ชีวิตคือความไม่แน่นอนแต่ในความไม่แน่นอนของชีวิตเรากลับพบความสวยงามของชีวิต
Group Blog
 
All Blogs
 
ลูกศิษย์ระดับปริญญาตรีรุ่นแรกในมหาวิทยาลัยนเรศวรที่เรียนกับผม ตอนที่ ๓ (第3 課、ナレスアン大学で私の第一期学部生)

ความจริงเนื้อหาวิชากลยุทธ์ทางธุรกิจในตำราเล่มไหนก็ไม่พูดถึง "กลยุทธ์ในการเจรจาต่อรอง" เพราะเป็นเหมือนวิชาหนึ่ง ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ แต่ผมมองว่า "การเจรจาต่อรอง" เป็นเรื่องจำเป็นและมีความสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันทั้งในเรื่องงานและการดำเนินชีวิต จึงร่างเนื้อหา ๑ บทเกี่ยวกับ "การเจรจาต่อรอง" เพิ่มเข้ามาเพื่อให้นิสิตปริญญาตรีที่ผมสอนในมหาวิทยาลัยนเรศวรได้เรียนกัน


ผมเขียนกรณีศึกษาขึ้นมาเองให้นิสิตที่ผมสอนลองฝึกเจรจาต่อรองภายใต้เงื่อนไขที่ตอนเริ่มต้นทุกคนต่างมีความขัดแย้งในประเด็นที่น่าสนใจ ผมต้องการให้พวกเขาฝึกเจรจาต่อรองแบบประสานที่จบลงแบบทุกคนชนะในเกมส์การเจรจาต่อรอง (Win-Win) ไม่ใช่เจรจาต่อรองแบบมีผู้แพ้-ผู้ชนะบนผลประโยชน์ชิ้นเดียวกันที่ศัพท์เฉพาะสำหรับทฤษฎีเกมส์เรียกว่า Zero-Sum Game

เพราะการเจรจาที่ดีทีสุดคือการเจรจาที่จบลงแล้วคนเข้าเจรจาทุกคนเดินออกจากโต๊ะเจรจาแบบมีความพึงพอใจทุกคน


ผมฝึกให้นิสิตทำงานเป็นกลุ่มด้วยการทำ Simulation ให้เขาแสดงบทบาทในฐานะตัวแทนแต่ละฝ่ายในบริษัทแล้วรักษาผลประโยชน์ของฝ่าย โดยเจรจาต่อรองกับตัวแทนฝ่ายอื่นเพื่อให้ได้ข้อสรุป


กลุ่ม ๓ เป็นกลุ่มแรกที่มีโอกาสได้ทำ Negotiation Simulation
























พอหมดเวลาทำ Simulation ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอข้อสรุปของแต่ละกลุ่ม





ธิติพศเวลาพรีเซ็นต์จะเก๊กมากออกท่าทางทั้งศีระษะและมือไม้จนเพื่อนๆและอาจารย์หัวเราะ ถามเพื่อนๆว่าปกติเขาเป็นแบบนี้ไหม? ทุกคนบอกว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับธิติพศเวลาเขานำเสนอรายงานหน้าชั้น



กฤตธนกรมักจะยกมือแสดงความคิดเห็นในช้้นเรียนบ่อยกว่าคนอื่นแต่ตอบแล้วมักไม่ค่อยตรงประเด็น...






ปาริชาติมักจะเขียนด้วยตัวอักษรตัวเล็กๆ เธอไม่แน่ใจว่าที่เธอสรุปเขียนคีย์เวิร์ดถูกต้องไหม เพราะบางครั้งผมก็หยิบประเด็นที่ผมพบว่าเธอสรุปประเด็นจากที่ผมสอนในชั้นเรียนคลาดเคลื่อนขึ้นมาบอกให้นิสิตในชั้นทราบ การมีคีย์เวิร์ดช่วยเช็กว่านิสิตเขาเข้าใจถูกต้องไหมกับสิ่งที่ผมต้องการสอน




กลุ่ม ๔ และกลุ่มชั้นเรียนภาคพิเศษเป็นกลุ่มต่อไปที่มีโอกาสได้ทำ Simulation





ตอนที่ศุภาการณ์ออกมารายงานหน้าชั้นเขามีพฤติกรรม Butterfly Eyes คือการที่ผู้รายงานต่อหน้าคนอื่นแต่สายตากลับมองขึ้นไปบนเพดานระหว่างรายงาน อันนี้ในฐานะครูเราต้องบอกและชี้แนะให้แก้พฤติกรรมนี้ เพราะไม่อย่างนั้นจะเป็นนิสัยที่ไม่ดีติดตัวไปตลอด ทำให้ความน่าสนใจในการนำเสนอไม่น่าสนใจ





กุสุมาดูตื่่นเต้นมากเวลามารายงานหน้าชั้นสังเกตมีอาการเล็บเท้าจิกกับพื้นเกร็งแบบประหม่า... ซึ่งเจ้าตัวแก้เกี้ยวว่า

"ก็พื้นมันเย็นนี่คะอาจารย์"


ชั้นเรียนภาคพิเศษ...นิสิตที่ปกติขาดเรียน วันนั้นผมเตือนว่าให้เข้าชั้นเรียนเพราะมีผลต่อคะแนนเก็บ วันนั้นดูเหมือนมาเข้าเรียนกันครบ
















เอกรินทร์เป็นตัวชูโรงสำหรับกลุ่มนิสิตภาคพิเศษ เวลาเขายกมือแสดงความคิดเห็นแต่ละครั้งมักจะเรียกเสียงฮาจากเพื่อนๆ แต่เขาก็ขยันยกมือแสดงความคิดเห็น





สุวิชญามักจะแอบคุยโทรศัพท์ระหว่างเรียนอยู่บ่อยๆ เธอชอบยกมือแสดงความคิดเห็นแต่ว่ามักตอบไม่ค่อยตรงประเด็นเท่าไหร่





ชนินทร์มักจะยกมือไวกว่าเพื่อนคนอื่น จนกวาดคะแนนการแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียนนำหน้าเพื่อนในห้องจนไม่ติดฝุ่น สร้างกระแสอิจฉาในกลุ่มคนที่ยกมือไม่ค่อยทันในชั้นเรียน...

ความจริงผมตั้งกติกาที่ยุติธรรมสำหรับทุกคน...ใครยกมือตอบในชั้นเรียนจะได้แต้มทันที โดยไม่สนใจว่าใครตอบถูกหรือผิดเพื่อกระตุ้นให้นิสิตกล้าแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียนเป็นการฝึกพัฒนานิสัยที่ดีให้เกิดขึ้นกับเขา ไม่อย่างนั้นความคิดดีๆในหัวพวกเขาก็จะไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาคิดอะไร พวกเขาจะไม่มีโอกาสได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้บริหารในอนาคตถ้าเขายังคิดแต่ว่าไม่เห็นจำเป็นต้องแสดงความคิดเห็นอะไรในชั้นเรียนเลย

แต่ก็ยังมีนิสิตจำนวนหลายคนที่ไม่ชอบการยกมือแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียนแล้วตำหนิวิธีการยกมือแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียน โดยกล่าวหาว่าผมไม่เรียกพวกเขาตอบ ดังนั้นเขาจึงเซ็งแล้วพลอยไม่ยกมือ อันนี้เป็นความคิดเห็นของนิสิตจำนวนหนึ่งที่ผมคิดว่าเขาไม่เคยเข้าใจในเจตนาแท้จริงของการกระตุ้นให้พวกเขาแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียนตั้งแต่วันแรกที่เรียนวิชานี้จนถึงวันปิดคอร์สก็ตาม แม้ว่าผมจะพยายามพูดหลายรอบในชั้นเรียนแล้วก็ตาม ผมเคยพูดในชั้นเรียนแล้วว่าถ้าผมไม่เรียกคุณตอนนี้ ทำไมคุณไม่พยายามยกมือต่อไปเรื่อยๆจนในที่สุดผมเรียกคุณให้ตอบหละ? แต่ดูเหมือนนิสิตเหล่านั้นใช้ข้ออ้างว่าเขาไม่ชอบการยกมือ เขาอาย ในการอธิบายว่าทำไมพวกเขาไม่ชอบยกมือแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียน นี่มันเป็นเหตุผลหรือข้ออ้าง?

ถ้าเป็นเงื่อนไขแบบนี้ที่พวกนิสิตเหล่านั้นสร้างกำบังตัวเองขึ้นมา ผมคงต้องบอกว่าแล้ววันนึงเขาจะเข้าใจว่าทำไมเขาเป็นได้แค่พนักงานชั้นต้นในองค์กรในขณะที่เพื่อนๆได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปได้ดีกว่าเขากันหมดแล้ว



สำหรับคาบที่สอนการทำ Simulation การเจรจาต่อรองภายหลังจากทุกกลุ่มรายงานเสร็จ ผมให้นิสิตเขาเขียน Reflection Paper เพื่อสะท้อนประสบการณ์จากการทำ Simulation การเจรจาต่อรอง





แล้วผมก็ทำให้นิสิตในชั้นเรียนเห็นภาพชัดเจนว่าเขาจะเอาเนื้อหาวิชากลยุทธ์ไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไรด้วยการติวเข้มสมมติสถานการณ์พวกเขาไปสัมภาษณ์งานจริงๆ พวกเขาจะเจรจาต่อรองอย่างไรกับบริษัทที่เขาสมัครงานเพื่อได้เงินเดือนที่ดีที่สุด


นิสิตที่สนใจอยากลองดูว่าเขาจะเจรจาต่อรองด้วยเทคนิคอย่างไรเพื่อให้ได้ฐานเงินเดือนที่ดีที่สุด...ต่างแย่งกันยกมือลองตอบคำถามที่ผมสมมติว่าผมเป็นกรรมการพิจารณารับพนักงานใหม่


ผมจับประเด็นได้ว่านิสิตไปได้ข้อมูลผิดพลาดมาเรื่องเทคนิคในการสัมภาษณ์งานอย่างไรให้ได้งานทำและมีเงินเดือนที่ดี


ในฐานะครู...เราเห็นอะไรผิด เราควรแก้ไขทันที


ผมแนะเทคนิคในการสัมภาษณ์งานให้ลูกศิษย์ผมว่าเขาควรตอบอย่างไรเพื่อให้ได้เงินเดือนที่เหมาะสม ลูกศิษย์เริ่มตระหนักแล้วว่าวิชากลยุทธ์ทางธุรกิจมันเอาไปใช้ในชีวิตจริงได้อย่างไร


ผมทิ้งท้ายเอาไว้ว่า

"ติวเข้มพวกคุณขนาดนี้แล้ว ใครสมัครงานแล้วได้งานที่เงินเดือนต่ำกว่าค่าที่ควรจะเป็นแล้วขอดูหน้าหน่อยนะ"


ลูกศิษย์ผมหัวเราะกัน พวกเขายิ้มๆแล้วคิดว่าผมคงเอาจริง หวังว่าพวกเขาจะไม่ทำให้ผมผิดหวังตอนไปสัมภาษณ์งานจริง






Create Date : 02 ตุลาคม 2553
Last Update : 3 ตุลาคม 2553 12:22:58 น. 10 comments
Counter : 1274 Pageviews.

 
จนถึงวันนี้ทุกๆคำสอนอาจารย์ยังคงอยู่ในใจพวกเราครับ

รู้สึกสบายใจหลังอ่านหนังสือทันทีเลยนะครับ

อาจารย์จำชื่อลูกศิษย์ได้เกือบทุกคน

พักผ่อนมากๆนะครับ

รักษาสุขภาพนะ จะได้หายไวไว

แรงใจจากลูกสิษย์ทุกๆคน...


โดย: Jay Jay IP: 223.207.155.147 วันที่: 3 ตุลาคม 2553 เวลา:0:25:47 น.  

 
อาจารย์ครับรูปที่ 8 ชื่อ ธิติพศครับ

ไม่ใช่พงศ์ธัชครับ

คิดถึงวันเก่าเก่า...


โดย: Jia Poj IP: 118.172.147.26 วันที่: 3 ตุลาคม 2553 เวลา:11:56:01 น.  

 
^^
ปลื้มใจจังเลยค่ะอ.
อ.เงี้ยบสุโค่ยและเป็นที่หนึ่งในใจหนูมากค่ะ
ขอให้สุขภาพตาของอ.ดีขึ้นเรื่อยๆน่ะค่ะ
เพื่อได้สอนรุ่นน้องของหนูต่อไป
วันนี้มาอ่านบล็อคของอ.อีกวัน
ยิ่งทำให้คิดถึงชั่วโมงเรียนของอ.ขึ้นค่ะ
หนูก็มีบล็อกน่ะอ. แต่...ไม่ค่อยได้เขียนเลยค่ะ
คิดอยู่ว่าถ้าไปฝึกงานจะเขียนบ่อยขึ้น เพื่อเก็บประสบการณ์ตอนไปฝึกงานไว้
ขอบพระคุณอ.มากๆค่ะ


โดย: BunnyChocco IP: 202.28.21.7 วันที่: 3 ตุลาคม 2553 เวลา:12:10:00 น.  

 
ขอบคุณที่ช่วยบอกชื่อที่ถูกต้องให้ เมื่อวานตอนที่จะพิมพ์ยังสับสนอยู่


โดย: ชีวประภา วันที่: 3 ตุลาคม 2553 เวลา:12:22:00 น.  

 
ดีใจจังที่ได้เรียนกับอาจารย์ ชาตรี


โดย: จุฑารัตน์ IP: 223.207.157.47 วันที่: 3 ตุลาคม 2553 เวลา:12:59:10 น.  

 
หนูชอบที่สุดเลย อาจารย์บทเกี่ยวกับการเจรจาต่อรองที่อาจารย์สอน หนูว่าบทนี้มีประโยชน์มาก และหนูก็ได้เจอกับประสบการณ์จริง หลังจากวันนั้นที่ อาจารย์ได้สอนหนูจบ ว่าการ loss - loss ทั้งสองฝ่ายเป็นยังไง และรู้ว่าควรจะพูดยังไงไม่ให้เสียประโยชน์ของตน แต่ก็มีหลายบทที่หนูชอบและหนูก็ชอบที่อาจารย์สอนนะ เเม้ว่าในห้องเรียนหนูจะไม่ค่อยยกมือตอบ ตามที่ควรแต่หนูก็รู้ว่าสิ่งที่อาจารย์ให้ทำเช่นนี้ เปงเพราะอะไร แต่มันเปงเพราะหนูยังไม่ค่อยกล้าเท่านั้นเองที่จะเเสดงความคิดเห็น บ่อยครั้งที่หนูตอบให้เพื่อนข้างๆฟัง ^^ แต่อย่างน้อยการสอนที่มีคุณค่าขนาดนี้ยากแก่การลืมเลื่อน ขอบคุณอาจารย์มากๆค่ะ


โดย: kwang U-au IP: 110.164.45.185 วันที่: 3 ตุลาคม 2553 เวลา:13:02:00 น.  

 
รู้สึกโชคดีมาก ที่ได้เรียนรู้สิ่งดีๆที่มีมากกว่าในตำราเรียน ขอบคุณนะคะอาจารย์ที่บางคำพูดของอาจารย์ช่วยกระตุ้นและเป็นแรงบันดาลใจในการก้าวต่อไปของหนู อยากให้มีอาจารย์แบบนี้สัก 10 คนจัง ^-^


โดย: chamai IP: 202.28.21.7 วันที่: 3 ตุลาคม 2553 เวลา:15:02:18 น.  

 
อาจารยืค่ะ ขอบคุณมากนะที่ได้มาสอนพวกนี้ในวิชากลยุทธ์ ทำให้ได้นำกลุยุทธ์ pull ไปใช้กลับเพื่อนๆ บางคน ให้กลับมาเรียนได้ค่ะ แล้วก็กลยุทธ์ต่างๆ ที่อาจารย์สอนหนูจะเอาไปให้ในชีวิตจริงค่ะ ขอบคุณอาจารย์มากนะค่ะ


โดย: sompoi IP: 110.164.158.231 วันที่: 3 ตุลาคม 2553 เวลา:17:46:55 น.  

 
ความจริงผมตั้งกติกาที่ยุติธรรมสำหรับทุกคน...ใครยกมือตอบในชั้นเรียนจะได้แต้มทันที โดยไม่สนใจว่าใครตอบถูกหรือผิดเพื่อกระตุ้นให้นิสิตกล้าแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียนเป็นการฝึกพัฒนานิสัยที่ดีให้เกิดขึ้นกับเขา ไม่อย่างนั้นความคิดดีๆในหัวพวกเขาก็จะไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาคิดอะไร พวกเขาจะไม่มีโอกาสได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้บริหารในอนาคตถ้าเขายังคิดแต่ว่าไม่เห็นจำเป็นต้องแสดงความคิดเห็นอะไรในชั้นเรียนเลย

ผมเห็นด้วยนะครับอาจารย์ ที่อาจารย์ให้ลูกนักศึกษาได้กล้าแสดงออกเพิ่มมากขึ้นเพราะคนไทยขาดส่วนนี้ไป สิบกว่าปีที่แล้วไม่เคยมีแบบนี้ครับ มีแต่ตอบผิดแล้วหักคะแนน สมัยนี้ก็คงมีอยู่ ทำให้ไม่กล้าที่จะจะเสนอความคิด ไม่กล้าที่จะตอบเพราะตอบผิดก็โดนหักคะแนน เมื่อก่อนเกือบทุกที่มีแต่สอนให้รู้จักกับปัญหา สอนให้แก้ปัญหา แต่ไม่ได้สอนว่าจะป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหา เราประสบกับภาวะเศรษฐกิจซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่กลับไม่รู้จักวิธีที่จะป้องกัน มีแต่แก้ปัญหา ต่างจากจีนซึ่งตอนนี้ก้าวนำเราไปมาก ผมเห็นด้วยกับการที่อาจารย์ให้แสดงออกแบบนี้ เพราะผมคิดว่าคนไทยเก่งๆยังมีอีกเยอะ และมีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้อีกมาก แต่บางคนไม่กล้าที่จะเสนอความคิดเห็น ผมชอบครับ เป็นกำลังใจให้ครับ


โดย: Agree IP: 118.172.195.70 วันที่: 21 ตุลาคม 2553 เวลา:10:07:47 น.  

 
I just couldn't go away your site before suggesting that I actually loved the usual info an individual supply to your visitors? Is gonna be again steadily in order to check out new posts
Cheap Louis Vuitton outlet store //www.jcobfreight.com/service.asp


โดย: Cheap Louis Vuitton outlet store IP: 94.23.252.21 วันที่: 4 สิงหาคม 2557 เวลา:6:45:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีวประภา
Location :
พิษณุโลก Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ชีวประภา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.