน่ ข้าเจ๋ง ทำเงินได้ง่าย ๆ แทนที่จะไปเหนื่อยยากลำบากกาย อารมณ์ช่วงนี้คงเหมือนพวกนักพนัน หรือผีพนันเข้าสิง เขาว่ากันว่า เมื่อแรกเล่นพนัน มักจะได้และได้จำนวนมาก จนคนเล่นหลงระเริง ปล่อยให้ผีพนันเข้าสิง กลายเป็นนักพนันตัวจริงในที่สุด เมื่อความโลภเข้าสิงในอารมณ์ มีหรือจะทำอะไรน้อย ๆ ทำทั้งที เอาให้มันคุ้มเลยรวยเลยดีกว่า ผลคือราคาหุ้นตัวแม่ร่วงลงต่อเนื่อง แต่อะไร ๆ ย่อมเกิดขึ้นได้แน่นอน กราฟหุ้นมีขึ้นมีลง ไม่มีเส้นกราฟใดพุ่งขึ้นตลอด การจับจังหวะได้กำไรตอนหุ้นขาขึ้น ลถึงจุดสูงสุดของรอบแล้ว มันจะถลาร่อนลม หล่นลงมา บางทีค่อยไต่ระดับ บางคนยอม cut loss ยอมเสียน้อยมากกว่าเสียมาก ขอเตือน เฉือนเนื้อทีละน้อย เฉือนบ่อย ๆ อาจหมดตัวได้ ความกลัวล่ะ มันน่ากลัวตรงไหน มันตรงข้ามกับความโลภ มองเห็นกำไรอยู่ตรงหน้า แต่กลัวจะขาดทุน เลยชวดโอกาสดี ๆ ให้หลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา ภาษาเม่าเขาเรียกตกรถแล้วพวก ตกลงแล้ว ระหว่างโลภ ไล่ซื้อไปเรื่อย ๆ เอากำไร จนติดดอย ราคาลงต่ำกว่าทุน ขายก็ขาดทุน ถือเก็บไว้ก็ติดดอย เงินเย็นไม่มีปัญหา เงินร้อน เจ๊งกับเจ๊งสิครับ ส่วนกลัว ไม่กล้าซื้อสักที คิดแต่เดี๋ยวมันลงจะขาดทุน เลิกเล่นหุ้นเถอะ ฝากธนาคารสบายใจกว่ากันเยอะเลย ไม่ต้องเสี่ยงโชค ไม่ต้องหวังกำไรหรอก หุ้น side way
ฟังรายการหุ้น ได้ยินแต่นักวิเคราะห์หุ้นพูดคำว่า side way
อะไรคือ side way ได้ยินมาหลายปีดีดัก พอเลยสิงหา 60 มา เริ่มจะได้ยินคำว่า downside บ้าง upside บ้าง side way คือหุ้นออกข้าง ๆ ไม่ขึ้นหรือลง ที่จริงธรรมชาติหุ้นมีขึ้นมีลงอยู่แล้วมี range ของมันระหว่างจุดสูงสุดจุดต่ำสุด หรือแรงต้านแรงรับ แต่ไม่ได้หวือหวา ขึ้นหรือลงเลยขอบเขตที่กำหนดให้สักเท่าใด ผู้ที่จะทำกำไรหุ้น คงทำได้ในขอบเขตนี้ ไม่ได้ชื่นอกชื่นใจเป็นพิเศษกับหุ้นกระทิง หุ้นที่ออก side way เรื่อย ๆ อย่างนี้เลยเรียกว่า หุ้นหมี หุ้นเหมือนคนที่รายล้อมรอบตัวเรา บางวันเจอแต่คนอารมณ์ดี ซื้อขนมนมเนยแจก บางวันแย่เลยเจอแต่คนขี้โมโหเหวี่ยงเข้าใส่ตลอด บางวันไม่พูดไม่จาด้วย เอาแต่นิ่งเฉยไม่ตอบโต้ หุ้นเหมือนคน ที่มีความต่างกันโดยธรรมชาติ อยากคบแล้วได้ประโยชน์ ต้องทำความรู้จักคนนั้นอย่างดี หุ้นก็เช่นกัน แต่ละวันต่างกัน บางวันดุเด็ดเผ็ดมัน บางวันเกียจคร้านไม่อยากทำอะไร เอาแต่นั่ง ๆ นอน ๆ เล่นหุ้น ต้องเข้าใจธรรมชาติของหุ้นในแต่ละวัน แต่ละช่วง จะได้ตอบสนองตอบมันได้อย่างถูกต้อง เล่นกับเงินให้ได้เงิน
เล่นกับเงินให้ได้เงิน
