ชีวิตคือความไม่แน่นอนแต่ในความไม่แน่นอนของชีวิตเรากลับพบความสวยงามของชีวิต
Group Blog
 
All Blogs
 
เมื่อผมไปศาลคดีครอบครัวและเยาวชน พิษณุโลก

   ผมมีโอกาสดูรายการทีวีหรือละครเกี่ยวคดีในศาลยุติธรรม....บรรยากาศการตัดสินคดีความ  แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปศาลแต่วันนี้มีโอกาสได้มาศาลคดีเยาวชนและครอบครัว พิษณุโลกในฐานะล่ามภาษาญี่ปุ่นให้กับฝ่ายโจทก์ซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นที่บางครั้งไม่ค่อยเข้าใจในภาษาไทยเวลามีการสืบพยานในศาล

   บทบาทที่ผมมาศาลในวันนี้ในฐานะ...

   -อดีตนักเรียนเก่าในญี่ปุ่นที่เข้าใจวัฒนธรรมและภาษาทั้งของไทยและญี่ปุ่น...ช่วยทำให้โจทก์เข้าใจมากขึ้นในการสืบพยาน

   -อาจารย์มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ให้บริการวิชาการแก่ชุมชนในฐานะล่ามภาษาญี่ปุ่น โดยไม่นับเป็นภาระงาน

   -โรงเรียนสอนภาษาซีพีเอส ที่ให้บริการด้านล่ามภาษาญี่ปุ่นในพิษณุโลกแก่โจทก์ที่ขอความช่วยเหลือ

 

 

 มีโอกาสได้พูดคุยกับทนาย โจทก์และครอบครัวของโจทก์เพื่อทราบรายละเอียดของคดีเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับคดีนี้  เวลาแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นหรือแปลกลับให้ผู้พิพากษาฟังตอนสืบพยานจะได้คล่องตัวขึ้น

 

ศัพท์เฉพาะเกี่ยวกับคดีมีหลายคำที่ต้องทำความเข้าใจ....เพราะบางคำไม่ค่อยคุ้นเนื่องจากเราไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับศาลSmiley

 

 ดูเหมือนโจทก์จะตื่นเต้นมากก่อนจะเริ่มต้นนัดสืบพยาน  ผมพยายามบอกโจทก์ที่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-ไทยรายนี้ให้คลายความกังวล

 

  แล้วผู้พิพากษาสำหรับคดีนี้ก็เข้ามาที่ห้องของโจทก์เพื่อทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยกับโจทก์แทนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนของการสืบพยานภายหลังจากที่พยายามไกล่เกลี่ยกับจำเลยซึ่งเป็นสามีของจำเลยมาก่อนหน้านั้น...พอเจอหน้าผู้พิพากษา ผมตกใจเพราะผู้พิพากษารายนี้คือเพื่อนเก่าสมัยเรียนที่จุฬาฯเหมือนกัน อยู่หอพักมหาวิทยาลัยด้วยกัน  พอเจอหน้ากันก็กลายเป็นความคุ้นเคยที่ไม่มีโอกาสเจอกันมานานกว่า 20 ปี

  ผู้พิพากษาเริ่มอารัมภบทว่า....

 

   "การตัดสินของศาลให้ผลเป็นอย่างไรมันง่ายมาก.....แต่ความจริงคดีเรื่องของครอบครัวเป็นเรื่องของคนสองคน ซึ่งคนสองคนน่าจะคุยตกลงกัน ไกล่เกลี่ยกันได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบศาล  ถ้าศาลตัดสินให้คู่กรณีหย่ากัน มันไม่จบเพราะฝ่ายหนึ่งพอใจที่ได้หย่าสมใจ ในขณะที่อีกฝ่ายไม่พอใจที่ไม่ต้องการขอหย่าแต่ผลการตัดสินออกมาเป็นแบบนี้  ตามมาด้วยการอุทธรณ์ในชั้นศาลต่อ

    การที่คนสองคนตัดสินใจมีลูกด้วยกัน....ตอนนั้นไม่ได้ทำไปเพราะความรักหรือ?  แต่ตอนนี้พอมีปัญหากลับลืมเหตุการณ์วันหวานในอดีต  ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างคิดว่าตนเองถูกแล้วคิดว่าอีกฝ่ายผิด ค้นหาแต่สิ่้งที่ผิดของอีกฝ่าย

    ผมถามคุณว่า....ตอนนี้คุณยังรักกันไหม?  ถ้าคุณรักเขา คุณต้องรู้จักและสามารถให้อภัยเขาได้ ให้โอกาสถ้าเขาคิดจะปรับพฤติกรรมเป็นคนดีในอนาคต  ปัญหาที่เกิดขึ้นมันมาจากการที่เขาทำหน้าที่ของพ่อที่ไม่ดี ขาดความรับผิดชอบ เป็นเพราะเขาไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตคนตั้งแต่แรก เหตุการณ์มันผ่านมาถึงขนาดนี้ คุณยอมมีลูกด้วยกันหลายคน  ถ้าเขาทำตัวดีคงไม่เกิดเหตุการณ์วันนี้ขึ้นมา   เขาจะมาบอกว่า รักคุณ อย่างเดียวมันไม่พอ  เขาต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเขาเป็นพ่อที่ดีด้วย ไม่ใช่สักแต่ว่าทำลูกให้เกิดขึ้นมาแต่ขาดความรับผิดชอบ

 

   ลูก....อย่างไรก็ควรมีพ่อแม่  ทุกปีวันแม่และวันพ่อ  เขาควรจะมีพ่อและแม่เหมือนลูกคนอื่นให้นึกถึง   ในฐานะของแม่ที่เลี้ยงดูลูกแค่นี้ก็เป็นหน้าที่อันหนักอึ้งของภรรยาแล้ว สามีไม่ควรจะทำให้ภรรยาหนักใจเรื่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของตนเองอีก  ทำอะไรให้นึกถึงลูกเพราะว่า....จะอธิบายให้ลูกฟังอย่างไรให้เขาเข้าใจว่าทำไมไม่มีพ่ออยู่ด้วย ทำไมพ่อกับแม่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้  คุณจะต้องเลี้ยงดูลูกในสภาพแบบนี้ไปตลอด

 

   การคิดจะเอาชนะกันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง  การพยายามเอาชนะคนๆหนึ่งด้วยคำพูดหรือกำลัง สุดท้ายคุณจะไม่มีทางเอาชนะได้  แต่ให้เขาสำนึกด้วยตัวเขาเอง....ให้เขายอมแพ้ด้วยตัวเขาเอง อันนั้นจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีกว่าและเขาจะยอมเปลี่ยนแปลงเมื่อเขายอมรับว่าเขาพ่ายแพ้แล้ว

   ดูแล้ว....ตอนนี้คงลำบากที่คุณทั้งสองจะอยู่ด้วยกันตอนนี้  แต่ผมไม่เห็นด้วยที่จะให้เข้าสู่ขั้นตอนของศาล  ทางเลือกที่เป็นไปได้คือ

   1.  อยู่ในสภาพแบบนี้โดยไม่ต้องหย่าร้างกัน ลูกอยู่กับคุณต่อไป ให้โอกาสเขาปรับปรุงตัวพิสูจน์ว่าเป็นพ่อที่ดี แสดงความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูลูก มีสิทธิจะมาพบลูกตามสมควร แต่ห้ามมายุ่งเกี่ยวหรือข่มขู่ฝ่ายหญิง  ถ้าเขาปรับปรุงตัว....คุณให้โอกาสเขา ให้อภัยเขา เป็นไปได้ที่อาจจะกลับมาอยู่พร้อมหน้าทั้งพ่อแม่ลูกอีก

   2.  หย่าร้างกัน  ไม่ได้เรียกร้องค่าเลี้ยงดูว่าต้องเป็นเท่าไหร่ แต่ให้ฝ่ายชายแสดงความรับผิดชอบว่าควรจะให้ค่าเลี้ยงดูเท่าที่เขาสามารถทำได้  เขามีสิทธิมาพบลูกในเวลาสมควร แต่ห้ามมาข่มขู่ฝ่ายหญิง  ให้โอกาสเขาปรับตัวเพื่อพิสูจน์ตัวเอง  คุณอาจจะกลับมาคืนดีกับเขาก็ได้ในอนาคตถ้าเขาพิสูจน์ว่าเขาเป็นพ่อที่ดี"

 

   ทางเลือกที่ท่านผู้พิพากษาเสนอให้แก่โจทก์ดูมีเหตุผล....โจทก์ไม่เข้าใจในสิ่งทีท่านผู้พิพากษาเสนอ  ผมช่วยอธิบายให้เธอเข้าใจเป็นภาษาญี่ปุ่น  และทั้งหมดอยู่ที่การตัดสินใจของเธอ  ทั้งผู้พิพากษา คุณแม่และคุณน้า รวมทั้งผมที่ทำหน้าที่ล่ามในวันนี้ต่างเป็นคนนอกของครอบครัวเธอ ครอบครัวเธอแท้จริงประกอบไปด้วย  ตัวเธอ  สามี และลูกที่เกิดจากสามี

 

   ครอบครัวในความหมายที่เข้าใจกระจ่างชัดจากเหตุการณ์นี้ก็คือ.....

   ความผูกพันและสายสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่าง พ่อแม่ลูก

   ความสุขหรือความทุกข์ที่เกิดขึ้นในครอบครัวก็เกิดจากความสัมพันธ์ของพ่อแม่ลูก

   คนอื่นก็คือคนนอกหมด  ครอบครัวจะมีรูปโฉมหน้าตาอย่างไรก็ขึ้นกับว่า พ่อ แม่ และลูกได้ทำหน้าที่และบทบาทครบถ้วนหรือไม่  มีโอกาสได้พูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้วหรือยัง

 

    ผู้พิพากษาเปิดโอกาสให้เธอได้พูดคุยกับสามีต่อตอนบ่ายเพื่อตกลงกันให้ได้ทางออกที่พอใจทั้งสองฝ่าย  เพราะนั่นคือทางออกที่คิดว่าน่าจะดีกว่าก้าวเข้าสู่ขบวนการของศาล  แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ศาลคือทางออกของกรณีนี้

 

    คุณแม่และคุณน้าไม่ได้บังคับเธอให้คิดอย่างไร.....แต่ให้อิสระแก่เธอในการตัดสินใจ เพราะครอบครัวเป็นเรื่องที่เธอต้องเลือกเอง  คนอื่นเป็นคนนอก

 

    ถึงแม้ว่าบทบาทในวันนี้ผมจะไม่ได้ทำหน้าที่สืบพยานอย่างที่คาดเอาไว้แต่สิ่งที่ผมเรียนรู้และมีคุณค่ามากๆจากการมาศาลคดีครอบครัวและเยาวชนพิษณุโลกก็คือ

 

    มนุษย์สมรสเพิ่ออะไรกันแน่ มันไม่ใช่สมรสเพื่อจะมีลูกไว้สืบเผ่าพันธุ์ตามที่หลายๆคนคิดกันแบบนั้น  เพราะการมีลูกด้วยกันก็ไม่ได้หมายความว่า....ชีวิตสมรสจะมีความสุขแท้จริง

    ความรักของคนสองคน เริ่มต้นอย่างแสนหวาน แต่จะทะนุถนอม ดูแลห่วงใย เป็นกำลังใจ เข้าใจและให้อภัยกันได้เสมอไหม  การที่เรารักใครซักคน....เรารักเขาเพราะในความเป็นตัวตนที่้เขาเป็นต่างหาก เพราะความเป็นตัวตนของเขา...มันไม่เปลี่ยนแปลงและเป็นสิ่งที่เรายอมรับ  ถ้าคิดจะรักใครเพราะหน้าตา.....ผมเชื่อว่าไม่นานความรักจะเสื่อมคลายเพราะความดูดีจะเปลี่ยนไปตามวัย สิ่งที่คงเหลือคือความเป็นตัวตนของเขาที่เราเคยรับรู้ว่าเขาเป็นและยังคงเป็นแบบนี้ตลอดไป

   ในความรักที่พ่อแม่มีต่อลูก.....ไม่ว่าพ่อหรือแม่จะไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้จะด้วยเหตุผลอะไร  ลูกคือผลผลิตอันยิ่งใหญ่ที่พ่อแม่ไม่สามารถตัดขาดออกไปได้

     ชีวิตโสดสำหรับหลายคนยังหวงแหนเพราะยังไม่พร้อมจะรับผิดชอบชีวิตของคนอื่น เพราะบางคนรักความเป็นอิสระ ความเป็นโลกส่วนตัว  แต่เมื่อตัดสินใจจะเริ่มต้นชีวิตคู่...นั่นหมายความว่าชีวิตคู่ตามมาด้วยความรับผิดชอบร่วมกันในชีวิตที่ไม่ใช่ของคนๆเดียวอีกต่อไปแต่เป็นการแชร์ชีวิตส่วนที่เหลือร่วมกัน

     ดังนั้นชีวิตสมรสจึงยิ่งใหญ่มากกว่าแค่....อยู่เพื่อที่จะมีลูกด้วยกัน

 




Create Date : 01 พฤษภาคม 2556
Last Update : 1 พฤษภาคม 2556 22:06:45 น. 3 comments
Counter : 1653 Pageviews.

 
แล้วการแต่งงานซ้อนมันผิดกฏหมายไหมครับ ^^


โดย: Mr.Yodsatorn IP: 118.172.213.52 วันที่: 3 พฤษภาคม 2556 เวลา:0:18:47 น.  

 
จดทะเบียนซ้อนผิดกฎหมายแน่นอน

การรักใครหลายคนในเวลาเดียวกันเป็นสิ่งไม่ชอบธรรมและไม่ควรทำเป็นเยี่ยงอย่างเช่นกัน


โดย: ชีวประภา IP: 182.53.115.217 วันที่: 8 พฤษภาคม 2556 เวลา:21:47:15 น.  

 
Thank you a bunch for sharing this with all people you actually recognize what you're speaking approximately! Bookmarked. Please additionally talk over with my site =). We could have a hyperlink exchange contract between us!
Mulberry messenger Bag //www.culturecore.co.uk/


โดย: Mulberry messenger Bag IP: 94.23.252.21 วันที่: 4 สิงหาคม 2557 เวลา:0:56:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีวประภา
Location :
พิษณุโลก Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ชีวประภา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.