คงมีหลายคนที่มี mindsets ความตั้งใจอยากร่ำรวย โถ ก็เราอยู่ในยุคทุนนิยมนี่นา หลายคนทำงานทีเดียว 2- 3 งานพร้อมกัน ผิดกับสมัยก่อน ข้าราชการต้องจงรักภักดี อุทิศตนให้กับงานราชการอย่างเดียวเท่านั้น ใครมีงานพิเศษต้องโดนหัวหน้าตำหนิติเตียน เงินไม่พอใช้กับการยังชีพอย่างคนรุ่นใหม่ เลยจำต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนกันไป เงินเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนที่ทำงานอาชีพอิสระ และผู้ที่หวังเงินจากการเล่นกับเงิน เช่น เล่นหุ้น ค้าขายอสังหา ให้เงินต่อเงิน ช่วงเศรษฐกิจฟูเฟื่อง หาเงินได้เป็นกอบเป็นกำ มากับสายลมและแสงแดดทีเดียว แต่พอเกิดวิกฤติการณ์ต้มยำกุ้ง 2540 ทำให้คนล้มละลายไปตาม ๆ กัน จากคนที่ร่ำรวยแบบง่าย ๆ ด้วยการเงินสะพัด แล้วล้มแบบฉับพลัน บางคนล้มพับจนทนไม่ได้ต้องจบชีวิตของตนและครอบครัว บางคนล้มบนฟูกตัวเองเจ็บน้อยแต่คนรอบข้างกระอักเลือดไปตาม ๆ กัน มีผู้รู้ให้ข้อสังเกตว่า วิกฤติการณ์แห่งเศรษฐกิจผันผวน จะเกิดทุก 10 ปี ฝรั่งบอก ค.ศ. ที่ลงท้ายด้วย 7 นั่น แต่ไทยลงท้ายด้วย 0 จริงเท็จไม่รู้ คนที่เล่นกับเงินให้ได้เงิน บางคนไม่หวั่นไหว บอก ฉันเก่ง ฉันแก้ปัญหาได้ ขอให้เก่งจริงเถอะ เลยมี FB นำเสนอแนวคิดที่จะเล่นหุ้นในทุกสถานการณ์ อาชีพที่เล่นกับเงิน ต้องเรียนรู้อย่างคนฉลาดและเฉลียว พร้อมรับทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย จึงจะไม่ล้มแบบฉับพลัน เริ่มเอาตัวเข้าไปพัวพันกับหุ้น
เริ่มเอาตัวเข้าไปพัวพันกับหุ้น
เมื่อฟังหลายคนพูดว่า เล่นหุ้นแล้วรวยเร็ว ดีกว่าฝากเงินธนาคาร ใครบ้างไม่อยากรวย ใครบ้างไม่อยากหาเงินง่าย ๆ สบาย ๆ บ้างล่ะ แล้วมันจะเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน คงต้องฟังเสียงจากหลาย ๆ คนที่เอาตัวเข้าไปพัวพัน อย่าฟังจากคนเพียงคนเดียว หรือจากแค่บางคนเท่านั้น ฟังทั้งคนที่ได้กำไรมากล้น และคนที่เสียอย่างยับเยิน แล้วจึงมาชั่งน้ำหนักตัดสินใจด้วยตนเอง ว่าควรทำเช่นไร จะกล้าเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน เขาว่า no risk no return, high risk high return มีเงินเย็นมากพอจะไม่หลั่งน้ำตาเสียดาย ถ้าก้าวพลาด จะไม่ฟูมฟายโทษโน่นโทษนี่ โทษคนแนะนำที่ทำให้เสีย การใช้ RSI ควบคู่กับเส้นค่าเฉลี่ย MACD
การใช้ RSI ควบคู่กับเส้นค่าเฉลี่ย MACD
การดูค่า RSI, MACD คงไม่ใช่ดูแค่วันเดียว แล้วตัดสินใจใช่ไหม อย่าลืมดูแนวโน้มของค่า RSI, MACD จากเส้นกราฟ ในช่วงระยะเวลานานพอด้วย อย่าลืมหลักการง่าย ๆ ค่า RSI มากกว่า 50 มีแนวโน้มขึ้นไปเรื่อย ๆ แสดงว่าหุ้นนี้แข็งแกร่ง น่าซื้อ ถ้าค่า RSI ต่ำกว่า 50 และลงต่อไปเรื่อย ๆ แสดงว่ามี Momentum เชิงลบ น่าขาย MACD คือ ค่าที่แสดงความแตกต่างของค่าเฉลี่ยระยะสั้น - ค่าเฉลี่ยระยะยาว ถ้าตัดต่ำกว่าจุด 0 = หุ้นมีแรงขายระยะสั้นมากกว่าระยะยาว ค่า MACD เป็นลบ แสดงว่า แนวโน้มหุ้นเป็นขาลง ถ้าตัดเหนือจุด 0 = มีความเสี่ยงน้อย ค่า MACD เป็น + แสดงว่า แนวโน้มหุ้นเป็นขาขึ้น |
สมาชิกหมายเลข 4665919
![]() ![]() ![]() ![]() ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |